โฆษณาสินค้าชวนเชื่อเดี๋ยวนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่ครีมผิวขาวด่วนทันใจภายในไม่กี่วันที่เป็นครีมเถื่อนเกลื่อนเมือง สินค้าเกี่ยวกับความสวยความงามยังลามมาแม้กระทั่ง" จุดซ่อนเร้น "โม้ว่ากลิ่นหอมอย่างนั้นบ้าง แฟนรักแฟนหลงอย่างนั้นบ้าง อ่านดูผ่านๆ เหมือนจะเป็นเรื่องตลก แต่อีกมุมนึงก็ไม่ขำจริงๆ เพราะคนหลงเชื่อด้วยความไม่รู้ก็มีไม่น้อยเลยทีเดียวแหละ

น้องสาวของเราๆ อย่าดูแลกันแบบสุ่มสี่สุ่มห้านะคะสาวๆ ไม่มีใครทราบปัญหาได้ตรงจุดเท่าตัวเราและสูตินรีแพทย์หรอก พฤติกรรมทำอะไรไปเรื่อยพวกนี้หยุดคิดโดยด่วนเลย ก่อนที่พื้นที่น้อยๆ ของเราจะพังมากกว่านี้

หมายเหตุ

- บทความนี้ไม่มีเจตนาจะโจมตีสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศหญิงหรือชี้นำไปในทางลามกแต่อย่างใด แต่ต้องการให้ผู้หญิงเข้าใจสุขภาวะที่ถูกต้องที่สุด มีเหตุผลที่สุด

- ไม่อนุญาตให้นำไปคัดลอกลงเว็บไซต์อื่น อนุญาตให้แชร์บทความนี้ต่อๆ กันได้ หากรู้สึกสนใจ อยากส่งต่อให้คนอื่นได้รับรู้บ้าง :)

#1 sex ในภาวะที่ยังไม่พร้อม เช่น ในวัยเรียน

รูปภาพ:http://i.huffpost.com/gen/1889563/thumbs/o-COUPLE-BED-facebook.jpg

ถ้าตอบอย่างโลกไม่สวยเลย sex เป็นเรื่องธรรมชาติในกลุ่มวัยรุ่นมากๆ แต่ ... ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมแต่อย่างใด ถ้ารักกันจริง เชื่อเถอะค่ะว่าวัยเรียนห่างไกลเรื่องบนเตียงไว้ก่อนจะโอเคมากที่สุด เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่อง sex นี่แหละตัวการของสุขภาวะทางเพศที่ยุ่งยากยุ่งเหยิงมากๆ มันไม่ง่ายเหมือนควักตังค์จ่ายค่าถุงยางอนามัย หรือยาคุมกำเนิดหรอก

- หากไม่ใช้ถุงยางอนามัย เราอาจเสี่ยงที่จะติดโรคทางเพศจากคู่นอน ตั้งแต่ปัญหาเล็กๆ เช่น เชื้อราในช่องคลอด ไปจนกระทั่งปัญหาใหญ่ๆ คือการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์

- หากใช้ถุงยางอนามัย ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะปลอดภัย 100% เพราะอาจเกิดการแพ้ถุงยาง, ถุงยางรั่วระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้

- ยาคุมกำเนิด ถึงจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้มาก แต่ก็มีปัญหาอยู่บ้าง เช่น ไม่สามารถทานบ่อยๆ ได้ เพราะมีผลต่อมดลูกในระยะยาว อาจทำให้เป็นหมัน เป็นมะเร็ง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ในอนาคตได้

สรุปสั้นๆ ก็คือ ไม่มี sexในวัยเรียนจะดีต่อตัวเราเองมากถึงมากที่สุดเลยค่ะ เพื่อลดภาวะเสี่ยงกับน้องสาวเราไปได้เยอะเลย

