หน้าร้อนไม่รู้ที่ไหน แต่หน้าใกล้จะไหม้ที่ประเทศไทยนี่เองจ้าาแน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในช่วงซัมเมอร์นี้ก็ต้องเป็นครีมกันแดดจะออกจากบ้านก็โบกกันซะหน่อย ผิวเราจะได้ปลอดภัยจากแสงแดดอันสุดแสนจะร้อนแรง แต่ชาวซิสรู้กันหรือเปล่าว่าการเลือกครีมกันแดดนอกจากจะต้องเช็กค่า SPF และ PA ให้เหมาะสมแล้วนั้นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอีกอย่างนึงเลยก็คือ ชนิดของกันแดด ทั้งกันแดดแบบ Physical Chemical หรือกันแดดแบบ Hybridพูดไปก็อาจจะยังงงๆ ไม่เป็นไร มาดูกันว่าต้องเลือกยังไง กันแดดแบบไหนเหมาะกับใครบ้าง จะคนเป็นสิวหรือคนผิวดี ซิสหามาให้หมดแล้ววว
≡ Chemical Sunscreen ≡
มาเริ่มด้วยกันแดดแบบ Chemical กันก่อน กันแดดชนิดนี้เค้าจะประกอบด้วยสารกันแดดที่มีคุณสมบัติ
ดูดซับรังสียูวี
ตัวอย่างที่เราอาจจะเห็นกันได้บ่อยๆ คือ
Avobenzone, Octinoxate
และ
Oxybenzone
ซึ่งเค้าจะดูดซับรังสียูวีแล้ว
เปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อนที่ปล่อยออกมา และกระจายออกจากผิวหนัง
เพื่อไม่ให้ทะลุผ่านลงไปถึงชั้นผิวหนัง และไปทำอันตรายต่อผิวได้น้อยลง ข้อดีของกันแดดชนิดนี้คือ เค้าจะ
มีเนื้อที่บางเบา ไม่มีสี ติดทนมากกว่ากันแดดแบบ Physical เมื่อโดนน้ำ
ทาแล้วสบายผิวด้วยค่ะ
คนท้องให้ระวังกันแดดกลุ่ม Chemical sunscreen เพราะมันมีการดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ถึงแม้จะน้อยแต่ยังก็ไม่มีการทราบผลระยะยาว ดังนั้นใครที่ท้องอยู่ให้ไปใช้กันแดดที่เป็น Physical sunscreen
≡ Physical Sunscreen ≡
กันแดดชนิดนี้จะทำหน้าที่ตรงกันข้ามกับกันแดดแบบ Chemical เพราะ
กันแดดแบบ Physical จะช่วยสะท้อนหรือกระจายรังสียูวีออกไปจากผิว
สารกลุ่มนี้ที่เราจะเห็นหลักๆ เลย คือ
Titanium dioxide , Zinc oxide
ซึ่งจะมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เนื่องจากเค้า
ดูดซึมเข้าสู่ผิวน้อยมากจึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
แต่จะมี
ข้อเสียคือหลุดออกง่ายเมื่อมีเหงื่อหรือโดนน้ำ และเวลาทาแล้วหน้าเราจะดูขาวขึ้นไหนใครเคยทาครีมกันแดดแล้วหน้าวอกบ้าง? ใช่แล้วค่าเป็นผลมาจากกันแดดแบบ Chemical นี่แหละ!
≡ กันแดดแบบ Physical Vs กันแดด Chemical แบบไหนดีกว่า? ≡
ถ้าถามว่า
กันแดดแบบไหนล่ะที่ดีกว่า?
