จริง ๆ แล้วการเลือกครีมกันแดดก็เหมือนกับการเลือกสกินแคร์บำรุงผิวนั่นแหละจะมาเลือกแบบส่ง ๆ ไปก็ไม่ได้เข้าใจว่า กันแดดก็คือกันแดด แต่ครีมกันแดดแต่ละตัว ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผิวแต่ละแบบนะ เพราะฉะนั้นมันไม่เหมือนกันค่ะ จะมาเลือกใช้ตัวไหนก็ได้ ไม่ได้นะจ๊ะ!!! วันนี้เรามีHow to 6 วิธีเลือกครีมกันแดดยังไงให้เหมาะกับตัวเองพร้อมปกป้องผิวอย่างมีประสิทธิภาพมาแนะนำ วิธีง่าย ๆ ที่รับรองว่า อ่านจบปุ๊บ เลือกกันแดดที่ใช่ได้แน่นอน จะมีวิธีอะไรบ้าง เอาเป็นว่า เราไปอ่านดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

How to 6 วิธีเลือกครีมกันแดดยังไงให้เหมาะกับตัวเอง พร้อมปกป้องผิวอย่างมีประสิทธิภาพ

รูปภาพ:http://i2.hdslb.com/bfs/archive/094b87540f4ae4d3d9932d52f015af8ad12adf65.jpg

1. เลือกครีมกันแดด ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง

รูปภาพ:https://s.isanook.com/wo/0/ud/38/192205/ff.jpg

ครีมกันแดดหนึ่งตัว ไม่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวนะ อย่าเข้าใจผิวว่า เพื่อนใช้ตัวนี้ดี เราก็เลยลองไปซื้อมาใช้บ้าง ทั้ง ๆ ที่สภาพผิวต่างกัน แบบนี้ไม่ได้นะจ๊ะ! เพื่อน ๆ ควรเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง อย่างน้อย ๆ ก็ควรรู้ก่อนว่า

เรามีสภาพผิวแบบไหน จะได้เลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวของตัวเองได้

แล้วเนื้อกันแดดแบบไหนกันหละที่จะเหมาะกับผิวของเรา บทความนี้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว!

ผิวแห้ง

: ควรเลือกใช้เป็นเนื้อครีม เพราะเนื้อครีมจะเข้มข้นกว่า และเลือกที่มีสารบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นอย่างพวกกลีเซอรีน หรือว่านห่างจระเข้ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดดที่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น

ผิวบอบบาง

: ควรเลือกใช้เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ และถ้าจะให้ดีก็ต้องอ่อนโยนแบบสุด ๆ ไม่ได้มีการปรุงแต่งอะไรมากมาย เพื่อลดความเสี่ยงของสารระคายเคืองต่าง ๆ ที่จะกระตุ้นผิวให้เกิดอาการแพ้ เช่น น้ำหอม น้ำมัน สารกันเสีย ต้องหลีกเลี่ยงให้ห่าง และมองหาสูตร Hypo-Allergenic แทน

ผิวมัน

: ควรเลือกใช้เป็นเนื้อเจล เพราะจะได้ไม่เพิ่มความมันบนผิวมากไปกว่านี้อีก เพราะเนื้อเจลจะเกลี่ยง่าย ซึมง่าย แห้งไว และไม่ทิ้งคราบเหนอะหนะไว้ที่ผิวด้วย

ผิวเป็นสิวง่าย

: ควรเลือกใช้เป็นเนื้อโลชั่น เพราะเนื้อแบบนี้จะบางเบากว่าเนื้อครีม ทำให้ไม่หนักผิว ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำมัน และน้ำหอมด้วย แนะนำให้ดูตัวที่มีส่วนผสมของ Zinc Oxide แทน เพราะมีคุณสมบัติช่วยรักษาสิวได้

2. เลือกครีมกันแดดที่ปกป้องผิวได้อย่างครอบคลุม

รูปภาพ:https://www.shiseido.co.jp/sw/c/system/files/2020-09/img1.jpg

นอกจากเลือกให้เข้ากับสภาพผิวแล้ว ก็ควรเลือกกันแดดที่ปกป้องแบบครอบคลุมด้วยนะ สิ่งแรกที่ต้องโฟกัสเลยคือ คุณสมบัติในการปกป้องผิวจากแสงแดด ควรจะปกป้องได้ทั้ง รังสี UVA และ UVB วิธีสังเกตง่าย ๆ เลยก็คือ

۰

PA

แสดงว่ามีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากรังสี UVA (สาเหตุของการเกิดมะเร็งผิวหนัง และทำลายชั้นผิว)