#2 การทาแป้งเพื่อหวังว่าจะช่วยลดความอับชื้น

รูปภาพ:http://devid.jalbum.net/Powder-Photography/slides/powder-025.jpg

การทาแป้งอาจจะช่วยได้เฉพาะผิวหนังบริเวณอื่น หรือในกรณีของก้นเด็กๆ ที่ไม่มีเหงื่อไคล ฮอร์โมน และปัจจัยอื่นที่ก่อความอับชื้นใดๆ มากสักเท่าไหร่ แต่สำหรับสาวๆ แล้ว เลิกใช้เถอะค่ะ แป้งฝุ่นนี่แหละตัวก่อการระคายเคืองอย่างดีเลย

วิธีลดความอับชื้นของน้องสาวที่ถูกต้อง

1. สวมใส่กางเกงชั้นในที่มีเนื้อผ้าโปร่ง ระบายเหงื่อได้ดี

2. สวมกางเกง / กระโปรง ที่ไม่ฟิตเป้าเกินไป, เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี ( แต่ไม่บางจนเห็นกางเกงในนะจ๊ะ อันนี้ก็ล่อแหลม 18+ ไปหน่อย แหะๆ )

#3 การทานยาขับเลือด / ยาคุม หรือใช้ยาสอดแบบสุ่มสี่สุ่มห้า

รูปภาพ:http://wvmetronews.com/wordpress/wp-content/uploads/2013/07/Prescription-Drugs.jpg

จำไว้เสมอว่า หากเกิดอาการผิดปกติใดๆ ก็ตามกับน้องสาวเราอย่าใช้วิธีเปิดเน็ต คิดเองเออเอง ซื้อยามากินเองแต่ควรพบสูตินรีแพทย์เป็นอันดับแรกเพื่อทำการวินิจฉัยให้ตรงจุดว่า" ตกลงเราเป็นอะไรกันแน่? ต้องรักษาวิธีไหนถึงจะหายขาด? "เภสัชกรเป็นตัวเลือกอันดับต่อมา ( ที่จริงเป็นอันดับท้ายสุด ด้วยซ้ำ ) เพราะเขามีหน้าที่จ่ายยาตามอาการ แต่ไม่ได้วินิจฉัยโดยตรงเท่าหมอ ( เดี๋ยวนี้คลินิกที่เปิดรักษาโรคเกี่ยวกับเพศหญิงมีเยอะแยะมากกก พอๆ กับคลินิกศัลยกรรมนั่นแหละ )

#4 ใช้สบู่ / ครีม หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่ไม่ได้มาตรฐาน ( ไม่ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญ )

รูปภาพ:http://img.aws.ehowcdn.com/intl-1200x630/ds-photo/65/159/fotolia_3875574_XS.jpg

อย่าหลงเชื่อสบู่จิ๋มหอม สบู่แฟนรักแฟนหลง ยากระชับดับกลิ่นคาว หรือผลิตภัณฑ์อะไรก็ตามที่อวดอ้างสรรพคุณในเน็ต เพราะสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในการขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็คือ การปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาเชื้อรา - แบคทีเรียที่เป็นตัวการให้เกิดกลิ่น และ / หรือ ใช้สบู่เหลวทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่วางขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไปโดยเฉพาะ เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้ผลิตให้มีค่าความเป็นกรดด่างที่เข้ากันกับน้องสาวเราได้ดี อีกทั้งผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะด้วย ( มันก็เหมือนกับการซื้อสินค้าอื่นๆ นั่นแหละ ยิ่งแบรนด์ดัง เป็นที่รู้จัก มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับกันทั่ว ยิ่งมีความน่าเชื่อถือ หากเกิดปัญหาอะไรก็ตามจะได้เคลมได้ )

ในขณะเดียวกันก็อย่าคิดว่าน้องสาวเราจะใช้สบู่แบบเดียวกับที่อาบน้ำก็ได้ เพราะจุดซ่อนเร้นเป็นโซนที่บอบบาง ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ( กรด - ด่าง ) ที่เหมาะสม อย่างที่บอกไปแล้วข้างต้นไงล่ะ ( ที่รู้จักกันดีในท้องตลาด เช่น แลคตาซิด, บีไนซ์ )

