ผมลีบแบนติดหนังศีรษะ หรือผมบาง มักจะมีลักษณะที่ผมแนบติดหนังศีรษะ ดูเบาฟู ไม่มีน้ำหนัก ไม่มีวอลุ่ม จัดทรงยาก หลายครั้งกลายเป็นปัญหา “ ผมบาง ผมลีบแบน ” กวนใจใครหลายคน ซึ่งสาเหตุที่ผมลีบและดูบางอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม, หนังศีรษะมันเกินไป, การใช้ความร้อนบ่อย หรือแม้แต่การเลือกทรงผมที่ไม่เหมาะกับลักษณะผมของตัวเอง ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถ แก้ไขได้ ฉะนั้นสาวผมบางอย่าเพิ่งกังวลไปเรารวบรวมเคล็ดลับเพิ่มวอลุ่มให้ผมด้วย ทรงผมสวยๆ ที่เหมาะกับคนผมเส้นเล็กหรือมีผมบางลีบแบน และวิธีดูแลให้ทรงผมคนผมบาง ลีบ ดูหนาและมีวอลลุ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติที่ทำได้เองทุกวันมาฝาก รวมถึงชวนไปรู้จักสาเหตุของผมลีบแบนในแบบต่าง ๆ พร้อมแนะนำพิกัดร้านตัดผมปัง ๆ มาด้วย
เลือกอ่านตามหัวข้อ

parae
Content Manager
นักคิดนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านเนื้อหาบิวตี้ ไลฟ์สไตล์ และสุขภาพในออนไลน์กว่า 10 ปี

สาเหตุที่ทำให้ผมลีบบาง ดูแบน
ก่อนจะแก้ปัญหาผมบาง ลีบแบน เราต้องรู้ก่อนว่าผมบางลีบแบนเป็นยังไง ข้อสังเกตคือ ผมแนบติดหนังศีรษะโดยเฉพาะบริเวณโคนผม, ผมไม่มีน้ำหนัก ไม่มีวอลุ่ม ดูแบนขาดความพองฟู, จัดทรงยาก ไม่ค่อยอยู่ทรงแม้จะจัดแต่งแล้ว, น้ำหนักเบา เห็นหนังศีรษะได้ง่ายโดยเฉพาะเมื่ออยู่ใต้แสงจ้า
จากนั้นต้องดูต่อว่าสาเหตุของผมบางหรือลีบแบนนั้นมาจากอะไร ซึ่งจริงๆ แล้วเกิดได้จากหลายปัจจัยเลยค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะบางสาเหตุเพื่อน ๆ ก็สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อแก้ปัญหานี้ได้ ฉะนั้นสาวผมบางอย่าเพิ่งหมดหวังไปนะคะ

สาเหตุของผมลีบแบน
- พันธุกรรม
หากครอบครัวไหนมีประวัติผมบาง โครงสร้างเส้นผมของเราอาจบางและแบนตามธรรมชาติเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากค่ะ แต่ยังพอมีวิธีที่สามารถจัดการให้ผมดูนุ่มฟูขึ้นได้ หากเราดูแลผมได้อย่างถูกต้อง
- หนังศีรษะมัน
ความมันบนหนังศีรษะทำให้เส้นผมจับตัวกัน ส่งผลให้ดูลีบลงอย่างเห็นได้ชัด ใครเป็นสายหมักผมสายดองผมไม่ชอบสระผมบ่อย ๆ ทำแบบนี้เป็นประจำขอเตือนไว้เลยว่าผมจะยิ่งแบนติดหนังศีรษะไปอีกนะ
- ขาดสารอาหาร
ร่างกายของเราต้องการโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุบางชนิดในการสร้างเส้นผม เช่น ไบโอติน ซิงค์ หรือธาตุเหล็ก หากขาดสิ่งเหล่านี้ผมอาจขึ้นช้า แห้ง และบางได้
- การใช้ความร้อนและสารเคมีบ่อยเกินไป
การหนีบ ดัด ไดร์ หรือทำสีผมบ่อยๆ ทำให้เส้นผมอ่อนแอและลีบลงในระยะยาวเช่นกัน ฉะนั้นพักบ้างไรบ้างควรเลี่ยงผมจากความร้อนบ้างนะคะ
- การใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่ไม่เหมาะสม
บางผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของซิลิโคนหรือสารที่ทำให้ผมหนักขึ้น อาจส่งผลให้ผมแบนง่ายโดยไม่รู้ตัว
- เลือกทรงผมไม่เหมาะกับลักษณะผมตัวเอง
ตัดผมผิดชีวิตเปลี่ยนได้เหมือนกัน การเลือกทรงผมให้เข้ากับใบหน้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะทรงผมที่ถูกต้องจะช่วยส่งเสริมให้เราดูดีขึ้นได้ ในบทความนี้จะมีทรงผมคนผมบาง ลีบแบน ควรหาทำมาแนะนำด้วยเช่นกันค่ะ
วิธีทำให้ผมดูมีวอลุ่ม หนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
การแก้ปัญหาทรงผมคนผมบาง ลีบแบน เชื่อไหมว่ามีวิธีที่แค่ปรับพฤติกรรมบางอย่างในการดูแลผมในชีวิตประจำวันของเราก็สามารถช่วยให้ผมดูมีวอลลุ่มและสุขภาพดีขึ้นได้แบบไม่ต้องพึ่งสารเคมีแรง ๆ หรือทรีตเมนต์ราคาแพงเลยด้วยซ้ำ รู้แบบนี้แล้วก่อนที่เพื่อน ๆ จะควักกระเป๋าไปเข้าคลีนิค อยากให้ลองเปิดใจเริ่มจากเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทำได้เองที่บ้านเหล่านี้ดูก่อนนะคะ