۰

SPF

แสดงว่ามีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากรังสี UVB (เกี่ยวกับผิวไหม้)

นอกจากนี้ สิ่งขาดไม่ได้ก็คือ ครีมกันแดดควรจะปกป้องผิวจากฝุ่น และมลภาวะด้วย ยิ่งทุกวันนี้ ฝุ่นเยอะมาก ไม่ใช่แค่แสงแดดนะ ที่เป็นตัวการร้าย แต่ฝุ่นเองก็เช่นกันค่ะ เพราะฉะนั้นครีมกันแดดควรจะเป็นสูตร

Anti-Pollution

ซึ่งก็คือ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอกได้ด้วยนะ

3. เลือกค่า SPF และ PA ให้เหมาะกับชีวิตประจำวันมากที่สุด

รูปภาพ:https://www.arouge.com/labo/assets/images/img_ogp_beautiful-skin.jpg

โดยปกติ เวลาเราจะเลือกครีมกันแดด เราจะเลือกแบบ SPF สูง ๆ ไว้ก่อน เพราะคิดว่านี่แหละจะช่วยปกป้องผิวได้อยู่หมัดแน่นอน ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดนะ แต่ว่าจะดีกว่ามั้ย ถ้าเราเลือกใช้กันแดดที่มีค่า SPF และ PA ที่เหมาะกับสถานการณ์ต่าง ๆ ว่ากันว่า ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ประสิทธิภาพก็แทบไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ SPF 30 จะกรองได้ร้อยละ 97 ส่วน SPF 50 กรองได้ร้อยละ 98 ซึ่งห่างกันนิดเดียวเอง จริง ๆ แล้วจะเลือกใช้แบบ 30 ก็ได้นะ เพราะ

การที่เราเลือก SPF ที่ค่าสูงมาก ๆ มันก็มีผลเสียต่อผิวเหมือนกัน ไม่ใช่แค่เหนอะหนะ แต่ยังก่อให้เกิดการระคายเคืองด้วย แถมยังทำให้ผิวแพ้ได้ง่ายขึ้นอีก

บางคนเชื่อว่า ยิ่งค่า SPF สูงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งกันแดดได้นานขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้ว พอครีมกันแดดโดนเหงื่อและมลภาวะคุณภาพจะลดลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้น ควรจะเติมระหว่างวันทุก ๆ 2 - 3 ชั่วโมงนะ

ส่วนแบบไหนเหมาะกับสถานการณ์ไหน เลือกจากค่า PA ได้เลยค่ะ

PA+

เบาที่สุด ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำได้มากกว่าผิวปกติ 2-4 เท่า เหมาะใช้ในห้อง หรือไม่ได้ออกไปเจอแสงแดด

PA++

อยู่ระดับกลางๆ ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำได้มากกว่าผิวปกติ 4-8 เท่า เหมาะกับสายทำงานออฟฟิศหรือ Work From Home

PA+++

อยู่ในระดับสูง ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำได้มากกว่าผิวปกติ 8-16 เท่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องโดนแดดนานประมาณนึง ออกไปเดินช้อปปิ้ง ไปเที่ยว ไปตลาด

PA++++

อยู่ในระดับสูงสุด ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำได้มากกว่าผิวปกติ มากกว่า 16 เท่า เหมาะกับคนที่ต้องทำกิจกรรมหรือกีฬากลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ

ลองเปรียบเทียบดู แล้วเพื่อน ๆ จะได้ครีมกันแดดที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด

4. ครีมกันแดดต้องกันน้ำและกันเหงื่อได้ด้วย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/d8/69/be/d869be43dfd8e48682f3a5eaf01b297a.png

หน้าร้อนนี่หนีไม่พ้นเรื่องเหงื่อนะ เพราะฉะนั้นจะเลือกใช้ครีมกันแดดอะไร ก็ต้องกันน้ำ กันเหงื่อด้วยนะจ๊ะ ระหว่างวันเวลาที่เหงื่อเราออก ครีมกันแดดจะได้ไม่ไหล ไม่เยิ้ม ไม่หลุดซึ่งมันจะมีกันแดดที่เป็นสูตร Water Resistant อันนี้จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดระหว่างที่ว่ายน้ำ หรือเหงื่อออกได้นานประมาณ 40 - 80 นาที เพราะงั้นเลยต้องทาซ้ำอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น แต่เพื่อน ๆ ลองไปหาดูกันเพิ่มเติมได้เลย สมัยนี้มีครีมกันแดดแบบกันน้ำกันเหงื่อเยอะแยะ เลือกให้ถูก อย่าลืมดูที่ส่วนผสม และเลือกที่เหมาะกับสภาพผิวด้วยนะ