#5 ใช้ผ้าอนามัยแบบขี้งก

รูปภาพ:http://www.egeve.com/en/images/stories/1288.jpg

ผ้าอนามัยเป็นของใช้ที่จุกจิกค่าใช้จ่าย แต่มันก็เป็นของจำเป็นที่ทุกเดือนจะต้องซื้ออย่างเลี่ยงไม่ได้จนกว่าจะถึงวัยทอง อย่างกมากเหมือนกับใช้กระดาษทิชชู่ เต็มก่อนแล้วค่อยทิ้ง No! No! No! ไม่ว่าจะใช้แบบแผ่น แบบสอด แบบถ้วย หรือแบบใดก็ตาม ควรปฏิบัติตามคู่มือที่แนบมากับฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของตัวเราเอง ลดความเสี่ยงการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์

#6 ทำความสะอาดแบบขอไปที หรืออนามัยจัดเกินเหตุเกินควร

รูปภาพ:http://www.voith.com/en/b_tissue_Kuechentuch.jpg

ควรพกทิชชู่เปียกหรือทิชชู่แห้ง แต่เนื้อกระดาษมีคุณภาพ ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย ติดกระเป๋าส่วนตัวไว้เสมอเมื่อออกนอกบ้านไปธุระที่ต่างๆ เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าห้องน้ำสาธารณะที่เราเข้าไปใช้บริการ จะมีอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ดีแค่ไหน บางแห่งก็ไม่มีน้ำราด บางแห่งกระดาษก็ด้อยคุณภาพ ทำความสะอาดทีเปื่อยยุ่ย เป็นเศษตามซอก ก่อปัญหาหมักหมมเชื้อโรคในภายหลังอีก

แต่กระนั้นก็ตาม อย่ารักความสะอาดมากเกินเหตุ ชนิดที่ถูแล้วถูอีก เช็ดแล้วเช็ดอีก พื้นที่ตรงนั้นของเรามันบอบบาง เบาๆ มือหน่อย ไม่ต้องพิถีพิถันมากเหมือนเช็ดจานเช็ดกระจกก็ได้

วิธีทำความสะอาดน้องสาวเราที่เหมาะสม

1. ใช้น้ำชะล้าง ( ไม่ว่าจะจากสายฉีดหรือขันตักก็ตาม ) เพื่อล้างคราบปัสสาวะ /อุจจาระให้ออกไป

2. ใช้ทิชชู่ " ค่อยๆ ซับ "อย่าเช็ดปาดเพราะการเสียดสีระหว่างทิชชู่กับผิวหนังอาจจทำให้ทิชชู่หลุดลุ่ยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ติดตามซอกผิวหนังได้

ถ้าเจอห้องน้ำที่ไฮโซหน่อยๆ อย่างในห้างหรูๆ บางแห่งหรือต่างประเทศ จะมีชักโครกแบบกดปุ่มลมพัดให้แห้ง กดไปเลยจ้ะ เพื่อสุขอนามัยที่ดี แต่ถ้าไม่มีก็แค่ซับๆ ให้แห้ง ปล่อยท่อนล่างเปลือยสักครู่ แล้วค่อยสวมกางเกง / กระโปรงสำหรับแผ่นอนามัยนั้น อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคลค่ะ ถ้าใครไม่เดือดร้อนค่าใช้จ่ายอะไรมาก ซื้อมาใช้ระหว่างที่ประจำเดือนยังไม่มาก็ไม่เสียหาย ถือว่าเป็นการถนอมกางเกงในได้อีกทางหนึ่งที่ไม่ให้ไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกโดยตรง แต่ถ้าใครไม่สะดวกซื้อ ก็แค่ซักกางเกงในให้สะอาด ขยี้ไม่หนักมือมาก แค่นี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พื้นที่เล็กๆ ของเรา ใครว่าดูแลยังไงก็ได้ เห็นทีจะต้องคิดใหม่แล้วค่ะ เห็นไหมว่าถ้าผิดวิธีนิดเดียว มีผลต่อชีวิตในระยะยาวได้เลยนะ อย่าเสี่ยงดีกว่าสำหรับสิ่งที่ไม่แน่ใจว่าจะดีรึเปล่า และอย่าอายไปเลยค่ะที่จะพบแพทย์โดยตรง เพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุดที่สุด


บทความที่เกี่ยวข้อง