ฮัลโหลเพื่อน ๆ รู้จักหัตถการความงามกันบ้างรึเปล่า?

มาเมาท์มอยกันหน่อยค่า แบบว่าส่อง ๆ กระจกไปก็รู้สึกว่า เอ๊ะ! ใบหน้าชั้นน่ะ ถ้าลดตรงนั้นอีกนิด เพิ่มตรงนี้อีกหน่อย มันจะสวยได้มากกว่านี้อีกนะ!! แต่ด้วยความใจป๊อด จะให้เข้าคลีนิก

ทุบหน้าใหม่ก็กลัวจะเจ็บเกินไป แถมอาจจะต้องพักฟื้นนาน ๆ ทำใจไม่ไหว


จนได้มาเจอกับนวัตกรรมหัตถการความงาม การปรับรูปหน้าที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น รู้สึกว่าเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน และสำหรับเพื่อน ๆ ที่เคยเล็งการทำหัตถการความงามเอาไว้อยู่บ้าง แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าควรจะทำดีมั้ย ต้องมีงบเท่าไรถึงจะทำได้ ปัญหาใบหน้าแบบเราต้องเลือกหัตถการแบบไหน ถึงจะแก้ปัญหาตรงจุด บทความนี้เราเลยรวมทุกข้อสงสัยมาฝากเพื่อน ๆ แล้ว จะเป็นยังไงลองตามไปดูกันเลย

หัตถการความงาม คืออะไร

หัตถการความงาม คือ การเสริมความงามด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ต้องทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เช่น เลเซอร์ต่าง ๆ ผลักวิตามินสู่ผิว โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม ฯลฯ ซึ่งจะเป็นการดูแลผิวได้ลงลึกถึงชั้นใต้ผิว ทำให้เห็นผลมากกว่าการบำรุงผิวด้วยสกินแคร์เพียงอย่างเดียว

หัตถการความงาม มีอะไรบ้าง ต้องทำบ่อยแค่ไหน

หัตถการความงามมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีจุดมุ่งหมายที่ต่างกันออกไป รวมถึงวิธีการทำและราคาอีกด้วย ซึ่งสามารถแบ่งตามความถี่ให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ดังนี้

ตอบข้อสงสัย " หัตถการความงาม " คืออะไร แบบไหนเหมาะกับใคร?


รูปภาพ:https://static.wixstatic.com/media/31d37d_42d1252a38934e61822b99bea0790d30.jpg/v1/fill/w_560,h_326,al_c,q_80,usm_0.66_1.00_0.01,enc_auto/31d37d_42d1252a38934e61822b99bea0790d30.jpg

ทำความรู้จักกันก่อน หัตถการความงามคืออะไร

ก่อนเข้าไปศึกษาหัตถการความงามยอดฮิตในแต่ละแบบ ลองมาทำความรู้จักเกี่ยวกับ " หัตถการความงาม " เพิ่มขึ้นอีกสักนิดดีกว่า หัตถการความงาม คือ

การเสริมความงามด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ต้องทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญไม่มีการผ่าตัด ใช้เวลาทำไม่นาน ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น

ซึ่งหัตถการความงามมีอยู่หลายประเภทมากมาย แต่ละประเภทช่วยแก้ไขปัญหาในจุดต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงวิธีการ ระยะห่างในการทำ และราคาที่แตกต่างกันด้วย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/bf/0b/29/bf0b299009db5817c2062d5468e4ef3e.jpg

หัตถการความงาม เหมาะกับใครบ้าง?

