1. SistaCafe
  2. ชวนรู้จักวิธีหมักผมสูตรพส.จีนสุดไวรัล ผมนุ่มสลวยเด้งได้ต้องใช้ออยล์!

สวัสดีค่าชาวซิสและนักอ่านทุกคนเลยน้า ว่าแต่ทุกคนเคยเห็นไหม " วิธีหมักผมสูตรพส.จีน " กันบ้างไหมคะ ถ้าใครยังไม่เคยเห็นงั้นเราขอชวนทุกคนมารู้จักวิธีหมักผมหรือวิธีหมักผมแบบพี่สาวคนจีนกันว่ามันคืออะไร ทำไมถึงเป็นกระแส แล้วสูตรหมักผมต้องทำยังไง ใช้อะไรบ้าง ดีจริงรึเปล่า พร้อมบอกวิธีดูแลเส้นผมอย่างถูกวิธีให้ด้วย พร้อมจะไปรู้จักให้มากขึ้นรึยังเอ่ย ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยเลย!

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

ทำไมสูตรหมักผมแบบพส.จีนถึงเป็นไวรัล?

เรื่องราวมันเกิดจากว่ามีแอคเคานต์นึงใน TikTok มาแชร์วิธีดูแลเส้นผมของคนจีน โดยเขาจะใช้ทรีตเมนต์ + เบบี้ออยล์ผสมเข้าด้วยกัน แล้วเอามาใช้ในการหมักผม ทำให้เส้นผมดูสวย แวววาว มีน้ำหนัก คนเห็นก็เลยรู้สึกว่าทำตามได้ไม่ยาก อุปกรณ์ใดเอยก็ไม่วุ่นวายเลยอยากจะไปลองทำกันดูแล้วก็แชร์ส่งต่อเรื่อย ๆ จนสุดท้ายมันก็กลายเป็นไวรัลขึ้นนั่นเองค่ะ

วิธีหมักผมสูตรพส.จีนที่กำลังฮิตคืออะไร แล้วต้องทำยังไง?

วิธีสครับผมแบบพี่สาวจีนที่เป็นไวรัลหนักมากก็คือการใช้ทรีตเมนต์ผม + เบบี้ออยล์ผสมเข้าด้วยกันแล้วนำมาหมักผมช่วงปลายผมนั่นเองค่ะ แต่บางสูตรก็อาจจะมีการเพิ่มเซรั่มบำรุงผมพวกออยล์ต่าง ๆ เข้าไปด้วย โดยสูตรจะเป็นตามนี้เลยค่ะ

  1. Fino Premium Touch Hair Mask 3 ส่วน
  2. Baby Oil 1 ส่วน
  3. Hair Serum 1 ส่วน

ใส่ทั้ง 3 อย่างรวมกันแล้วก็ผสมให้เข้ากัน ซึ่งจริง ๆ จะไม่ใช้ทรีตเมนต์ของ Fino ก็ได้นะคะ สามารถใช้ทรีตเมนต์สูตรที่ตัวเองใช้ปกติก็ได้เหมือนกัน แล้วก่อนจะหมักก็ทำการสระผมให้สะอาด เสร็จแล้วก็ค่อยลงทรีตเมนต์บริเวณปลายผม เก็บผมส่วนที่หมักใส่หมวกคลุมอาบน้ำหรือใช้ถุงมาครอบแล้วมัดไว้ก็ได้นะคะ ทิ้งไว้ประมาณ 10 - 15 นาทีหลังจากนั้นล้างออกให้สะอาด เป็นอันเสร็จทุกคนขั้นตอนค่า

แล้ววิธีหมักแบบพส.จีนทำได้จริง ๆ ไหม?

มันก็ไม่เชิงทำไม่ได้แต่ก็ไม่ควรทำเท่าไหร่ค่ะ เนื่องจากเนื้อเบบี้ออยล์มีความหนักมาก ๆ ยิ่งถ้าใครผมมันนี่บอกเลยว่าสระเสร็จแป๊บเดียวผมมันเยิ้มแน่นอน แล้วอีกอย่างในภาพที่เขาเอามารีวิวกันว่าผมสวย ดูแวววาวสุขภาพดีก็เป็นวิกผมแทบทั้งนั้นด้วยนะคะ สังเกตจากการแสกของผมจะไม่มีเลย ดังนั้นถ้าจะทำตามก็ไม่แนะนำเท่าไหร่ค่ะ แต่! เราสามารถปรับสูตรจากเขาแล้วเอามาใช้ได้นะคะ โดยทำตามวิธีนี้เล้ย!


1. ใช้ทรีตเมนต์บำรุงผม + เซรั่มบำรุงผม


2. นำทรีตเมนต์แบ่งออกมา 3 ส่วนหรือกะเอาตามที่ใช้ปกติ


3. นำเซรั่มบำรุงผมที่เราใช้ปกติมาบีบใส่เข้าไปประมาณ 1 ส่วน หลังจากนั้นผสมเข้าด้วยกันแล้วนำไปหมัก 10 - 15 นาที


จริง ๆ เราจำเป็นต้องหมักผมไหม?

จริง ๆ ถ้าเรามีผมที่สุขภาพดี อาจไม่จำเป็นต้องหมักผมค่ะ สามารถใช้ครีมนวดผมทั่วไปได้เลย แต่ถ้าเราเป็นคนผมเสียหนักมากก็ควรจะหมักผมสักหน่อย เพื่อให้สภาพเส้นผมของเรามีความนุ่มลื่นไม่พันกัน ไม่ชี้ฟูแล้วก็ไม่แห้งกรอบด้วยนะคะ แต่การหมักผมที่ดีก็ควรจะหมักอย่างถูกวิธีและเหมาะสม โดยเรามีวิธีการหมักผมแบบเหมาะกับแต่ละคนมาฝากด้วยล่ะ!

ต้องหมักผมและดูแลผมแบบไหนถึงจะเหมาะกับเราที่สุด ?


1. เช็กสภาพเส้นผมของเราด้วยน้ำหนึ่งแก้ว

ช่วงนี้กำลังเป็นกระแสเหมือนกันนะคะ กับการเช็กสภาพเส้นผมด้วยน้ำหนึ่งแก้วหรือ hair porosity test โดยวิธีง่ายมาก ๆ ค่ะ เอาแก้วน้ำสูง ๆ หน่อยมาใส่น้ำ แล้วก็เอาเส้นผมของเราที่หลุดจากการหวีแค่ 1 เส้นมาใส่ลงไปในน้ำ หย่อนไปปกตินะคะ ไม่ต้องกดให้มันลงไปใด ๆ ทั้งสิ้น รอให้มันจมสักพักนึง แล้วมีดูความเปลี่ยนแปลงตามนี้เลยค่ะ

  • ลอย (Low) : ถ้าผมลอยอยู่บนแก้วแปลว่าผมขาดความชุ่มชื้น สังเกตง่าย ๆ คือเวลาจะสระผมแล้วใช้น้ำมาชโลมผมมันมักจะไม่เปียกในทันที
  • อยู่กลางแก้ว (Medium) : ถ้าผมอยู่ช่วงกลางแก้วแปลว่าผมสุขภาพดี แข็งแรงค่ะ สามารถอุ้มน้ำได้ปานกลาง
  • จม (High) : ถ้าผมจมดิ่งสู่ก้นแก้วแปลว่าผมเสียหนักมากเพราะผมสามารถดูดความชื้นและอุ้มน้ำได้เยอะมากนะคะ

2. เลือกใช้แชมพูที่เหมาะกับสภาพเส้นผม

เมื่อเรารู้แล้วว่าเส้นผมของเราเป็นแบบไหน เราก็จะมาใช้แชมพูที่เหมาะกับสภาพเส้นผมเรากันค่ะ โดยทั้ง 3 สภาพเส้นผมนี้จะใช้แชมพูไม่เหมือนกันนะคะ โดยเราขอแบ่งให้ทุกคนเข้าใจง่าย ๆ ได้ดังนี้ค่า

  • ลอย (Low) : เน้นไปที่แชมพูเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนต่าง ๆ จะทำให้เส้นผมดูสุขภาพดีขึ้น
  • อยู่กลางแก้ว (Medium) : ใช้ได้ทุกแบบสามารถใช้สลับแบบเติมความชุ่มชื้นบ้างหรือเติมโปรตีนต่าง ๆ ให้เส้นผมบ้างก็ได้เพราะเส้นผมมีคุณภาพที่ดีอยู่แล้ว
  • จม (High) : เน้นใช้แชมพูที่เติมโปรตีน เคราตินและตัวเชื่อมพันธะให้เส้นผม จะทำให้เส้นผมมีสุขภาพที่ดีขึ้น

3. ใช้ทรีตเมนต์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผม

นอกจากแชมพูแล้ว พวกทรีตเมนต์ที่ใช้กับเส้นผมก็ต้องใช้แตกต่างกันด้วยนะคะ โดยหลัก ๆ ทั้ง 3 สภาพเส้นผมก็จะใช้ตามนี้เลยค่า

  • ลอย (Low) : เหมือนกับแชมพูเลยค่ะ เน้นเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม จะเป็นทรีตเมนต์หรือครีมนวดทั่วไปก็ได้ ตัวไหนมีไฮยาลูรอนผสมสามารถใช้ได้เลย คนไทป์ Low เหมาะมาก ๆ
  • อยู่กลางแก้ว (Medium) : ใช้ครีมนวดทั่วไปแต่อาจจะมีนาน ๆ ทีใช้ทรีตเมนต์สักรอบเพื่อสร้างสมดุลให้เส้นผม
  • จม (High) : เน้นใช้ทรีตเมนต์ให้ผมจะดีที่สุด แล้วก็เน้นพวกเติมโปรตีน เคราตินและตัวเชื่อมพันธะให้เส้นผม ก็จะทำให้เส้นผมของของคนไทป์ High แข็งแรงขึ้นได้ค่ะ

4. ใช้ตัวบำรุงที่เหมาะกับสภาพเส้นผม

ถัดจากการสระและใช้ทรีตเมนต์แล้ว หลาย ๆ คนก็มักจะใช้ตัวบำรุงต่าง ๆ เช่น เซรั่ม ออยล์ ลีฟออน ลีฟอินต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนค่ะว่า 3 สภาพเส้นผมก็ใช้ไม่เหมือนกันอีกแล้ว เพราะสภาพเส้นผมไม่เหมือนกันนั่นเองนะคะ โดยเราจะต้องใช้ตัวบำรุงที่มีส่วนผสมประมาณนี้เลยจ้า

  • ลอย (Low) : เน้นไปในตัวที่มีความชุ่มชื้น มีส่วนผสมของน้ำหรือไฮยาเหมือนเดิมนะคะ ส่วนออยล์ที่แนะนำจะเป็นพวกอาร์แกนออยล์ โจโจบาออยล์ อะโวคาโดออยล์และอัลมอนด์ออยล์ค่ะ
  • อยู่กลางแก้ว (Medium) : บำรุงแบบทั่ว ๆ ไป ส่วนผสมของออยล์ที่เหมาะคือแบล็กซีดออยล์ น้ำมันเมล็ดองุ่น น้ำมันสะเดาและโรสฮิปออยล์
  • จม (High) : เน้นการช่วยปิดเกล็ดผมให้ผมไม่อุ้มน้ำมากเกินไป ออยล์ที่เหมาะก็จะมีน้ำมันละหุ่ง น้ำมันมะพร้าวและน้ำมันมะกอก

5. ใช้สเปรย์กันความร้อนสำหรับเส้นผม

ตัวนี้สภาพเส้นผมแบบไหนก็ใช้ได้นะคะ แล้วก็ควรใช้มาก ๆ ด้วย โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้ความร้อนกับเส้นผม ไม่ว่าจะหนีบ ไดร์ ม้วนลอนต่าง ๆ ก็คือควรใช้มาก ๆ ค่ะ ซึ่งวิธีใช้ก็คือสระผมเสร็จ ซับผมให้หมาด ๆ แล้วก็ฉีดสเปรย์ลงบนเส้นผมหลังจากนั้นก็เป่าผมหรือใช้ความร้อนกับเส้นผมได้เลย เจ้าตัวนี้เขาจะช่วยกันความร้อนจากอุปกรณ์ทำผมต่าง ๆ ทำให้ผมของเราเสียน้อยลงและขาดความชุ่มชื้นน้อยลงด้วยค่า


6. ลดการใช้ความร้อนกับเส้นผม

อย่างที่บอกไปว่าควรใช้สเปรย์กันความร้อนนะคะ แต่นอกจากการใช้สเปรย์กันความร้อนกับเส้นผมแล้ว เราก็ควรที่จะลดการใช้ความร้อนกับเส้นผมด้วย อาจจะไม่ถึงกับต้องเลิกใช้เลยเพราะว่าทำได้ยากเกินไปนะคะ เราก็แค่ลดการใช้อุณหภูมิที่สูง ๆ เป็นอุณหภูมิที่พอดี อย่างการเป่าผมก็ใช้แค่ลมเย็นหรือลมสำหรับการเป่าที่อุ่น ๆ ก็พอ ส่วนการหนีบหรือม้วนก็ให้อยู่ที่ไม่เกิน 170 - 180 ก็จะดีที่สุดค่ะ


7. ลดการทำเคมีต่าง ๆ กับเส้นผม

วิธีสุดท้ายในการดูแลเส้นผมให้การหมักผมที่ทำมาไม่สูญเปล่าก็คือเราควรลดการทำเคมีกับเส้นผมค่ะ พวกยืดถาวร ดัดถาวร รวมไปถึงการทำสีผมต่าง ๆ ไม่ว่าจะกัดหรือย้อมทั่วไปก็มีสิทธิ์ทำให้เกล็ดผมเปิดเยอะและเสียความชุ่มชื้นในเส้นผมไปเยอะด้วยนะคะ ดังนั้นเนี่ยถ้าลดการทำสีหรือทำสีที่ไม่ต้องใช้เคมีแรง ๆ รวมไปถึงลดการยืดบ่อย ๆ ดัดบ่อย ๆ ก็จะทำให้ผมที่หมักไว้ยังคงนุ่มสลวยอยู่นั่นเองจ้า

สูตรหมักผมสุดไวรัล ได้ผลลัพธ์ผมสลวยเด้งแบบพส.จีน เค้าใช้ตัวนี้กัน

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

สรุป

เป็นยังไงกับบ้างคะ พาไปดูสูตรหมักผมแบบพส.จีนที่ทำได้เองง่ายๆ ที่บ้านและยังได้รู้จัก วิธีหมักผมสูตรพส.จีน สูตรที่เป็นไวรัลกันอยู่ในตอนนี้ด้วย ลองเอาทริกดูแลเส้นผม + การหมักผมที่ดีไปเพิ่มด้วย รับรองผมจะสลวยสวยเด้งเจ๋งสุด ๆ ไปเลยรับรองว่าเห็นผลดีขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนค่ะ แอบฝากนิดนึงนะคะ ถ้าใครรู้สึกบทความนี้เป็นประโยชน์ดีก็กดแชร์ส่งต่อบอกเพื่อน ๆ และครอบครัวกันได้นะคะ ส่วนตอนนี้เราลาไปก่อนแล้วค่า บ๊ายบาย :-D


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Hair Porosity Test ชวนเช็กสภาพเส้นผม เทสต์ง่าย ๆ ใช้น้ำแค่ 1 แก้ว

ผมพังหรือยังปังอยู่ !? เช็ก 7 สัญญาณเตือนว่า " ผมแห้งเสีย " แล้ว พร้อมบอกวิธีเช็กสภาพผม !

ใช้ครีมนวดก่อนสระผม ดีจริงไหม ? พร้อมแนะนำวิธีสระผมให้ผมนุ่มและสุขภาพดี

วิธีเลือกยาสระผมผิวแพ้ง่าย ใช้แชมพูแบบไหนถึงจะไม่ระคายเคือง?

ทริคเลือกไดร์เป่าผม รวมลิสต์ที่มือใหม่ต้องรู้ เลือกยังไง แบบไหนเหมาะ

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้