1. SistaCafe
  2. ลูกรักในที่ทำงาน สถานการณ์ที่ไม่อยากเจอ แต่ถ้าเจอต้องดูแลใจยังไง ?

เราว่าคนวัยทำงานหลายๆ คน น่าจะกำลังประสบกับปัญหานี้อยู่ สถานการณ์ ลูกรักในที่ทำงาน ไม่ว่าจะตกอยู่ในตำแหน่งคนโปรด หรือการที่ต้องทำงานกับคนโปรดของเจ้านาย ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน ก็น่าปวดหัวทั้งนั้น! รู้มั้ยว่า

' มีงานวิจัยชี้ว่า หัวหน้างานกว่า 84% ยอมรับว่ามีการเลือกปฏิบัติในองค์กรจริงในองค์กรของตน และความชื่นชอบส่วนตัวมีบทบาทสำคัญในการกำหนดว่าใครควรได้รับการเลื่อนตำแหน่ง นอกจากนี้ วิจัยยังชี้อีกว่า หัวหน้างานกว่า 56% จะเลื่อนตำแหน่งให้คนที่ชอบก่อนจะพิจารณาความสามารถของพนักงานคนนั้นๆ อย่างเป็นทางการ '

( ขอขอบคุณข้อมูล : bangkokbiznews )

นี่มันอะไรกันคะเนี่ย! เอาจริงๆ เราว่าหลายๆ คนก็น่าจะรู้ว่า ทุกๆ ที่ทำงาน ก็มักจะมีลูกรักลูกชัง น้องรักน้องชังกันอยู่แล้ว ซึ่งการเลือกปฎิบัตินี้ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นหรอกค่ะ แต่มีมานานแล้วต่างหาก วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับคำว่า ลูกรักในที่ทำงาน กัน มันคืออะไร ต้องรับมือยังไง แล้วถ้าเป็นเราที่ตกอยู่ในตำแหน่งนี้ ต้องทำยังไง ผลเสียของการเลือกที่รักมักที่ชังมันเป็นยังไง ไปไขข้อข้องใจพร้อมๆ กันเลย


💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚


ลูกรักในที่ทำงาน มันคืออะไร ?

ถ้าให้นิยามคำว่า ลูกรักในที่ทำงาน แบบเข้าใจง่ายๆ ก็อาจจะพูดสั้นๆ ได้ว่า คนโปรดของเจ้านาย นั่นเองค่ะ ระบบลูกรักหัวหน้าในที่ทำงาน เป็นเรื่องที่ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มันมีมานานมากๆ แล้ว และมีอยู่แทบจะทุกบริษัทเลยก็ว่าได้ แต่มักจะไม่ค่อยพูดถึงอย่างโจ่งแจ้งหรือเปิดเผยต่อคนภายนอก ถามหน่อยว่า ใครมันจะไปยอมรับว่า คนนี้เป็นลูกรัก คนนี้เป็นลูกชัง เขาก็ต้องบอกว่า ก็รักเท่ากัน ปฎิบัติเท่ากัน ซึ่งในฐานะพนักงานตัวเล็กๆ เราจะรู้อยู่แล้วว่า มันไม่เท่า แต่ใครเล่าจะกล้าเถียง!




เขาเป็นลูกรักจริง หรือเราแค่อิจฉา

คนที่ตกอยู่ในตำแหน่งลูกรักในที่ทำงาน ส่วนใหญ่แล้ว เขาอาจจะไม่รู้ตัวหรอกว่าเขาคือคนโปรดที่เจ้านายรัก เขาอาจจะมองว่า หัวหน้าก็ดูแลเท่าๆ กันนะ ซึ่งการที่ถูกมองว่า เป็นลูกรัก ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นมุมมองของคนอื่นที่มองเข้ามามากกว่า แต่ว่า การที่เรามองใครว่าเป็นลูกรักเจ้านายนั้น รู้มั้ยว่า มันจะแบ่งได้เป็น 2 บริบทคือ

