ฮัลโหลชาวซิสทุกคนค่า ~ ช่วงนี้แน่นอนว่าเป็นช่วงฟีเวอร์ของกระแสนางงามจักรวาลหรือMiss Universeนั่นเอง! และในช่วงเวลาที่กำลังจะใกล้เข้ามาถึงนั่นก็คือ รอบชุดว่ายน้ำ นั่นเองค่า ซิสเกาะขอบจอรอลุ้นแล้วว่าใครจะมงปีนี้! ซึ่งเพื่อไม่ให้เป็นการตกเทรนด์ แน่นอนว่าหลาย ๆ คนก็อาจจะเฝ้ารอว่าใครจะได้ครอบครองมงกุฏแห่งจักรวาลและก่อนจะไปถึงจุดนั้น ชาวซิสทุกคนรู้กันไหมคะว่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของมงกุฏ Miss Universeในแต่ละปีมีที่มาที่ไปด้วยนะ!
การประกวดนางงามจักรวาล คืออะไร ?
การประกวดนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe คือการประกวดความสวยงามของเหล่าหญิงสาวให้ถูกเป็นที่ประจักษ์ในสายตาประชาโลก ซึ่งแน่นอนว่านี่เป็นเรื่องมีส่วนเกี่ยวข้องในหลายมิติ เช่น
การเมือง เชื้อชาติ เพศสภาพ และปัญหาในสังคมโลก
ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการเตรียมพร้อมทางด้านความงามที่ต้องแข่งขันระหว่างในแต่ละประเทศเพื่อที่จะเป็นผู้ครอบครองมงกุฏ แต่การตอบคำถามเพื่อวัดความสามารถก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ทำให้การประกวดนางงามจักรวาลเป็นที่น่าจับตามองนั่นเอง!
มงกุฏ Miss Universe สำคัญยังไง ?
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ
มงกุฏของ Miss Universe
มีความสำคัญยังไง ? แน่นอนว่าการประจักษ์ของเพชรหลายเม็ด หลายกะรัต ต้องเป็นที่น่าจับตามองอย่างแน่นอนด้วยดีไซน์ความสวยและความอลังการของมงกุฏ แต่อีกสิ่งหนึ่งทีทำหน้าที่สำคัญนอกจากเป็นรางวัลผู้ชนะ นั่นก็คือการแสดงให้เห็นถึงการเป็นเครื่องมือที่บ่งบอกถึงอำนาจ ชนชั้น และ ความงาม อย่างแน่นอน! ซึ่งวันนี้ซิสจะพาทุกคนไปดูกับ
มงกุฏนางงามจักรวาล
ในแต่ละปีว่าแต่ละยุคที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างนั่นเอง!
#ซิสพาส่อง มงกุฏนางงามในแต่ละยุค สวยแพงแค่ไหนมาดูกัน!
ไทม์ไลน์
1. The Romanov Imperial nuptial crown (1952-1953)
2. The Christiane Martel Crown/ Metallic Bronze Crown (1953-1954)
3. Star of the Universe (1954-1960)
4. The 10th Anniversary Crown/ The Rhinestone Crown (1961-1963)
5. The Sarah Coventry Crown (1963-1973)
6. The Chandelier Crown (1973-2001)
7. The Mikimoto Crown (2001-2007)
8. CAO Fine Jewelry Crown (2007-2008)
9. Peace Crown by Diamond Nexus Labs (2009-2013)
10. The DIC Crown (2013-2016)
11. The Mouawad Crown (2019 - 2021)
12. Force for Good Crown (2022 - ปัจจุบัน)
The Romanov Imperial nuptial crown (1952-1953)
ก่อนที่จะมาเป็นมงกุฏแบบปัจจุบัน มงกุฏที่ Miss Universe คนแรก
Armi Kuusela
จากประเทศฟินแลนด์ในปี 1952 ได้สวมใส่คือมงกุฏจาก
ราชวงศ์โรมานอฟ
นั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นมงกุฏที่มีความล้ำค่าและมีสถานะที่สูงส่งเพราะมงกุฏนี้เตรียมไว้สำหรับงานอภิเษกสมรสของคนในราชวงศ์นั่นเองค่า ซึ่งดีเทลที่ทำให้มงกุฏนี้มีความตาแตกมากที่สุดก็คือการที่สร้างขึ้นจากเพชรที่ไร้รอยขีดข่วนหรือตำหนิทั้งหมด 1,535 เม็ด ทำให้มูลค่าของมันมีค่าสูงสุดถึง 500,000 ดอลลาร์ในค่าเงินขณะนั้นไปเลย!
