Bridgerton เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่กำลังมาแรงมากๆ ในตอนนี้ Bridgerton ดำเนินมาจนซีซั่น 3 แล้ว อาจจะมีบางคนที่ไม่รู้จักซีรีส์เรื่องนี้ เพราะงั้นสามารถหาดูได้ที่ Netflix ครบทุกภาค แถมเป็นพากย์ไทยด้วย แต่ก่อนที่จะไปดูกัน เราแอบมีเรื่องย่อของแต่ละซีซั่นมาบอกก่อน เพื่อนๆ จะได้รู้ว่า ในแต่ละซีซั่นนั้น เป็นเรื่องราวยังไงบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ


รูปภาพ:ครอบครัว Bridgerton

Bridgerton วังวนรัก เกมไฮโซ เป็นซีรีส์เกี่ยวกับอะไร

เอาจริงๆ ถ้าดูจากชื่อเรื่องแล้ว ก็พอจะสรุปกันได้อยู่ในมั้ย ว่ามันเป็นซีรีส์เกี่ยวกับเรื่องอะไร ซีรส์เรื่องนี้สะท้อนมุมมองสังคนผู้ดีของอังกฤษในสมัยก่อน การหาคู่ หารใช้ชีวิต การเข้าสังคม เรื่องซุบซิบนินทา การชิงดีชิงเด่นกันของสตรี ที่ต้องแย่งกันเป็นหนึ่ง เพื่อที่จะได้คู่ครองที่ดีๆ หลายๆ คนบอกว่า Bridgerton เป็นซีรีส์ที่สนุก มีมุมมองหลายๆ อย่างให้ได้เห็น ดูแล้วเพลิน แต่ก็มีอยู่หลายๆ คนที่บอกว่า มันน้ำเน่า เพราะเนื้อเรื่องหลักๆ ขงอซีรีส์เรื่องนี้ เน้นไปที่เรื่องของ ความรัก และการหาคู่ของสุภาพสตรี แม้จะมีเนื้อเรื่องอื่นๆ แทรกเข้ามา เพื่อเพิ่มอรรถรสบ้าง แต่ก็ยังไม่เท่ากับเนื้อเรื่องหลักเลย


🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸


Bridgerton มีกี่ซีซั่น กี่ตอน

ณ ตอนนี้ จะถือว่าอวสานได้มั้ยนะ เพราะเขาเดินทางมาจนถึง 3 ซีซั่นแล้วค่ะ ถ้าดูแล้วจะก็คงจะรู้ว่า แต่ละตัวละครเด่นๆ ปมเรื่องต่างๆ ก็ได้รับการเฉลยจนหมดแล้ว อาจจะไม่มีซีซั่นต่อไปอีกแล้วก็ได้ ในแต่ละซีซั่น มีทั้งหมด 8 ตอน นอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว เขามีการทำภาคแยกอย่างเรื่อง Queen Charlotte: A Bridgerton Story ออกมาด้วย เดี๋ยวเราจะอธบายเรื่องย่อของแต่ละซีซั่นให้ได้ดูกัน จะได้รู้ว่า แต่ละภาคนั้น เป็นเรื่องราวของตัวละครตัวไหนบ้าง