คำตอบง่ายนิดเดียวคือ กันแดดที่เหมาะกับเรา
ค่ะ คงจะฟันธงไป 100% ไปว่าแบบไหนที่ดีกว่ากันไม่ได้ เพราะการใช้ครีมกันแดดให้มีประสิทธิภาพที่ดีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการใช้ชีวิตของแต่ละคนล้วนๆ แต่ถ้าจะให้แนะนำ ก็ตามด้านล่างที่ซิสลิสต์มาให้เลย รีบจดด่วน
❥
ถ้าวันไหน
อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ค่อยมีเหงื่อออก
ก็สามารถใช้ครีมกันแดดแบบ
Physical
ได้
❥
ถ้า
ออกไปทำกิจกรรมแล้วต้องเจอแดดทั้งวัน
ใช้กันแดดแบบ
Chemical
ก็อาจจะเหมาะกว่า
❥
ถ้าเราเป็น
คนผิวระคายเคืองง่ายหรือคนเป็นสิว
ซิสแนะนำ
ใช้ Physical sunscreen
จะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า
❥ สำหรับคนท้องให้ไปใช้กันแดดที่เป็น Physical sunscreen
และควรหลีกเลี่ยงกันแดดกลุ่ม Chemical เพราะถึงแม้ว่าจะดูดซึมเข้าสู่ผิวได้น้อย แต่ยังก็ไม่มีการทราบผลที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว
❥
ถ้า
ไม่ได้มีปัญหาเรื่องผิว
แต่
ชอบความบางเบา
ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ควรใช้กันแดดแบบ
Chemical
❥
ถ้า
ชอบออกกำลังกายกลางแจ้ง
หรือว่ายน้ำ ควรใช้กันแดดแบบ
Chemical
จะติดทนกว่าค่ะ
≡ Hybrid Sunscreen ≡
เราจะเห็นได้เลยว่าทั้ง Physical Sunscreen และ Chemical Sunscreen เค้าก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป ผู้ผลิตเค้าก็เลยพัฒนากันแดดอีกรูปแบบให้ครอบคลุมแบบ ครบ จบโดยจะเป็นการปรับข้อดีและข้อเสียจากกันแดดทั้ง 2 แบบก่อนหน้า และได้ออกมาเป็นกันแดดแบบ Hybrid ซึ่งกลุ่มนี้สามารถทำได้ทั้งดูดซึมแสงและสะท้อนแสงได้ในตัวเดียวตัวอย่างสารกันแดดชนิดนี้ เช่นTinosorb Mแอบกระซิบว่าปัจจุบันครีมกันแดดหลายๆ ตัวที่วางขายกันอยู่ในท้องตลาดส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีผสมทั้ง Physical และ Chemical เข้าด้วยกันเพื่อที่เสริมจุดดีและลบจุดด้อยของอีกตัวเช่นลดการระคายเคืองต่อผิวหนังจาก Chemical และ ลดคราบขาวตอนทากันแดดแบบ Physicalถือว่าเวิร์กมากเหมาะกับคนขี้เกียจคิด ขี้เกียจเลือก ก็ซื้อตัวนี้ไปให้จบๆ เลยจ้า
หลายคนสงสัยว่า ถ้าแต่งหน้า ทารองพื้น ทาแป้ง จะทาครีมกันแดดทับเครื่องสำอางซ้ำในระหว่างวันได้ยังไง วิธีคือ
1. ซับหน้ากำจัดความมันออกก่อน
2.ใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดให้ทั่วหน้า แล้วซับหน้าให้แห้ง
3. ทาครีมกันแดด รอให้ครีมกันแดดเซตตัว แล้วทาแป้งเซตผิวค่ะ
พยายามเลือกกันแดดที่เนื้อบางเบา จะเติมได้สะดวกขึ้นค่ะ
ดังนั้น สาวๆแพ้ง่าย ผิวบอบบางก็ควรจะเลือกกลุ่มนี้นะ จึงเกิดการพัฒนาสูตรในกลุ่ม organic เนืองจากการป้องกันแสงในกลุ่มนี้จะเปลี่ยนไปตามขนาดของ particle คือ ถ้า particle เล็ก จะป้องกัน UVB ได้ดีและไม่มีสี แต่ถ้า particle ใหญ่ก็จะป้องกัน UVA ได้ดีแต่ความขาวก็จะมากขึ้นจ้า
≡ วิธีทากันแดดที่ถูกต้อง ≡
