สวัสดีค่าชาวซิส ♥ช่วงนี้ได้ข่าวว่าใกล้จะมีงานหนังสือจัดขึ้นอีกแล้ว ใครที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือ ชอบซื้อสะสมก็คือเริ่มเตรียมตัวเตรียมเงินกันแล้วละซี่ ที่เกริ่นมาแบบนี้ก็ไม่ได้มาแค่บอกเล่าข่าวสารนะคะ แต่อยากจะมาชวนชาวซิสคุยหน่อยว่ามีใครเจอปัญหาซื้อหนังสือมาแล้วสุดท้ายก็ตั้งดองจนกองพะเนินบ้างไหมน้อ? เชื่อว่ามีแน่นอนเลยใช่ม้า? ซึ่งก็เป็นปัญหาใหญ่ของคนชอบซื้อและชอบอ่านหนังสือเลย บทความนี้เราก็เลยอยากจะมาแนะนำ 7วิธีเลือกซื้อหนังสือในงานหนังสือให้ได้อ่าน ไม่มีการตั้งกองอีกต่อไป~จะมีวิธีไหนและวิธีจะยากรึเปล่าก็มาส่องกันเล้ย!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
7 วิธีเลือกซื้อหนังสือ ยังไงให้ได้อ่านจนจบ ไม่มีการดองอีกต่อไป!
วิธีเลือกซื้อหนังสือ ที่ 1 กำหนดงบประมาณในการซื้อ
ขั้นแรกเลยอยากให้กำหนดงบประมาณในการซื้อเลยค่ะ หลายคนไม่ค่อยกำหนดงบทำให้เวลาซื้อคือหยิบเพลินเกิ๊นนน~ หันมาอีกทีคือหมดไปหลายบาทแบบที่คิดไม่ถึงเลยว่าจะซื้อไปขนาดนั้น ดังนั้นควรกำหนดงบไปเลยค่ะว่าไปงานหนังสือครั้งนี้จะซื้อในงบเท่าไหร่ ห้ามเกินจำนวนนี้ ถ้าเกินจำนวนนี้จะ... ลองคิดบทลงโทษเล็ก ๆ ให้ตัวเองไว้ด้วยนะคะเช่น ไปงานครั้งนี้กำหนดงบแค่ 1,000 บาท ถ้าซื้อเกินจากนี้จะงดน้ำหวาน 1 เดือน อะไรแบบนี้นะคะ เราจะได้ไม่ใจอ่อนง่าย ๆและวิธีการนี้จะทำให้เราได้หนังสือในปริมาณที่พอดีด้วยค่ะ พอได้หนังสือมาจำนวนพอดี ๆ เราก็จะอยากอ่านแล้วก็อ่านจนจบไม่มีการดองนั่นเอง :-)
ซื้อหนังสือให้ได้อ่านวิธีที่ 2 ลิสต์หนังสือที่อยากได้มาบางส่วน
เพื่อไม่ให้วอกแวกหรือซื้อไปเรื่อยเกินไป ก็ลองลิสต์หนังสือที่อยากได้ไว้บางส่วนดูค่ะ อาจจะไม่ต้องลิสต์ทุกเล่มที่สนใจแต่ให้ลิสต์เล่มที่อยากได้จริง ๆ ไว้แล้วหน้างานไปดูอีกที เนื่องจากว่างานหนังสือมีบูทที่จัดทั้งหนังสือใหม่ หนังสือมือสอง ราคาก็มีหลากหลายทำให้โอกาสที่เราจะซื้อหนังสือมีมากขึ้นด้วย ดังนั้นวิธีการลิสต์เล่มที่อยากได้จริง ๆ ไว้จะทำให้เราไปซื้อตามเป้าหมายก่อน แล้วเล่มอื่น ๆ ที่สนใจอาจจะสนใจลดลงหรือมีโอกาสซื้อน้อยลงเพราะว่างบที่มีมันเหลือไม่เยอะ + เห็นหนังสือที่ต้องแบกกลับบ้านไปแล้วอาจจะสะกิดใจได้ว่ามันเยอะแล้วนะเนี่ย ถ้าซื้ออีกคงอ่านไม่ไหวก็อาจจะช่วยให้ตัดใจง่ายขึ้นนะเออ
