1. SistaCafe
  2. ดื่มชาตามพส.จีน เคล็ดลับสวยสดชื่นจากภายใน ดื่มตอนไหน เลือกชาอะไรดี?

ใครที่ตามกระแสความสวยความงามตามพี่สาวจีนในตอนนี้ต้องเคยเห็นหัวข้อของการเลือก ‘ ดื่มชาตามพส.จีน ’ กันมาบ้าง หรืออาจจะเห็นผ่านตาตามหน้าฟีดบางครั้ง ซึ่งการดื่มชาของสาวจีนนั้นเป็นเรื่องที่ปกติอย่างมาก อย่างที่หลายคนอาจจะรู้กันคือประเทศจีน เป็นประเทศของชาที่แท้จริง เพราะมีการดื่มชามาหลายยุคสมัยหรือเรียกได้ว่าดื่มชาแทนน้ำเปล่าเลยก็ว่าได้ ซึ่งชาในประเทศจีนนั้นก็มีหลากหลายแบบ หลากหลายประเภท โดยแต่ละแบบก็จะเน้นย้ำสรรพคุณในการดื่มที่แตกต่างกัน ทำให้การดื่มชาถือเป็นวัฒนธรรมที่ส่งต่อๆ กันมา แน่นอนว่านอกจากสรรพคุณที่ช่วยส่งเสริมให้ร่างการแข็งแรงแล้วนั้น การดื่มชาก็ยังช่วยเรื่องผิวพรรณจากภายในสู่ภายนอกได้ดีอีกด้วย ใครที่ได้ลองเข้าวงการการดื่มชาจีนก็จะเห็นผลที่แตกต่างไปจากเดิมแบบชัดเจน เพราะฉะนั้นเรามาไขข้อสงสัยของการดื่มชา ตาม พส จีนกัน ว่ามีประโยชน์หรือข้อเสียอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันเลย


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


วัฒนธรรมการดื่มชาของชาวจีน


อีกวัฒนธรรมหนึ่งที่น่าสนใจของจีนเลยคือการดื่มชา เพราะชาถือเป็นวิถีชีวิตของชาวจีน ด้วยความหลากหลายของภูมิอากาศในประเทศทำให้กำเนิดชาหลายร้อยแบบหรือชนิด เช่น ชาหลงจิ่ง ที่เป็นชาที่มีกลิ่นหอมหวาน หอมสดชื่น ทั้งยังมีสีเขียวใสราวกับมรกต จึงทำให้เป็นชาที่ได้ขึ้นชื่อว่า ‘สุดยอดแห่งชาจีน’ นอกจากนั้นยังมีชาอู่หลง ที่มีมามากกว่า 2,000 ชนิด และชาเถี่ยกวนอิมหรือทิกวนอิม ที่มีรสชาติโดดเด่นในเรื่องของกลิ่นและสัมผัสที่มีความนุ่มนวลเหมือนดอกไม้ป่า เป็นต้น

ดังนั้นทำให้ศิลปะการชงชาของจีนมีความเชื่อมโยงใกล้ชิดไปกับปรัญชาของ ขงจื๊อ ในเรื่องความสมดุลและความสามัคคี ชาวจีนจึงนิยมดื่มชาเพื่อความสุนทรีย์และใช้เป็นภาพแทนของการชำระทางจิตใจให้สะอาด

อีกทั้งใบชาเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าจึงทำให้อยู่คู่กับวัฒนธรรมหรือธรรมเนียมการปฎิบัติต่างๆ ของคนจีนมาอย่างเนิ่นนาน ไม่ว่าจะเป็นในการใช้พิธีมอบเป็นของขวัญ การเกี้ยวพาราสี การไหว้บรรพบุรุษ และการส่งมอบเครื่องบรรณาการแด่องค์จักรพรรดิในสมัยก่อนๆ