The Christiane Martel Crown/ Metallic Bronze Crown (1953-1954)
ถัดมาในปี 1953 ผู้ที่ชนะการประกวดนางงามจักรวาลคือ
Christiane Marte
จากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นปีที่มีการเปลี่ยนดีไซน์มงกุฏนั่นเอง! ซึ่งสิ่งที่พิเศษสำหรังมงกุฏนี้คือเป็นการเปลี่ยนจากการทำด้วยเพชรหรือคริสตัลเป็นการทำด้วยแผ่น metallic bronze ธรรมดาหรือมงกุฏทองสำฤทธิ์นั่นเองค่า ซึ่งทำให้มงกุฏในปีนี้อาจจะดูแปลกตาไปซักหน่อย ~
Star of the Universe (1954-1960)
และจากความแปลกตาไปของมงกุฏในปี 1953 ในปีต่อมาจึงมีการปรับเปลี่ยนให้มงกุฏมีดีไซน์ที่อลังการมากยิ่งขึ้น เพราะมงกุฏดวงดาวแห่งจักรวาลเป็นมงกุฏที่ทำด้วยทองคำและแพลตตินัมประมาณ 1.2 ปอนด์ และนอกจากนี้ยังถูกประดับตกแต่งด้วย
อัญมณีไข่มุกเลี้ยงและไข่มุกดำ
รอบมงกุฏนั่นเองค่า ~ และอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ 'ดวงดาว' ตามชื่อของมงกุฏนั่นเอง ซึ่งรูปทรงของดาวจะปรากฏให้เห็นบริเวณด้านบนของมงกุฏให้เห็นแบบเด่นชัดไปเลยทำให้ราคาของมงกุฏนี้มีค่าสูงถึงประมาณ 500,000 ดอลลาร์กันเลยทีเดียว
The 10th Anniversary Crown/ The Rhinestone Crown (1961-1963)
เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของการจัดประกวด Miss Universe ในปีนี้จึงมีชื่อว่า
The 10th Anniversary Crown/ The Rhinestone Crown
ซึ่งเป็นมงกุฏที่ทำจากไรน์สโตน ผลึกหินจากแม่น้ำไรน์ และตัวมงกุฏทำจากทองคำขาวบริสุทธิ์ ซึ่งผู้ชนะในปีนั้นคือ
Marlene Schmidt
จากเยอรมณีเป็นคนแรกที่ได้สวมใส่นั่นเองค่า!
The Sarah Coventry Crown (1963-1973)
ในปี 1963 ที่เป็นปีที่ฮือฮาความโด่งดังของมงกุฏเนื่องจากรูปร่างของผู้หญิงที่อยู่ตรงกลางของมงกุฏเป็นศูนย์กลาง ซึ่งนั่นทำให้กลายมาเป็นอีกชื่อหนึ่งของมงกุฏนี้ว่า
The Lady or The Queen’s Crown
จากสัญลักษณ์นี้นั่นเอง และแน่นอนว่าผู้ที่ได้สวมมงกุฏอันทรงคุณค่านี้นั่นก็คือ Leda Maria Vargas จากบราซิลเป็นผู้แรกที่ได้สิทธิ์นั้นไปครอบครอง!
The Chandelier Crown (1973-2001)
เมื่อเห็นรูปดีไซน์ของมงกุฏ
The Chandelier Crown
แล้วนั้น เพื่อน ๆ หลาย ๆ คนอาจเห็นว่ามันมีความคล้ายคลึงกับ The Lady Crown ซึ่งแน่นอนว่ามงกุฏ The Chandelier Crown มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์เล็กน้อยจากเดิม แต่ยังคงเอกลักษณ์หญิงสาวบริเวณตรงกลางมงกุฏ ซึ่งมงกุฏนี้มีการใช้จนถึงปี 2001 เท่านั้นเนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนสปอนเซอร์นั่นเอง และ Miss Universe คนสุดท้ายที่ได้สวมใส่คือ
Denise Quiñones จาก Puerto Rico
The Mikimoto Crown (2001-2007)
Mikimoto Crown
เป็นมงกุฏที่แสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์แบบนกฟีนิกซ์ ที่แสดงให้เห็นถึงความมีพลัง มีฐานะที่สูงส่งและความสวยงามแบบจัดเต็มให้สมกับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์รายใหญ่ ซึ่งมงกุกนี้มีเพชรทั้งหมด 500 เม็ดหนักเกือบ 30 กะรัต และที่มาของชื่อมงกุฏนี้นั้นก็มีส่วนมาจากไข่มุกบนเกาะ Mikimoto ที่ใช้ในการดีไซน์มงกุฏครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งมงกุฏนี้มีการใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2002 นั่นเองค่า ~
CAO Fine Jewelry Crown (2007-2008)
CAO Fine Jewelry Crownมงกุฏที่ทำจากบริษัทเครื่องเพชรในประเทศเวียดนาม ซึ่งในปี 2008 Dayana Mendoza จากประเทศเวเนซุเอลาก็ได้เป็นผู้ครอบครองมงกุฏนี้ไปคนแรกและคนเดียว ซึ่งมงกุฏนี้ทำมาจาก ทองคำเหลืองและทองคำขาว 18 กะรัตและยังประดับด้วยเพชรสีขาว สีชมพู และสีคอนญัคอีกด้วยเช่นกันทำให้ราคาของมงกุฏชิ้นนี้มีมูลค่าสูงไปถึง 120,000 ดอลลาร์กันเลยทีเดียว!
