ทุกคนน่าจะเคยได้ยินคำว่ากันมาบ้างใช่ไหมละคะ มันก็คือการที่แบรนด์ออกคอลเลกชันใหม่ ๆ ตามเทรนด์และตามฤดูกาลทำให้เทรนด์มันเปลี่ยนไปเร็วมากขึ้น คนก็ซื้อใส่กันแป๊บ ๆ ไม่ได้เน้นคุณภาพแต่เน้นความสวยงามและตามเทรนด์แทน ซึ่งสิ่งนี้มันส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต่อโลกเรามาก ๆ รวมไปถึง" Fast Beauty "ด้วย หลายคนอาจจะเอ๊ะขึ้นมาว่าแล้วฟาสต์บิวตี้คืออะไรอี๊ก ถ้าอยากจะรู้ว่ามันคืออะไร แล้วทำไมเราถึงต้องพูดขึ้นมา ทำไมควรจะตระหนัก งั้นเราก็มาดูเหตุผลกันด้านล่างนี้เลยจ้า



Fast Beautyคืออะไร ?

รูปภาพ:https://www.etude.com/int/en/media/catalog/product/_/s/_set_celebeaurity_full_set_main1.jpg?width=700&height=700&store=default&image-type=image

Fast Beauty คืออะไร? มันเป็นคำที่เราอาจจะยังไม่คุ้นชินเท่าไหร่นะคะ แต่ว่าก็มีคนรณรงค์กันประมาณนึงแล้วเหมือนกันFast Beauty ก็คล้าย ๆ กับ Fast Fashion เลยค่ะคือเครื่องสำอางในยุคนี้มันมีแบรนด์ที่ทำออกมาเยอะมาก แล้วคอลเลกชันก็เลยเยอะขึ้นแบบมาก ๆ เยอะแบบตามไม่หวาดไม่ไหว แล้วคนที่ตามสายเมคอัพเครื่องสำอางพวกนี้ ยิ่งอินฟลูเอนเซอร์ทั้งหลายก็แบบของมันต้องมี ต้องรีวิวก็ซื้อฉ่ำเลยจ้าทีนี้ซื้อเยอะก็กลายเป็นว่ามันใช้ไม่ทัน แล้วพอใช้ไม่ทันมันก็เป็นขยะไปเปล่า ๆ เลยซึ่งเครื่องสำอางพวกนี้ส่วนใหญ่ก็ออกตามเทรนด์เมคอัพช่วงนั้นด้วยนะคะ อย่างช่วงนี้เมคอัพ Y2K กับ Douyin มาแรงมาก พาเลตต์ตาโทนชมพูบาร์บี้ โทนฟ้าหรือกลิตเตอร์นี่ออกกันเยอะสุด ๆ ออกกันแทบจะทุกแบรนด์เลยแบบนี้แหละค่ะที่เขาเรียกว่า Fast Beauty เทรนด์มาเดี๋ยวก็ไป เครื่องสำอางออกแล้วพอเทรนด์เปลี่ยนก็ออกใหม่อีก


ทำไมเราถึงควรตระหนักเรื่อง Fast Beauty ?

รูปภาพ:https://static.independent.co.uk/2022/05/05/23/SEI100129161.jpg?width=1200&height=1200&fit=crop

ที่เราควรจะตระหนักเรื่อง Fast Beauty ให้มากขึ้นมากก็กรณีคล้าย ๆ กับ Fast Fashion อีกเช่นเดียวกันนะคะ คืออุตสาหกรรมการผลิตสิ่งของต่าง ๆ มัน

ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเยอะมาก ๆ ซึ่งยิ่งปล่อยเยอะชั้นบรรยากาศก็จะยิ่งโดนทำลายไปเรื่อย ๆ

ผลกระทบต่าง ๆ ก็จะเริ่มตามมา เช่น แดดที่ส่องมายังโลกก็อาจจะมีรังสีที่เข้มข้นขึ้นทำให้เราเป็นมะเร็งผิวหนังได้ สภาพอากาศแปรปรวน ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น สัตว์ที่อยู่บริเวณขั้วโลกใกล้จะสูญพันธ์ สัตว์ป่าเริ่มทยอยล้มตาย เชื้อโรคกลายพันธุ์ได้ง่ายขึ้น เป็นต้น อะไรแบบนี้มันแก้แค่คน ๆ เดียวไม่ได้นะคะแล้วแก้แค่คนตัวเล็ก ๆ แบบเราก็ไม่ได้ด้วยจริง ๆ พวกนายทุนต่าง ๆ บริษัทใหญ่ ๆ ควรจะตระหนัก หาทางผลิตสินค้าให้ปล่อยก๊าซออกมาน้อยที่สุด ส่งผลกระทบต่อโลกน้อยที่สุดเพราะว่ากลุ่มของเขาปล่อยก๊าซเรือนกระจกค่อนข้างเยอะ ถ้าให้เราชาวบ้านธรรมดาทำฝ่ายเดียวก็คงจะไม่ดีขึ้นในเร็ววันแน่ ๆแต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะทำอะไรไม่ได้เลยนะคะ เราก็สามารถทำได้เหมือนกัน ถ้าอยากรู้ว่าทำยังไงบ้างก็มาดูต่อด้านล่างเลยจ้า


5 วิธีใช้เครื่องสำอางให้คุ้มค่าที่สุด แถมยังช่วยลดฟาสต์บิวตี้


วิธีใช้เครื่องสำอางให้คุ้มค่า 1. ใช้เครื่องสำอางที่มีอยู่ให้หมดก่อน

รูปภาพ:

ข้อนี้แอบยากมากสำหรับสายบิวตี้ที่ชอบซื้อของใหม่ โดยเฉพาะลิปสติก บอกเลยว่าจากที่เห็นมาสายบิวตี้ซื้อเก่งม้ากกก~ ในบรรดาเครื่องสำอางที่คนซื้อเยอะ ซื้อซ้ำ ซื้อมาแล้วสีคล้ายกันสุด ๆ คือลิปสติกเลยค่ะ ซึ่งพอซื้อมาแล้ว ใช้แล้วก็ใช้ไม่หมดสักแท่ง แล้วสุดท้ายมันก็กลายเป็นขยะ แล้วแบบนี้จะดีกว่าไหมถ้าเราใช้ของเก่าที่มีให้หมดก่อนหรือหมดอายุก่อนพูดถึงเครื่องสำอางทุกชิ้นเลยนะคะ เอาให้มันหมดหรือหมดอายุก่อนค่อยซื้อใหม่เพื่อที่จะได้ไม่เพิ่มขยะให้กับโลกแล้วก็เป็นการตระหนักเรื่อง Fast Beauty ที่เป็นเทรนด์ประเดี๋ยวประด๋าวด้วย


วิธีใช้เครื่องสำอางให้คุ้มค่า 2. ไม่ซื้อเครื่องสำอางตามเทรนด์

รูปภาพ:

อย่างที่บอกไปว่า Fast Beauty ก็คือเทรนด์เครื่องสำอางที่มาแป๊บ ๆ แล้วก็ไป คอลเลกชันใหม่ก็ออกมาแล้วก็ไปไวเหมือนกับเทรนด์ ซึ่งตรงนี้แหละค่ะสำคัญมาก ๆ บางคนพอเห็นของใหม่คือรีบเลย ซื้อ ๆๆๆ ฉันต้องมี ยึดคติของมันต้องมี แต่จริง ๆ ถามว่าต้องมีไหม... ก็อาจจะไม่ก็ได้นะคะ คืออยากให้ทุกคนคิดดี ๆ ก่อนซื้อ อย่าซื้อตามเทรนด์ คนนั้นใช้ก็อยากได้บ้าง คนนี้ใช้ก็อยากมีบ้าง ของออกใหม่อยากได้มาครอบครองลองถามตัวเองจริง ๆ ว่าเราต้องมีไหม ต้องซื้อไหมในกรณีเป็นอินฟลูเอนเซอร์ยังพอเข้าใจได้นะคะว่าทำเพื่องาน แต่อยากจะแนะนำนิดนึงว่าถ้าสวอชหรือแต่งแล้วไม่ใช่ทางตัวเองก็ลองส่งต่อก็ได้ ไม่ต้องเก็บไว้ให้เป็นขยะอย่างน้อยสิ่งที่เราอาจจะตั้งทิ้งไว้มันอาจจะใช้หมดในมือคนอื่นก็ได้นะคะ อันนี้ฝากถึงทุกคนเลยไม่ใช่แค่อินฟลูฯเนอะ เผื่อมีคนชอบซื้อของใหม่ ♥


วิธีใช้เครื่องสำอางให้คุ้มค่า 3. ซื้อเครื่องสำอางแค่พอใช้งาน

รูปภาพ:

บางคนเป็นมือใหม่หัดแต่งหน้าหรือบางคนอาจจะอยากซื้อเครื่องสำอางทุกประเภทเพื่อมาใช้ แต่อาจจะไม่ได้ทันสังเกตว่าบางอย่างเราก็ไม่ได้ใช้นี่นา อย่างเช่น ปกติแต่งหน้าอ่อน ๆ ไปเรียน ไม่ค่อยชอบแต่งตา ไม่อยากตื่นเช้ามาแต่งตาด้วย ซื้อพาเลตต์อายแชโดว์มาก็อาจจะไม่ได้ใช้ก็ได้นะคะ ดังนั้นแนะนำว่า

ให้เราซื้อเครื่องสำอางแค่พอใช้งาน อันไหนใช้ก็ซื้อ

อันไหนไม่ใช้หรืออาจจะไม่ได้ใช้ยาว ๆ ก็ไม่ต้องซื้อ ของมันไม่ต้องมีทุกอย่างก็ได้นะคะเพราะเครื่องสำอางต่อให้เราไม่ได้มีครบทุกประเภทเราก็สามารถแต่งหน้าได้ทำให้เมคอัพมันสวยขึ้นได้เหมือนกัน


วิธีใช้เครื่องสำอางให้คุ้มค่า 4. ทดลองสี เนื้อผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อใช้

รูปภาพ:

ตอนนี้โลกเราเข้าสู่ยุคที่ซื้อของออนไลน์กันฉ่ำมาก สะดวกสุด ๆสั่งกันเป็นว่าเล่นเลย ซึ่งกับเครื่องสำอางเราว่าจริง ๆ ควรจะไปทดลองสี เนื้อผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อใช้นะคะ คือบางครั้งเราสั่งซื้อแบบคิดว่าใกล้เคียงผิวมา สรุปมันไม่ตรงกับผิวซะอย่างนั้น ต้องมาขายต่อหรือบางทีขายไม่ได้ก็ต้องเอามาตั้งดองไว้อีก กลายเป็นว่าซื้อมาเสียเที่ยวแล้วก็อาจจะเป็นขยะด้วย อยากให้ทุกคนเสียเวลาสักนิดนึงนะคะในกรณีที่ไม่รู้เฉดสีและอยากซื้อจริง ๆ ก็ไปลองของจริงก่อนเลยว่ามันเป็นยังไง เผื่อไปลองจริง ๆ อาจจะไม่ชอบจะได้ไม่เสียเงินไปเปล่า ๆ ฟรี ๆหรือต้องรอมาขายต่อด้วยนะคะ


วิธีใช้เครื่องสำอางให้คุ้มค่า 5. ถ้าซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ให้ลองขายต่อ/ส่งต่อ

รูปภาพ:

อย่างที่บอกไปเลยค่ะว่าถ้าชิ้นไหนลองแล้วไม่ชอบ ไม่ใช่ ไม่เข้ากับสไตล์การแต่งหน้าของเราสุด ๆ ให้เราขายหรือส่งต่อให้คนอื่นนะคะกรณีไม่เดือดร้อนเรื่องเงินก็อาจจะให้เพื่อน ให้พี่ ให้น้อง ให้แม่ ให้ญาติ ๆ ไปใช้ต่อก็ได้ แต่ถ้าอยากได้เงินคืนกลับมาบ้าง คืนทุนสักหน่อยนึงก็แนะนำว่าให้ขายต่อค่ะแต่ ๆ ขายเครื่องสำอางต่อก็ต้องรักษาความสะอาดด้วยนะคะเช่น ซื้อมาแล้วแต่กลัวไม่เข้ากับตัวเองก็อย่าใช้นิ้วไปจับไปแตะ ให้ใช้แปรงที่ซักสะอาดเอาเนื้อผลิตภัณฑ์ขึ้นมาแทน อย่างพวกลิปสติก อายแชโดว์ บลัชออน คอนทัวร์/บรอนเซอร์ เป็นต้น จะได้ส่งต่อได้แบบสบายใจทั้งคนขายและคนรับต่อ ส่วนพวกรองพื้นพวกนี้จะปลอดภัยกว่าเพราะว่ามันต้องบีบออกมาใช้ซะส่วนใหญ่นะคะแต่ก็ต้องทำความสะอาดตรงหัวปั๊มด้วยนะเออ



ได้รู้เรื่องFast Beautyกันไปแล้ว แถมยังได้วิธีการเป็นสายบิวตี้แบบรักโลกมากขึ้นด้วยหวังว่าชาวซิสและคนอ่านทุกคนจะเข้าใจและนำไปปรับใช้ในชีวิตจริงกันน้าคือตอนนี้โลกของเราก็อยู่ในขั้นวิกฤตประมาณนึงแล้วนะคะ สังเกตจากสภาพอากาศนี่จะชัดสุด ๆ เลย หน้าร้อนเริ่มร้อนจัด ๆ มากขึ้นทุกปีเนื่องจากชั้นบรรยากาศโดนทำลายเรื่อย ๆ ด้วย ซึ่งถ้ามันร้อนขึ้นเรื่อย ๆ มนุษย์แบบเรา ๆ ก็จะอยู่ไม่ได้ ดังนั้นช่วยกันบ้างคนละนิดคนละหน่อย นอกจากจะช่วยโลกแล้วยังได้ประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วยน้า~ อ้อ!นอกจากนี้ใครที่มีเครื่องสำอางหมดอายุก็สามารถเอาไปบริจาคตามที่ต่าง ๆ ได้นะคะบางที่เขาเอาไปทำสีให้เด็ก ๆ ใช้วาดภาพหรือบางที่ก็เอาไปแต่งหน้าศพได้ ลองไปหาข้อมูลกันได้นะคะ ส่วนทางเราขอไปรวบรวมเครื่องสำอางเก่า ๆ แล้วไปบริจาคก่อน ไว้กลับมาพบกันใหม่ค่า บ๊ายบาย ♥


บทความแนะนำ ที่ชาวซิสต้องไม่พลาด