วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอาง ที่ต้องบอกต่อ ซื้อยังไงให้คุ้มแถมยังรักษ์โลก
เครื่องสำอางออกใหม่เยอะเหลือแยะจนตาลาย เห็นเป็นไม่ได้ต้องอยากจะสอยมาใช้สักชิ้นสองชิ้น แต่เอ๊ะ... ทำแบบนี้ยิ่งเป็นการทำร้ายโลกรึเปล่านะ งั้นมาส่อง วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอาง ให้ประหยัดคุ้มค่าและรักษ์โลกกันเถอะ
เผยแพร่: 1 มิ.ย. 2566 16:00 น.
Views: 700
รหัสบทความ: 94884
ฮัลโหลลลลล สวัสดีค่าชาวซิสเดี๋ยวนี้แบรนด์เครื่องสำอางขยันออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มาเยอะมากนะคะ คอลเลคชันนั้น คอลเลคชันนี้เต็มไปหมด ไอเรามันก็สายชอปปิ้งกันอยู่แล้วอะเนาะ เห็นทีไรเป็นอันต้องอยากได้ทุกทีไป ก็กดสั่งรัว ๆ ไปเลยสิคะ แต่รู้ไหมคะว่าการที่เรากดสั่งมาตามใจตัวเองมันทำให้เรากำลังสร้างขยะแบบไม่รู้ตัวนะเพราะว่ายิ่งเราซื้อเยอะเท่าไหร่เราก็ยิ่งใช้ไม่หมดพอมันหมดอายุก็ต้องทิ้งกลายเป็นขยะไปในที่สุดถ้าไม่อยากจะเพิ่มขยะแล้วก็อยากจะประหยัดตังค์ในกระเป๋าให้มาดูวิธีเลือกซื้อเครื่องสำอางที่ต้องบอกต่อซื้อยังไงให้คุ้ม แถมยังรักษ์โลกกันเลย
❀❀❀❀❀❀❀❀
วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอาง ที่ต้องบอกต่อ ซื้อยังไงให้คุ้มแถมยังรักษ์โลก
วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอางทริคที่ 1 ดูส่วนผสมหรือส่วนประกอบก่อนซื้อ
การจะซื้อให้คุ้มค่าและรักษ์โลกข้อแรกก็คือการดูส่วนผสมหรือส่วนประกอบของเครื่องสำอางนั่นเองค่ะ ที่ให้คอยสังเกตก็เพราะว่ามันอาจจะมีส่วนผสมบางอย่างที่ทำให้เรามีอาการแพ้ได้เช่น บางคนแพ้ขี้ผึ้งแต่ตอนซื้อลืมอ่านว่าลิปสติกที่ซื้อมามีขี้ผึ้ง ลิปสติกชิ้นนั้นก็จะกลายเป็นขยะไปเลยนะคะ ขายต่อหรือส่งต่อให้ใครก็ค่อนข้างลำบากอีกเพราะมันผ่านการใช้กับปากที่อาจจะโดนน้ำลายและอาจจะมีเชื้อโรคหรือแบคทีเรียได้ด้วย ดังนั้นเนี่ยเช็กให้ดีก่อนซื้อนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายนะ
วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอาง ทริคที่ 2 ทดลองก่อนซื้อเสมอ
ไม่ว่าของจะออกใหม่กี่สิบล้านชิ้น เราก็ต้องลองก่อนซื้อเสมอค่ะการได้ลองเครื่องสำอางจะช่วยให้เราได้ทดสอบเรื่องของคุณภาพด้วยนะคะ คือเวลาลองเราจะได้สัมผัสเนื้อผลิตภัณฑ์ว่ามันเป็นยังไง เนียนละเอียดไหม เหลวไปหรือหนืดไป เกลี่ยง่ายรึเปล่า ดมกลิ่นแล้วมีกลิ่นแปลก ๆ ไหม เห็นสีที่ปาดลงบนแขนหรือสันกรามแล้วมันเข้ากับตัวเรารึเปล่าเราจะได้ไม่ต้องซื้อใหม่แล้วต้องขายทิ้งให้ขาดทุนด้วยนะคะ บางคนไม่กล้าขายต่อก็ตั้งเป็นขยะไปอีก ดังนั้นทุกคนควรจะลองก่อนซื้อเสมอนะคะจะได้ไม่เพิ่มขยะนะ
วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอางทริคที่ 3 ดูวันหมดอายุ
นอกจากดูส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์แล้ว ก็อย่าลืมสิ่งที่สำคัญมาก คือการดูวันผลิตและวันหมดอายุนั่นเองค่ะ บางแบรนด์อาจจะไม่ได้บอกว่าวันผลิตหรือวันหมดอายุตายตัว แต่อาจจะบอกว่าหลังจากเปิดใช้งานจะสามารถใช้ได้อีกกี่เดือนหรือกี่ปี วิธีสังเกตง่าย ๆ เลยก็คือหาคำว่าวันผลิตหรือ MFG/MFDส่วนวันหมดอายุหรือ EXPถ้าเจอแล้วก็สังเกตว่าเป็นช่วงปีไหน เดือนไหน วันอะไรนะคะแล้วก็คำนวณดูว่าเราจะใช้ทันไหมถ้าทันก็สอยโลดค่า ส่วนบางตัวอาจจะไม่ได้บอก EXP ให้เราหารูปกระปุกที่มีตัวเลข 6M 12M 24M แทนนะคะ ตรงนี้จะช่วยบอกได้ว่าถ้าเราเปิดใช้งานแล้วเนี่ยอีกกี่เดือนจะหมดอายุค่ะแนะนำว่าให้จดหรือเขียนแล้วมาแปะที่ขวดด้วยนะคะ จะได้รู้ว่าหมดอายุตอนไหน เมื่อไหร่เนอะ
วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอาง ทริคที่ 4 ซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ทุกครั้งที่จะซื้อเครื่องสำอางใหม่ให้นึกเสมอนะคะว่าเวลาเราแต่งหน้าใช้อะไรบ้างเช่น ปกติเราเป็นคนไม่ใช้ไฮไลต์เลย ก็อาจจะไม่ต้องมองหาหรือซื้อมาใช้เน้นซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้นพอค่ะ เพราะถ้าชิ้นไหนที่เราไม่ได้ใช้เป็นปกติหรือไม่ได้ถนัดใช้เลย ไม่ค่อยได้หยิบมาใช้ก็อาจจะต้องตัดใจนะคะไม่งั้นเครื่องสำอางชิ้นนั้นจะกลายเป็นขยะทันทีเลยค่ะเพราะบ่อยครั้งที่เราเลือกจะซื้อไปก่อนเดี๋ยวก็ใช้ ๆ แต่พอเอาเข้าจริงดันลืมใช้จนสุดท้ายก็หมดอายุใช้งานไม่ได้นั่นเอง รู้แบบนี้แล้วอย่าซื้อเกินความจำเป็นนะคะ
วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอางทริคที่ 5 ใช้ของเก่าให้หมดก่อน
นอกจากจะซื้อเท่าที่จำเป็นจะต้องใช้แล้วก่อนจะซื้อของใหม่ควรจะใช้ของเก่าให้หมดก่อนด้วยหลาย ๆ คนเห็นของใหม่หรือของที่อยากได้ก็รีบซื้อเลยกะว่าเดี๋ยวได้ใช้แน่ ๆ สรุปตั้งจนลืมหมดอายุไปก่อนก็มี ดังนั้นเนี่ยถ้าของยังไม่หมดอายุหรือยังใช้ไม่หมดอย่าเพิ่งรีบซื้อตุนนะคะ มันอาจจะสร้างขยะเพิ่มได้ วิธีการนี้อาจจะยากสำหรับคนมือไวใจไว เห็นปุ๊บหยิบจ่ายปั๊บแต่อยากให้ยั้งมือและใจตัวเองให้ได้มากที่สุดนะคะ คิดเสมอว่ามันคุ้มค่ารึเปล่าถ้ายังก็กัดฟันไว้ค่ะ จะได้มีเงินเก็บเพิ่มนะเออ
วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอาง ทริคที่ 6 ถ้าหมดอายุก็นำไปบริจาค
สุดท้ายถ้าเครื่องสำอางหมดอายุก็ต้องนำไปบริจาคนะคะ แต่! ไม่ใช่การบริจาคให้เพื่อนเอาไปใช้แต่งหน้าต่อนะคะ ให้เอาไปบริจาควัดหรือสถานที่ ๆ เขารับบริจาคอย่างวัดเขาก็จะนำไปใช้แต่งหน้าศพ ส่วนสถานที่อื่น ๆ เขาอาจจะเอาไปผสมเป็นสีไว้ใช้วาดภาพอะไรแบบนี้นะคะ ส่วนหน่วยงานไหนรับบริจาคบ้างก็อาจจะต้องลองค้นหาดูค่ะถ้าเป็นวัดแถวบ้านอาจจะลองไปถามพระหรือเด็กวัดดูก็ได้แต่ถ้าเป็นสถานที่อื่น ๆ อาจจะต้องดูว่าช่วงนี้เขารับบริจาคอยู่รึเปล่ายังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งทันทีน้า ลองไปสอบถามก่อนจะได้ช่วยลดขยะให้โลกไปบางส่วนนะคะ
❀❀❀❀❀❀❀❀
เป็นยังไงล่ะ~ ไม่ยากเลยใช่ม้า? เพราะทั้งหมดเป็นวิธีการเลือกซื้อเครื่องสำอางให้คุ้มค่าแถมยังรักษ์โลกง่าย ๆ ที่ทำตามกันได้ทุกคนแต่... หลายคนอาจจะงงใช่ไหมคะว่ามันช่วยรักษ์โลกยังไง คืออย่างนี้ค่ะ การซื้อเครื่องสำอางบ่อย ๆ เนื่องจากมันออกคอลเลคชันใหม่ตลอดเนี่ย มันไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมด แล้วก็ไม่สามารถใช้หมดทุกชิ้นด้วย ดังนั้นเนี่ยถ้าเราลดการซื้อลง เราก็จะได้ลดขยะลงด้วยนั่นเองค่ะรู้แบบนี้แล้วก็พยายามซื้อเท่าที่จำเป็นถ้าไม่ใช้ก็อาจจะต้องส่งต่อด้วยการขายหรือการยกให้ ( แต่ต้องรักษาและดูแลให้ดีด้วย ) แทนการเก็บไว้แล้วไม่ใช้น้าตอนนี้ก็หมดเวลาของเราแล้วค่ะ ขอโบกมือบ๊ายบายทุกคนไปก่อน แล้วพบกันใหม่นะค้า บ๊ายบาย