- สระผมให้เหมาะสม แล้วใน 1 อาทิตย์ควรสระผมกี่ครั้ง ? สำหรับคนหนังศีรษะมัน ควรสระผมวันเว้นวัน หรือ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อไม่ให้ความมันสะสมจนผมแบน แต่ถ้าใครที่หนังศีรษะแห้งมากเกินไป การสระบ่อย ๆ อาจทำให้ผมขาดความชุ่มชื้นได้ อาจเลือกสระ 2-3 ครั้งต่อาัปดาห์ ฉะนั้นควรเลือกความถี่ให้เหมาะกับสภาพผมของตัวเอง
- นวดหนังศีรษะขณะสระผม การนวดศีรษะเบาๆ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้รากผมแข็งแรงขึ้น เส้นผมที่งอกใหม่ก็จะหนาขึ้นได้ในระยะยาว
- งดใช้ความร้อนกับผมบ่อยๆ ความร้อนนี้แหล่ะตัวการทำร้ายเส้นผม ควรลดการหนีบหรือไดร์ผมด้วยความร้อนสูง เพราะจะทำให้ผมแห้ง เปราะ และลีบลงได้ ถ้าจำเป็นต้องใช้ความร้อนกับเส้นผม แนะนำให้ฉีดสเปรย์กันความร้อนก่อนเสมอนะคะ
- เลือกทรงผมคนผมบาง ผมลีบที่เหมาะสม สำหรับใครที่ผมบางก็สามารถเลือกทรงผมที่เหมาะสม เพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เช่น ทรงผมสั้นระดับคาง หรือบ๊อบไล่เลเยอร์ จะช่วยให้ผมดูพองขึ้นแบบไม่ต้องเซตเยอะ รวมถึงการซอยปลายผมให้ดูมีมิติ ที่ช่วยหลอกตาให้ผมดูหนากว่าเดิม เป็นต้น
- เลือกใช้แชมพูสำหรับผมบาง เพื่อน ๆ ที่มีปัญหาผมลีบแบน ควรเลือกแชมพูสูตรเฉพาะที่ช่วยฟื้นฟูเส้นผม แนะนำว่าต้องต้องเลือกแชมพูที่ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน หรือแชมพูสูตร Volumizing ที่ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้เส้นผม รวมถึงควรใช้ร่วมกับคอนดิชันเนอร์ เน้นบำรุงปลายผมเท่านั้น อย่าชโลมทั่วศีรษะเพราะจะยิ่งทำให้โคนผมแบนจนลีบติดหนังหัวได้
- ใช้มูสหรือโฟมเซตผม สำหรับใครที่มีทรงผมคนผมบาง ลีบแบน อาจจะต้องขยันเซตผมสักหน่อย เลือกใช้มูสสำหรับเพิ่มวอลลุ่มจะสามารถช่วยให้ผมดูหนาและอยู่ทรงนานขึ้น โดยไม่ทำให้หนักหัวเหมือนเจล เทคนิคง่ายๆ คือใส่มูสลงบนผมหมาด ๆ แล้วเป่าผมโดยยกโคนผมขึ้น จะได้ลุคผมดูฟูๆ เป็นธรรมชาติ เช่นการเซตผมแบบสาวเกาหลีตามซีรีส์ที่เราเห็นกัน ช่วยให้ดูดีขึ้นได้ในพริบตา
อ่านต่อ เทคนิคเพิ่มฟาร์มผมแบบไม่ต้องพึ่งแฮร์พีซ

ผมน้อยเหมือนเงินเก็บเลยแม่! 8 ทริค 'ทำฟาร์มผม' ให้ผมหนามีวอลลุ่ม มัดหางม้าสวย ไม่พึ่งแฮร์พีช | บทความของ Mollacake | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/71675
แนะนำทรงผมสำหรับคนผมบาง ลีบ ให้ดูมีวอลุ่ม
สำหรับใครที่มีปัญหาผมบาง ผมน้อย หรือผมเส้นเล็ก มักจะรู้สึกว่าไม่ว่าจะตัดผมทรงไหนก็ยังดูแบนและไร้น้ำหนักอยู่ดี แต่ไม่ใช่ทุกทรงนะคะเพราะจริงๆ แล้วยังมีทรงผมที่สามารถช่วย “พรางตา” ให้ผมดูหนาขึ้นได้เยอะมากอยู่ด้วย เพียงแค่ต้องรู้จักเลือกทรงให้เหมาะกับลักษณะเส้นผมของเรา โดยเฉพาะเทคนิคอย่าง เลเยอร์คัท หรือการตัดให้ผมดูมี “มิติ” มากขึ้น ที่ช่วยให้ผมไม่แบนติดหนังศีรษะ แถมยังช่วยให้หน้าดูมีกรอบชัดขึ้นอีกด้วยค่ะ
เคล็ดลับอันดับแรกทรงผมสำหรับคนผมเส้นเล็กควร "ดูเบา" แต่ยังต้องมีวอลลุ่มอยู่ และไม่ควรปล่อยผมตรงทื่อเกินไป และถ้าผมตรงลีบแบน ก็ควรมองหาทรงที่ช่วยเพิ่มความพองด้านบนหรือด้านข้างเพื่อให้ภาพรวมดูมีผมมากขึ้นนั่นเอง! ไปดูกันต่อจะมีทรงผมคนผมบาง ลีบแบน ผมทรงไหนเข้าตากรรมการชาวซิสบ้าง แนะนำให้เพื่อน ๆ ตัดตามได้เลย
1. ผมยาวเลเยอร์ (Layer Cut) เพิ่มความหนาให้เส้นผม
มาเริ่มกันที่ทรงผมคนผมบางลีบทรงแรกอย่าง Layer Cut หรือทรงผมไล่เลเยอร์ เป็นหนึ่งในเทคนิคตัดผมยอดนิยมของสาว ๆ ที่ช่วยให้ผมดูมีมิติ ดูหนาขึ้น และดูพลิ้วสวยเป็นธรรมชาติ ยิ่งสำหรับคนที่มีผมบาง ผมเส้นเล็ก หรือผมตรงลีบแบน การตัดเลเยอร์คือไอเทมลับที่ช่วย “พรางตา” ให้ผมดูหนาฟูได้ ทรง Layer Cut ไม่ได้มีแค่แบบเดียว! แต่มีหลายสไตล์ที่โดดเด่นต่างกัน ทั้ง Butterfly Cut, Wolf Cut, Mullet Cut ฯลฯ ซึ่งแต่ละทรงมีจุดเด่นเฉพาะตัวและเหมาะกับบุคลิกหรือรูปหน้าต่างกัน
- Butterfly Cut มีลักษณะการตัดที่ไล่เลเยอร์ด้านหน้าให้มีความพองคล้ายปีกผีเสื้อ ส่วนปลายผมจะมีเลเยอร์เบาๆ ช่วยเพิ่มวอลลุ่มด้านข้างใบหน้า ช่วยให้หน้าดูเรียว ผมดูหนาขึ้นทันที เหมาะกับคนผมตรงลีบแบน หรือคนที่ชอบเซตปลายผมให้สะบัดเบาๆ
ระดับความยาวแนะนำ ผมยาวระดับอกขึ้นไปจะพองสวยที่สุด
- Wolf Cut มีลักษณะการตัดผสมระหว่างเลเยอร์กับปลายผมแบบ shag ให้ลุคดิบ เท่ แต่ยังดูเฟมินีนเบา ๆ อยู่ ช่วยเพิ่มเลเยอร์หนาๆ ทำให้ผมดูฟูขึ้นโดยเฉพาะบริเวณด้านหลัง เหมาะกับคนที่อยากได้ลุคเกาหลีเท่ๆ หรืออยากเปลี่ยนลุคให้ดูซ่า สนุก
ระดับความยาวแนะนำ กลางหลังถึงบ่า หรือใครชอบแบบสั้นก็ตัดได้เช่นกัน
- Mullet Cut มีลักษณะผมด้านหน้าสั้น แต่ด้านหลังยาว ให้ฟีลสตรีทแฟชั่นย้อนยุคแต่เก๋มาก ช่วยดึงจุดสนใจไปที่โครงหน้าช่วยให้กรอบหน้าคม ผมไม่ลีบ เหมาะกับคนมั่นใจ ชอบแฟชั่นแนว edgy หรืออยากได้ลุคเกาหลีสายแฟ
ระดับความยาวแนะนำ เหมาะกับผมสั้นถึงประบ่า ถ้ายาวเกินอาจไม่เด่นชัด
รวมไอเดียทรงผม Layer Cut
2. ผมสั้นและบ๊อบ สำหรับสาวผมบาง
ทรงผมคนผมบาง ลีบแบนทรงต่อไปที่อยากแนะนำคือ บ๊อบสั้น (Short Bob) เป็นหนึ่งในทรงผมที่ไม่เคยตกเทรนด์ เพราะสามารถปรับลุคให้ดูเด็กลง เรียบร้อย หรือจะแซ่บขึ้นก็ยังได้ ขึ้นอยู่กับเทคนิคการตัดปลายและการเซตผม โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีผมเส้นเล็ก ผมบาง หรือผมตรงลีบแบน ทรงบ็อบสั้นจะช่วย "ยกโคน" และเพิ่มวอลลุ่มให้เส้นผมดูหนา มีน้ำหนักมากขึ้น ทรงบ็อบมีหลายแบบ ซึ่งแต่ละทรงจะให้ฟีลแตกต่างกันไป
- บ๊อบปลายงุ้ม (Classic Inward Bob) ลักษณะทรงผมคือ ตัดตรงปลายเท่ากัน แล้วเซตงุ้มเข้าเล็กน้อย ช่วยให้หน้าดูเรียวขึ้น ดูเป็นระเบียบ เรียบร้อย เหมาะกับคนที่ชอบลุคคลีน ๆ หรือผมเส้นเล็กที่ต้องการให้ดูหนาขึ้น
ระดับความยาวแนะนำ ระดับคาง หรือเหนือไหล่นิดๆ
- บ๊อบสไลด์ปลาย (Layered Bob) เป็นการตัดผมบ็อบแต่ไล่เลเยอร์ปลายให้ดูพริ้ว ช่วยลดความแข็งของผมทรงบ็อบตรง ทำให้ดูนุ่มเบาและมีมิติ เหมาะกับคนที่อยากให้ทรงผมดูไม่ทื่อ
ระดับความยาวแนะนำ ตั้งแต่ช่วงคาง – ไหล่
- บ๊อบตรงเท่ากัน (One-Length Bob) ตัดตรงทั้งศีรษะ ไม่มีเลเยอร์ ช่วยให้ลุคแฟชั่นจ๋า คม เรียบหรู ดูแพง เหมาะกับคนหน้าเล็ก หรือคนที่อยากได้ลุคเกาหลี-ญี่ปุ่น
ระดับความยาวแนะนำ สั้นกว่าคางเล็กน้อย หรือประบ่า
รวมรูปไอเดียทรงผม บ๊อบสั้น (Short Bob)
3. ผมซอยสั้น Pixie Cut
มาถึง Pixie Cut ทรงผมสั้นที่สาว ๆ ต้องใช้ความกล้าในการตัด แต่บอกเลยว่าเก๋สุดๆ เป็นสไตล์ที่ตัดสั้นเหนือท้ายทอย และไล่ระดับผมด้านข้างหรือด้านบนให้เข้ากับรูปหน้า จุดเด่นของทรงนี้คือ เน้นใบหน้า เปิดต้นคอ และช่วยให้ลุคดูมั่นใจทันที เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนลุคจากเดิมแบบ 180 องศา! ตัดทรงนี้หมดปัญหาผมบาง ผมลีบแบนแน่นอน ลองไปดูกันว่า Pixie Cut มีกี่แบบ แบบไหนที่พอตัดไหวบ้าง
- Soft Pixie เป็นทรงผมพิกซี่ที่ดูละมุนที่สุด เพราะยังคงมี “ผมหน้าม้า” ปัดลงมาบางส่วนเพื่อเพิ่มความนุ่มนวล อาจมีการไล่เลเยอร์เบาๆ ด้านข้าง ไม่ดูแฟชั่นจัดเกินไป เหมาะกับคนที่อยากได้ลุคสั้นแต่ยังดูหวาน ๆ น่ารัก เหมาะกับคนหน้ากลม หน้าผากกว้าง คนที่อยากลองตัดสั้นแบบไม่โป๊ะ ส่วนใครที่ผมตรง ลีบแบนก็ทำได้ เพราะทรงนี้ช่วยจัดทรงให้ดูฟูขึ้นโดยไม่แข็ง
ระดับความยาวแนะนำ สั้นเหนือท้ายทอย ด้านข้างยาวคลุมหูเล็กน้อย และหน้าม้าอยู่ระดับคิ้ว
- Textured Pixie เป็นทรงพิกซี่ที่เน้นการไล่เลเยอร์ด้านบนให้ดูมีมิติ มีวอลลุ่ม และ “เท็กซ์เจอร์” แบบตั้งใจ ดูเท่ขึ้นอีกระดับ ให้ลุคแฟชั่นมากกว่าและไม่เน้นหน้าม้า อาจเซตเสยหน้าหรือปัดข้าง เหมาะกับ คนผมเส้นเล็ก ผมบาง เพราะทรงนี้ช่วยให้ผมดูหนา และคนที่มีโครงหน้าชัด เช่น หน้ารูปไข่ กรามชัด
ระดับความยาวแนะนำ ความยาวแนะนำ ด้านหลังและข้างสั้นเกลี้ยง ด้านบนไว้ยาวเล็กน้อยเพื่อให้เซตได้
- Pixie with Undercut ทรงพิกซี่ที่ผสมความเท่ขั้นสุด โดยการไถด้านล่างหรือด้านข้างเกลี้ยงๆ ทิ้งไว้แต่ผมด้านบนที่ยาวกว่า เหมาะกับ คนมั่นใจ ชอบแฟชั่นสายสตรีท หรือมีใบหน้าเรียวหรือรูปหัวสวย เพราะโชว์รูปศีรษะ ที่สำคัญเหมาะกับหน้าร้อนเพราะสั้นสบายหัว หรือคนไม่ชอบจัดแต่งนานๆ
ระดับความยาวแนะนำ ด้านล่างไถเกรียน (ต่ำหรือสูงก็ได้) ด้านบนยาวพอให้เซตได้ เช่น เสยขึ้น ปัดข้าง
- Long Pixie (หรือ Bixie Cut) จะเป็นทรงพิกซี่ที่ยาวกว่าปกติ คล้ายทรงบ็อบสั้น เป็นการผสมระหว่าง Bob กับ Pixie ไม่สั้นจนเกินไป แต่ยังให้ความรู้สึกเท่ เรียบร้อย หรือแฟชั่นก็ได้ ขึ้นอยู่กับการเซต เหมาะกับ คนที่อยากลองผมสั้น แต่ยังไม่กล้าตัดพิกซี่เต็มตัว และคนหน้าเหลี่ยม หน้าใหญ่ ทรงนี้ช่วยซอฟต์รูปหน้าลงได้ รวมถึงใครที่ผมลีบแบนก็ทำได้ เพราะทรงนี้ช่วยให้ผมดูพองขึ้น
ระดับความยาวแนะนำ ยาวคลุมติ่งหูถึงแนวกราม อาจมีหน้าม้า หรือปัดข้างก็ได้
รวมรูปไอเดียทรงผม Pixie Cut
4. ทรงผมเพิ่มวอลุ่ม LOB ประบ่า
LOB หรือ Long Bob เป็นทรงผมบ็อบที่ไว้ยาวกว่าบ็อบธรรมดาเล็กน้อย โดยจะยาวประมาณ “เลยคางไปจนถึงระดับบ่า” เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากตัดผมสั้นเกินไป แต่อยากให้ลุค สดใส หรือดูมีสไตล์แบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องเซตเยอะ ทรง LOB ยังถือว่า "ปลอดภัย" ที่สุดสำหรับคนผมลีบแบน เพราะสามารถเพิ่มวอลลุ่มให้เส้นผมดูมีมิติขึ้นได้! LOB หรือ Long Bob จะมีแบบไหนบ้าง ลองไปดูกันค่ะ
- Blunt LOB (ปลายตรงเรียบๆ) เป็นการตัดตรง ความยาวเท่ากันรอบศีรษะ ช่วยให้ลุคดูเรียบหรู เรียบร้อย สไตล์มินิมอลเหมาะกับ คนผมตรง, และผมเส้นเล็กเพราะช่วยให้ผมดูหนาขึ้น
ระดับความยาวแนะนำ ให้ปลายผมอยู่ที่ช่วงบ่าพอดี
- Layered LOB (ไล่เลเยอร์เบาๆ) ตัดในลักษณะแบบปลายซอยบาง ไล่ระดับชั้นเบาๆ ช่วยเพิ่มความพอง มีวอลลุ่มให้เส้นผมดูมีมิติ เหมาะกับคนผมลีบแบน, ผมหยักศกอ่อนๆ หรือคนที่ไม่ชอบผมเรียบแบน
ระดับความยาวแนะนำ เหนือบ่าขึ้นไปเล็กน้อย หรือระดับบ่าพอดี
- LOB with See-through Bangs (ประบ่าพร้อมหน้าม้า) ตัดผมประบ่าและเพิ่มหน้าม้าโปร่งๆ (ซีทรู) ด้านหน้า ช่วยทำให้หน้าดูหวานขึ้น หน้าเด็ก และซ่อนหน้าผากได้ เหมาะกับคนหน้าผากกว้าง หรืออยากเพิ่มความละมุนให้ใบหน้า
ระดับความยาวแนะนำ ผมยาวที่ระดับบ่า หน้าม้าระดับคิ้ว
รวมรูปไอเดียทรงผม Pixie Cut LOB หรือ Long Bob
5. ผมบ๊อบสั้น ทรง Blunt Cut ปลายตรงทื่อๆ
Blunt Cut คือทรงผมที่ตัด “ปลายตรง” แบบไม่มีการไล่เลเยอร์หรือซอยปลาย ให้ความรู้สึกคม ชัด และเรียบเนียน เหมาะกับสาวๆ ที่ชอบลุคมินิมอล เป๊ะทุกเส้น แต่ยังดูมีสไตล์แบบไม่ต้องพยายามมาก จุดเด่นของทรงนี้คือช่วย “พรางให้ผมดูหนาขึ้น” โดยเฉพาะกับคนที่มีผมบางหรือเส้นเล็ก ยิ่งถ้าผมตรงและลีบแบนการตัดแบบ Blunt จะทำให้ปลายผมดูหนักขึ้นทันทีและโครงหน้าก็จะดูชัดขึ้นอีกด้วย Blunt Cut มีหลายสไตล์ให้เลือก เช่น
- Short Blunt Bob (บ๊อบสั้นปลายตรง) ผมสั้นเหนือคาง ตัดปลายตรงเท่ากันรอบศีรษะ ช่วยให้ลุคเกาหลี มินิมอล หน้าเด็ก ดูคลีน เหมาะกับคนหน้าเรียว, ใครผมตรง ลีบแบน ทรงนี้ช่วยให้ผมดูมีน้ำหนักขึ้น
ระดับความยาวแนะนำ ยาวเหนือคางหรือระดับคางพอดี
- Blunt Lob (ประบ่าปลายตรง) ผมยาวระดับประมาณบ่า แต่ตัดปลายตรงแบบไม่มีเลเยอร์ เหมาะกับคนที่ไม่อยากตัดสั้นมาก แต่ยังได้ลุคเนี๊ยบ คนผมตรงธรรมชาติ หรือชอบเซตผมเรียบๆ
ระดับความยาวแนะนำ ระดับบ่าหรือเลยบ่านิดหน่อย
- Blunt with Bangs (ปลายตรง + หน้าม้า) ผมสั้นตรงแต่เพิ่มหน้าม้าแบบตรงหรือซีทรูเพื่อทำให้ลุคดูน่ารักขึ้น ช่วยทำให้หน้าดูเด็กลง และลดความแข็งของปลายผมตรง เหมาะกับคนหน้าผากกว้าง หรืออยากได้ลุคที่ดูหวานนุ่มขึ้น
ระดับความยาวแนะนำ ได้ตั้งแต่ระดับเลยคางเล็กน้อย ระดับบ่าหรือเลยบ่านิดหน่อย
รวมรูปไอเดียทรงผม Blunt Cut
6. ผมบ๊อบเท ทรง Asymmetrical Cut
มาถึงทรงผมคนผมบาง ลีบแบนสำหรับผู้หญิง Asymmetrical Cut หรือทรงผมที่ “ สองข้างไม่เท่ากัน ” เป็นหนึ่งในสไตล์ทรงผมที่โดดเด่นและแตกต่าง ช่วยเพิ่มความเปรี้ยวเท่แบบไม่เหมือนใครให้กับลุคของคุณ จุดเด่นของทรงนี้คือการ “ไล่ความยาวแบบตั้งใจ” ให้ผมด้านหนึ่งสั้นกว่าด้านหนึ่ง หรือเล่นระดับช่วงหน้าให้ไม่สมมาตร เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับทรงผมแบบที่ไม่ต้องทำสีหรือดัดก็ยังดูมีสไตล์ได้ทันที ลองไปดู ทรง Asymmetrical Cut แบบต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น
- Asymmetrical Bob (บ็อบสองข้างไม่เท่ากัน) เป็นลักษณะผมบ็อบที่ผมด้านหนึ่งสั้นกว่าอีกข้างเล็กน้อย บางแบบอาจตัดให้เห็นชัดชัด หรือบางแบบก็ตัดเนียน ๆ ช่วยเพิ่มมิติให้ทรงบ็อบธรรมดาดูแฟขึ้น ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว เหมาะกับคนผมตรง หรือผมลีบแบน ทรงนี้ช่วยให้ผมดูมีรูปทรง ไม่แบนราบ ความยาวแนะนำ คือ ประมาณ คาง-บ่า แล้วแต่ระดับความต่างที่ต้องการ

- Asymmetrical Pixie เป็นพิกซี่คัตที่ตัดด้านหน้าหรือด้านข้างให้ยาวไม่เท่ากัน เพิ่มความเท่แบบ unisex ช่วยขับรูปหน้าให้ชัด และทำให้ลุคดูมั่นใจ ชัดเจน เหมาะกับคนอยากตัดผมสั้นแบบแตกต่าง หรืออยากให้ผมดูไม่เรียบเกินไป
ระดับความยาวแนะนำ ระดับเลยคางเล็กน้อย หรือระดับบ่า
- Long Asymmetrical Cut ผมยาวแต่ปล่อยให้ด้านหนึ่งยาวกว่า หรือมีการซอยหน้าให้ไล่ไม่เท่ากัน เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่กล้าตัดสั้น แต่ต้องการความแปลกใหม่ หรือ คนผมยาวที่อยากเปลี่ยนลุคให้สนุกโดยไม่ต้องตัดเยอะ
ระดับความยาวแนะนำ ยาวตั้งแต่บ่าไปจนถึงกลางหลัง
รวมรูปไอเดียทรงผม Asymmetrical Cut
7. ทรงผมคนผมบาง ลีบแบนสำหรับผู้ชาย
สำหรับผู้ชายที่มีปัญหาผมบาง ผมเส้นเล็ก หรือผมลีบแบน ทรงผมที่เลือกไม่ควรเน้นความเรียบหรือแบนจนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้เห็นหนังศีรษะชัด และทำให้รูปหน้าดูแข็ง ทรงผมที่เหมาะควรเป็นทรงที่ เพิ่มวอลลุ่มด้านบน / ดึงความสนใจจากจุดที่ผมบาง / เซตง่าย และดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งมีหลายทรงที่ช่วยให้ลุคดูผมหนาขึ้น ดูเท่ขึ้นโดยไม่ต้องเซตผมนาน ได้แก่
- Crop Cut / French Crop เป็นการตัดด้านข้างสั้น ด้านบนไว้ระดับกลาง หรือมีหน้าม้าเต่อ รวมถึงการซอยเบาๆ ด้านหน้าช่วยปิดแนวผมบางด้านหน้าได้ดี เซตง่าย เหมาะกับคนผมบางด้านบน หรือหน้าผากสูง
ระดับความยาวแนะนำ ความยาวด้านบน 1.5–2.5 นิ้ว ด้านข้างไถเฟด
- Buzz Cut / Crew Cut เป็นทรงสั้นทั้งหัว ความยาวเท่ากัน หรือไถข้างแล้วเก็บด้านบนให้ยาวกว่าเล็กน้อย ช่วยลดจุดโฟกัสจากผมบาง ให้ดูสะอาด เท่ มีความแมน เหมาะกับคนที่ผมบางทั่วศีรษะ หรืออยากลุคเรียบง่าย
ระดับความยาวแนะนำ ความยาวที่แนะนำ 0.5 – 1 cm
- Side Swept / ปัดข้าง เป็นทรงที่ผมด้านบนไว้ยาวแล้วเซตปัดข้าง ด้านข้างไถหรือตัดสั้นเก็บ จะช่วยพรางแนวผมบาง และทำให้ศีรษะดูมีวอลลุ่ม เหมาะกับคนที่ผมบางด้านบน หรือมีปัญหาผมลีบตรง
ระดับความยาวแนะนำ ด้านบนยาว 2–3 นิ้ว / ด้านข้างรองทรงต่ำหรือกลาง
รวมไอเดียทรงผมคนผมบาง ลีบแบนสำหรับผู้ชาย
เอาหล่ะ ไม่ว่าทุกคนจะมีปัญหาเส้นผมที่บางโดยกรรมพันธุ์ หรือมีปัญหาผมลีบแบนจากพฤติกรรมการดูแลผมก็ตาม แต่ถ้าเราเลือกทรงผมคนผมบาง ลีบที่ " เหมาะกับตัวเอง " ก็สามารถช่วยเสริมลุคให้เราดูดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเลือกทรงที่ช่วยเพิ่มวอลลุ่ม, เลเยอร์เบา ๆ, หรือเล่นระดับความยาวของผม คือเคล็ดลับเล็ก ๆ ที่จะเปลี่ยนเส้นผมบาง ๆ ให้ดูหนาขึ้นได้เลย!
แต่ถ้าใครเริ่มรู้สึกว่าปัญหา "ผมบาง-ผมร่วง" มากเกินไปแล้ว อาจไม่ได้มาจากแค่ทรงผม เราแนะนำให้ลองดูคลิปให้ความรู้จาก นพ. ธนีย์ ธนียวัน (Tany Thaniyavarn, MD) อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด วิกฤตบำบัด และการปลูกถ่ายปอดแต่ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุของผมร่วงเอาไว้อย่างน่าสนใจ ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย พร้อมยังแนะนำวิธีดูแลอย่างถูกต้องที่เราว่าทำตามได้ไม่ยากอีกด้วย
แจกพิกัดร้านตัดผม ยอดฮิต 2025
เราเข้าใจดีว่สำหรับคนผมบางหรือผมลีบแบน การตัดผมไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่มันคือเรื่องของ “เทคนิค” และ “ความเข้าใจในสภาพผมจริง” บางทรงต้องอาศัยการไล่เลเยอร์ให้เบา บางทรงต้องสไลด์ปลายแบบเฉพาะ บางทรงต้องจัดการวอลลุ่มแบบไม่ฟู เพราะงั้นตามมาส่องร้านทำผมในไทยที่มีผลงานสุดปัง ดังในโซเชียลฯ ร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องทรงฮิต เช่น Butterfly Cut, Mullet Cut, Wolf Cut, Blunt Cut แจกให้ทั้งข้อมูลพิกัด ช่วงราคา และช่องทางจองครบถ้วน จะเป็นสายเกาหลี สายแฟ สายเรียบหรู หรือสายเปรี้ยวเฉี่ยว เลื่อนดูลิสต์นี้ได้เลย!
1. juno hair thailand
หากกำลังมองหาร้านตัดผมที่เข้าใจ “ผมบาง ผมลีบแบน” แบบจริงจัง พร้อมได้ลุคแบบไอดอลเกาหลีในแบบที่ไม่ต้องบินไปถึงโซล มาที่ Juno Hair Thailand ร้านซาลอนชื่อดังจากเกาหลีใต้ ที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้ามายาวนาน และในปีหลัง ๆ ก็ขยายสาขามาเปิดให้บริการในไทย โดยนำเอาทั้งเทคนิคการตัดผม การจัดทรง และการดูแลเส้นผมแบบเกาหลีแท้ ๆ มาใช้
จุดเด่นของร้าน
- การตัดทรง Layer แบบเกาหลี ที่ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ผมบางดูพองสวย
- เทคนิค Down Perm / Upperm ที่ช่วยจัดระเบียบเส้นผมให้ดูเรียบหรือลอนพองมีมิติขึ้น
- บริการจัดทรงตามเทรนด์ ทรงเกาหลีฮิตๆ อย่าง Butterfly Cut, Wolf Cut, C-Curl Bob, และ Hime Cut ที่เหมาะกับคนผมบางโดยเฉพาะ
- การออกแบบทรงที่ “เฉพาะตัว” กับสภาพเส้นผมจริงของลูกค้า
พิกัดการเดินทาง ตอนนี้ Juno Hair เปิดให้บริการที่ไทยแล้ว โดยตั้งอยู่ที่ โครงการ Graph Hotel (รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ) การเดินทางสะดวกมาก อยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ เดินต่อไม่ไกล
ราคาประมาณเท่าไหร่ ? เนื่องจากเป็นร้านในเครือระดับพรีเมียมจากเกาหลี ราคาจะอยู่ในช่วง กลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับบริการที่เลือก เช่น ตัดผม + ออกแบบทรง: ประมาณ 800 – 1,500 บาท , บริการจัดแต่ง / down perm / ดัดลอน: ขึ้นอยู่กับความยาวและความซับซ้อน แนะนำว่าควรสอบถามราคาก่อนจองคิว เพราะทางร้านเขาให้คำปรึกษาอย่างละเอียดเลยก่อนลงมือทำ
ช่องทางติดต่อ & โซเชียลมีเดีย
- Instagram : @junohairthailand
- Facebook : Juno Hair Thailand
- LINE Official : @junohairthailand
2. Special by Hajin
อีกร้านตัดผมแนวเกาหลีที่กำลังมาแรงตอนนี้ ชื่อที่ถูกพูดถึงบ่อย ๆ บนโซเชียลก็คือ “Special by Hajin” ร้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบ K-Style ตั้งแต่บรรยากาศร้านไปจนถึงเทคนิคการตัดทรงผมที่ช่วย “เพิ่มวอลลุ่ม” และ “ปรับรูปหน้า” โดยเฉพาะใครที่มีปัญหา ผมบาง ผมลีบแบน หรือ เส้นเล็กจัดทรงยาก ร้านนี้ถือว่าเข้าใจผมแบบนี้เป็นพิเศษ เพราะใช้เทคนิค Layering แบบเกาหลีแท้ ที่เน้นการตัดไล่ระดับให้นุ่ม ดูพองแบบไม่ฟู ไม่แบนติดหนังศีรษะ
จุดเด่นของร้าน
- มีทีมช่างจากเกาหลีและช่างไทยที่ผ่านการฝึกฝนตรงจากเกาหลี
- เชี่ยวชาญทรงผมยอดฮิตแบบ K-Trend ไม่ว่าจะเป็น Butterfly Cut – สำหรับเพิ่มมิติให้ผมบางดูหนาและเบา , Wolf Cut – เพิ่มวอลลุ่มแบบ edgy แต่ยังนุ่มนวล และ Soft Layer Cut – ทรงมาตรฐานของคนผมบางที่อยากได้ลุคธรรมชาติ
- มีบริการปรับรูปหน้าและแนะนำทรงให้เหมาะกับโครงหน้าและสภาพผมของแต่ละคน
- มีรีวิว Before / After บน IG เยอะมาก ช่วยตัดสินใจก่อนเข้าร้านได้ง่ายขึ้น
พิกัดการเดินทาง ร้านอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 49/1, เขตวัฒนา กรุงเทพฯ อยู่ไม่ไกลจาก BTS ทองหล่อ เดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้า รถส่วนตัวมีที่จอดรถรองรับ
ราคาประมาณเท่าไหร่ ? ตัดผม + ออกแบบทรง: เริ่มต้นประมาณ 800 – 1,500 บาท , ทำสี / ทำเคมี: แล้วแต่บริการและความยาวของผม สามารถนัดปรึกษาก่อนได้ (บางช่วงมีโปรโมชันสำหรับทรงผมเกาหลี)
ช่องทางติดต่อ & โซเชียลมีเดีย
Instagram : @specialbyhajin_hairsalon
3. OJ HAIR
ถ้าพูดถึงร้านตัดผมที่เหล่าดารา เซเลบ หรือสายบิวตี้เลือกใช้บริการมายาวนาน หนึ่งในชื่อที่ต้องติดอันดับก็คือ OJ Hair หรือที่หลายคนเรียกว่า "ร้านพี่ส้ม (Orange Juice)" ค่ะ เรียกว่าการันตีฝีมือด้วยรูปรีวิวดารากว่าครึ่งวงการของร้านเลยทีเดียว
จุดเด่นของร้าน
- เจ้าของร้านคือคุณ ส้ม Orange Juice ช่างผมชื่อดังที่อยู่เบื้องหลังลุคเป๊ะของดาราหลายคน
- มีความแม่นยำในการ “ปรับทรงให้เข้ากับโครงหน้า”
- เน้นงานดีไซน์ที่ดูหรู เนี้ยบ แต่ยังดูมีเท็กซ์เจอร์ เหมาะมากกับคนที่ผมบางและต้องการลุคที่จัดทรงง่ายแต่ดูโปร
- รับลูกค้าจำกัดต่อวัน ใครอยากตัดต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น!
พิกัดการเดินทาง ซอยลาดพร้าว 87 แยก 29 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ (มีที่จอดรถในโซนบ้านพักอาศัย ใกล้จุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา)
ราคาประมาณเท่าไหร่ ? ตัดผมเริ่มต้นที่ 1,000 – 2,500 บาท แล้วแต่ช่างและความยาว บางบริการอาจะต้องรอคิวล่วงหน้าหลายสัปดาห์
ช่องทางติดต่อ & โซเชียลมีเดีย
- Instagram : @ojhair
- LINE Official: ID OJ HAIR แนะนำให้จองผ่านไลน์โดยตรง
4. Unnie’s Room
Unnie’s Room ร้านทำผมเกาหลีสุดคิ้วต์ใน สยามสแควร์ ซอย 9 ที่กลายเป็นขวัญใจของสาว ๆ รุ่นใหม่บน Instagram, TikTok และเพจบิวตี้ทั้งหลาย ด้วยสไตล์การตัดผมที่เน้นความ “เบา มีวอลลุ่ม ดูน่ารักไม่เฟค” เหมาะสุด ๆ สำหรับคนที่ผมเส้นเล็ก ผมตรงลีบ หรือจัดทรงยาก
จุดเด่นของร้าน
- ช่างมีประสบการณ์กับทรงเกาหลีโดยเฉพาะ เข้าใจเทคนิค layer แบบนุ่ม ๆ ไล่ระดับให้ผมดูพองสวย
- ถนัดทรงยอดฮิตที่ช่วยพลิกลุคให้คนผมบาง เช่น See-through Bangs ม้าเบาบาง ไม่ทำให้หน้าดูตัน , Butterfly Cut / Layered Lob ไล่ระดับเบาๆ ให้ดูผมหนาขึ้น , C-curl Bob บ็อบงุ้มปลายน่ารัก เพิ่มวอลลุ่มให้ผมดูไม่ลีบ
- ร้านตกแต่งน่ารัก กลิ่นอายเกาหลี ใครชอบเซลฟี่หลังตัดผมต้องเลิฟ!
พิกัดการเดินทาง ตั้งอยู่ที่ สยามสแควร์ ซอย 9 เดินจาก BTS สยามเพียง 3 นาที
ราคาประมาณเท่าไหร่ ? ตัดผม (ทรงแฟชั่นเกาหลี) เริ่มต้นที่ประมาณ 600 – 1,200 บาท , ดัดปลาย / ทำสีแฟชั่น ประมาณ 1,800 – 3,500 บาท (แล้วแต่ความยาวและเทคนิค) มีโปรฯ นักศึกษาเป็นระยะ หรือแพ็กเกจสี+ตัดราคาพิเศษ
ช่องทางติดต่อ & โซเชียลมีเดีย
- Instagram : @unnies.room.u
- Facebook : Unnie’s Room
- จองคิวล่วงหน้า : ผ่าน DM หรือสอบถามผ่านเบอร์โทรในโปรไฟล์ IG
5. prestige hair salon
มาถึงร้านทรงผมคนผมบาง ลีบ สุดท้ายที่เราอยากแนะนำได้แก่ Prestige Hair Salon ร้านออบแบบทรงผมสไตล์เกาหลี ที่ให้บริการตัดผมโดย ช่างเกาหลีแท้ เข้าใจทั้งสไตล์และปัญหาผมของคนเอเชียโดยเฉพาะ ที่นี้ไม่ได้ใส่ใจแค่เรื่องความสวยของทรงผมเท่านั้น แต่ยังใส่ใจในรายละเอียด โดยเฉพาะการออกแบบทรงให้เข้ากับ เส้นผม โครงหน้า และบุคลิก ของแต่ละคนแบบเฉพาะตัว
จุดเด่นของร้าน
- ทีมช่างเกาหลีมืออาชีพ มากประสบการณ์จากซาลอนชื่อดังในโซล
- เชี่ยวชาญการออกแบบทรงผมที่ “ช่วยปรับรูปหน้า” และ “เพิ่มวอลลุ่ม” โดยเฉพาะสำหรับคน ผมเส้นเล็ก ผมลีบแบน
- ทรงผมที่ทำออกมาจะดู “พองธรรมชาติ” ไม่ต้องเซตเยอะก็ยังจัดทรงง่าย
- มีบริการ ปิดผมขาวด้วยเทคนิคเฉพาะ สำหรับคนที่มีปัญหาผมบางร่วมกับผมหงอก
- บรรยากาศร้านเรียบหรู ดูพรีเมียม แต่เป็นกันเอง เหมือนอยู่ในร้านทำผมที่กรุงโซลจริง ๆ
พิกัดการเดินทาง มี 2 สาขา ทองหล่อ 13 และ สาขา เอกมัย และ หลังสวน สำหรับใครที่อยู่โซน BTS เดินทางง่าย สะดวกทุกสาขาเดินทางด้วย BTS ลงสถานีทองหล่อ / เอกมัย แล้วต่อพี่วินเข้าซอยประมาณ 3-5 นาที
ราคาประมาณเท่าไหร่ ? ตัดผม (ชาย/หญิง) เริ่มต้นประมาณ 500 – 1,200 บาท , ทำสี / ปิดผมขาว ราคาขึ้นอยู่กับเทคนิคและความยาวผม (เริ่มต้นประมาณ 2,000 บาท) มีบริการปรึกษาทรงก่อนตัดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (หากนัดล่วงหน้า)
ช่องทางติดต่อ & โซเชียลมีเดีย
- Instagram : @prestigehairsalon
- Facebook: Prestige Hair Shop
- โทรจองล่วงหน้า หรือสอบถามโปรโมชันผ่านหน้าเพจ
ดูต่อ ผลิตภัณฑ์ช่วยให้ผมมีวอลุ่มยิ่งขึ้นได้ที่นี่
9 ผลิตภัณฑ์ 'เพิ่มวอลลุ่มผม' สาวผมลีบแบน ผมน้อย ต้องอ่าน!!! | บทความของ Anemone | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/22537
คำถามที่พบบ่อย
เพราะฮอร์โมนเปลี่ยน พันธุกรรม และความเครียดสะสม
ทรงที่มีเลเยอร์ เบลอกรอบหน้า เช่น Bob หรือ Lob มีวอลลุ่ม
ดีค่ะ ผมจะดูหนาและจัดทรงง่ายขึ้น
ได้ ถ้าซอยแบบมีวอลุ่ม ไม่บางช่วงปลายผมจนเกินไป
ใช้แชมพูเพิ่มวอลลุ่ม + โทนิคบำรุง, เคราตินได้แต่ต้องสูตรอ่อนโยน
ถ้าไม่ใช่พันธุกรรม มีโอกาสดีขึ้นได้ด้วยการดูแลหรือตัดผมทรงที่เหมาะกับเส้นผมและรูปหน้า
ทรงปิดกรอบหน้า มีเลเยอร์ เช่น Butterfly Cut หรือ Curtain Bangs
ทริคที่ช่วยแฮ็กให้ผมมีวอลุ่มมากขึ้นและอยู่นานขึ้น ได้แก่
- หลังสระผม ก้มศีรษะเป่าผมจากโคนมาปลาย
- เปลี่ยนแสกผมบ้างเพื่อช่วยลดการแสกผมจุดเดิมจนเห็นหนังศีรษะซ้ำๆ
- ใช้แปรงกลมม้วนผมขึ้นจากโคนเล็กน้อยแล้วเป่าผมหลังสระผม
- ใช้ลมเย็นช่วยเซ็ตผมช่วงโคนและล็อคทรงผมให้อยู่นานขึ้น
- ใช้ Dry Shampoo ฉีดบริเวณโคนผมที่เริ่มมัน
สรุป ผมบางไม่ใช่ปัญหา ถ้ารู้จักเลือกทรงผมและการดูแลที่ใช่
ผมบาง ลีบแบน อย่ามองเป็นจุดด้อยเท่านั้น เพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้รู้จักดูแลตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมก็ได้ บอกแล้วว่าการเลือกทรงผมคนผมบาง ลีบ ที่ "ใช่" ก็สามารถเปลี่ยนลุคให้ดูผมหนา เพิ่มความมั่นใจขึ้นได้ทันที อีกสิ่งที่สำคัญคือการรู้จักดูแลผมให้ถูกวิธี อย่างการ สระผมให้สะอาดแต่ไม่บ่อยเกินไป อย่าลืมลองนวดหนังศีรษะเบา ๆ ตอนสระ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และงดใช้ความร้อนจัด หลีกเลี่ยงสารเคมีที่ทำให้ผมอ่อนแอ รวมถึงการใช้แชมพูสูตรเพิ่มวอลุ่ม และโทนิคบำรุงรากผมเป็นประจำ ก็จะช่วยให้ผมดูหนาขึ้นแบบเป็นธรรมชาติได้
" ผมบางอาจไม่หายขาดในวันเดียว แต่ลุคใหม่ที่มั่นใจ เริ่มต้นได้ทันทีจากทรงผมที่ใช่ ” ไม่ว่าเราจะผมเส้นเล็ก ลีบ หรือแบนแค่ไหน ก็อย่ากลัวที่จะลองเปลี่ยน และเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ สวยในแบบที่เป็นดูนะคะ ^^
บทความแนะนำที่คล้ายกัน

ไอเดียผมลอนคลายสไตล์เกาหลีสุดปัง "เปลี่ยนผมลีบแบนให้ดูหนามีวอลลุ่ม" | บทความของ May Metinee | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/78642

ผมลีบแบน ไม่ใช่ปัญหา จัด 5 ไอเดีย 'ทรงผมเพิ่มวอลลุ่ม' เซ็ตแล้วสวย พร้อมปังตลอดวัน! | บทความของ belfry | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/61310

ไม่มีใครรู้ว่าหัวแบน แค่เปลี่ยนผมลีบ ให้เป็น "ผมลอนวอลลุ่ม" สร้างลุคใหม่ให้ตัวเอง พร้อมความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น | บทความของ pita | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/63938

25 แบบทรงผมสั้น 'สำหรับสาวผมบาง' ที่ดู Chic & Cool! | บทความของ DearZuffi | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/23668



