สวัสดีสาว ๆ
SistaCafe
ทุกคนค่ะ
ในช่วงที่เราต้องอยู่บ้าน Work From Home กัน แม้จะเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อไปบ้างสำหรับมิ้ว ผู้ซึ่งเป็นชะนีไม่ติดบ้านเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นช่วงที่ทำให้มิ้วได้พักหน้า และกลับมาดูแลผิวของตัวเองอย่างจริงจังมากขึ้น ประจวบกับไม่นานนี้โทนเนอร์ที่ใช้อยู่ดันหมดด้วย นี่เลยเป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่จะได้ลองโทนเนอร์ตัวใหม่ที่อยากลองมานาน คือเป็นตัวที่มิ้วเห็นมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยได้ลองใช้สักที คราวนี้เลยเป็นโอกาสของการมารีวิว
Thayers Rose Petal Witch Hazel Toner
ให้ชมกัน ณ จุดนี้ค่ะ
Thayers Rose Petal Witch Hazel Toner

บางคนอาจจะไม่คุ้นชื่อ แต่ถ้าเห็นหน้าตาเขาแล้วต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะใครที่เข้า-ออกร้านเครื่องสำอางแนวธรรมชาติอย่าง
ALL ABOUT YOU
บ่อย ๆ จะต้องเคยเห็นคุณน้องโทนเนอร์ขวดนี้กันอย่างแน่นอน มาทำความรู้จักคร่าว ๆ กันดีกว่าว่านางมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง!
Thayers Rose Petal Witch Hazel Toner
เป็นโทนเนอร์ปรับสภาพผิวผสมน้ำดอกกุหลาบ ว่านหางจระเข้และ Witch Hazel พืชเก่าแก่จากประเทศอเมริกา ช่วยฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เติมน้ำให้ผิว ลดอาการอักเสบ สมานแผล กระชับรูขุมขน แถมยังช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันของผิว มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย ที่สำคัญคือเขายังมีวิตามินซีซึ่งจะช่วยผลิตคอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิวและลดเลือนพวกรอยแผลเป็นค่ะ
Texture / สี / กลิ่น

โทนเนอร์ตัวนี้เป็นน้ำใส ๆ ไม่มีสีเหมือนกับโทนเนอร์ที่เราพบเห็นทั่วไปเลยค่ะ แต่หอมกลิ่นกุหลาบมาก เพราะการมีน้ำกุหลาบเป็นส่วนผสมนั่นเอง แต่กลิ่นที่ออกมาเหมือนกับว่าเราได้ดมดอกกุหลาบไปเต็ม ๆ เลยค่ะ
เนื่องจากเป็นเนื้อน้ำใส ๆ เวลาหยดโทนเนอร์ลงบนสำลี เราก็จะไม่ค่อยได้เห็น Texture อะไรมาก นอกจากสำลีที่มีความชุ่มขึ้นมาหน่อย
การใช้โทนเนอร์

ความจริงมิ้วเองก็ไม่ได้มีวิธีการดูแลผิวอะไรที่พิถีพิถันมาก ใช้เพียงหลักการง่าย ๆ คือปกติเราล้างหน้าตามแนวรูขุมขน การใช้โทนเนอร์ให้ทำตรงข้ามกัน คือ
เช็ดย้อนขึ้นทวนแนวรูขุมขน
ค่ะ จำหลักง่าย ๆ แค่นี้เอง ใครที่เพิ่งเริ่มใช้โทนเนอร์ หรือใช้แบบผิด ๆ มาตลอด ลองปรับวิธีการกันใหม่นะคะ!
Feedback หลังการใช้!

ลองใช้มาได้สัปดาห์กว่า ๆ สิ่งแรกที่รู้สึกเลยคือผิวเด้งอิ่มน้ำมากขึ้น รู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น พวกจุดด่างดำ รอยแดงจากสิวดูจางลงนิดนึง รูขุมขนตรงจมูกกระชับขึ้นเล็กน้อย อาจจะต้องใช้เวลาอยู่สักหน่อยกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่านี้ แต่สิ่งที่ชอบที่สุดในการใช้โทนเนอร์ตัวนี้ก็คือการเช็ดแล้วรู้สึกว่าสะอาดจริง ๆ การลงสกินแคร์ก็ง่ายขึ้น ซึมเร็ว เหมือนว่านางช่วยเราเตรียมความพร้อมในการบำรุงผิวในขั้นต่อไปให้ได้ประสิทธิภาพที่สุด!
เมคอัพติดทนมากขึ้น!
อีกสิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้จากการได้ใช้โทนเนอร์ตัวนี้ คือเรื่องของการแต่งหน้าค่ะ นอกจากสกินแคร์ที่ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ไวแล้ว มิ้วรู้สึกว่าแต่งหน้าได้ง่ายขึ้นเพราะผิวมีความชุ่มชื้น เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น ที่สำคัญคือความมันตรงจมูกน้อยลง คงเพราะอย่างที่เขาบอกคุณสมบัติไปในตอนแรกว่าโทนเนอร์ตัวนี้ช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันในผิว เหมือนว่าน้ำมันจะผลิตออกมาน้อยลง ต้องยกความดีความชอบให้นางเลยล่ะ!


สรุปผลการใช้
บอกเล่ากันมาถึงขนาดนี้ เอาจริง ๆ ไม่รู้ว่าจะหักคะแนนตรงไหนเลย ถ้ามี 10 คะแนน มิ้วก็ให้ 10 คะแนนเลยค่ะ ไม่ได้อวยน้า เพราะใช้แล้วประทับใจจริงๆค่ะ ทั้งเรื่องแพ็กเกจที่แข็งแรงสวยงามตามแบบฉบับผู้ดีมีชาติตระกูล และไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งตรงนี้มิ้วค่อนข้างจะจริงจังมาก เพราะส่วนตัวเคยใช้โทนเนอร์ที่มีแอลกอฮอล์แล้วไม่เวิร์กเท่าไหร่ ที่ได้ใจไปเต็ม ๆ เลยก็เรื่องคุณภาพและผลลัพธ์ของผิวที่ได้กลับมา เรียกว่าเลิฟสุด ๆ จากคนที่เปลี่ยนโทนเนอร์ไม่เคยซ้ำรุ่นซ้ำแบรนด์ ถึงตอนนี้มิ้วคิดว่ามิ้วได้ Favorite Items ของตัวเองมาอีกชิ้นนึงแล้วล่ะค่ะ

สุดท้ายนี้ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ขวดนึงไม่แพงมากค่ะ ประมาณ 5XX บาทเมื่อเทียบกับคุณภาพ ใครอยากลองใช้บ้าง สั่งซื้อออนไลน์จากร้าน
All About You
แบบมิ้วได้เลย ที่
Facebook : All About You Organics
หรือทาง
Line ID : @allaboutyou
ก็ได้ ตามสะดวกเลยค่า หรือจริงๆ มีเว็บไซต์ด้วยนะ แต่เผื่อใครอยากคุยกับแอดมินจะได้มีคำแนะนำให้เหมาะกับผิวหน้าแบบมิ้วค่า หรือถ้าใครอยากไปลองดูขวดจริง รอไว้ให้พ้นช่วง COVID19 ห้างเปิด ค่อยไปตามหากันที่ร้าน
ALL ABOUT YOU
นะคะ เห็นมีสาขาต่างๆ อยู่ทั่วกรุงเทพเลย สะดวกมากๆ เหมือนกันค่ะ
สำหรับวันนี้ ขอตัวลาไปแต่เพียงเท่านี้ พบกันคราวหน้าค่ะ บ๊ายบาย!