อย่างที่บอกไปว่าหัตถการความงามมีหลายรูปแบบมาก ๆ และยังสามารถ

ช่วยแก้ปัญหาตั้งแต่เรื่องของผิวหนัง อย่างสิว ฝ้า กระ ไปจนถึงการปรับรูปหน้า หัตถการความงามเลยเหมาะกับทุกเพศ และทุกคนที่อยากดูแลตัวเองให้ดูดีขึ้น

และยังเหมาะกับแทบทุกวัย โดยเฉพา

ะในวัย 25 - 35 ปี วัยนี้เป็นช่วงที่ใบหน้าและร่างกายมีความสมบูรณ์ที่สุด

เมื่อทำหัตถการในช่วงวัยนี้จะให้ผลลัพธ์ได้ดีที่สุดนั่นเอง ส่วนใครที่ยังไม่อยากทำก็เข้าไปดูเครื่องสำอางที่ราคาถูกได้ทางhttps://thebeautrium.com/หรือhttps://www.lazada.co.th/ซึ่งมีราคาถูกกว่าที่ไหน

หัตถการความงามที่ควรทำทุกเดือน

ฉีดสิว หรือกดสิว -ปฏิเสธไม่ได้ว่าถึงแม้จะดูแลผิวเป็นอย่างดีก็มักจะมีสิวอุดตันอยู่ใต้ผิวเสมอ หรือบางเดือนก็เป็นสิวอักเสบขึ้นมา ซึ่งถ้าปล่อยไว้สิวอุดตันก็มักจะไม่หายไปเอง จึงควรไปกดสิวออก เพื่อให้สิวหายไปจากใบหน้าโดยไม่ทิ้งรอยดำ หากกดสิวหรือบีบสิวเองอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ รักษายากกว่าเดิมทำทรีตเมนต์ผิวหน้า -หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการนวดหน้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล อีกทั้งทรีตเมนต์ที่ทางสปาหรือคลินิกใช้ในการบำรุงผิวหน้าก็จะเข้มข้นมากกว่าสกินแคร์ปกติของเรา จึงทำให้ผิวชุ่มชื้น หน้านุ่มจนรู้สึกได้ทำเลเซอร์ -สำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ การทำเลเซอร์จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูใสขึ้น จึงควรทำต่อเนื่องทุกเดือน จนกว่าผิวจะไร้ปัญหากวนใจ


Top 5 หัตถการความงาม ช่วยเรื่องอะไร ใช้งบเท่าไร?

ในปัจจุบัน คลินิกที่เกี่ยวกับความสวยความงามมีมากมายจนทำให้หลายคนเกิดความสับสน แต่หลักๆ แล้ว คลินิกแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ คลินิกผิวหนัง คลินิกศัลยกรรม และคลินิกปรับรูปหน้า ดังนั้นการเลือกคลินิกให้ถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะคลินิกแต่ละประเภทใช้เพื่อรักษาและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน

1. หัตถการความงามเลเซอร์ผิวหน้า


หัตถการความงามที่อยู่ในประเภทคลีนิกผิวหนัง

การทำเลเซอร์จะช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังเก่า และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูใสขึ้น

การทำงานของเลเซอร์ ตัวเลเซอร์จะเข้าไปจับกับเม็ดสีเมลานินของผิว โดยไม่ทำลายผิวบริเวณอื่น ๆแต่หลังจากทำแล้วจำเป็นต้องเลี่ยงแดด

เลเซอร์ที่ใช้ในการทำหัตถการความงามมีหลายตัวมาก ๆ แต่ส่วนใหญ่จะมีผลข้างเคียงคือทำให้ผิวตกสะเก็ด แต่มีเลเซอร์บางตัวที่อ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวลอกตกสะเก็ด แต่ต้องทำหลายครั้งเ

พื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน หรือว่าเข้าไปหา


https://sistacafe.com/summaries/93297

หรือ

https://sistacafe.com/summaries/95198

มากินได้เลย



รูปภาพ:https://image.makewebeasy.net/makeweb/0/sn9fFdFIs/About/61178520_ml__1_.jpg

เลเซอร์ผิวเหมาะกับ:

สำหรับคนที่มีปัญหาผิวรอยดำ รอยแดง ปานแดง หลุมสิว สิว สิวอักเสบ ริ้วรอยบนใบหน้า กระ จุดด่างดำ ขี้แมลงวัน

ระยะห่างในการทำ:

ควรทำทุกเดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ราคา:

ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,500 - 3,000 บาทต่อครั้ง หลายคลีนิกให้บริการเป็นคอร์สจำนวน 5 ครั้ง ( ราคาแตกต่างกันตามเป้าหมายในการรักษา )


นอกจากเลซอร์ผิวหน้า ก็ยังมีหัตถการความงามในคลีนิกผิวหนัง ที่หลายคนพูดถึงและยังใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ อย่าง

" การฉีดสิวและกดสิว "

แก้ปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน และไม่ให้เกิดรอยดำตามมา

ส่วนอีกหนึ่งหัตถการความงามในคลีนิกผิวหนัง

ก็คือ

" การทำทรีตเมนต์ผิวหน้า " การนวดหน้าที่ช่วยกระตุ้นให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น มีการบำรุงผิวหน้าที่เข้มข้นกว่าสกินแคร์ทั่วไป ช่วยให้หน้านุ่มผิวชุ่มชื่น

ทั้ง 2 แบบเลยควรทำเป็นประจำทุกเดือน สำหรับคนที่มีปัญหาสิวและปรับหน้าใสดูอ่อนเยาว์ ถ้าสนใจลองไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ค่า

หัตถการความงามที่ควรทำทุก 3-6 เดือน

โบท็อกซ์ -การฉีดโบท็อกซ์ คือ การฉีดเพื่อสลายการทำงานของกล้ามเนื้อ เพื่อลดขนาดกราม และลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ซึ่งโบท็อกซ์ส่วนมากจะมีฤทธิ์อยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน จากนั้นจะสลายไปเอง ซึ่งริ้วรอยและขนาดกรามอาจจะกลับมาอีก ดังนั้นจึงควรฉีดซ้ำ ซึ่งหากเติมโบท็อกซ์บ่อย ๆ ก็มีแนวโน้มว่าสามารถป้องกันริ้วรอยในระยะยาวได้HIFU -เป็นเทคโนโลยีการใช้คลื่นวิทยุลงลึกไปยังใต้ชั้นผิว เพื่อยกกระชับผิวหน้าและลดเลือนริ้วรอย เป็นการทำงานคล้าย Ulthera แต่ HIFU ไม่สามารถลงลึกสู่ชั้นผิวได้มากเท่า Ulthera ผลการคงอยู่จึงสลายเร็วกว่า นั่นคืออยู่ได้ 4-6 เดือน จึงควรทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน เพื่อผิวกระชับเต่งตึงฟิลเลอร์ -การฉีดฟิลเลอร์เป็นการใช้สารเติมเต็มเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการ ทั้งช่วยในการลดริ้วรอย เช่น เติมร่องแก้ม ขมับ ใต้ตา หรือเพื่อเสริมความงาม เช่น เสริมจมูก เติมริมฝีปากอวบอิ่ม เสริมคาง แต่ฟิลเลอร์เป็นสารธรรมชาติที่สามารถสลายหายไปได้ โดยมีระยะเวลาประมาณ 4-6 เดือน ดังนั้นจึงควรฉีดฟิลเลอร์ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อเติมเต็มใบหน้า

หัตถการความงามที่ควรทำทุก 1-2 ปี

Thermage -เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูงชนิดขั้วเดียวที่ส่งพลังงานลึกถึงชั้นหนังแท้ ใช้ในการยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว และสามารถกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ผลจากการทำเทอร์มาจจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 1 ปี จึงควรทำซ้ำทุกปี เพื่อให้ผิวกระชับไปตลอดUlthera -คือ การยกกระชับผิวด้วยคลื่นพลังงานอัลตราซาวด์ โดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกระชับผิวบริเวณใบหน้าและลำคอได้ดี ทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อยไปตามวัย ผลของการทำอัลเธอราสามารถอยู่ได้ประมาณ 2 ปี จึงควรทำซ้ำทุก ๆ 2 ปี เพื่อให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย ทั้งนี้ สามารถเลือกได้ว่าจะทำเทอร์มาจหรืออัลเธอรา ไม่จำเป็นต้องทำทั้ง 2 อย่างก็ได้ร้อยไหม -เป็นการใช้ไหมที่สามารถละลายได้ร้อยไปข้างในใบหน้า เพื่อสร้างแผลเล็ก ๆ ให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมา การร้อยไหมจะช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างเห็นผล ทำให้ใบหน้าเรียวกระชับขึ้น ความหย่อนคล้อยหายไป โดยทั่วไปแล้วไหมจะอยู่บนใบหน้าประมาณ 1-2 ปี หากไหมละลายหมด แต่ต้องการความตึงกระชับ สามารถไปร้อยไหมใหม่ได้