  • เขาเป็นลูกรักเจ้านายจริงๆ พิสูจน์ได้จากการกระทำของเจ้านาย ที่เลือกที่รักมักที่ชังอย่างชัดเจน ทั้งเข้าข้างคนคนนี้ ทั้งเอาใจใส่คนคนนี้ การแสดงออกของเจ้านาย ที่มันชัดเจนว่า เอนเอียงไปที่คนคนนี้ ไม่ใช่แค่รู้สึกไปเอง แต่การกระทำต่างๆ มันชัดมาก จนคนรอบตัวเองก็รู้สึกเช่นกัน
  • เป็นแค่ข้ออ้างที่คุณพยายามหามาเพื่อซัพพอร์ตความผิดพลาดของตัวเอง ทุกครั้งเวลาที่ทำงานพลาดแล้วโดนด่า แต่อีกคนกลับไม่โดนด่า คุณเลยติ้ต่างเอาเองว่า ใช่ซิ ฉันมันไม่ใช่ลูกรักไง ทำอะไรก็ผิดไปหมด นั่นเลยทำให้คุณไม่พอใจ และเกิดอคติขึ้นกับคนคนนั้น

แต่ถ้าถามว่า ลูกรักในที่ทำงาน มีจริงอยู่มั้ย ก็คงต้องตอบว่า มีจริงค่ะ ซึ่งมันก็อยู่ที่มุมมองของเราเองด้วยนะว่า เราจะมองเขาว่าเป็นลูกรักหรือไม่ บางคนเขาอาจจะแค่ทำงานดี หรือมีทัศนคติที่ดี ขยัน เข้าอกเข้าใจ และทำงานร่วมกับคนอื่นได้ดีก็ได้ เลยทำให้มีคนรัก คนเอ็นดูเขา ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนว่า อยากจะวางตำแหน่งลูกรักนี้ให้กับคนคนนี้หรือไม่ และเลือกที่จะวางตำแหน่งนี้ไห้เขาเพราะอะไร ในแง่ที่ดี หรือในแง่ที่ไม่ดี





สาเหตุที่ก่อให้เกิดลูกรักในที่ทำงาน

หลายๆ คนอาจจะกำลังตั้งคำถามกันอยู่แน่ๆ ว่า ลูกรักในที่ทำงาน สาเหตุหลักๆ มันเกิดมาจากอะไร วันนี้เราได้รวบรวมสาเหตุหลังๆ ของปัญหาดังกล่าวนี้มาให้แล้ว ตามลิสต์นี้เลยค่ะ

  • ความใกล้ชิด และความสัมพันธ์ส่วนตัว : บางครั้งความใกล้ชิด ก็อาจจะกลายเป็นปัญหาได้ ยิ่งถ้าหัวหน้าคนนึง สนิทสนมและไว้ใจลูกน้องคนนึงมากๆ นี่ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดลูกรักในที่ทำงานเกิดขึ้น เวลามีงานสำคัญๆ ก็มักจะมอบให้คนคนนี้ทำ คอยให้การสนับสนุน และเปิดโอกาสให้กับคนที่ตนรักมากกว่า นอกเหนือจากความใกล้ชิดแล้ว ระบบเครือญาติ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้เกิดปัญหาเลือกที่รักมักที่ชังเช่นกัน
  • ภาพลักษณ์ภายนอก : ลูกน้องบางคน อาจจะมีบุคลิกภาพเด่น มีเสน่ห์ วางตัวเก่ง เอาใจเก่ง จึงไม่แปลกที่จะคว้าหัวใจของหัวหน้าได้ง่ายๆ ทำให้ได้รับความไว้วางใจมากกว่าลูกน้องที่ไม่ค่อยเข้าหา ไม่ค่อยเอาหน้า แม้จะทำงานเก่งก็ตาม
  • ระบบการประเมินไม่ดีมากพอ : มีหลายๆ องค์กร ที่ยังไม่มีเกณฑ์และกระบวนการประเมินผลการปฏิบัติงานที่ชัดเจนและเป็นระบบเท่าที่ควร ทำให้หลายๆ ครั้งการพิจารณาการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง การขึ้นเงินเดือนต่างๆ มักจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของหัวหน้างานเพียงคนเดียว จุดนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดอคติและการลำเอียงได้ง่าย
  • เส้นสาย : อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้น ระบบเส้นสาย ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้เกิดปัญหาลูกรักในที่ทำงานได้ค่ะ ความสัมพันธ์ส่วนตัว เครือญาติ หรือการเป็นคนวงในของผู้บริหารระดับสูง ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมและเลือกปฎิบัติเกิดขึ้น บางคนได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เพิ่มเงินเดือน ทั้งที่ความสามารถไม่เพียงพอ ท้ายที่สุดก็กลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยากจะแก้ไข

💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚


ผลเสียของระบบลูกรัก

เอาจริงๆ ไม่ต้องบอก เพื่อนๆ ก็น่าจะรู้สึกได้อยู่ว่า การมีลูกรักในที่ทำงานนั้น มันมีผลกระทบต่อคนอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นลูกรักของเจ้านายอย่างแน่นอน พูดง่ายๆ คือ พอเป็นลูกรักแล้ว เขาก็จะได้สิทธิพิเศษจากหัวหน้า ที่มันเหนือกว่าพนักงานคนอื่นๆ และส่วนใหญ่แล้ว พวกลูกรักมักจะชอบหลงตัวเอง หลงในอำนาจ เพราะคิดว่ามีหัวหน้าคอยถือห่าง คอยให้ท้าย จะทำอะไรก็ No สน No แคร์ บางคนไม่กระตือรือรนกับงาน อีกทั้งชอบคาบข่าวไปฟ้อง พร้อมปรุงใส่ไข่ให้เสร็จสรรพ จนกลายเป็นการเมืองในที่ทำงาน ที่ต่างคนต่างไม่ไว้ใจกัน กลิ่นดราม่าคลุ้งไปทั่ว!

ผลร้ายและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ อย่างแรกคือ เสียสุขภาพจิต อย่างที่สองคือ บรรยากาศในที่ทำงานไม่ดี ส่งผลให้ความอยากทำงานลดลง ขวัญกำลังใจลดลง อัตราการลาออกของพนักงานสูงขึ้น และรู้มั้ยว่า ปัญหาเลือกที่รักมักที่ชัง ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คนหลายๆ คนเกิดภาวะ Burnout ด้วย เพราะเขามองไม่เห็นถึงความก้าวหน้าของตัวเอง ทำงานอะไรส่งไปก็ไม่ได้รับคำชม ไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ฐานเงินเดือนเท่าเดิม งานหนักกว่าเดิม ในขณะที่ลูกรักหัวหน้า ไม่ต้องทำอะไรมากมาย เลียแข้งเลียขา ประจบสอพลอไปวันๆ อยู่ๆ ฐานเงินเดือนขึ้น ตำแหน่งขึ้น คนที่ทำงานแทบตายจะไปทนอยู่ได้ยังไง อีกอย่างนะ การที่มีลูกรักบังเกิดขึ้นแบบนี้ ที่เลวร้ายที่สุดคือ ทีมพัง งานพัง ขอบอกเลยว่า จบเห่ทั้งแผนกแน่นอน





วิธีรับมือกับบรรดาลูกรักหัวหน้า

อยากรู้วิธีรับมือกับบรรดาลูกรักทั้งหลายกันใช่มั้ย ทำยังไง ถ้าเราจะต้องทำงานร่วมกับลูกรักในที่ทำงาน ต้องรับมือยังไง ต้องอยู่ยังไง ต้องแสดงออกยังไง วันนี้เรามีวิธีดีๆ มาแชร์ต่อกันแล้ว ลองหยิบไปปรับใช้กันดู น่าจะช่วยเพื่อนๆ กันได้อยู่นะ เพราะแต่ละวิธีก็ไม่ได้ยากอย่างที่เพื่อนๆ คิดเลยค่ะ

จัดการกับอารมณ์ของตัวเองก่อน : การไม่ได้รับการยอมรับ ต่อให้ทำดีแค่ไหน ก็ยังถูกมองข้าม เป็นปัญหาใหญ่ในที่ทำงานเลยนะ ไม่ใช่แค่เสียกำลังใจ แต่ยังส่งผลให้เรารู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม ไม่มั่นคง และขุ่นเคืองได้ด้วย แต่ไม่ว่ายังไง เราก็ไม่ควรเก็บเรื่องนี้มาคิดให้ปวดหัว การที่เรายังคงปล่อยให้ความคิดลบๆ แบบนี้ วนเวียนอยู่ในหัวไปเรื่อยๆ จะทำให้เสียสมาธิจนประสิทธิภาพในงานถดถอยลงได้ ความคิดแง่ลบ อคติต่างๆ จะสร้างวงจรความรู้สึกเชิงลบที่ร้ายแรง นำไปสู่พฤติกรรมที่ทำลายตัวเอง สุดท้ายก็มีแต่จะแย่กับแย่เท่านั้น

วิธีที่ดีที่สุดคือ ปล่อยวาง และลองทบทวนความรู้สึกของตัวเองดู ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และค่อยๆ หาทางแก้ปัญหาไปที่ละนิดๆ พยายามอย่าคิดเอาเองว่าสถานการณ์นี้เป็นเรื่องส่วนตัว และมองหาเพื่อนร่วมงานที่ช่วยซัพพอร์ตกันและกันดีกว่าค่ะ

อย่าคาดหวังจะแก้ไขที่ใคร แต่ให้เลือกแก้ไขที่ตัวเอง : เราไม่สามารถไปขอให้ใครเปลี่ยนตัวเองได้ และไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงใครได้ด้วยนะ ทั้งนี้การรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าและถูกมองข้าม อาจจะทำให้เรารู้สึกไม่ชอบหน้าทั้งลูกรักและหัวหน้าได้ แต่ก็อย่างที่บอก เราไม่ควรเก็บเรื่องเหล่านี้มาใส่ใจ พยายามอย่ามีอคติกับหัวหน้า นั่นคือทางออกที่ดีที่สุด และควรรับมืออย่างเป็นมืออาชีพค่ะ

วิธีที่ดีที่สุดคือ เมื่อเรารู้แล้วว่า ทำแบบไหนหัวหน้าชอบ ทำแบบไหนแล้วเราจะได้เป็นที่รัก และได้รับคำชื่นชม ก็ลองทำตามดู อะไรที่มันดีอยู่แล้ว ก็ทำต่อไป อะไรที่เราไม่เคยทำ และรู้สึกว่า นี่แหละ อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้คนคนนั้นเป็นที่รักต่อหัวหน้า เช่น การเข้าหา ความกระตือรือร้น ความใส่ใจ การวางตัว เป็นต้น จุดไหนที่เรารู้สึกว่า เราขาด เราบกพร่อง ลองค่อยๆ เพิ่มเข้าไปทีละนิด เราว่ามันดีกว่าการไปนั่งอิจฉา หรือนินทาลูกรักหัวหน้านะ

ลองถามถึงความคาดหวังของหัวหน้า และบอกความต้องการในการเติบโตของเรา : ถ้าเรารู้สึกว่า เราทำงานมาได้สักระยะแล้ว แต่ดูเหมือนหนทางในการไปต่อ มันช่างดูมืดมนเหลือเกิน อีกทั้งเราเองก็ยังไม่รู้อีกว่า ความคาดหวังของหัวหน้าเราคืออะไร แนะนำให้คุยกันเลยดีกว่า เราเชื่อว่า หัวหน้าหลายๆ คนใจกว้างพอที่จะรับฟังลูกน้องค่ะ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีนะ รับฟังความคาดหวังของหัวหน้า เราจะได้รู้ว่า เราควรปฎิบัติตัวยังไง ถึงจะตรงตามสิ่งที่หัวหน้าต้องการ บวกกับการที่เราได้บอกความต้องการในการเติบโตทางหน้าที่การงานของเราอย่างตรงไปตรงมา ก็อาจจะช่วยทำให้เราได้รับคำแนะนำดีๆ จากหัวหน้าด้วยก็ได้

สำคัญยิ่งกว่าคือ เมื่อคุณได้พูดความต้องการที่จะก้าวหน้าให้หัวหน้าได้รับรู้แล้ว อย่าลืมโชว์ผลงานที่บ่งบอกว่า เราพูดจริงทำจริง ให้เขาได้เห็นด้วยสองตาของเขาเองด้วย ไม่งั้นเขาจะด่าคุณได้ว่า ดีแต่ปาก พูดแล้วต้องทำให้เห็นให้ได้ อย่าดีแต่พูดส่งๆ ไป เพราะเราเชื่อว่า หัวหน้าทุกคน แม้เขาจะไม่พูด แต่สายตาของเขาคอยจับจ้องลูกน้องทุกคนอยู่เสมอนั่นแหละ



💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚


เมื่อเรากลายเป็น ' ลูกรัก ' เราควรทำยังไง ให้อยู่กับคนอื่นได้



พอได้ยินว่าตัวเองเป็น ลูกรัก เราก็มักจะตีความหมายไปแล้วว่า มันต้องไม่ดีแน่ๆ แต่จริงๆ แล้ว มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอไปนะ หลายๆ คนอาจจะกำลังตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ว่า นี่ถ้าฉันตกอยู่ในตำแหน่ง ' ลูกรัก ' แล้วฉันจะต้องทำยังไง สิ่งสำคัญที่สุด สำหรับเพื่อนๆ ที่ตกเป็นลูกรักในที่ทำงานคือ อย่าหลงในความรัก ความเอ็นดูนั้นจนลืมตัว อย่าคิดว่า ฉันได้รับความรัก ความไว้วางใจจากบอส ฉันก็ไม่ต่างอะไรจากมินิบอส ที่มีอำนาจ มีวาสนามากกว่าคนอื่น จำไว้นะคะ ในที่ทำงาน ไม่ได้มีแค่คุณหรอกนะ ที่จะกลายมาเป็นลูกรักของบอสได้ ยังมีคนอีกหลายๆ คน ที่พร้อมจะขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับคุณ ฉะนั้นอย่ามาวางอำนาจบาดใหญ่ค่ะสาว! ของแบบนี้ เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว บทมันจะไป ก็หายไปได้อย่างรวดเร็ว เหมือนคำโบราณว่า “ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงส์ ยามบุญลงหงส์เป็นกาน่าฉงน ยามบุญมาหมาหมูกลายเป็นคน ยามบุญหล่นคนเป็นหมาน่าอัศจรรย์”


วิธีที่ดีที่สุดของคนที่ถูกมองว่าเป็นลูกรัก

☑️ พิสูจน์ว่าเราเองเหมาะสม : เมื่อเราถูกมองว่าเป็นลูกรักแล้ว มันมักจะมาพร้อมกับคำติฉินนินทาค่ะ เมื่อวันที่เราได้เลื่อนขั้น หรือเพิ่มเงินเดือน เราจะถูกคำครหาว่ามาถึงจุดนี้ได้เพราะเป็นคนโปรด หรือได้สิทธิพิเศษ ฉะนั้นเราควรพิสูจน์ให้เพื่อนร่วมงานทุกคนได้เห็นเลยว่า เราทำได้ เพราะเรามีความสามารถ และเพราะเรามีความสามารถ เราถึงสมควรได้รับสิ่งเหล่านี้ ผลงาน ความพยายาม ความมุ่งมั่น และความทุ่มเทต่างๆ ของเรา จะเป็นเครื่องมือพิสูจน์ทุกๆ อย่างให้เอง

☑️ ไม่ใช้อำนาจเบื้องหลัง ทำร้ายเพื่อนร่วมงาน : บางคนพอรู้ตัวว่า ฉันเป็นลูกรัก ก็มักจะหยิบยืมอำนาจหัวหน้ามาอวดอ้างใส่เพื่อนร่วมงาน ทั้งกดดัน ทั้งแขวะ ทั้งใส่ร้ายป้ายสี จนทำให้ไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย แทนที่จะสร้างมิตร กลับเพิ่มศัตรูเพียบ!

อย่าใช้ตำแหน่งลูกรักของเราไปสร้างบาดแผลให้ใคร ถ้าไม่อยากถูกเกลียด สิ่งที่ควรทำคือ ต้องมีความเป็นกลาง และเป็นธรรม รวมถึงใส่ใจและเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ด้วย เพื่อคงความรักที่มีต่อทั้งกับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน เราควรซัพพอร์ตเพื่อนๆ คนอื่นๆ ในทีมด้วย ควรพูดสิ่งดีๆ ผลงานดีๆ ของเพื่อนๆ ในทีมให้หัวหน้าฟัง และไม่ควรรับความดีความชอบใดๆ เอาไว้คนเดียว อีกทั้งเมื่อทำผิด แม้เจ้านายจะไม่ว่าอะไร แต่เราก็ควรมีสปิริตที่จะยอมรับความผิดพลาดนั้นๆ ด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพื่อเรียกคะแนนสงสาร แต่เพื่อแสดงให้คนอื่นๆ ได้เห็นว่า ฉันก็เป็นพนักงานคนนึงที่ผิดพลาดได้เหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ เช่นกัน

☑️ ชื่นชมเพื่อนร่วมงานให้เจ้านายฟัง : อะไรคือสิ่งที่ทำให้เจ้านายประทับใจในตัวเรา ลองมองหาสิ่งเหล่านั้นดู ความขยัน ความสามารถ ทักษะพิเศษ มนุษยสัมพันธ์ มีตรงจุดไหนบ้าง ที่ทำให้เจ้านายชื่นชอบ และลองนึกดูว่า เพื่อนร่วมงานคนไหนที่มีคุณสมบัตินั้นเหมือนกัน หรือใกล้เคียงกับเราบ้าง บางครั้งการที่เราได้รับคำชมจากหัวหน้า มันก็ทำให้เราใจฟูเหมือนกันนะ แต่การได้แบ่งปันความชื่นชมให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ด้วย ก็จะยิ่งช่วยให้ความน่าหมั่นไส้ที่เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มีต่อเราลดลงได้ค่ะ

ลองพูดถึงเขาคนนั้นให้เจ้านายฟังว่า ไม่ได้มีแค่เราคนเดียวเท่านั้น ที่ควรได้รับความชื่นชม ยังมีคนนั้นคนนี้อีกหลายคนเลย ที่มีส่วนร่วมและควรได้รับคำชมนี้ด้วยเช่นกัน แสดงให้เจ้านาย และเพื่อนร่วมงานได้เห็นว่า เราใจกว้างมากพอ และเราจริงใจต่อทุกๆ คนมากพอ การทำแบบนี้ จะช่วยลดทอนความน่าหมั่นไส้ และความเกลียดชังต่อเพื่อนร่วมทีมได้ อย่างน้อยๆ ก็เพื่อแสดงให้เพื่อนๆ ได้เห็นว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับคำชม และเราก็ไม่ได้อยากได้รับคำชื่นชมเหล่านั้นแค่คนเดียว



💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚


สรุป

ระบบ ลูกรักในที่ทำงาน ถามว่ามีอยู่จริงมั้ย ก็มีอยู่จริงๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันมีอยู่แทบจะทุกที่เลยค่ะ แต่การที่เราจะมองใครว่า เป็นลูกรักหัวหน้า สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงคือ เขาเป็นจริงๆ เพราะหัวหน้าแสดงออกชักเจนว่าเอนเอียง และเลือกปฎิบัติให้เห็นชัดเจน หรือเพราะเราแค่หาข้ออ้างให้ตัวเอง เพื่อกลบความผิดพลาดที่เราทำ โดยโยนข้อกล่าวหาไปให้เขา เพียงเพราะเขาทำได้ดีกว่าเรา ต้องแยกออกเป็นสองบริบทนะจ๊ะ

ในฐานะลูกน้อง เราว่า การจะอยู่ร่วมกับลูกรักหัวหน้า มันค่อนข้างอยาก ยิ่งถ้าคนคนนั้นไม่ใช่คนดีด้วยแล้ว ยิ่งยากหลายสิบเท่า ถ้าเพื่อนๆ ที่กำลังประสบกับปัญหานี้ รู้สึกว่า การทำงานกับทีมนี้ หรือกับคนคนนี้ มันทำให้เรารู้สึกหายใจไม่ออก อึดอัด คับข้องใจ จริงๆ ไม่ได้อยากแนะนำแบบนี้นะ แต่ถ้าร่างกายไม่ไหว แถมจิตใจก็ไม่โอเคด้วย อาจจะต้องเปลี่ยนที่ทำงานนะ แต่ก็อยากให้คำนึงไว้เสมอว่า ไม่มีที่ทำงานไหน ที่จะถูกใจเราไปซะหมดหรอก สุดท้ายเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว และจัดการกับความรู้สึกของตัวเองให้ได้ด้วยนะ

สุดท้ายนี้ ในฐานะของหัวหน้า เราว่า ไม่ว่าคุณจะรักลูกน้องคนไหนก็ตาม อยากให้เก็บเอาไว้ในใจหน่อย ไม่จำเป็นต้องแสดงออกว่า รักมาก เอ็นดูมาก จนกลายเป็นเลือกปฎิบัตินะคะ แม้ว่า ลูกรักของคุณจะเป็นเด็กเส้นก็ตาม แต่ในฐานะหัวหน้าคนแล้ว คุณแบกภาระหน้าที่ แบกความคาดหวัง และแบกคนไว้มากมาย ฉะนั้นคุณต้องปฎิบัติกับลูกน้องทุกคนอย่างเท่าเทียมกันค่ะ เพื่อบรรยากาศในที่ทำงานที่ดี และเพื่อความสามัคคีกันของทีมด้วย



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : www.film.ru ,www.ttshow.tw

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ทำงานหนักแค่ไหนก็ไร้ค่า เมื่อเจอ ‘ลูกรัก’

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ทำยังไงเมื่อกลายคนโปรดของผู้ใหญ่?



💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚



บทความแนะนำเพิ่มเติม

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1