Bridgerton ซีซั่น 1

รูปภาพ:Bridgerton ซีซั่น 1

ภาคนี้จะเล่าเรื่องถึงการหาคู่ครองของหญิงสาวตระกูลไฮโซชนชั้นสูงในช่วงศตวรรษที่18 ณ กรุงลอนดอน ซึ่งคู่หลักในการดำเนินเรื่องในภาคนี้ก็คือ ดาฟนี่ บริดเจอร์ตัน (Phoebe Dynevor) เธอเปรียบเป็นเพชรน้ำหนึ่งของฤดูกาล แต่กลับไม่ค่อยมีหนุ่มๆ เข้ามาจีบ เพราะว่า แอนโทนี่ บริดเจอร์ตัน (Jonathan Bailey) พี่ชายสุดโหด จะคอยกันท่า มองหาแค่คนที่ดีที่สุดให้กับน้องสาวเท่านั้น จนเมื่อเธอได้พบกับ ดยุคเฮสติ้งส์ หรือ ไซม่อน (Regé-Jean Page) เดินทางกลับมาที่ลอนดอนพอดิบพอดี ด้วยความฮอต เขาจึงโดนเหล่าแม่ๆ ทาบทามลูกสาวให้ไม่หยุดหย่อน ซึ่งดาฟนี่ได้รู้จักไซม่อนเพราะเขาเป็นเพื่อนกับแอนโทนี่ ทั้งสองจึงวางแผนแกล้งคบกันซึ่งจะช่วยให้ดาฟนี่เป็นที่สนใจของชายหนุ่มคนอื่นมากขึ้น ส่วนไซม่อนก็จะรอดพ้นจากบรรดาแม่ๆ ทั้งหลายด้วย เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป ต้องไปติดตามกันค่ะ


Bridgerton ซีซั่น 2

รูปภาพ:Bridgerton ซีซั่น 2

ซีซั่นนี้จะเปลี่ยนคู่หลัก แต่ก็ยังคงโฟกัสที่เรื่องราวของความรักจากพี่น้องตระกูล บริดเจอร์ตัน เหมือนเดิม ซึ่งภาคนี้จะเล่าเรื่องราวผ่านหนังสือพิมพ์แจกฟรี ที่เขียนโดย เลดี้วิสเซิวดาวน์ ผู้รอบรู้ในเรื่องซุบซิบนินทาในวังไฮโซ จนทำให้หลายๆ คนเกิดความสงสัยว่า เธอคือใคร

ในภาคนี้ จะทวีความแย่งชิงความโดดเด่นมากขึ้น เหล่าบรรดาตระกูลไฮโซได้เริ่มทำการส่งหญิงงามเข้าร่วมงานในวังและเข้าเฝ้าพระราชินี ซึ่งผู้ที่ต้องตามากที่สุดในปีนั้น ก็จะได้รับการยกย่องให้เป็นเพชรน้ำงามแห่งปีนั้นและได้มีโอกาสที่บรรดาชายหนุ่มจากตระกูลผู้ดีทั้งหลายจะเข้าหาเพื่อมาขอแต่งงาน ทั้งนี้ในภาคนี้ ก็จะเป็นการเล่าเรื่องราวความรักของ แอนโทนี่ บริดเจอร์ตัน (Jonathan Bailey) ที่ขอบอกเลยว่า ซับซ้อนมาก แถมในภาคนี้ เราจะได้รู้ด้วยว่า เลดี้วิสเซิวดาวน์ คือใครด้วย


Bridgerton ภาคแยก กับเรื่อง Queen Charlotte: A Bridgerton Story

รูปภาพ:Queen Charlotte: A Bridgerton Story

ซึ่งใรภาคแยกนี้ เราจะได้รู้เรื่องราวปูมหลังของ ชาร์ล็อต แห่งเมคเลินบวร์ค-ชเตรลิทซ์ หรือ ราชินีชาร์ล็อต ซึ่งใรซีรีส์ Bridgerton เธอถือว่าเป็นคนที่ทรงอิทธิพลมาก ในภาคแยกนี้ เราจะได้เห็นเรื่องราวและความรักของควีน ที่เป็นถึงคนรักคนโปรดของพระเจ้าจอร์จที่ 3 ทั้งนี้ในภาคนี้ยังมีการตีแผ่ความเป็นมาของพลังอำนาจของพระองค์ด้วย โดยเฉพาะการเรืองรองอยู่ในวงสังคมชั้นสูง ที่จะเป็นการแตกยอดความโอ่อ่าออกมาจากซีรีส์ตระกูล Bridgerton นั่นเอง