วิธีซื้อหนังสือให้ได้อ่านที่ 3 อย่าตามใจตัวเองมากเกินไป
ลิสต์ไว้แล้ว กำหนดงบแล้วแต่หน้างานจริงทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด ดังนั้นขอเตือนเลยว่า" อย่าตามใจตัวเองจนเกินไป "ให้ถามตัวเองเสมอว่าซื้อไปเนี่ยจะได้อ่านจริง ๆ ไหมหรือซื้อเพราะเหตุผลอะไร? ถ้าซื้อเพราะชอบจริง ๆ ก็แน่นอนค่ะว่าจะได้อ่าน แต่ถ้าซื้อเพราะแค่อยากได้อยากมีอันนี้อาจจะยากหน่อยถ้าจะหยิบมาอ่านให้จบถ้าเป้าหมายของเราคือการซื้อหนังสือที่ต้องอ่านจบ เราก็ต้องยึดมั่นไว้นะคะอย่าตามใจตัวเองแบบหยิบไปหมดไม่สนอะ หรือคนขายเชียร์ก็ดันตกหลุมพรางไปง่าย ๆ ใจแข็งเข้าไว้นะคะ ♥
ทริคเลือกซื้อหนังสือที่ 4 เลือกซื้อหนังสือจากความชอบและสนใจ
มีหลายคนที่ชอบอ่านรีวิวหนังสือใช่ไหมคะ? หรือบางคนก็อาจจะเป็นแฟนคลับคนดังเห็นเขาอ่านอะไรก็อยากจะอ่านด้วย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ น้า แต่!เราต้องรู้ตัวเองด้วยว่ามันเป็นแนวที่เราชอบหรือเป็นแนวที่อยากเปิดใจอ่านรึเปล่าเช่น ไอดอลอ่านนิยายผีแต่เรากลัวผีมาก แบบนี้ก็ค่อนข้างยากมากนะคะที่เราจะหยิบอ่าน เพราะสุดท้ายแล้วก็มักจะตั้งกองไว้ที่กองหนังสือเหมือนเดิม ดังนั้นเนี่ยให้เลือกซื้อหนังสือที่เราสนใจด้วยนะคะ แต่ถ้าอยากเปิดใจลองอ่านแนวใหม่ ๆ จริง ๆ ก็โอเคเลยค่ะไม่ว่ากัน :-D
วิธีเลือกอ่านหนังสือ ที่ 5 เริ่มอ่านจากเล่มที่บางที่สุด
เวลาเราซื้อหนังสือมาหลาย ๆ เล่มเนี่ยปัญหาแรกเลยก็คือเรามักจะแบบเอ๊ะอ่านเล่มไหนก่อนดีน้า ถ้ามีแพชชันอยากจะอ่านเล่มนี้มากก็ให้เริ่มอ่านที่เล่มนั้นก่อนก็ได้นะคะ หรือถ้าใครเลือกไม่ถูกเลยว่าจะอ่านเล่มไหนก่อนดี เราแนะนำว่าให้เริ่มอ่านจากเล่มที่บาง ๆ ก่อนจะดีที่สุดค่ะ คือการอ่านเล่มบาง ๆ จะรู้สึกว่าแป๊บเดียวก็จบละ อ่านเพลิน ๆ ไม่คิดมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอ่านกันไวและอ่านจบจริง ๆ รู้แบบนี้แล้วก็ลองเลือกซื้อหนังสือเล่มบาง ๆ หรือหนังสือที่ข้อความไม่เยอะมากมาอ่านกันก่อนก็ดีน้าจะได้เป็นการค่อย ๆ ปรับตัว!
ทริคอ่านหนังสือ ที่ 6 ค่อย ๆ อ่านทีละนิด
พอซื้อมาหลายเล่มหลายคนก็กดดันตัวเองมากเกินไปนะคะว่าต้องอ่านเล่มนี้ให้จบภายในเวลานั้นเวลานี้ สุดท้ายก็ไม่ได้อ่านหรืออ่านไม่จบอยู่ดี เราแนะนำว่าให้ค่อย ๆ อ่านวันละนิดจะดีกว่าค่ะตั้งเป้าหมายไว้ก็ได้ว่าอย่างน้อยวันละ 5 หน้า หรือวันละ 10 หน้าก็พอหรือวันไหนว่างอ่านไปเรื่อย ๆ ก็ดีอย่าไปกดดันหรืออย่าไปคิดว่ามันเยอะมากอ่านไม่จบหรอก การคิดแบบนี้จะยิ่งทำให้เราไม่อยากอ่าน ไม่อยากแตะหนังสือมากขึ้นนะคะ รู้แบบนี้แล้วก็อย่ากดดันตัวเองล่ะ!
ทริคเลือกซื้อหนังสือที่ 7 ซื้อ E-Book แทนการซื้อเป็นเล่ม
ข้อสุดท้ายอาจจะเหมาะกับคนที่ไม่สะดวกไปงานหนังสือแต่อยากอ่านหนังสือ แนะนำว่าให้ซื้อแบบ E-Book แทนการซื้อเป็นเล่มค่ะ คือบางคนอาจจะไม่ได้สะดวกในการพกพาหนังสือสักเล่มใส่กระเป๋าไปนั่นไปนี่เพื่ออ่านชิล ๆ ดังนั้นการใช้มือถือ/แท็บเล็ตให้เป็นประโยชน์ก็เป็นทางออกที่ดีมาก ๆ นะคะ อีกอย่างในแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ขาย E-Book ก็มักจะมีส่วนลดให้ด้วย ราคาก็จะถูกกว่าการซื้อเป็นรูปเล่มอีกต่างหากถ้าใครสะดวกซื้อแบบ E-Book แนะนำเลยค่ะ ได้อ่านแน่นอนแถมพกพาสะดวก เอาไปอ่านได้หลายที่ ไม่ต้องหาที่เก็บให้วุ่นวายด้วยนะเออ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ครบทั้ง 7วิธีเลือกซื้อหนังสือแล้วค่า ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะค้า ใครที่ไปงานหนังสือก็ลองเอาไปทำตามกันได้เน้อ จะได้ช่วยให้เราอ่านหนังสือที่ซื้อมาจบแล้วก็ช่วยประหยัดงบค่าหนังสือที่ซื้อได้มากขึ้นด้วยนะเออสำหรับงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 28 จะจัดขึ้นในวันที่ 12 - 23 ตุลาคม 2566 วันจันทร์ - พฤหัสบดีเริ่มตั้งแต่ 11:00 - 22:00 น. และวันศุกร์ - อาทิตย์เริ่มตั้งแต่ 10:00 - 23:00 น. จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5 – 7 ติดตามรายละเอียดหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page : Thai Book Fair ได้เลยนะค้าส่วนทางเราขอตัวลาไปก่อน บ๊ายบายค่า ขอให้อ่านหนังสืออย่างสนุกและมีความสุขนะค้า ♥
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
รวมลิสต์ 'หนังสือน่าอ่าน' ของสาวน้อย Emma Watson #นางฟ้าหนังสือ
https://sistacafe.com/summaries/63222
You are What You Read! ทายนิสัยจาก 8 ประเภท "หนังสือ" ที่ชอบอ่าน
https://sistacafe.com/summaries/76898
เปิดลิสต์หนังสือจาก #นัมจุนอ่าน ไอดอลเกาหลีคนเก่ง "RM BTS" อ่านหนังสือแนวไหน ไปดูกัน!
https://sistacafe.com/summaries/78620
เปิดโลกชะนีให้มีมากกว่าเครื่องสำอาง เมื่อผู้ชายชวนคุณมาอ่านหนังสือ รวมหนังสือจาก "#จินยองอ่าน"
https://sistacafe.com/summaries/19591
มือใหม่หัดไปงานหนังสือ รู้ไว้! รวม 'เคล็ดลับเดิน' ยังไงให้สนุกและได้หนังสือครบ #งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
https://sistacafe.com/summaries/64897