Peace Crown by Diamond Nexus Labs (2009-2013)
ถัดมาในปี 2009 - 2013 มงกุฏ
Peace Crown
ถัดมาถูกสร้างขึ้นจาก Diamond Nexus Labs ซึ่งมงกุฏชิ้นนี้ถูกขยายการยอมรับว่าเป็นมงกุฏที่เป็นมิตรกับธรรมชาติเพราะเพชรในมงกุฏเป็นการสังเคราะห์ขึ้นมานั่นเอง และในปี 2009 Stefania Fernandez จาก Venezuela ก็ทำเป็นผู้คว้ามงกุฏที่สองให้กับประเทศไปโดยปริยาย
The DIC Crown (2013-2016)
The DIC Crown
มงกุฏที่ถูกยอมรับว่าสวยที่สุดจน ณ ปัจจุบันซึ่งผลิตโดย Diamond International Corporation (DIC) และราคามีมูลค่าสูงไปถึง 300,000 ดอลลาร์กันเลยทีเดียว และในปี 2014 ผู้ที่มีโอกาสได้ใส่มงกุกคนแรกคือ Paulina Vega จาก Colombia เป็นผู้ชนะ และในปีถัดมาคือ 2015 ผู้ที่ได้สวมใส่เป็นคนที่สองคือ Pia Wurtzbach
The Mouawad Crown (2019 - 2021)
มงกุฏในปี 2019
"Power of the Unity"
มงกุฏที่ถูกผลิตขึ้นจากประเทศไทย แต่มีการตั้งคำถามว่าเป็นมงกุฏที่เล็กที่สุดและมีคาเพียงแค่ 5 ล้านดอลลาร์ แต่ความหมายและคุณค่าของมงกุฏยิ่งใหญ่กว่านั้นเพราะต้องการสื่อให้เห็นถึง ธรรมชาติ ความงามและความแข็งแกร่ง รวมไปถึงความเป็นสตรี และพยายามยึดโยงความเป็นหนึ่งเดียวด้วยการใช้อัญมณีหรือเพชรจากหลาย ๆ ทวีปเพื่อแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายนั่นเอง ~
Force for Good Crown (2022 - ปัจจุบัน)
ล่าสุดหลังจากการเปลี่ยนเจ้าของ Miss Universe ซึ่งในปัจจุบันอยู่
ภายใต้การดูแลของบริษัท JKN
"ภายใต้การออกแบบที่สะท้อนความเชื่อขององค์กรนางงามจักรวาล ที่ว่าอนาคตของโลกจะหล่อหลอมขึ้นโดยผู้หญิงที่พร้อมผลักดัน ทุกขีดจำกัดของทุกสิ่งที่เป็นไปได้ และ โดยผู้หญิงที่เปี่ยมด้วยความสามารถจากทั่วโลก ที่สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก" จากคำกล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัวในวันที่ 19 ธันวาคม 2022 ที่ประเทศไทย ซึ่งมงกุฏนี้ยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของ Mouawad เช่นเคย
ซิสคอนเฟิร์มเลยว่านี่จะเป็นบทความที่เอาใจเพื่อน ๆ แฟนนางงามอย่างแน่นอน หลาย ๆ คนต้องมีความสงสัยแน่ ๆ ว่าความหมายที่สำคัญของมงกุฏ Miss Universeในแต่ละปีเป็นยังไง ซึ่งซิสก็รวบรวมมาไว้แล้ว! ถ้าใครถูกใจอย่าลืมติดตามhttps://sistacafe.com/summariesใหม่ๆ ได้ที่เว็บไซต์https://sistacafe.com/ด้วยน้า!
ซิสชวนอ่านบทความแนะนำ
MUT 2023 มาแล้วแม่จ๋า พาไปส่องทรงผมนางงามตัวเต็งบนเวทีตัวแม่
https://v1.sistacafe.com/summaries/96234
พาดูเทคนิค ' วีเนียร์ฟัน ' เทรนด์ดูแลฟันขาว สวย สดใส ตรึงใจสไตล์ยิ้มนางงาม
https://sistacafe.com/summaries/95094/pass/0aee8aead6a95c456a92f72905fca79b
'นิ้ง - โศภิดา' นางงามคนล่าสุด!!! Miss Universe Thailand 2018 #สวยเก่งสมมง
https://sistacafe.com/summaries/50145