อีกหนึ่งประเด็นสุดฮิตที่เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ช่วงหนึ่งว่ากันแดดจริงๆ แล้วเนี่ยต้องทาเท่าไหร่ถึงจะพอ?หลายคนอาจจะรู้กันบ้างแล้ว แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่รู้ ก็ไม่เป็นไรน้า ซิสมีคำตอบให้จ้าจริงๆปริมาณกันแดดที่ควรทา คือ 2 mg/cm²ซึ่งวิธีที่ถูกต้องที่สุดเราอาจจะต้องบีบกันแดดใส่ช้อนตวงเพื่อจะได้ปริมาณที่ตรงมากที่สุด แต่มันดันไม่สะดวกต่อการใช้งานเอาซะเลย วันไหนรีบๆ คงจะไม่มีเวลามาตวงกันหรอกใช่มั้ยคะ ซิสเลยเอาวิธีง่ายๆ มาให้ จดแล้วจำ เอาไปทำต่อได้เลย
♥กันแดดชนิดน้ำ ( Lotion Sunscreen )
ให้เทกันแดดลงฝ่ามือ กะปริมาณเท่าเหรียญสิบ แล้วทาลงบนหน้า 2 รอบ หรือเรียกง่ายๆ ว่า ขนาดเท่าเหรียญ 10 สองเหรียญนั่นเอง
♥กันแดดชนิดครีม ( Cream Sunscreen )
ให้บีบครีมแบบเต็มๆ 2 ข้อนิ้วมือแล้วทาลงบนผิวหน้า
≡ ทริคทากันแดดก่อนออกแดด ≡
❥ กันแดดแบบ Chemicalควรทาก่อนออกแดด 20 นาที เพื่อให้สารฟอร์มตัวเพื่อป้องกันผิว
❥ กันแดดแบบ Physicalทาแล้วสามารถออกแดดได้เลย
⁂ ถ้าเราต้องออกไปเจอแดดจัด หรือทำกิจกรรมทางน้ำแนะนำว่าให้ทากันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมงนะคะ เพราะตัวสารกันแดดเวลาที่เค้าดูดซับรังสี UV แล้วก็จะเกิดการเสื่อมประสิทธิภาพลงเรื่อยๆ ดังนั้นเราก็ต้องเสริมเค้าซักหน่อยจะได้ปกป้องผิวเราได้ยาวๆ นะ
≡ กันแดดชนิดไหนใช่สุด? ≡
ไม่ใช่แค่เลือกชนิดกันแดดที่สำคัญ เพราะการเลือก Formulation กันแดดก็สำคัญนะคะซิส♥ กันแดดชนิดครีมหรือโลชั่นอันนี้ซิสแนะนำที่สุด เพราะด้วยความที่เค้าเป็นครีมเราก็จะสามารถทาลงบนหน้าได้อย่างทั่วถึง กะปริมาณเนื้อครีมที่จะทาได้ เลยทาแล้วได้ค่า SPF ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
♥กันแดดชนิดสเปรย์กันแดดแบบนี้ข้อดีคือรวดเร็ว สะดวกมาก แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกันน้า เพราะด้วยความที่เค้าเป็นสเปรย์ พอเราฉีดไปทีนึงเค้าอาจจะไม่ครอบคลุมทั่วบริเวณผิวหน้าเรามากพอ ประสิทธิภาพการกันแดดก็จะลดลงไปด้วย
♥กันแดดชนิด Stick ( แบบแท่ง )อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งชนิดที่กำลังฮอตฮิตไม่แพ้กัน ข้อดีคือใช้สะดวกมากแค่ปาดคือจบ! แต่เค้าจะยากต่อการกะปริมาณว่าต้องทากี่รอบถึงจะได้ค่า SPF ที่ช่วยปกป้องผิวเราได้ จะใช้ก็อาจจะต้องศึกษากันดีๆ
ถึงจะอยู่บ้านและไม่ได้ออกไปไหนก็อย่าชะล่าใจจนไม่ทากันแดดนะคะซิส เพราะรังสี UV มันพร้อมที่จะทะลุบานหน้าต่างมาเล่นงานเราอยู่เสมอ!ฉะนั้นต้องหมั่นทากันแดด และเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะกับตัวเราเองและการใช้งาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเลือกชอบกันแดดแบบไหน ก็อย่าลืมทากันแดดทุกวันนะ ยิ่งใครที่ต้องออกไปเจอแดดจัดๆ ก็อย่าลืมทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงด้วย ผิวเราจะได้รอดจากซัมเมอร์นี้ไปด้วยกันค่ะ! (´,,•ω•,,)♡
- - - - - - - - - - - - - - -
Desikidasindahouse
: