ตื่นเต้นมากแม่! แชร์ 7 How To 'ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก' ยังไงให้โปรฯ ถึงจะ #FirstTime แต่ไม่เด๋อนะจ๊ะ 🛩

ฮัลโหลว… ทักทายสาวSistaCafeที่น่ารักทุกคนเลยนะคะ แวะมาเจอกันทั้งที เราก็ไม่พลาดที่จะหยิบเรื่องราวดี๊ดีมาแชร์กันอีกแล้วนะในวันนี้ท็อปปิกที่เราจะชวนคุณสาวๆ มาเม้าท์มอยกัน ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางหรือการท่องเที่ยวนั่นเองค่ะก็เพราะว่าสมัยนี้น่ะผู้หญิงเราหันมาอินกับเรื่องการออกเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้น เพื่อที่จะได้ไปเปิดโลกกว้าง เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเองแล้วสำหรับสาวคนไหนที่ต้องเดินทางไปเที่ยวไกลๆ หรือไปเที่ยวต่างประเทศ ก็คงจะต้องเดินทางด้วยเครื่องบินกันใช่มั้ยล่ะคะ?แล้วถ้าเกิดทริปนี้เป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของซิส แล้วเกิดอาการกังวล กลัวว่าจะทำตัวไม่ถูก ต้องไปเดินหลงอยู่ในสนามบิน... ก็อย่าได้วอรี่ไปค่ะ เพราะว่าเรามี7 How To ‘ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ’ ยังไงให้โปรฯมาแชร์กันรับรองเลยว่าถ้าทำตามนี้ ก็บินได้แบบผ่านฉลุย ไม่มีเด๋อแน่นอนค่ะ เอาล่ะ! อย่ามัวรอช้า แล้วตามไปดูพร้อมกันได้เลย Go Go Go!!!

*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ

【 1. ตรวจสอบวัน / เวลา / สถานที่เดินทางให้เรียบร้อย 】

มาค่ะ! มาเริ่มเข้าคลาสวิชาเตรียมขึ้นบิน 101 กันได้เลยหลังจากที่คุณสาวๆ จองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก วางแพลนเที่ยวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนถึงวันเดินทางจริงเราก็อยากให้เธอทั้งหลายตรวจสอบวัน / เวลา / สถานที่ให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางจะเซฟสุดนะคะ ก็ให้ลองเช็กดูอีกครั้งว่าเที่ยวบินของเราตรงกับวันที่เท่าไหร่? เครื่องออกตอนกี่โมง? ต้องขึ้นเครื่องที่สนามบินไหน?โดยเฉพาะข้อสุดท้ายนี่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนชอบทำพลาดเลยล่ะก็บางคนไฟลท์ถูกต้อง เวลาถูกต้อง แต่กลับดูสนามบินผิด ต้องขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ แต่กลับมานั่งรอที่ดอนเมืองซะนี่ แบบนี้ก็มีแววไปไม่ทันแล้วต้องตกเครื่องชัวร์ๆเลยล่ะเพราะฉะนั้นต้องเช็กข้อมูลการบินให้ดี อย่าให้พลาดเด็ดขาดเลยนะคะ

【 2. ศึกษาเส้นทาง ไปถึงสนามบินล่วงหน้า 2 ชั่วโมง 】

พอถึงเวลาที่จะต้องออกเดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบินเราก็อยากจะแนะนำให้ซิสศึกษาเส้นทางให้ดีว่าสนามบินปลายทางที่เราจะต้องไปขึ้นเครื่องไกลจากบ้านของเราแค่ไหน? เดินทางไปได้ยังไงบ้าง? ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่?แบบนี้จะได้ช่วยทำให้เราสามารถกะเวลาได้ว่าควรจะต้องออกจากบ้านตอนไหน และใช้วิธีการเดินทางแบบไหนดีไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่, รถเมล์, รสบัส, รถไฟฟ้า ฯลฯ นั่นเองค่ะแล้วสิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเลยก็คือคุณสาวๆควรจะต้องเผื่อเวลาให้ไปถึงที่สถานบินก่อนถึงเวลาเครื่องออก อย่างน้อยๆ 2 - 3 ชั่วโมงด้วยนะเพราะถ้าเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดไว้ขึ้นมา เราจะได้ยังมีเวลาในการทำสิ่งต่างๆ ให้ครบถ้วน เสร็จก่อนที่จะถึงเวลาขึ้นเครื่องยังไงล่ะคะ

【 3. เช็คอินและโหลดกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง 】

คราวนี้มาถึงขั้นตอนสำคัญกันแล้วค่ะสาวซิส ถึงแม้ว่าเธอทั้งหลายจะเตรียมตัวเผื่อเวลามาดีขนาดไหน แต่ถ้าไปถึงสนามบินแล้วนั่งเปื่อยๆ มัวแต่เดินเล่น ถ่ายรูปไปอวดลงโซเชียล แต่ไม่ยอมรีบไปเช็คอิน งานนี้เธอก็บินไปเที่ยวไม่ได้นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นพอไปถึงที่สนามบินแล้วสิ่งแรกที่ควรทำก็คือมองหาเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินที่จองเอาไว้ลองส่องๆ หน้าจอตามเคาน์เตอร์ดูซิคะว่ามีเลขไฟลท์บินของเราอยู่ตรงที่ช่องไหนถ้าหาเจอแล้วก็เดินตรงไปต่อแถวแล้วยื่นบัตรประชาชน หรือพาสปอร์ต ( ในกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศ ) ให้กับเจ้าหน้าที่แล้วก็ยกกระเป๋าสัมภาระที่ต้องการโหลดลงใต้ท้องเครื่องขึ้นชั่งน้ำหนักว่าเกินเกณฑ์ที่กำหนดรึเปล่า ซึ่งถ้าหากว่าใครพกพาวเวอร์แบงก์ไปก็ให้นำใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องไปด้วยนะคะ แต่พวกของเหลวต่างๆ ที่เกิน 100 ml. เนี่ย โหลดใส่กระเป๋าเอาไว้จะปลอดภัยสุดนะปล. ถ้าใครไม่อยากจะต้องมาเร่งรีบเอาในนาทีสุดท้าย ก็แนะนำให้มาล่วงหน้าเลย หรือจะก็จะเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมนะคะ

【 4. ผ่านด่านสแกนสัมภาระ แล้วไปนั่งรอที่ Gate ได้เลย 】

หลังจากที่เช็คอินและโหลดกระเป๋าลงใต้ท้องเครื่องเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินเข้าไปสู่ด่านสแกนสัมภาระแล้วค่ะโดยให้เดินไปยังช่องทางสำหรับผู้โดยสารขาออกถ้าใครจะเดินทางไปต่างประเทศ ก็ต้องผ่านจุดตรวจหนังสือเดินทาง แล้วยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ ตม. ตรวจสอบและถ่ายรูปก่อนจากนั้นเมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้วก็ให้เดินเข้าไปที่ช่องสแกนสัมภาระซึ่งจุดนี้เราก็ต้องวางสัมภาระ เครื่องประดับโลหะ และรองเท้าผ้าใบลงบนถาด พอวางของทุกอย่างครบแล้วก็ให้เดินผ่านเครื่องสแกน แล้วไปรอรับของคืนได้เลยค่ะแต่สเต็ปนี้ก็ไม่ต้องตื่นเต้นหรือกังวลใจกันไปนะคะถ้าเราไม่ได้พกของเหลวเกินกำหนด หรือพกของอันตรายติดตัวไป ก็ผ่านจุดนี้ไปได้แบบชิลล์ๆ ไม่มีอะไรน่ากลัวสักนิดเดียวเสร็จแล้วก็ให้เดินไปนั่งรอที่หน้า Gate หรือทางออกเครื่องบิน เพื่อรอเรียกขึ้นเครื่องกันได้เลย

【 5. รอเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง เตรียมยื่นเอกสารให้ตรวจสอบอีกครั้ง 】

ฮึบๆๆๆ ลุยต่ออีกนิดเดียวก็จะได้ขึ้นไปนั่งสวยๆ บนเครื่องบินเป็นนางฟ้ากันแล้วนะคะพอคุณสาวๆ ผ่านด่านการตรวจสอบต่างๆ มาได้แล้ว ก็ให้นั่งรอเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่องที่หน้าเกตของตัวเองได้เลยค่ะโดยเวลาก่อนเครื่องออก ก็จะมีเจ้าหน้าที่ประกาศเรียกผู้โดยสารของสายการบิน… ไฟลท์… เดินทางไปยัง…ให้เตรียมตัวขึ้นเครื่องบินหลังจากที่ได้ยินเสียงประกาศแล้ว ก็ให้เตรียมถือบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต และ Boarding Pass ที่ได้รับมาหลังจากที่เช็กอินเสร็จแล้ว เพื่อยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นเครื่องบินซึ่งปกติแล้วสายการบินส่วนใหญ่ ก็จะเรียกผู้โดยสารที่ทำการจองที่นั่งพิเศษล่วงหน้า หรือผู้ที่มาพร้อมเด็กทารกให้เดินขึ้นเครื่องก่อนค่ะ งานนี้ก็ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องแย่ง ได้ขึ้นกันทุกคนแน่นอน

【 6. นั่งตามเลขที่นั่งของตัวเอง ทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ 】

หยุดก่อนค่ะ! พอเดินสวยๆ ก้าวข้ามผ่านประตูเครื่องบินไปแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าซิสคิดจะนั่งตรงไหนก็ได้ อยากจะนั่งชมวิวชิลล์ๆ ริมหน้าต่าง หรือเน้นความสะดวกสบายนั่งริมทางเดิน#เลือกเองนักเลงพออะไรทำนองนั้นได้หรอกนะคะ เพราะว่าถ้าเธอก้มหน้าลงมองในใบ Boarding Pass ก็จะเห็นว่าเค้าระบุที่นั่งมาให้แล้วว่านั่งแถวไหน หมายเลยอะไร ฉะนั้นก็จงสงบเสงี่ยมแล้วเดินเงียบๆ ไปนั่งลงตรงเลขที่นั่งของตัวเองให้ไวเลยค่ะโดยสัมภาระชิ้นไหนที่มันใหญ่โตเกินไป ไม่สามารถวางไว้ใต้เบาะที่นั่งข้างหน้าได้ ก็ให้นำไปเก็บไว้ในช่องสัมภาระเหนือศีรษะได้เลยพอนั่งลงถูกที่แล้วก็ให้รีบรัดเข็มขัดก่อนเป็นอย่างแรกเลยค่ะแล้วก็อย่าลืมโฟกัสเวลาที่เจ้าหน้าที่เค้ากำลังแนะนำเรื่องความปลอดภัยด้วยล่ะ เวลาเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาจะได้ไม่แพนิค สามารถเอาตัวรอดได้ ไม่ต้องมายืนงงในดงความวุ่นวายไงคะ

【 7. ถึงจุดหมายปลายทาง รับกระเป๋า แล้วออกไปเที่ยวชิลล์ได้เลย 】

อ๊ะๆ พอกัปตันเค้าประกาศว่าเตรียมจะนำเครื่องลงจอดที่สนามบินปลายทาง ก็อย่าเพิ่งปลดเข็มขัดรัดที่นั่งออก หรือรีบลุกไปหยิบกระเป๋าเตรียมตัวลงจากเครื่องอย่างไวนะคะแต่ให้ตรวจสอบสัมภาระของตัวเองให้ดีอย่าได้ลืมอะไรไว้บนเครื่องเด็ดขาดเลยนะ แล้วสำหรับซิสคนไหนที่เดินทางไปยังประเทศที่ต้องกรอกใบ ตม. ก็ให้กรอกข้อมูลให้เรียบร้อยตั้งแต่อยู่บนเครื่องบินเลยค่ะหลังจากที่เครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัยแล้วก็ให้หยิบกระเป๋า เดินออกจากเครื่องไปตามทางถ้าเกิดว่าเป็นไฟลท์บินใบประเทศก็ให้เดินไปรับกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องที่สายพานได้เลย แต่ถ้าเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ ก็ให้เดินเข้าช่อง Visitor สำหรับชาวต่างชาติ แล้วก็ยื่นบอร์ดดิ้งพาส พาสปอร์ต และใบ ตม. ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตอบคำถามต่างๆ ให้เรียบร้อยว่ามาทำอะไร? มากับใคร? มากี่วัน? พักที่ไหน?แล้วไปรับกระเป๋าเดินทางของตัวเองเสร็จแล้วก็เดินออกจากสนามบินแล้วเริ่มแพลนเที่ยวได้เลยจ้า

*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ*ﾟ

เป็นยังไงบ้างคะ? หลังจากที่ได้อ่านไปจนครบทั้ง 7 ข้อแล้ว ช่วยเพิ่มความมั่นใจและคลายความกังวลให้สาวซิสกันไปได้บ้างรึเปล่าเอ่ย… เราขอบอกเลยนะคะว่าการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกน่ะไม่ใช่เรื่องน่ากลัวสักนิดเลยนะ ถึงแม้ว่าครั้งแรกๆ มันจะแอบรู้สึกตื่นเต้นไปบ้าง แต่เชื่อเถอะค่ะว่าถ้าคุณสาวๆ เตรียมตัวมาดี เตรียมเอกสารและของต่างๆ ให้พร้อม เผื่อเวลาเอาไว้ก่อนล่วงหน้า และทำตามกฎเกณฑ์ตามที่สายการบินกำหนดทุกอย่าง ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวด้วยเครื่องบินได้แบบง่ายและสบายเวอร์เลยล่ะ เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ สู้ววว วว!!!

Cr. 5 ขั้นตอนการขึ้นเครื่องบินง่ายๆhttps://www.cigna.co.th/health-wellness/travel/5-ways-to-on-the-plane

Cr. เตรียมตัวขึ้นเครื่องบินครั้งแรกอย่างมืออาชีพhttps://bit.ly/2lX0bkk