สวัสดีค่ะชาวซิส! สำหรับช่วงนี้ไม่ว่าจะเลื่อนฟีดไปทางไหนก็จะต้องเจอกับคำว่า “เรตินอล” ไม่หยุดหย่อนเลยค่ะ ทั้งยังมีรีวิวจากผู้ใช้มากมายที่ออกมาพูดถึงผลลัพธ์หลังใช้สุดปัง ถือเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ที่เรียกได้ว่ามาแรงสุดๆ ในช่วงนี้เลย แต่แต่แต่! ทางเราเชื่อว่าเพื่อนน่าจะเคยได้คำว่า “เรตินอยด์” แอบสงสัยมั้ยคะว่าเรตินอยด์ คืออะไร ? เรตินอล VS เรตินอยด์ มีความแตกต่างกับเรตินอลอย่างไร สามารถใช้ทดแทนกันได้หรือมั้ย ? ในวันนี้ทางเราจึงอยากจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้สึกเรตินอล และเรตินอยด์ไปพร้อม ๆ กันค่ะว่าทั้งสองอย่างแตกต่างกันอย่างไร และนอกจากนี้เรายังขอมาป้ายยา เรตินอล สำหรับผิวแพ้ง่าย และผู้เริ่มต้นใช้กันด้วยค่ะ


เรตินอล VS เรตินอยด์ คืออะไร ?


เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นภาพและเข้าใจง่ายทางเราจะขอใช้คำพูดที่ไม่ทางการแพทย์มาก และจะสรุปแบบสั้น ๆ ให้ฟังเลยค่ะว่าทั้งเรตินอล และเรตินอยด์ คือสารชนิดเดียวกัน นั่นก็คือ สารอนุพันธ์ของวิตามินเอ (vitamin A derivatives) ที่สกัดจากธรรมชาติ และที่มาจากการสังเคราะห์ แต่เนื่องจากตัวอนุพันธ์ของวิตามินเอจะเป็นสารที่ค่อนข้างแรงมาก ดังนั้นจึงมีการนำอนุพันธ์ของวิตามินเอมาดัดแปลงเพื่อให้ใช้ง่ายขึ้น โดยที่เรารู้จักและได้ยินชื่อบ่อย ๆ ก็จะเป็น

เรตินอยด์ : จะเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอที่มีการดัดแปลงน้อยที่สุดจึงจะมีฤทธ์ที่ค่อนข้างแรงและทำให้เกิดการระคายเคืองได้มากที่สุด

เรตินอล : จะเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอที่มีการดัดแปลงมา 2 Step จาก Reti ค่ะ จึงมีความอ่อนโยนมากกว่า และอาจจะเห็นผลช้ากว่าตัวเรตินอยด์นั่นเอง


ประโยชน์ของเรตินอยด์

โดนส่วนใหญ่เรามักจะได้ยินประโยชน์ของเรตินอยด์ว่ามีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวหน้าดู Glass Skin แต่นอกเหนือจากเรื่องริ้วรอยเรตินอยด์ยังมีประโยชน์ตามด้านล่างนี้อีกค่ะ

  • ช่วยรักษารอยแผลเป็น ริ้วรอยลึก จุดด่างดำ และผิวที่ขาดความชุ่มชื้น
  • ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่อุดตันรูขุมขน
  • ช่วยสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ เพื่อที่จะลดเลือนริ้วรอย
  • รักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดการสร้างเซลล์สร้างเม็ดสี ที่เป็นสาเหตุของจุดด่างดำกระฝ้า
  • ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพให้หลุดลอกออก เพื่อเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส

ข้อควรระวังสำหรับคนที่จะใช้เรตินอลและเรตินอยด์


เนื่องจากอนุพันธ์ของวิตามินเอ เป็นสารที่ค่อนข้างแรงมาก ยิ่งหากคนที่ใช้เรตินอยด์ที่มีการดัดแปลงน้อยมากอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ในช่วงแรก และในกลุ่มคนที่มีสิวอยู่ใต้ผิวหนัง เรตินอยด์และเรตินอลจะผลัดเซลล์ผิวทำให้มีสิวดันออกมาได้ และอีกข้อที่สำคัญมากของการใช้เรตินอยด์ และเรตินอลคือ “ห้ามทากลางวัน” เนื่องจากเรตินอลและเรตินอยด์จะเป็นสารที่ไวต่อแรงแดด ประสิทธิภาพอาจลดลงได้


วิธีใช้สำหรับมือใหม่


หากใครที่เป็นมือใหม่ในช่วงแรกที่เริ่มใช้เรตินอล และเรตินอยด์ แนะนำว่าให้เพื่อน ๆ เริ่มใช้ทั้งเรตินอล และเรตินอยด์ใน 0.01 % และสัปดาห์แรก ให้ใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง สัปดาห์ที่ 2 เพิ่มความถี่เป็น วันเว้นวัน สัปดาห์ที่ 3 เป็นต้นไปสามารถใช้ทุกคืนได้ และนอกจากนี้หลังจากที่ใช้ เรตินอล ต้องใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ตามทุกครั้ง เน้นว่าทุกครั้งเลยค่ะ แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ แนะนำทำเทคนิคแซนวิชด้วยการลง มอยซ์เจอไรเซอร์ + เรตินอล + มอยซ์เจอไรเซอร์ เพื่อลดการระคายเคือง ส่วนในเวลากลางวันขอเน้นย้ำว่าห้ามลืมทาครีมกันแดดเด็ดขาดเลยนะคะ จำเป็นมาก ๆ เลย