อยากยกกระชับ ลดริ้วรอย หรือปรับรูปหน้านิดหน่อย โดยไม่ต้องถึงกับศัลยกรรม ควรเลือก “คลินิกปรับรูปหน้า”

“คลินิกผิวหนัง” จะเน้นรักษาสิว ฝ้า กระ หรือโรคผิวหนัง ไปจนถึงการบำรุงด้วยทรีตเมนต์ หรือเลเซอร์ชนิดต่างๆ ส่วน “คลินิกศัลยกรรม” มักจะใช้เพื่อปรับโครงสร้างหน้า หรือแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวัน เช่น ความพิการแต่กำเนิด ส่วนใหญ่จะใช้การผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เวลาในการศัลยกรรมและพักฟื้นนาน ผลที่ได้ทำให้ใบหน้าหรือรูปร่างเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

ในขณะที่ “คลินิกปรับรูปหน้า” เป็นคลินิกที่ใช้เทคนิคทางหัตถการ เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูดี เข้ารูปขึ้นโดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างใบหน้าเดิม เช่น การฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม และยกกระชับหน้าด้วยเครื่องมือโดยไม่มีการผ่าตัด ใช้เวลาในการทำไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ สามารถทำได้เรื่อยๆ ซึ่งผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย โครงหน้ายังเป็นหน้าของเราเหมือนเดิม ช่วยกลบจุดด้อย เสริมจุดเด่น ให้ดูดีขึ้น

คลินิกปรับรูปหน้า เหมาะกับใคร?

การปรับรูปหน้า เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลตัวเอง ซึ่งสามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่จะให้ผลลัพธ์ดีที่สุดเมื่อทำในอายุช่วง 25-35 ปี เพราะเป็นช่วงที่ใบหน้าและร่างกายมีความสมบูรณ์ที่สุด และเป็นช่วงเวลาสำคัญในการทำงาน ที่ต้องพบปะผู้คน ต้องสร้างความมั่นใจด้วยรูปลักษณ์และบุคลิกภาพ แถมการเริ่มปรับรูปหน้าในช่วงเวลานี้ จะสามารถช่วยให้ชะลอวัยได้ดียิ่งขึ้น

เทคนิคที่ใช้ในการปรับรูปหน้ามีอะไรบ้าง? ต่างกันอย่างไร?เทคนิคหลักๆ ที่ใช้เพื่อการปรับรูปหน้านั้น มีหลากหลายวิธี เช่น ฉีดโบท็อกซ์, ฉีดฟิลเลอร์, ร้อยไหม, ทำ HIFU ซึ่งแต่ละเทคนิคนั้นเหมาะกับการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน

การยกกระชับด้วยเครื่องมือยกกระชับนวัตกรรมการยกกระชับใบหน้าด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ เหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณมากขึ้นอีกนิด โดยการทำ HIFU (High Intensity Focus Ultrasound) จะให้ผลที่ดูเป็นธรรมชาติกว่าการร้อยไหม เครื่องมือยกกระชับใบหน้าที่คุ้นเคยกัน จะมี ULTHERA, Thermage, Ultraformer ซึ่งแต่ละเครื่องจะมีประสิทธิภาพต่างกัน และระยะเวลาในการเห็นผลก็ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าต้องการผลลัพธ์แบบใด เช่น หากต้องการผิวเนียนขึ้น ลดอายุเหมือนผิวเด็ก แนะนำให้ทำ Thermage เพราะยิงคลื่น RF (Radio Frequency) ไปยังชั้นผิวที่ตื้นกว่า Ulthera แต่ถ้าอยากยกกระชับผิวที่ลึกลงไปในชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System)​ หรือชั้นผิวที่ใช้ในการดึงหน้า ควรเลือก Ulthera หรือ Ultraformer เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ซึ่งการใช้ Ultraformer นั้นจะใช้งบน้อยกว่า แต่ได้ปริมาณช็อตมากกว่า และเจ็บน้อยกว่า แต่ระยะเวลาเห็นผลก็จะสั้นกว่าเช่นกัน

การฉีดโบท็อกซ์ ใช้แก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าโดยปกติเมื่อคนเราอายุมากขึ้น ชั้นผิวจะบางลง เวลาขยับกล้ามเนื้อผิวจึงเป็นรอยพับ วิธีการรักษา คือ ทำให้ชั้นผิวหนังหนาขึ้น เพื่อลดริ้วรอย ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-4 เดือนถึงจะเห็นผลลัพธ์ในการรักษา แต่ถ้าอยากเห็นผลเร็ว สามารถใช้การฉีดโบท็อกซ์ เพื่อควบคุมกล้ามเนื้อชั้นล่างไม่ให้เกิดการพับรอยย่น จะทำให้รอยย่นหายไปชัดเจนใน 1-2 อาทิตย์ได้ หรือใช้เพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อ ให้มีขนาดเล็กลง เช่น กราม กล้ามเนื้อน่อง กล้ามเนื้อหัวไหล่ เป็นต้น

การฉีดฟิลเลอร์ ใช้เพื่อเติมเต็มส่วนที่ยุบตัว หรือหย่อนคล้อยความหย่อนคล้อยของผิวหนัง ที่มีสาเหตุทั้งจากอายุ โรคประจำตัว หรือ ร่างกายที่เสื่อมลงตามวัย โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม จะใช้วิธีฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มจำพวก Hyaluronic Acid ให้ดูอิ่มขึ้น ซึ่งฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน - 1 ปี และสามารถฉีดเติมได้เรื่อยๆ เพราะฟิลเลอร์แท้จะสลายได้เอง ไม่มีสารตกค้าง ไม่ต้องขูดออก และหากฉีดแล้วไม่พอใจ สามารถฉีดสลายได้ แต่ต้องระวังฟิลเลอร์ปลอม ที่เป็นซิลิโคนเหลว ฉีดเข้าไปแล้วไม่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ อาจเกิดปัญหารูปร่างผิดเพี้ยนในอนาคต จะเป็นอันตรายและต้องทำการขูดออก

การร้อยไหม ใช้เพื่อแก้ไขแก้มห้อยย้อยได้อยู่หมัดวิธีนี้เหมาะกับคนที่งบประมาณจำกัด ต้องการยกกระชับเนื้อแก้มที่ย้อย แก้ไขด้วยการร้อยไหมเห็นผลดีที่สุด โดยไหมสมัยใหม่ที่ใช้ร้อย จะเป็นไหมก้างปลา ที่มีเงี่ยง ใช้เพื่อเกี่ยวเนื้อดึงขึ้นได้เหมือนตะขอเกี่ยวอยู่ใต้ผิวไม่ทำให้เป็นรอยย่น ซึ่งได้ผลชัดเจนกว่าไหมแบบเรียบ

2. หัตถการความงามโบท็อกซ์

หัตถการความงามที่อยู่ในประเภทคลีนิกปรับรูปหน้า

เป็นการฉีดโบท็อกซ์เพื่อเติมให้ชั้นผิวหนังหนาขึ้น ช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย

ต้องใช้เวลาประมาณ 1 - 4 เดือนถึงจะเห็นผลชัดเจนส่วนใครที่ไม่อยากรอ มีทางลัดคือการฉีดโบท็อกซ์ ควบคุมกล้ามเนื้อชัดล่างไม่ให้เกิดรอยพับย่น จะทำให้รอยย่นหายไปใน 1 - 2 อาทิตย์

หรือใช้เพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อให้เล็กลง อย่างเช่นฉีดลดกราม กล้ามเนื้อน่อง กล้ามเนื้อหัวไหล่

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/12/96/9d/12969d15d994a99e72eb10ca9857cadc.jpg

โบท็อกซ์เหมาะกับ:

สำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าแบบไม่ให้หน้าเปลี่ยนไปมาก อยากปรับรูปหน้าให้เรียวลง และคนที่มีปัญหาผิวเกี่ยวกับริ้วรอย

ระยะห่างในการทำ

: ประมาณทุก 3 - 6 เดือน

ราคา:

ประมาณ 8,000 - 18,000 บาท ( ขึ้นอยู่กับ UNIT และเป้าหมายในการทำ )

3. หัตถการความงาม ฟีลเลอร์

หัตถการความงามที่อยู่ในประเภทคลีนิกปรับรูปหน้า จะเป็นการ

ฉีดฟีลเลอร์หรือสารเติมเต็มพวก Hyaluronic Acid เพื่อให้ผิวดูอิ่มขึ้น เติมเต็มส่วนที่ยุบหรือหย่อนคล้อย ฟีลเลอร์สามารถฉีดเติมได้เรื่อย ๆ เพราะฟีลเลอร์สลายได้เอง ไม่มีสารตกค้าง และไม่ต้องขูดออก


และสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน - 1 ปี แต่ควรระวังฟีลเลอร์ปลอมที่เป็นซิลิโคนเหลว ฉีดเข้าไปแล้วไม่สามารถสลายได้เอง อาจเกิดปัญหารูปร่างเปลี่ยน เป็นอันตรายมาก ๆ และต้องทำการขูดออกทีหลังอีกด้วย สามารถเข้าไปดู


https://sistacafe.com/summaries/95017

มาทาไว้ก็ดี เพราะหลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้ว เราก็ต้องบำรุงหน้าของเราด้วยเวลาออกแดด



รูปภาพ:https://global-uploads.webflow.com/6218b0439e37d2a704886068/624e66cb05854905e52ff5f6_277-0.89145400%25201641523833-froalaeditor.png

ฟีลเลอร์เหมาะกับ:

คนที่ต้องการลดและแก้ปัญหาริ้วรอยล่องลึก ตามบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า อย่างหน้าผาก รอบตัวตา ร่องลึกมุมปาก และคนที่ต้องการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า อย่างเช่น เติมริมฝีปาก ร่องแก้ม คนที่ต้องการลดแก้มให้ดูตอบลง หรือใครที่ต้องการบำรุงผิวหน้าอ่อนเยาว์ สดใส เปล่งปลั่ง มีปัญหาเรื่องรูขุมขน และหลุมสิวบนใบหน้า ก็สามารถแก้ปัญหาด้วยฟีลเลอร์ได้

ระยะห่างในการทำ:

ประมาณทุก 6 เดือน

ราคา:

ประมาณ 11,000 - 18,000 บาท

4. หัตถการความงามร้อยไหม

หัตถการที่อยู่ในประเภทคลีนิกปรับรูปหน้า จะ

ใช้ไหมที่สามารถละลายได้ร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง

มีอยู่ประมาณ 3 แบบ เส้นไหมเรียบ เส้นเกลียว และเส้นไหมแบบเงี่ยง

เพื่อสร้างแผลเล็ก ๆ ให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นมาช่วยยกกระชับใบหน้าให้เรียวดูกระชับขึ้น และความหย่อนคล้อย แก้มย้วยหายไป

โดยปกติแล้วไหมจะอยู่ได้ประมาณ 1 - 2 ปี ถ้าเกิดไหมละลายจนหมด ก็สามารถไปร้อยไหมใหม่ได้ ส่วนใครที่ยังไม่พร้อมก็สามารถเข้าไปดูครีมบำรุงจากทาง

https://www.konvy.com/


https://store.boots.co.th/th/


https://www.tops.co.th/th/

หรือ

https://www.watsons.co.th/th/

ได้ เพราะมีการลดราคาอย่างต่อเนื่อง

รูปภาพ:https://res.cloudinary.com/dk0z4ums3/image/upload/v1519804609/attached_image_th/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1-2.jpg

ร้อยไหมเหมาะกับ:

สำหรับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ยกหางตา ทำให้หน้าเรียว ไม่มีความหย่อนคล้อย คนที่อยากลดแก้มย้อย

ระยะห่างในการทำ:

ประมาณ 1 - 2 ปี

ราคา:

มีตั้งแต่หลัก 1,000 ไปจนถึงหลัก 10,000 ( ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้น และประเภทไหมที่ใช้ )

5. หัตถการความงามHIFU

หัตถการที่อยู่ในประเภทคลีนิกปรับรูปหน้า

หัตถการที่ช่วยในเรื่องการยกกระชับ คล้าย ๆ กับการร้อยไหม แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์เป็นตัวช่วยยกกระชับ

ซึ่งมีเครื่องมือยกกระชับใบหน้า HIFU มีอยู่หลายแบบด้วยกัน แต่ละเครื่องจะมีประสิทธิภาพ และระยะเวลาเห็นผลต่างกัน

อย่าง Thermage จะเหมาะกับคนที่ต้องการผิวเนียน ลดอายุเหมือนผิวเด็ก Ulthera และ Ultraformer จะช่วยยกกระชับลงลึกถึงชั้น SMAS ช่วยเรื่องยกกระชับ ดึงหน้า ไม่มีความหย่อนคล้อย แต่ Ultraformer จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะมีปริมาณช็อตน้อยกว่า แต่ข้อดีก็คือจะเจ็บน้อยกว่าแบบอื่น ๆ

รูปภาพ:https://blog.gowabi.com/wp-content/uploads/2019/02/HIFU_1.jpg

ลิ้งก์รูปภาพ

https://drive.google.com/drive/folders/1nmTB_omUdbxuV2WHVHRmoCZmFQLxNRkW?usp=sharing

HIFU เหมาะกับ:

สำหรับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ทำให้หน้าเรียว ไม่มีความหย่อนคล้อย คนที่อยากลดแก้มย้อย

ระยะห่างในการทำ:

ประมาณ 1 - 2 ปี

ราคา:

มีตั้งแต่หลัก 1,000 ไปจนถึงหลัก 10,000 ( ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อต ) ใดๆถ้าอยากหน้าเต่งตึงก็เข้าไปดู

https://sistacafe.com/summaries/94828

มากินได้ ก็จะช่วยเรื่องผิวพรรณของเราด้วย




ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับหัตถการความงาม

กันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าหัตถการความงามมีอยู่หลากหลายแบบให้เลือกสรรเลย ไม่ว่าจะเป็น

หัตถการในคลีนิกผิวหนัง อย่างการทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ต่าง ๆ

ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ส่วนใครที่อยากปรับหน้าตึงยกกระชับ ดูอ่อนเยาว์

หรือค

นที่อยากเติมหรือลดบางส่วนบนใบหน้า ก็เลือกหัตถการในคลีนิกปรับรูปหน้า อย่างโบท็อกซ์ ฟีลเลอร์ ร้อยไหม HIFU

ได้เลย และ

หวังว่าบทความนี้จะพอช่วยเพื่อน ๆ ในการตัดสินใจเลือกหัตถการที่เหมาะกับตัวเองได้บ้างนะคะ

ส่วนวันนี้ขอตัวไปก่อนแล้ว บ๊ายบายค่ะไว้เจอกันครั้งหน้าที่https://sistacafe.com/

Designer :kidasindahouse

Writer :chollychon

บทความแนะนำ