ประเภทของชาจีนที่นิยมดื่มในแต่ละฤดูกาล

ประเทศจีนมี 4 ฤดูกาล และมักจะมีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ซึ่งก็จะมีการดื่มชาที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาลเช่นเดียวกัน เพื่อให้เหมาะสมกับการบำรุงสุขภาพอย่างเช่น ในฤดูใบไม้ผลิ-ควรดื่มชาอบดอกไม้ ในฤดูร้อน-ควรดื่มชาเขียว ฤดูใบไม้ร่วง-ควรดื่มชาอู่หลง และฤดูหนาว-ควรดื่มชาแดง นั่นเอง โดยชาแต่ละแบบนั้นให้สรรพคุณและความเหมาะสมอย่างไรมีดังนี้



การดื่มชาอบดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ - ช่วงฤดูนี้นั้นเป็นช่วงที่ยังมีอากาศเย็นและอาจทำให้เกิดการไม่สบายได้ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียเล็กน้อยเป็นอาการปกติที่พบได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ การเลือกดื่มชาอบดอกไม้นั้นจะสามารถช่วยในการผ่อนคลายความรู้สึกอ่อนเพลีย ช่วยถ่ายเทความหนาวออกจากร่างกาย ช่วยให้ความสดชื่นแก้ความรู้สึกเพลียได้ดี

โดยชาอบดอกไม้นั้นเป็นใบชาตากแห้งที่นำไปอบดอกไม้ จึงมีคุณลักษณะพิเศษที่ดึงดูดในเรื่องของกลิ่นหอมของดอกไม้มากสุดๆ นอกจากนี้นั้นชาอบดอกไม้มะลิเป็นที่นิยมที่สุดอีกด้วย เพราะว่าดอกมะลินั้นมีกลิ่นหอมและมีกลิ่นที่ไม่แรงมาก ทำให้นอกจากช่วยเรื่องความอ่อนเพลียยังช่วยในเรื่องผ่อนคลายจากกลิ่นหอมของดอกไม้ดีดีนั่นเอง



การดื่มชาเขียวในฤดูร้อน - ในฤดูร้อนนั้นมักจะทำให้เหงื่อออกและขาดแคลนน้ำในร่างกายได้ง่าย ซึ่งการเลือกดื่มชาเขียวในฤดูนี้นั้นจึงช่วยทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป โดยชาเขียวที่นิยมดื่มกันจำเป็นต้องไม่ผ่านการหมัก เพราะจะทำให้มีคุณลักษณะที่เย็นและมีรสขมเพื่อช่วยแก้ร้อนใน ย่อยอาหาร แก้กระหาย รักษาแผลในช่องปาก และโรคกระเพาะที่ไม่รุนแรงได้ นอกจากนี้นั้นยังช่วยในการลดไขมันในเลือดและป้องกันโรคหัวใจด้วย

ทริคการดื่มชาเขียวของชาวจีนนั้น ส่วนใหญ่จะเลือกใบชาที่อ่อนที่เพิ่งเก็บในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง ซึ่งการชงชาเขียวจะไม่ใช้น้ำที่ร้อนจนมากเกินไป เพราะว่าหากร้อนเกินไปจะทำให้ใบชาเสียรสชาติ อีกทั้งถ้าภาชนะเป็นแก้วที่มีฝานั้นก็จะไม่ดีต่อการระบายความร้อน เมื่อปิดฝาจะทำให้ใบชาแช่จนเสีย ทำให้ทั้งไม่สวยและไม่อร่อย ฉะนั้นแล้วควรชงในน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิประมาณไม่เกิน 80 องศาและใช้แก้วที่ไม่มีฝาจะดีที่สุด



การดื่มชาอู่หลงในฤดูใบไม้ร่วง - ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นเป็นช่วงที่อากาศแห้งง่าย ที่จะทำให้ปากแตกหรือผิวพรรณแตกแห้งกร้าน ดังนั้นแล้วการเลือกชาอู่หลงนั้นจะช่วยในเรื่องการบำรุงผิวหนัง แก้กระหาย ขจัดความร้อนในร่างกาย ทั้งยังช่วยปรับสมดุลร่างกายให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ

ชาอู่หลงนั้นต้องเป็นชาที่ผ่านการหมักครึ่งหนึ่งอยู่ระหว่างชาเขียวซึ่งเป็นชาไม่ผ่านการหมักและชาแดงซึ่งเป็นชาที่ต้องหมัก จึงทำให้มีรสเข้มข้นเหมือนชาแดง และมีกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนชาเขียว



การดื่มชาแดงในฤดูหนาว - ซึ่งแน่นอนว่าอากาศหนาวในประเทศจีนนั้นหนาวจนถึงขั้นหิมะตก ทำให้ในช่วงนี้นั้นร่างกายจะปรับตัวลดการเผาผลาญที่ไม่จำเป็นออกเพื่อเข้าสู่โหมดเก็บสะสมพลังงาน ซึ่งสิ่งจำเป็นในช่วงฤดูหนาวนั้นคือการป้องกันความหนาวและการกักเก็บความอุ่นในร่างกาย ฉะนั้นการเลือกดื่มชาแดงจึงเป็นสิ่งที่ที่ดีที่สุดและการเลือกดื่มชาในฤดูหนาว เพราะชาแดงนั้นเป็นชาที่ผ่านกระบวนการหมักมีโปรตีนและน้ำตาลสูง เพื่อช่วยในการป้องกันความหนาวทั้งยังมีส่วนช่วยย่อยอาหารและแก้เลี่ยนอีกด้วย

โดยทริคการชงชาแดงนั้นนิยมใช้กับแก้วกระเบื้องเคลือบ และการใช้น้ำที่มีความร้อนที่ประมาณ 95 องศา เพื่อช่วยให้ใบชาลอยเหนือผิวน้ำ แล้วค่อยๆ หล่นลงไปก้นแก้วนั่นเอง


เคล็ดลับผิวสวยของ พส จีน สำหรับการดื่มชาคือ ชาอู่หลง ชาผูเอ่อร์ ชาแดงกับโกจิ หรือชาดอกมะลิ เป็นต้น ซึ่งเป็นชาที่ชาวจีนโปรดปรานและผู้เชี่ยวชาญแนะนำ เพราะชาเหล่านี้นั้นล้วนส่งผลดีต่อความงามและสุขภาพของสาวๆ ไม่ว่าจะต้านอนุมูนอิสระได้ดี และป้องกันหน้าแก่หรือผิวที่ไม่เต่งตึง แต่ทริคหรือการดื่มชาที่ดีคือ ไม่ควรเติมน้ำตาล หรือใส่นมลงไป อีกทั้งเมื่อชงชาครั้งหนึ่งสามารถนำมาจิบระหว่างวันได้


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


ดื่มชาตามพส.จีน มีประโยชน์อย่างไร?


  1. การดื่มชาช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น เนื่องจากภายในใบชามีสารโพลีฟีนอล กรดอะมิโน และคาร์โบไฮเดรต เมื่อสารเหล่านี้ทำปฏิกิริยากับน้ำลายจึงช่วยกระจายความร้อนส่วนเกินในร่างกายได้ดีขึ้น
  2. ชานั้นอุดมไปด้วยธาตุและสารอาหารหลากหลายชนิดทำให้ สำหรับคนที่นิยมดื่มชาเพื่อเป็นการบำรุงร่างกายนั้นทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีขึ้น เพราะช่วยกระตุ้นระบบประสาทและร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ใบชายังมีสารคาเฟอีนที่สามารถช่วยหมุนเวียนโลหิต มีอิทธิพลต่อกระบวนการเมตาบอลิซึมของเซลล์ภายในร่างกาย
  3. การดื่มชาเป็นประจำช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง มีความสดชื่น สามารถช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้ ช่วยต้านอนุมูนอิสระ สามารถช่วยชะลอความชราและช่วยบำรุงผิวพรรณได้
  4. การดื่มชามีผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ สามารถช่วยสลายไขมัน ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด โดยไปเพิ่มการขับคอเลสเตอรอลในร่างกายผ่านทางน้ำดีในอุจจาระ
  5. การดื่มชามีประโยชน์ต่อระบบหัวใจและการไหลเวียนของหลอดโลหิต เพื่อช่วยขยายหลอดเลือดป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน ทั้งการดื่มชานั้นยังช่วยรักษาการเจ็บหน้าอก และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดด้วย
  6. การดื่มชาแก่ๆ สามารถช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร และช่วยในการย่อยอาหารจำพวกวิตามินได้
  7. ชามีสารไอโอดีนและฟลูออไรด์ที่ช่วยป้องกันภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานหนักเกินไป โดยมีสารฟลูออไรด์ที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเพื่อช่วยในเรื่องของการป้องกันฟันผุ และยังเสริมสร้างมวลกระดูก

