" ที่ใดที่รัก ที่นั่นมีทุกข์  "

นี่เป็นเรื่องจริงของทุกคนที่มีความรัก แน่นอนว่ามันไม่ได้มีแต่เรื่องสุขสมหวังไปตลอดเวลา บางครั้งมันอาจจะมีเรื่องทุกข์ใจเข้ามาอย่างที่ตัวเราเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน อย่างไรเสีย เมื่อความรักมันจืดจางลงจนรู้สึกว่า

" หมดรัก "

ก็ต้องมีคนหนึ่งที่เป็นฝ่ายไป ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราควรจะต้องทำใจยอมรับกับทุกอย่างที่มันจะเกิดขึ้น


รูปภาพ:http://i1192.photobucket.com/albums/aa324/girlfridaydb/drama/2014/pinocchio/pinocchio10/pinocchio10-00769a.jpg

และนี่คือ


" 5 สัญญาณที่บอกว่า คุณกำลังจะโดนบอกเลิก  หรือ โดนเขี่ยทิ้ง! "


ถ้าใครเจอสิ่งเหล่านี้กับตัว ให้ทำใจตั้งรับไว้ได้เลย


1. ชอบหงุดหงิดใส่ ไม่พอใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ


รูปภาพ:http://i630.photobucket.com/albums/uu26/dramabeans/drama/2012/niceguy/niceguy14/niceguy14-00136.jpg

เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเป็นแฟนกันจะมีเรื่องทะเลาะกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่หากเป็นเรื่องจุกจิกที่บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าเราทำผิดอะไร แล้วเขามาหงุดหงิดใส่เรา ทำเหมือนไม่พอใจเราไปซะทุกเรื่อง แบบนี้ก็ดูไม่มีเหตุผลใช่มั้ยล่ะคะ  นี่อาจจะเป็นสัญญาณเริ่มต้นแล้วก็ได้ และเราอาจมีคำถามตามมาว่า

" ยังรักกันอยู่รึเปล่า? "


2. ทำตัวห่างเหินกัน ไม่มีท่าทีสวีทหวานเหมือนแต่ก่อน


รูปภาพ:https://myasianmovie.files.wordpress.com/2015/08/1421371640-pinochio_epi18_590x330.jpg

จริงอยู่ที่ใครๆ เขาว่ากันว่า

" เมื่อแรกรัก น้ำต้มผักก็ว่าหวาน "

เมื่อความรักของคนสองคนดำเนินมาได้สักพัก อาจจะมีช่วงที่เรียกว่า

" หมดโปรโมชั่น "

อาจไม่ได้สวีทหวานกันเหมือนช่วงคบกันใหม่ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารักนั้นจะจืดจางลงไปนี่!

ในสภาวะแบบนี้ สามารถตีความได้ 2 แบบ คือ 1. ความรักของคุณทั้งคู่เดินทางมายาวนาน แม้จะไม่มีทีท่าสวีทกันทั้งต่อหน้าและลับหลังคนภายนอก แต่คุณทั้งคู่ก็ยังรู้ดีว่ารักกันอยู่ การพูดว่ารักจึงไม่ใช่เรื่องที่สลักสำคัญอะไรมากนัก

และ 2. ความรักของคุณทั้งคู่จืดจางลง โดยเฉพาะหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีท่าทีที่เฉยเมย เย็นชา จนรู้สึกว่าอีกฝ่ายโกรธอะไรเราอยู่รึเปล่า? ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีเรื่องอะไรให้ขุ่นข้องหมองใจกัน

หากเป็นแบบข้อ 1 ก็เป็นเรื่องดีค่ะที่ความรักของพวกคุณดำเนินมาอย่างราบรื่น ค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวา ในขณะเดียวกันถ้าหากเป็นแบบข้อ 2 ก็เริ่มน่าคิดมากขึ้นแล้วล่ะ


3. ไม่มีเวลาให้ / ติดธุระตลอด


รูปภาพ:http://www.koreandramafashion.com/wp-content/uploads/2012/11/Nice-Guy-Innocent-Man-Episode-10-640x366.jpg

นอกจากจะทำตัวห่างเหินแล้ว ยังมีเวลาให้กันน้อยลงอีก อันนี้เริ่มน่าคิดแล้วล่ะค่ะ คิดดูนะว่า

คนเราต่อให้ยุ่งตัวเป็นเกลียว งานหนักขนาดไหน อย่างน้อยก็ต้องมีเวลามาติดต่อหรือมาเจอแฟนบ้าง แม้จะเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเถอะ

เพราะถึงจะได้อยู่ด้วยกันในช่วงระยะเวลาเพียงน้อยนิด

มันก็ถือเป็นเวลาที่มีค่ามาก ที่จะได้เห็นหน้า สบตา ได้ยินเสียงของกันและกัน

ถ้าหากว่าแฟนของคุณไม่ว่างเพราะมีเหตุผลที่ฟังขึ้น ติดงานด่วน หรือมีธุระสำคัญต้องสะสางจริงๆ อันนี้ก็ต้องเห็นใจเขา เป็นกำลังใจให้เขา ( เพราะเขาอาจจะไม่ว่างจริงๆ อย่างที่บอก ) แต่ถ้าหากเขาบ่ายเบี่ยง ไม่ว่างที่จะมาเจอเราหรือคุยกับเราเลย มันก็เริ่มน่าคิดแล้วล่ะค่ะ ว่าเขาต้องมี Something Wrong แน่ๆ

คำว่า " ไม่ว่าง " ที่เขาพูด มันมีน้ำหนักให้เชื่อได้อยู่ 2 ทาง คือ 1. ไม่ว่างจริงๆ และ 2. เป็นข้ออ้างที่จะไม่มาพบเรา ณ จุดนี้คุณต้องพิจารณาเอาเอง ซึ่งเราว่ามันไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก เซนส์ที่คุณมี มันจะบอกคุณเอง!