Bridgerton ซีซั่น 3

รูปภาพ:Bridgerton ซีซั่น 3

ซีซั่นนี้ จะโฟกัสที่เรื่องราวของคู่เพื่อนซี้ อย่างสาวน้อย Penelope Featherington (นำแสดง โดย Nicola Coughlan) สาวน้อยช่างฝัน ผู้น่ารัก และอบอุ่น กับ Colin Bridgerton (นำแสดง โดย Luke Newton) เพื่อนสมัยเด็กของเธอ ซึงในภาคนี้ เพเนโลพี จะไม่ใช่สาวน้อยอีกต่อไป เธอเติบโตขึ้นเป็นสาวสะพรั่ง ผู้งดงามอ่อนหวาน ในขณะที่ คอลลิน ก็เติบโตเป็นชายหนุ่ม ที่สง่าผ่าเผยเช่นกัน ทั้งนี้ทุกๆ คนจะได้คำตอบแล้วว่า ความรักระหว่างเพื่อนจะสามารถแปลเปลี่ยนเป็นคนรักได้ไหม มีหลายๆ คนต่างลุ้นกับคู่นี้ เอาเป็นว่า มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันในซีรีส์ Bridgerton ซีซั่น 3 ได้เลย


ชวนทอล์กและเรียนรู้ความรักผ่านเรื่องราวของตัวละครในบริดเจอร์ตัน


รูปภาพ:

อย่างที่รู้ๆ กันว่า Bridgerton ซีรีส์สุดฮอต ที่มาแรงเกินต้าน ไม่ว่าจะกี่ซีซั่น ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากคนดูได้ตลอด วันนี้เราจะพาเพื่อนไปเข้าสู่วันวนความรักของเหล่าตัวละครใน Bridgerton กัน จริงๆ ต้องบอกก่อนว่า ซีรีส์เรื่องนี้ มีมุมมองความรักที่หลากหลายมาก ไม่ใช่แค่เรื่องน้ำเน่าๆ อย่างเดียว แต่เป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วย วังวนความรัก การแข่งขัน และความเป็นอยู่ของสังคมชนชั้นสูง มีข้อคิดหลายอย่างเลย แต่! ขอเจาะไปที่เรื่องความรักของเขาหน่อย จริงๆ ส่วนตัวแอบเห็นรูปแบบความรักหลายแบบในเรื่องนี้ เลยว่าจะหยิบมา Talk กันหน่อย มาลองดูกันว่า ซีรีส์ Bridgerton นำเสนอมุมมองความรักแบบไหนบ้าง แล้วเราสามารถนำมาปรับใช้ได้ยังไง พร้อมยัง! ถ้างั้นไปเม้ากันเลย!


🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸


สิ่งแรกที่ต้องจำไว้ก่อนคือ การหาคู่ในสังคมผู้ดีอังกฤษในสมัยก่อน หรือแม้แต่การหาคู่ในยุคเก่าๆ มันค่อนข้างแตกต่างจากยุคสมัยนี้ แม้ในปัจจุบันจะมีวิธีการหาคู่ที่คล้ายกับสมัยก่อน แต่ก็ถือว่า น้อยมาก ถ้าใครที่ได้ดูซีรีส์ Bridgerton หรือละครพีเรียด จะเห็นว่า สมัยก่อนนั้น ผู้หญิงมักจะถูกกำหนดให้อยู่ในกรอบเสมอ ฉะนั้นคู่ชีวิตที่ได้มาส่วนใหญ่ เกิดจากการดูตัว และถูกแนะนำโดยผู้ใหญ่ ที่คอยจับคู่ให้ วัฒนธรรมแบบนี้ แม้จะผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว แต่ในปัจจุบัน ก็ยังมีการใช้วิธีการแบบนี้อยู่นะ ที่เราเรียกๆ กันว่า คลุมถุงชน นั่นเอง

เพิ่มความทันสมัยขึ้นมาหน่อย ในยุคปัจจุบันนี้ เราไม่ได้อาศัยการหาคู่จากเพื่อน ครอบครัว หรือคนใกล้ตัวแล้ว แต่ปัจจุบันนี้เราใช้วิธีหาคู่ ด้วยแอพพลิเคชั่นแทน ซึ่งเมื่อเทียบกับวิธีหาคู่ให้ลูกสาวในสมัยก่อนนั้น ก็ไม่ได้ต่างกันมาก วิธีการคล้ายๆ กัน แต่ที่ต่างมีเพียงอย่างเดียวคือ สมัยก่อนเราเลือกไม่ได้ พ่อแม่ว่าไง เราต้องว่าตามนั้น แต่สมัยนี้ เราเลือกเองได้ว่าอยากจะได้ใคร เป็นการอาศัยความต้องการของตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากยุคเก่าๆ แบบสุดๆ

Bridgerton เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ ที่สะท้อนมุมมองความรักที่หลากหลายมากๆ แต่วันนี้เราขอหยิบรูปแบบความสัมพันธ์ที่เห็นชัดๆ ในเรื่องมาคุยกัน ซึ่งในทุกๆ รูปแบบความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น มักจะมีการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน ตัวละครได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างจากความสัมพันธ์นั้นๆ และแน่นอนว่า เราสามารถหยิบมุมมองความคิด ความรัก และการตัดสินใจอะไรบางอย่างในซีรีส์ มาปรับใช้กับชีวิตของเราได้เหมือนกัน ซึ่งเราได้รวบรวมรูปแบบความรักเด่นๆ ในเรื่องมาให้ดูทั้งหมด 6 รูปแบบ จะมีอะไรบ้าง ไปดู!


ความสัมพันธ์ที่เกิดจากพ่อแม่จัดสรร

รูปภาพ:หาคู่ให้ลูกสาวใน Bridgerton

รูปภาพ:

ต้องยอมรับเลยว่า ในสมัยก่อน ไม่ใช่แค่สังคมผู้ดีอังกฤษเหมือนในเรื่อง Bridgerton แต่ในประเทศไทย ก็ไม่ต่างกัน ยุคสมัยก่อน เกิดเป็นผู้หญิงนั้นแสนลำบากมาก ยุคก่อนๆ เป็นสมัยของสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ การที่ผู้หญิงคนนึงจะต้องแต่งงาน ล้วนเกิดมาจากพ่อแม่จัดสรร ทั้งฐานะ ชาติตระกูล ต้องอยู่ในระดับเดียวกัน เมื่อไหร่ที่ผู้หญิงทำผิดจารีต ได้มีข่าวลือ ข่าวซุบซิบบานปลายแน่นอน สมัยนั้น ผู้หญิงจำเป็นต้องอยู่ในกรอบ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดข่าวลือแปลกๆ ไม่งั้นจะขายไม่ออก เมื่อเทียบกับยุคสมัยนี้ ถ้าถามว่า ยังมีวัฒนธรรมแบบนี้อยู่มั้ย ก็มีนะ แต่ก็ไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะในยุคนี้ ผู้หญิงสามารถพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น ทำให้มุมมองเรื่องการหาคู่ หรือการมีคู่ชีวิตต่างๆ เปลี่ยนไป ไม่ตามใจใคร แต่ตามใจตัวเอง


ความสัมพันธ์แบบ Partner สู่ Monogamous

รูปภาพ:ความสัมพันธ์ของ ดาฟนี่ บริดเจอร์ตัน กับ ดยุคเฮสติ้งส์ หรือ ไซม่อน

รูปภาพ:คู่ของควีนชาร์ล็อต

ในเรื่อง Bridgerton จะมีคู่ของ ดาฟนี่ บริดเจอร์ตัน กับ ดยุคเฮสติ้งส์ หรือ ไซม่อน และในซีรีส์ภาคแยกของ ควีนชาร์ล็อต หลายๆ คนจะเห็นว่า ทั้งสองคู่เริ่มต้นจากการเป็น Partner Ship กันก่อน ความสัมพันธ์แบบพึ่งพากันและกัน โดยปราศจากความรัก ต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยมีผลประโยชน์บางอย่างเป็นตัวตั้งต้น ซึ่งความสัมพันธ์แบบนี้ อาจจะเป็นได้ทั้งในเชิงมิตรภาพ และผู้รักษาผลประโยชน์ของกันและกัน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่พบบ่อยมากๆ ในยุคปัจจุบัน

แต่ด้วยกาลเวลา ความใกล้ชิด ไปจนถึงการได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ความเข้าใจในหลายๆ เรื่องของกันและกัน ทำให้ความสัมพันธ์แบบพาร์ทเนอร์ กลายเป็นความสัมพันธ์แบบ Monogamous หรือก็คือคู่สมรสนั่นเองค่ะ ซึ่งไม่แปลกที่อยู่ๆ คู่พาร์ทเนอร์สองคน จะกลายเป็นคู่จริงขึ้นมา เพราะความสัมพันธ์แบบ Monogamous เป็นความสัมพันธ์ที่คนสองคนตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกันและมีเพียงกันและกันเท่านั้น ฟังดูโรแมนติกใช่มั้ย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกคู่จะไปได้รอดนะ ยกตัวอย่าง คู่ของ ดาฟนี่ บริดเจอร์ตัน กับ ดยุคเฮสติ้งส์ หรือ ไซม่อน ตอนแรกหวานฉ่ำ ไปๆ มาๆ เกิดความไม่เข้าใจกัน รวมไปถึงความแตกต่างทางสังคมที่ตัวเองเคยอยู่ต่างกัน ก็เกือบทำให้ทั้งสองไปกันไม่รอด ฉะนั้นใครที่รู้สึกว่า ตัวเองยังไม่พร้อมกับการผูกมัด หรือรู้สึกว่า ฉันไม่เหมาะกับชีวิตแต่งงานกับใครคนนึงแค่คนเดียว ความสัมพันธ์แบบ Monogamous อาจจะไม่เหมาะ ทั้งนี้ ความสัมพันธ์แบบนี้ ยังต้องอาศัยองค์ประกอบความรักหลายๆ อย่างมาก กว่าจะพบกับจุดที่เรียกว่า ความสุขของชีวิตคู่จริงๆ ก็ต้องผ่านบทพิสูจน์หลายอย่างเลย


ความสัมพันธ์แบบ TOXIC RELATIONSHIP

รูปภาพ:

รูปภาพ:

ไม่จอเจาะจงคู่ไหนเป็นพิเศษ เพราะทุกคู่ในเรื่อง Bridgerton มักมีเรื่อง TOXIC RELATIONSHIP เข้ามาวนเวียนอยู่เรื่อยๆ ทั้งเรื่องการเหยียดชาติกำเนิด ความต่างชนชั้น ความเหมาะสมไม่เหมาะสม รวมไปถึงเรื่องเพศสภาพ พอดูเรื่องนี้แล้วแบบ มาครบจริงๆ

Toxic Relationship หรือความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ คือ ความสัมพันธ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือต่างฝ่ายต่างมุ่งทำร้ายกันมากกว่าจะรักและเมตตากัน บางคู่อาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ความสัมพันธ์มันดู toxic แต่ด้วยสภาพแวดล้อม คนรอบตัวใดๆ เหมือนยะนำพาความ toxic ให้เข้ามาวนเวียนอยู่ในชีวิตคู่ได้เรื่อยๆ ถ้าเทียบกับความรักในยุดปัจจุบันแล้ว ขอบอกเลยนะ อย่างคิดว่า ความรักของคนสองคน จะเป็นแค่เรื่องของคนสองคน เพราะมันไม่ใช่ ในเรื่องของความรักนั้น มักมีคนอื่นและสิ่งอื่นเป็นส่วนประกอบด้วยเสมอ! และสิ่งต่างๆ เหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทำให้เกิด Toxic Relationship ตามมาได้ ทั้งนี้การอัศับความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกัน สำคัญมากค่ะ เมื่อขึ้นชื่อว่า ชีวิตคู่แล้ว มันไม่มีอะไรง่ายหรอกค่ะ ทุกๆ เรื่องราวแย่ๆ ที่ผ่านเข้ามา ล้วนเป็นบททดสอบ ก็อยู่ที่ว่า เราจะเลือกจุดจบของเส้นเรื่องหลักในชีวิตคู่ยังไง เท่านั้นเอง


ความสัมพันธ์แบบ Long Distance Relationship

รูปภาพ:ความรักของ Marina

รูปภาพ:

เราว่ามีหลายๆ คนที่ตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ ซึ่งในเรื่อง Bridgerton เราจะได้เห็นความสัมพันธ์แบบนี้ผ่านตัวละคร Marina เป็นลูกพี่ลูกน้องของ Penelope เมื่อคนรักต้องไปรบ นานแล้วนานเล่าไม่ติดต่อกลับมา ทำให้เธอต้องเดินทางมาลอนดอนโดยปกปิดความลับว่าเธอท้อง แถมยังจะไปคบหากับ Colin เพื่อรักษาชื่อเสียงตัวเอง แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ ไปพร้อมกับที่เธอรู้ความจริงว่า คนรักได้จากไปในสนามรบแล้ว ซึ่งในความสัมพันธ์ของ Marina กับคนรักเก่า ถือว่าเป็นความสัมพันธ์แบบ Long Distance Relationship ได้เลย แต่ต่างกันที่คนรักของเธอได้จากไปในที่ที่ไกลมากๆ แล้ว ซึ่งกว่าจะรู้ตัว ก็เกือบทำพลาดไปหลายอย่างเลย โชคดีที่กลับลำเรือได้ทัน

Long Distance Relationship หรือ ความรักทางไกล เป็นความสัมพันธ์ ที่ต้องจิตใจแข็งแกร่งพอตัว เพราะความห่างไกล เป็นเรื่องน่ากลัวมากๆ มีหลายๆ คู่ที่ไปรอดและหลายๆ คู่ที่ต้องจบความสัมพันธ์ลง เพราะทนรอไม่ไหว ในเรื่อง Bridgerton จะเห็นว่า การติดต่อคนไกล ต้องส่งจดหมาย แล้วกว่าจะได้รู้เรื่องรู้ราว ใครจะไปรอไหว! เมื่อเทียบกับสมัยนี้ แม้สื่อจะไปไกลมากๆ ไวกว่าเดิมเยอะ และมีวิธีสื่อสารมากขึ้น แต่ด้วยระยะทาง ก็ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ของชีวิตคู่อยู่ดี นั่นจึงทำให้ความสัมพันธ์แบบนี้ มีโอกาสไปได้รอดค่อนข้างยากมากๆ ต้องอาศัยความเข้าใจ เชื่อใจกันพอสมควรเลยค่ะ


ความสัมพันธ์แบบรักพี่เสียดายน้อง

รูปภาพ:คู่ของแอนโทนี่และเคท ชาร์มา

รูปภาพ:ครอบครัวของเคท ชาร์มา และเอวิน่า ชาร์มา

ในเรื่อง Bridgerton 2 ความสัมพันธ์แบบนี้ เห็นได้ชัดจากคู่หลักของเรื่อง รักเราสองสามคนของ แอนโทนี่ ,เคท ชาร์มา และเอ็ดวิน่า ชาร์มา ต้องแต่งกับน้อง แต่ดันหวั่นไหวกับคนพี่ สุดท้ายก็บานปลายได้เสียกันซะงั้น

ความสัมพันธ์แบบรักพี่เสียดายน้อง เป็นความสัมพันธ์แบบ อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน คนนั้นก็ดี คนนี้ก็รัก ซึ่งถ้าดูในซีรีส์จะเห็นชัดเลยว่า ความสัมพันธ์แบบนี้ มีแต่จะเจ็บทั้งสองฝ่าย ท้ายที่สุดแล้วมักต้องมีคนที่เป็นฝ่ายจากไปอยู่แล้ว ซึ้งในเรื่อง กว่าน้องสาวจะเข้าใจพี่สาว ก็ใช้เวลาประมาณนึง แต่สุดท้ายน้องสาวก็ยอมถอย แล้วในชีวิตจริง ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเรา เราจะยอมได้หรอ! ในมุมของความเป็นจริง ไม่มีใครยอมเป็นฝ่ายเจ็บก่อนหรอกค่ะ ยิ่งถ้าได้รัก ยิ่งยากเลย แต่ขอบอกเลยว่า การเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับความสัมพันธ์แบบนี้ มันมีแต่จะเจ็บกับเจ็บ สุดท้ายการตัดสินใจยอมปล่อย แล้วเดินออกมา อาจจะเจ็บหน่อย แต่ดีกว่าทน เชื่อสิ!


ความสัมพันธ์แบบ Friend Zone

รูปภาพ:คู่ Penelope กับ Colinรูปภาพ:

และสุดท้าย กับความสัมพันธ์แบบ Friend Zone จะเป็นคู่ไหนไปได้ ก็ต้องคู่ Penelope กับ Colin ใน Bridgerton 3 เราตะได้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่มันลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่เพื่อนค่ะพ่ออีกแล้ว แต่มากกว่านั้น คือถ้าเพื่อนๆ คนไหนเคยอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ จะเข้าใจ ตัว Penelope หลงรัก Colin มานานแล้ว ภาคนี้ถือว่า complete ส่วน Colin เพิ่งรู้ตัว เพิ่งรู้ว่าเพื่อนสาวสวยและมีเสน่ห์ กว่าจะรู้ตัว ก็นานแท้!

แต่ความสัมพันธ์แบบ Friend Zone มันไม่ง่ายเลยนะที่ตะก้าวผ่านไปได้ อาจจะต้องใช้ความพยายามและเวลาสักหน่อยนะ แต่ก็ต้องยอมรับค่ะ ว่าความสัมพันธ์ Friend Zone ไม่ใช่ว่าทุกคู่จะสมหวัง ฉะนั้นอย่าคาดหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ บางคนวางไว้แค่เพื่อนก็คือเพื่อน การจะก้าวข้ามสถานะตั้งต้นได้นั้น ต้องใช้เวลาและความพยายาม บวกความกล้าพอสมควร


รูปภาพ:ฉากงานแต่งใน Bridgerton

บทสรุป

ถ้าอิงเรื่องของความรักจากซีรีส์ Bridgerton สิ่งที่เราสรุปได้ จากซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ ไม่มีความรักไหนที่จะราบรื่น และไม่มีความรักไหนที่จะปราศจากซึ่งอุปสรรค เอาเข้าจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบความรักแบบไหนก็ตาม ล้วนล้วนมีทั้งความสุขและความทุกข์ ทุกๆ ความสัมพันธ์ มักเต็มไปด้วยบททดสอบ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าตอนจบ มันจะดีหรือไม่ เพราะฉะนั้นการที่เราจะกล้าเผชิญหน้ากับมัน จึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของชีวิตคู่ และท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าผลสรุปของเรื่องนี้เป็นยังไง สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด ก็คือการยอมรับมันและอยู่กับเราได้

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่เคยดูซีรีส์ Bridgerton ตอนนี้มีถึง 3 ซีซั่น บวกภาคแยกของควีนด้วย รับชมกันได้ที่ Netflix พากย์ไทย ดูกันไปยาวๆ เลยค่ะ แล้วเพื่อนๆ ล่ะ ตอนนี้กำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบไหนคะ ลองแวะเข้ามาแชร์กันได้เลยนะ จริงๆ ดูซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้ข้อคิดดีๆ หลายเรื่องเลย ไม่ว่าจะเรื่องความรัก มิตรภาพ ครอบครัว แม้จะมีมุมน้ำเน่าไปบ้าง แต่ก็ดูเพื่อความบันเทิงได้ ลองไปหาดูกันได้เลยจ้า

สำหรับวันนี้ต้อลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย


ขอบคุณภาพประกอบบทความจากซีรีส์ "บริดเจอร์ตัน: วังวนรัก เกมไฮโซ" ทาง Netflix



บทความแนะนำเพิ่มเติม