* นอกจากประโยชน์ของการดื่มชาที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้วนั้นก็ยังมีสิ่งที่ควรระมัดระวังในการดื่มชาด้วยอีกเช่นกัน


6 สิ่งที่ควรระมัดระวังในการดื่มชา


  1. ไม่ควรดื่มชาที่เข้มข้นมากเกินไป เพราะมีสารกระตุ้นทำให้เกิดความรู้สึกตื่นตัวเกินไปหรือจะมีผลต่อระบบหัวใจและประสาท โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคหัวใจจะมีอาการหัวใจเต้นเร็วเกินไปหลังดื่มชาที่เข้มข้น
  2. ไม่ควรดื่มชาก่อนเข้านอน เพราะอาจจะทำให้นอนไม่หลับ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาหลับยากอยู่แล้วยิ่งต้องหลีกเลี่ยงการดื่มชาก่อนเข้านอน
  3. ขณะที่ทานอาหารไม่ควรดื่มชาให้มาก แต่การดื่มชาก่อนรับประทานอาหารหรือดื่มชานิดหน่อยระหว่างการรับประทานอาหารไม่มีผลกระทบอะไร แต่ถ้าดื่มชาจำนวนมากหรือดื่มชาเข้มข้นไประหว่างการรับประทาน จะส่งผลกระทบต่อการดูดซึมธาตุแคลเซียม ธาตุเหล็ก และธาตุสังกะสีได้
  4. ไม่ควรดื่มชาหลังดื่มแอลกอฮอล์ เพราะว่าการดื่มแอลกอฮอล์จะเข้าโลหิตผ่านกระเพาะแล้วกลายเป็นกรดแอซิติกผ่านตับ ซึ่งกรดแอซิติกจะแยกเป็นน้ำกับคาร์บอนไดออกไซด์ หากดื่มแอลกอฮอล์แล้วมาดื่มชาพร้อมกันนั้นจะทำให้เกิดฤทธิ์เป็นด่าง เพราะในใบชาที่มีหน้าที่ช่วยขับปัสสาวะทำให้แอลกอฮอล์เข้าสู่ไตเร็วเกินไปไตก็จะทำงานหนัก ดังนั้นแล้วไม่ควรดื่มชาหลังดื่มแอล เพราะอาจเสี่ยงเป็นโรคไตนั่นเอง
  5. ไม่ควรดื่มชาที่เป็นใบชาใหม่มาก เพราะเมื่อพิจารณาจากโภชนาการแล้วใบชาใหม่ไม่ได้ดีต่อร่างกาย เพราะว่าใบชาใหม่ก็คือใบชาที่เก็บมาไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งใบชาแบบนี้นั้นไม่ได้ผ่านการพักไว้เป็นระยะนาน มีสารที่ส่งผลต่อร่างกายถ้าดื่มเป็นเวลานานนั้นอาจเกิดท้องเสีย
  6. ไม่ควรดื่มชากับนมหรือผลิตภัณฑ์จากนม เพราะด่างในใบชากับสารแทนนินเมื่อรวมเข้ากับสารแคลเซียมของผลิตภัณฑ์นมจะกลายเป็นเกลือแคลเซียมที่ถูกขับออกจากร่างกาย ทำให้ไม่ได้รับคุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์นมนั่นเอง

ควรดื่มชาเวลาไหนดี?