แนะนำ 5 เรตินอล สำหรับมือใหม่ ผิวแพ้ง่าย


เรตินอล CERAVE Resurfacing Retinol Serum



รูปภาพ:

มาเริ่มกันที่ CERAVE Resurfacing Retinol Serum ที่มาในรูปแบบ Encapsulated Retinol ไม่สลายตัวง่าย จะทำงานเมื่อเซรั่มซึมถึงผิวชั้นล่าง และนอกจากนี้ยังมี สารสกัดลิโคริซ (Licorice Extract) ที่ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ลดเลือนจุดด่างดำบนชั้นผิว พร้อมทั้งยังช่วยเสริมปราการผิวแข็งแรง ด้วย เซราไมด์ 3 ชนิด3 ที่จำเป็นต่อผิว ช่วยบำรุงผิวชุ่มชื้นพร้อม Niacinamide ปลอมประโลมผิว ลดการระคายเคือง

ราคา : 715 บาท


ครีมเรตินอล COSRX The Retinol 0.1 Cream


รูปภาพ:


มาต่อกันที่ COSRX The Retinol 0.1 Cream เรตินอลเนื้อครีมที่มีส่วนผสม Vitamin A อยู่ที่ 0.1% ที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอยและคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว ปลอบประโลมผิวและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ ตัวเนื้อสัมผัสจะค่อนข้างยืดหยุ่น ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ

ราคา : 620 บาท


เรตินอลยี่ห้อไหนดี INGU Green Tea Retinol Repair Shot


รูปภาพ:


INGU Green Tea Retinol Repair Shot เป็นเซรั่มลดเลือนริ้วรอยด้วย Encapsulated Retinol เรตินอลรูปแบบแคปซูลที่มีความคงทนและอ่อนโยนกว่าเรตินอลทั่วไป ทำงานร่วมกับ Matrixyl Synthe’6 MBAL เปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เพื่อให้ริ้วรอยแลดูลดลงและผิวเรียบเนียนขึ้น มีสารสกัดจากชาเขียวป่าที่ช่วยป้องกันคอลลาเจนในชั้นผิวไม่ให้ถูกทำลายจากแสงแดดและมลภาวะ อีกทั้งยังมี PacifeelTM ที่ช่วยปลอบประโลมผิวจากการระคายเคือง และ AquaxylTM ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

ราคา : 890 บาท



เรตินอลลดริ้วรอย Vichy Liftactiv Retinol Specialist Deep Wrinkles Serum


รูปภาพ:

Vichy Liftactiv Retinol Specialist Deep Wrinkles Serum ด้วยเรตินอลบริสุทธิ์ที่เข้าจัดการปัญหาริ้วรอยได้แม้ว่าจะเป็นริ้วรอยร่องลึก ฟื้นบำรุงผิวให้แลดูกระชับและอ่อนเยาว์ และ โพรไบโอติก แฟรคชั่นส์ ปลอบประโลมและช่วยผลัดเซลล์ผิวเผยผิวใหม่ ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี ดูเรียบเนียนอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่เดือนแรกที่ใช้

ราคา : 1,805



เซรั่มเรตินอล La Roche Posay Retinol B3 Serum



รูปภาพ:

La Roche-Posay RETINOL B3 Serum เซรั่มเรตินอล บี3 ผสานโมเลกุลทางการแพทย์ ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึก ให้ผิวดูตึงกระชับขึ้น สีผิวดูสม่ำเสมอและเรียบเนียน อ่อนโยนไม่ระคายเคืองต่อผิวด้วยแรงบันดาลใจจากศาสตร์ของแพทย์ผิวหนัง ด้วยโมเลกุลเรตินอลช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึกรวมถึงริ้วรอยจากแสงแดด ผิวดูตึงกระชับขึ้นมา พร้อมกับเทคโนโลยี Gradual Release ที่ทำให้ประสิทธิภาพของเรตินอลยังคงเดิมแต่ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง ผสานวิตามิน บี3 และน้ำแร่ ลา โรชโพเซย์ที่ปลอบประโลมผิว พร้อมเสริมปราการผิวให้แข็งแรง รวมถึงมี Glycerin ที่ทำให้ผิวชุ่มชื่นดูอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้านระคายเคืองรับมือกับสัญญาณแห่งวัยที่ร่วงโรยอย่างอ่อนโยน ด้วยเซรั่มผสานโมเลกุลทางการแพทย์อันทรงพลัง

ราคา : 1,360 บาท


และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ เรตินอล VS เรตินอยด์ ที่เรามาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ค่ะ สำหรับสกินแคร์ตัวนี้ต้องยอมรับว่ามาแรงจริงๆ แนะนำเพื่อน ๆ พิจารณาข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกใช้ด้วยนะคะ เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละบุคคลแตกต่างกันนั่นเองค่ะ ถ้าใครสนใจเทรนด์บิวตี้แบบนี้ มาติดตามกันได้ทุกวันที่ SistaCafe


บทความที่ชาวซิสห้ามพลาด