4. มีโลกส่วนตัวมากขึ้นจนดูผิดปกติ


รูปภาพ:http://www.hancinema.net/photos/fullsizephoto545911.jpg

ถ้าเกิดว่าคุณกับคนรักได้เจอกันบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน คุณทั้งสองคนย่อมจะรู้นิสัยใจคอ ความชอบ และพฤติกรรมกันดี แต่หากวันใดวันหนึ่ง เขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปล่ะ? ประมาณว่าแอบมีความลับกับเรา ไม่ชอบให้เรามายุ่งวุ่นวาย ถามอะไรเซ้าซี้เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเขาเวลาที่อยู่นอกบ้าน อันนี้ก็น่าคิดแล้วว่าคนของคุณต้องมีอะไรปิดบังคุณอยู่แน่ๆ และเรื่องนี้ก็ไม่อยากให้คุณรับรู้ด้วย!

ที่หนักไปกว่านั้น หากเขาดูติดโลกโซเชียลมากกว่าปกติ เอาแต่นั่งดูมือถือ นั่งแชทในทุกๆ ครั้งที่เจอกัน แบบนี้ก็น่าสงสัยค่ะ คิดดูสิ

มาเจอกับแฟน แต่นั่งแชท นั่งจ้องจอมือถือประหนึ่งว่าแฟนไม่ได้อยู่ด้วย

พอถามก็พยายามบ่ายเบี่ยงว่าคุยงานบ้าง ในบางกรณีหากถามมากเข้าหน่อยก็จะโดน

หงุดหงิดใส่ หาว่ายุ่งเรื่องส่วนตัวบ้าง

คือถ้าสนิทใจกันจริงๆ ก็ไม่เห็นจะต้องโกรธกันเลย จริงมั้ย?


5. ประชดประชัน ยกข้ออ้างมาบอกเลิก


รูปภาพ:http://www.koreandramafashion.com/wp-content/uploads/2014/05/12-Hotel-King-Episode-6-Review-Song-Chae-Kyung-Fashion-640x382.jpg

มาถึงข้อสุดท้ายค่ะ ที่สุดของที่สุด หากมีสัญญาณใน 4 ข้อที่ผ่านมาเกิดขึ้นกับคุณ ยอมรับได้เลยค่ะว่ายังไงๆ มันก็คงจะต้องมาถึงจุดนี้ จุดที่เขาคงไม่เหลือความรักให้เราแล้ว บางคู่คบกันมานานจนหวังจะสร้างอนาคตด้วยกัน เมื่อมีเหตุการณ์อะไรมาทำให้กระทบกระทั่งเพียงเล็กน้อย มันก็อาจเป็นช่องให้อีกฝ่ายใช้โอกาสนี้ในการบอกเลิกได้โดยง่าย ด้วยเหตุผลแย่ๆ ว่า

" เพราะเธอไม่เชื่อใจกัน "

ในกรณีนี้ จริงอยู่ว่าการไว้เนื้อเชื่อใจคนรักเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย แต่หากแฟนของคุณมีพฤติกรรมดังที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ คุณยังจะเชื่อใจเขาได้ต่อไปมั้ยคะ ( เชื่อก็โง่เต็มทนแล้ว ) ไม่ว่าจะยังไงอยากให้ตั้งสติกันดีๆ นะคะ เข้าใจว่าบางคนเจอเรื่องแบบนี้ก็คงต้องมีช็อคกันบ้างแหละ เราเข้าใจนะ ยิ่งรักมากก็เจ็บมาก T^T


*****************************************************************

ต้องดื่มน้ำใบบัวบกกันเป็นลิตรๆ เลยสินะสำหรับบทความนี้ เสียใจได้ ร้องไห้ได้ เศร้าได้ค่ะ ไม่มีใครห้าม เอาความอัดอั้นตันใจออกให้หมด แล้วลุกขึ้นมาเดินหน้าต่อไป มีอะไรในชีวิตต้องทำอีกเยอะ มากกว่าจะมาเสียเวลาพร่ำเพ้อถึงคนคนเดียว การที่เขา

" เขี่ยเราทิ้ง "

มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีค่าอะไร ทุกคนมีคุณค่าในตัวเองค่ะ อย่าปล่อยให้คนคนเดียวมาทำลายชีวิตเราให้ป่นปี้ไม่เป็นชิ้นดี คิดซะว่าการอกหักครั้งนี้ อาจเป็นโชคดีที่ทำให้เราได้รู้เช่นเห็นชาติคนคนหนึ่ง ถือว่าคุ้มค่ากับการเริ่มต้นชีวิตใหม่นะคะ เดินหน้าต่อไปแบบสตรอง เราขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ขอให้ทุกคนมีรักที่ดี อะไรแย่ๆ ที่ผ่านไปแล้วก็อย่าไปนึกถึงมันอีก

โชคดีค่ะทุกคน บ๊ายบาย

Sista Peony


บทความที่เกี่ยวข้อง