  • ควรดื่มชาหลังจากที่ชงเสร็จใหม่ๆ ร้อนๆ เพราะการดื่มแบบนี้จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากใบชามากกว่าการชงดื่มแบบเย็นหรือปล่อยให้อุณหภูมิปกติ เพราะประโยชน์ของชาก็จะค่อยๆ ลดลงและจางลงไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน โดยหลังจากชงชาร้อนแล้วไม่ควรปล่อยไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง เนื่องจากสารคาเทซินส์ (Carechins) จะถูกดักจับและเกิดการรวมตัวกับออกซิเจน สังเกตได้จากสีของน้ำชาที่เปลี่ยนไปกลายเป็นสีที่คล้ำลงและมีรสชาติฝาด เพราะมีกรดแทนนิน (Tannin) สูงขึ้น หากเราดื่มชาตอนที่มีรถฝาดจะส่งผลกระทบมายังกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ เนื่องจากการดูดซึมสารอาหารได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการดูดซึมธาตุเหล็ก แคลเซียม และแมกนีเซียม
  • ควรดื่มชาหลังอาหารไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง เพราะสามารถช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี โดยน้ำย่อยจะหลั่งออกมาภายในกระเพาะอาหารเพียงพอที่จะย่อยอาหารจำพวกวิตามินต่างๆ ได้ และสำหรับคนที่ชอบจิบชาแทนการดื่มน้ำเปล่าหรือเป็นคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แนะนำว่าควรเลือกจิบชาแบบอ่อนแทนการจิบชาแบบแก่ เพราะการจิบชาแบบแก่อาจทำให้ภายในกระเพาะอาหารเกิดการหลั่งกรดออกมามากเกินไป จนเกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้
  • ควรดื่มชาร้อน 4 ถ้วยต่อวัน เพื่อช่วยบำรุงกระดูกและฟันเนื่องจากภายในใบชามีสารไฟโตเคมีคอลที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  • ควรดื่มชาเขียว 5 แก้วต่อวัน (แก้วชา) เพื่อช่วยลดน้ำหนัก โดยใบชาเขียวนั้นมีสารโพลีฟีนอลที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดไขมันสะสม สามารถยับยั้งการดูดซึมไขมันไม่ให้เข้าสู่ร่างกายได้ ซึ่งการดื่มชาเขียววันละ 5 แก้ว จึงสามารถช่วยกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 70-80 แคลอรี

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


สรุป

การ ดื่มชาตามพส.จีน นอกจากเน้นการบำรุงร่างกายแล้วนั้น ยังช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งจากภายในออกมาสู่ภายนอกได้ด้วย ใครที่ได้ลองเข้าวงการดื่มชาตาม พส จีนแล้วนั้นรับรองไม่ผิดหวัง แต่แน่นอนว่านอกจากได้ประโยชน์ที่มากมายจากการดื่มชาแล้วก็ต้องระมัดระวังสำหรับชาวมือใหม่หรือพึ่งจะลองเข้าวงการการดื่มชาด้วย เพราะชามีสารหลายตัวที่ดื่มพอดีก็ดีต่อร่างกาย แต่ถ้ามากไปก็ส่งผลเสีย ใครที่จะดื่มชาหรือสนใจชาตัวไหนให้ลองศึกษาข้อมูลไม่ว่าจะวิธีเก็บรักษา วิธีชงชา เป็นต้น เพราะเหล่านี้นั้นจะช่วยให้ได้รับคุณค่าอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่สำหรับใครที่เน้นกินเพื่อผิวพรรณที่ดีก็อย่าลืมที่จะไม่ละเลยการบำรุงผิวและทากันแดดเป็นประจำด้วย เพื่อเสริมให้ผลลัพธ์ดีขึ้นกันด้วยนะคะซิส


ขอขอบคุณรูปภาพประกอบจาก Freepik





บทความอื่นๆ ที่ซิสไม่ควรพลาด







เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้