5. ก่อนเลือกซื้อ ต้องดูที่ส่วนผสมก่อน

รูปภาพ:https://cdn.tgdd.vn/Files/2021/03/20/1336963/co-che-hoat-dong-va-tac-dung-cua-kem-chong-nang-va-7.jpg

จริง ๆ แล้วอย่างที่เราบอกเลย การเลือกซื้อครีมกันแดด ไม่ต่างอะไรกับการเลือกซื้อสกินแคร์บำรุงผิวค่ะ ก่อนจะซื้อ เราควรตวรจสอบส่วนผสมที่เขาใส่ลงไปด้วย โดยเฉพาะเพื่อน ๆ คนไหนที่รู้ตัวว่า เป็นคนที่ผิวแพ้ง่ายมาก ๆควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่ปราศจากสารระคายเคืองต่าง ๆ เช่น น้ำหอม, น้ำมัน, สารกันเสีย, Lanolin, Propylene Glycol และอื่น ๆ พวกนี้จะทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ ระคายเคือง รวมไปถึงอุดตันด้วย เพราะงั้นเลยมีคำแนะนำมาว่า คนที่ผิวแพ้ง่าย ควรจะใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ Titanium Dioxide หรือ Zinc Oxide เพราะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ยากในนั่นเอง

6. คำเคลมไม่มีผล ทดลองเองเท่านั้นถึงจะรู้!

รูปภาพ:https://hc.mochida.co.jp/assets/images/basic_skincare/facecare/main_mask.jpg

ที่สำคัญคือที่สุด การเชื่อเพื่อน คำเคลม รีวิว ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเสมอไปนะ เราควรทดลองด้วยตัวเอง ถ้าครีมกันแดดตัวนั้นที่เพื่อนๆ อยากใช้ มีขนาดทดลอง หรือขนาดพกพา ควรเลือกแบบนั้นมาใช้ดูก่อน ทดสอบดูว่า ลองแล้วแพ้มั้ย ใช้แล้วรอดเหมือนคนอื่น ๆ ที่เขาว่าดีรึเปล่า วิธีทดสอบง่ายมากๆ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ▫ระยะสั้น– ให้ทาครีมกันแดดไว้ใต้ท้องแขน 15 นาที แล้วดูว่ามีผิดอาการปกติหรือไม่ เช่น บวม แดง ร้อน คัน ถ้าหากมีก็ไม่ควรนำมาใช้▫ระยะยาว– เป็นการทาที่ใต้ท้องแขนเช่นกัน แต่ให้ทาทิ้งไว้ไม่ต้องล้างออก 48-72 ชั่วโมง หากมีอาการผิดปกติก็ไม่ควรนำมาใช้เช่นกันทั้งนี้ทั้งนั้น เนื้อสัมผัสก็สำคัญเช่นเดียวกันนะ ควรเลือกกันแดดที่เนื้อบางเบาหน่อย ทาแล้วไม่เหนอะหนะ ถ้าสามารถลองเทสเนื้อได้ก่อนเลือกซื้อ ก็จะดีค่ะ เราจะได้มั่นใจว่า ครีมกันแดดตัวนี้ทาลงบนผิวแล้วสบาย ไม่หนึบ ไม่เหนียว

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/f1/d1/0a/f1d10a552d049871b082d6c69701cdc7.jpg

❀ วิธีใช้ครีมกันแดดที่ถูกวิธี ❀

✺ ทาครีมกันแดดก่อนออกแดด อย่างน้อย 15-30 นาที

✺ ทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง หรือหลังว่ายน้ำ และออกกำลังกาย

✺ ปริมาณครีมที่ควรใช้สำหรับทาตัวคือ 7 ช้อนชา

✺ ปริมาณครีมที่ควรใช้สำหรับผิวหน้าคือ 1-2 ช้อนชา

✺ เก็บครีมไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ ไม่ต้องแช่เย็น และอย่าทิ้งตากแดดในรถ

รูปภาพ:https://www.willard.co.jp/wblog/wp-content/uploads/2021/01/pixta_47621451_L.jpg

ลองเอาวิธีที่เราหยิบมาแนะนำในวันนี้ ไปใช้กันดู จริงๆ มันก็ไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้นหรอกค่ะ อีกอย่าง การใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มันก็ดีกว่าเรามองข้ามมันไป จริงมั้ย? สุดท้ายแล้วมันก็ดีต่อผิวของเราทั้งนั้นแหละ หากได้ดูบทความฉบับนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว เพื่อน ๆ จะได้แนวทางการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับตัวเองแน่นอน เชื่อสิ!สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย