สำหรับสาวๆ คนไหนที่มักมีปัญหาเกี่ยวกับผมแห้ง เสีย แตกปลายพยายามหาทรีตเมนต์ดีๆ แพงๆ แล้วก็ไม่ช่วยเลยสาวๆ จ๋า รู้หรือไม่ว่า แชมพู ครีมนวด สิ่งที่เป็นกระปุกเป็นขวดขายตามร้านทั่วไปมักมีส่วนประกอบที่เป็นสารเคมีทั้งนั้นจากที่เราใช้กันมาหลายปี สะสมสารเคมีในเส้นผมไปเรื่อยๆ ถ้าจะบำรุงด้วยสารเคมีอีก ก็ไม่ต้องตกใจเลยจ้ะ ว่าทำไมถึงบำรุงไม่ขึ้น
เลิกใช้สารเคมีทำร้ายผมกันเถอะค่ะ หยุดทำร้ายผมสักที ! หันมาดูแลเส้นผมแบบวิธีธรรมชาติๆ กันบ้างดีกว่า ก่อนอื่นก็ต้องมาดีท็อกซ์สารเคมีที่ค้างอยู่บนเส้นผมของเรากันก่อนดีกว่า กับ 10 สูตรดีท็อกซ์ผมด้วยวิธีธรรมชาติ โบกมือลาทรีตเมนต์แพงๆ ไปได้เลย
¸
.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸

การดีท็อกซ์ผมคืออะไร ทำไมต้องดีท็อกซ์
การดีท็อกซ์ก็คือการทำความสะอาดอย่างหนึ่งค่ะ เป็นการขจัดคราบมัน คราบเคมีต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ในเส้นผมของเรา หรือเวลาที่เราใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของซิลิโคนไปนานๆก็จะรู้สึกว่าผมของเรานั้นลีบแบนไม่มีวอลลุ่มบางคนก็อาจแห้งกรอบหลุดล่วงและขาดง่ายการดีท็อกซ์ก็จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและสารเคมีเหล่านั้นออกไป ให้เหมือนกับเส้นผมได้เริ่มต้นใหม่ และช่วยให้การบำรุงครั้งต่อไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รวมสูตรเด็ด วิธีธรรมชาติ "ดีท็อกซ์เส้นผม" ให้กลับมาสวยพลิ้ว
f
โคลนดินเบนโทไนท์ และว่านหางจระเข้

ดินเบนโทไนท์มักถูกนำมาใช้เป็นโคลนพอกหน้ากันค่ะ สาวๆ คงจะเคยเห็นใช่ไหมคะ ที่เป็นสีเทาๆ โดยเจ้าดินตัวนี้จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกได้ดีมากๆ เลยค่ะ ลองหาซื้อตามตลาดแถวบ้าน หรือสั่งซื้อในอินเทอร์เน็ตเอา ส่วนว่างหางจระเข้อันนี้หาง่ายหน่อยจะเอาเป็นแบบที่ขายเป็นกระปุกสำเร็จรูป หรือหาแบบสดๆ มาเลยก็ยิ่งดีค่ะ โดนว่างหางจระเข้ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เราไม่ทำให้ผมแห้งมากเกินไป

ส่วนผสม
- ผงดินเบนโทไนต์ครึ่งถ้วย
- เจลว่านหางจระเข้ครึ่งถ้วย
- น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ ประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ถ้วย ( เอาไว้ใช้ตอนล้าง )
ขั้นตอน
- ผสมวัตถุดิบให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วทาลงไปบนเส้นผม
- สวมหมวกคลุมธรรมดาไม่ต้องอบไอน้ำนะคะ รอเวลา 20-30 นาทีไม่ควรปล่อยทิ้งนานกว่านี้
- ล้างผมด้วยน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
- ค้างทิ้งไว้ 3 นาทีแล้วสระผมปกติ
**ทำ 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์
เบคกิ้งโซดา ( ผงฟู )


เบคกิ้งโซดาจะช่วยล้างพวกสารเคมีที่สะสมอยู่บนเส้นผมของเราได้ดีหรือพวกรังแคก็ช่วยได้หาซื้อก็ง่าย ซื้อได้ตามตลาดทั่วไป สูตรนี้ก็จะมีน้ำร้อนมาช่วยละลายเบคกิ้งโซดาด้วยนะคะเตรียมต้มน้ำรอไว้ได้เลย

ส่วนผสม
- เบคกิ้งโซดาครึ่งถ้วย
- น้ำร้อน 3 ถ้วย
ขั้นตอน
- ผสมเบคกิ้งโซดาใส่น้ำร้อที่เตรียมไว้ แล้วนำมาชโลมลงบนผม
- ล้างเส้นผมด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ แล้วนำน้ำเบคกิ้งโซดามาชโลมลงบนผม
- นวดศีรษะไปเรื่อยๆ 2-3 นาที
- สระผมด้วยน้ำเปล่าโดยไม่ต้องลงแชมพู
**ทำสัปดาห์ละครั้ง
น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์

ข้อดีของน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์จะช่วยล้างคราบสกปรกบนเส้นผมและขจัดความมันโดยไม่ทำลายน้ำมันธรรมชาติของเส้นผมวิธีใช้ก็ง่ายแสนง่ายไม่ต้องมีขึ้นตอนส่วนผสมอย่างอื่นเพิ่มเติม

ส่วนผสม
- น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1/4 ถ้วย
- น้ำสะอาด 2 ถ้วย
ขั้นตอน
- เจือจางน้ำส้มสายชูด้วยน้ำสะอาดสอง
- สระผมตามปกติ ล้างน้ำให้สะอาด
- ราดน้ำส้มสายชูที่เตรียมไว้ทั่วเส้นผมและไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ**ทำสัปดาห์ละ 1 ครั้งหรือ 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง
แชมพูเกลือทะเล

เกลือทะเลจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังบนหนังศีรษะที่ตายแล้วโดยเกลือทะลก็สาารถหาซื้อได้ตามตลาดสด แม็คโคร หรือฟู้ดแลนด์ ซึ่งวิธีนี้เราก็นำไปผสมกับแชมพูที่ใช้อยู่กันค่ะ

ส่วนผสม
- เกลือทะเล 2 ส่วน ( ประมาณ 2 ช้อนชา )
- แชมพู 1 ส่วน ( ปริมาณบีบใส่มือปกติ )
ขั้นตอน
- ผสมเกลือทะเลที่เตรียมไว้กับแชมพูที่ใช้ปกติ ถูเบาๆ ใส่มือให้เกิดฟอง
- ชโลมไปบนเส้นผมเหมือนสระผมปกติ แล้วล้างผมด้วยน้ำเย็น
**ทำ 1 ครั้งต่อ 1 เดือน
แชมพูน้ำผึ้ง

สูตรนี้จะเหมาะกับสาวๆ ที่ผมแห้งแล้วกลัวว่ายิ่งดีท็อกซ์จะยิ่งทำให้ผมแห้งไปกว่าเดิมซึ่งแนะนำให้ใช้น้ำผึ้งแทนแชมพูที่ใช้ในปัจจุบันได้ค่ะ เป็นการช่วยไม่ให้ผมของเราต้องเจสารเคมีอีก แรกๆ อาจจะรู้สึกเหนียวๆ หน่อย ใช้ไปสักพักก็จะพบว่าผมนุ่มขึ้นค่ะ ( สูตรนี้แนะนำเลย )

ส่วนผสม- น้ำผึ้งดิบ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำกรอง 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบ (ไม่จำเป็น)
ขั้นตอน
- เตรียมขวดเล็กๆ เอาไว้ใส่่แชมพูที่จะทำเอง
- ผสมน้ำผึ้งกับน้ำกรองเข้าด้วยกันในขวด เขย่าๆ
ถ้าอยากให้กลิ่นหอมก็ลองเลือกน้ำมันหอมระเหยที่ชอบมาผสมได้ค่ะ
- เอาไว้ใช้สระผมแทนแชมพู**ใช้สระตามปกติ หรือใช้ทุกวัน
แชมพูกะทิมะพร้าว

สูตรนี้ก็มีส่วนผสมที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระและโปรตีนสูงอย่างกะทิมะพร้าวเป็นสารอาหารที่ดีให้กับเส้นผมของเรา ทำให้ผมไม่ขาดร่วงง่าย แข็งแรงขึ้น แอบกระซิบว่ากลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายขนมเลยล่ะค่ะ

ส่วนผสม
- กะทิ 1/4 ถ้วย
- แชมพูอ่อนใส (ของเด็กหรือสมุนไพร) 1/3 ถ้วย
- แคปซูลน้ำมันวิตามินอี 2 เม็ด ( ที่เป็นเม็ดสีเขียวๆ )
- 15-20 หยดน้ำมันหอมระเหยหอม (ไม่จำเป็น)
ขั้นตอน
- หาขวดสำหรับใส่แชมพูที่จะทำ
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดลงในขวด เขย่าเบาๆ
- ใช้สระผมได้ตามปกติค่ะ
**ใช้สระแทนแชมพูได้บ่อยเท่าที่ต้องการค่ะ
แตงกวากับเลม่อน

สูตรนี้เหมาะสำหรับสาวที่มีผมมันนะคะ ซึ่งกรดผลไม้ในเลม่อนจะช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะและลดปัญหากลิ่นอับต่างๆ ได้ดีและแตงกวาก็จะช่วยลดความมันบนเส้นผมที่อาจเกิดขึ้นระหว่างวัน

ส่วนผสม
- เลม่อนลูกใหญ่ 1 ลูก
- แตงกวาขนาดกลาง 1 ลูก
- น้ำมันหอมระเหย (ไม่จำเป็น)
ขั้นตอน
- หั่นเลม่อนกับแตงกวาเป็นชิ้นเล็กๆ
- นำไปปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน แต่ถ้าไม่มีเครื่องปั่นจะสับๆ ให้ละเอียดก็ได้ค่ะ
- ใช้สระผมแทนแชมพูปกติ ล้างน้ำให้สะอาดอย่าให้มีเศษตะกอนติดผม
**สำหรับสาวผมมันสระได้บ่อยเท่าที่ต้องการ แต่สาวผมแห้งควรใช้วิธีนี้แค่ 1 ครั้งต่อสัปดาห์
สระผมด้วยมะกรูด

สูตรนี้สามารถใช้ได้ทั้งสาวผมมันและสาวผมแห้งค่ะ โดยน้ำจากผลมะกรูดจะช่วยล้างคราบสิ่งสกปรกทั้งบนหนังศีรษะ และเส้นผม และยังช่วยลดกลิ่นต่างๆ ในเส้นผมปรับสมดุลหนังศีรษะได้ดี กลิ่นหอมสดชื่น และไม่ทำให้ผมแห้งเกินไป โดยสูตรนี้ก็ถูกใช้มาตั้งแตรุ่นคุณยายแล้วค่ะ

ส่วนผสม
- น้ำมันเบบี้ออยล์หรือน้ำมันมะกอก
- มะกรูด 2-3 ลูก
ขั้นตอน
- ชโลมผมที่แห้ง ก่อนสระด้วยเบบี้ออยล์หรือน้ำมันมะกอกนวดๆ ให้ทั่วเส้นผมทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
- หั่นมะกรูดครึ่งซีกทุกลูก
- ล้างผมด้วยน้ำสะอาด แล้วบีบมะกรูดลงบนหนังศีรษะ ค่อยๆ นวดลงไปถึงปลายผม
- ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำเปลือกมะกรูดมาทาลงบนเส้นผม จากนั้นล้างน้ำเปล่าอีกที**ใช้สระแทนแชมพูวันเว้นวันประมาณ 1 เดือน
¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸
เป็นยังไงบ้างคะ สูตรที่เอามาฝากทั้งหมดนี้ก็ไม่ยากเกินไปใช่ไหมล่ะคะ ลองเลือกใช้สูตรตามที่ตัวเองสะดวกกันดูนะคะ แล้วก็หมั่นหวีผม นวดหนังศีรษะกระตุ้นอยู่บ่อยๆ เลี่ยงการทำร้ายผมด้วยสารเคมีต่างๆโดยเฉพาะแชมพูที่มีส่วนผสมของซิลิโคนแต่บรรดาสูตรที่แนะนำไว้ข้างบนไม่ควรทำบ่อยจนเกินไปนะคะ เพราะจะยิ่งทำให้ผมแห้งกรอบเสียหนักขึ้นไปอีก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีก็ควรทำแต่พอดี ขอตัวลาไปก่อนนะคะ หวังว่าจะช่วยให้สาวๆ ที่ผมเสียกลับมาผมพลิ้วสวยกล้าสะบัดได้อย่างมั่นใจกัน แล้วเจอกันใหม่ค่า!