1. SistaCafe
  2. บัตรเครดิตหาย ต้องทำยังไง? ติดต่อที่ไหนบ้าง?

ทักทายค่าเพื่อน ๆ มาเมาท์มอยกันหน่อยเร็ว ก่อนเข้าเรื่องถามหน่อยว่าใครมีบัตรเครดิตติดตัวอยู่บ้างมั้ยเอ่ย? บทความนี้ขอมาเตือนว่าให้เก็บบัตรเครดิตเอาไว้ให้มิดชิดหน่อยก็ดีน้า เพราะว่าถ้าบัตรเครดิตหายไปเนี่ย มันไม่ได้หายไปแค่บัตรเท่านั้น แต่มูลค่าวงเงินในบัตรอาจจะหายไปด้วย ถ้าเกิดมีคนไม่หวังดี ขโมยเอาไปใช้จ่ายโดยที่เราไม่ยินยอม แล้วถ้าเกิดปัญหา บัตรเครดิตหาย ขึ้นมาเราควรจะต้องทำยังไง? ในบทความนี้เรารวบรวมข้อมูลและขั้นตอนการติดต่อเวลาบัตรเครดิตหายมาให้แล้ว ลองทำตามนี้กันได้เลย


บัตรเครดิตหาย ต้องทำยังไงบ้าง?


1. รีบแจ้งอายัดบัตรทันที

สิ่งที่ควรทำอันดับแรกเมื่อรู้ตัวว่าบัตรแครดิตหาย นั่นก็คือ “ การแจ้งอายัดบัตร “ เพื่อหยุดการใช้งานบัตรเครดิตใบนั้นไป ป้องกันไม่ให้เกิดการนำไปบัตรไปใช้ต่อด้วย ซึ่งสามารถแจ้งอายัดบัตรได้ที่ธนาคารที่ออกบัตร หรือสามารถโทรติดต่อ Call Center ขออายัดบัตรได้จากเบอร์ติดต่อธนาคารที่ออกบัตรได้เลย หรืออย่างบางบัตร เช่น KTC ก็สามารถอายัดบัตรชั่วคราวผ่านแอปพลิเคชั่นได้ด้วย

2. แจ้งความและรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ

สำหรับคนที่กังวลว่าบัตรเครดิตที่หายไปจะมีคนเอาไปใช้รึเปล่า เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความเสี่ยงโดนขโมยเงินในบัตร ควรรวบรวมหลักฐาน แจ้งจุดที่จำได้ว่าบัตรเครดิตหาย รวมถึงหลักฐานแสดงว่าบัตรเครดิตเราหายจริง ๆ นำไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ แต่หากตรวจสอบแล้วว่าในเวลาก่อนอายัดบัตรไม่มีการใช้งานบัตร ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งความก็ได้ เพราะไม่ได้ใช้ใบแจ้งความในการขอทำบัตรใหม่


3. ทำบัตรเครดิตใหม่

หลังจากแจ้งอายัดบัตรแล้ว ทางธนาคารจะทำการออกบัตรเครดิตใบใหม่ให้ ซึ่งการทำบัตรเครดิตมีค่าธรรมเนียมการออกบัตรตามแต่ธนาคารกำหนด เราสามารถชำระเงินและติดต่อขอรับที่สาขา หรือรับทางไปรษณีย์ก็ได้




กรณีมีคนใช้บัตรเครดิตก่อนอายัดบัตร ต้องทำยังไง?

สำหรับคนที่ทำบัตรหาย แถมเข็กแล้วเจอว่ามีคนนำบัตรไปใช้ก่อนอายัด เกิดปัญหาโดนขโมยเงินตามมา ควรจะต้องดำเนินการยังไง


1. รีบไปแจ้งความทันที

ระหว่างที่บัตรเครดิตหาย และมีคนนำบัตรเครดิตของเราไปใช้จ่ายโดยที่เราไม่ยินยอม ถือได้ว่าเป็นคดีลักขโมยเกิดชึ้น มีโทศทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา33 สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือรีบไปแจ้งความเพื่อฟ้องร้องความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางสถานีตำรวจ


2. นำใบแจ้งความไปขออายัดบัตรกับธนาคาร

หลังจากแจ้งความยีนยันว่าบัตรเครดิตของเราหายแล้ว จากนั้นนำใบแจ้งความไปใช้เป็นหลักฐานประกอบ เพื่อแจ่งอายัดกับธนาคาร ว่ายอดเงินที่ชำระผ่านบัตรไปก่อนหน้า ไม่ใช่ธุรกรรมของเรา แต่เป็นของคนอื่นที่แอบอ้าง นำบัตรเครดิตของเราไปใช้จ่าย


3. ห้ามจ่ายเงินผ่านบัตรในช่วงที่บัตรเครดิตหาย

ในช่วงที่บัตรเครดิตหาย แล้วตรวจพบว่ามียอดใช้จ่ายที่ผิดปกติ ไม่ใช่ยอดของเรา มีคนนำบัตรเครดิตของเราไปใช้ ขอแนะนำให้งดการใช้จ่ายโดยบัตรเครดิตใบนี้ไปก่อน ถึงแม้ว่าจะเป็นการจ่ายหนี้บัตรเครดิตรายเดือนก็ตาม เพราะถ้าเกิดเรายังใช้จ่ายโดยบัตรเครดิตใบนี้ตามปกติ มียอดชำระล่าสุดที่เป็นของเรา จะเหมือนเป็นการยอมรับโดยทางอ้อม ว่าธุรกรรมของเราไม่มีปัญหา


4. รวบรวมหลักฐานมาแสดงว่าเราไม่ได้ใช้บัตร

นอกจากใบแจ้งความ เราสามารถรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม มายืนยันกับธนาคารได้ ว่ายอดชำระล่าสุดตอนที่บัตรหาย ไม่ใช่ธุรกรรมของเรา อย่างเช่น ใบเสร็จชำระเงินผ่านบัตรเครดิตที่มีสายเซ็นของเรา หรือบัญชีปลายทางของยอดชำระ ก็สามารถพอใช้เป็นหลักฐานได้ด้วยเช่นกัน เพราะทางธนาคารเองก็มีการสังเกตการใช้จ่ายบัตรเครดิตของเราอยู่ หากมีธุรกรรมที่แปลกไปจากการชำระเงินตามปกติของเรา ทางธนาคารสามารถดูออกได้เช่นกัน



กรณีทำบัตรเครดิตหายที่ต่างประเทศ ต้องทำยังไง?


1. แจ้งอายัดบัตรเครดิตกับธนาคาร

สำหรับคนที่ทำบัตรเครดิตหายในต่างประเทศ อันดับแรกที่ควรทำก็ยังเป็นการอายัดบัตรเครดิตเหมือนเดิม แนะนำให้เพื่อน ๆ เปิด roaming โทรศัพท์ไว้ หรือถ้าใครมีซิมโทรศัพท์ที่โทรข้ามประเทศได้ ให้โทรติดต่อธนาคารที่ออกบัตรโดยทันที เพื่อที่ทางธนาคารจะได้อายัดบัตรเพื่อไม่ให้บัตรที่หายไปนั้นทำธุรกรรมการเงินได้อีก


2. แจ้งความกับสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด

หลังจากนั้นให้รีบไปแจ้งความกับสถานีตำรวจที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อให้ทางสถานีตำรวจรับเรื่องและออกใบแจ้งความให้ บางประเทศเขาอาจจะไม่รับแจ้งความเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นก่อนไปเที่ยวต่างประเทศ เราควรศึกษาข้อมูลของประเทศที่เราจะไปไว้ล่วงหน้ากันก่อนน้า


3. ติดต่อกับสถานฑูตไทย

หลังจากได้รับใบแจ้งความมาแล้ว ให้นำใบแจ้งความพร้อมกับเอกสารแสดงสัญชาติไทย อย่างเช่น พาสปอร์ต ไปติดต่อยังสถานทูตไทยในประเทศนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป


และนี่ก็คือข้อแนะนำสำหรับคนที่ทำบัตรเครดิตหาย น่าจะพอเป็นแนวทางให้กับคนที่กำลังประสบปัญหาบัตรเครดิตหายได้บ้าง หรืออยากรู้ขั้นตอนแบบเรียล ๆ อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ลองดูจากรีวิวคลิปที่เราแปะไว้ให้ด้านล่างกันได้






คำแนะนำป้องกันการทำบัตรเครดิตหาย


  • หากระเป๋าหรือ Card Holder มาเก็บบัตรเครดิต

การเก็บบัตรหลาย ๆ ใบไว้รวมกัน อาจจะทำให้หยิบมาใช้งานได้ยาก และยังทำให้สับสน หาไม่เจอ บางครั้งเลยไม่รู้ว่ามีบัตรไหนหายไปบ้าง ลองหากระเป๋าหรือ Card Holder มาเก็บบัตรเครดิตให้เป็นระเบียบ สามารถหยิบใช้งานได้ง่าย แถมกระเป๋าและ Card Holder mี่มีความแน่นหนา ช่วยป้องกันไม่ให้บัตรหลุดหายไปได้ด้วย


  • รูดบัตรเครดิตออนไลน์ผ่านแอปฯ

เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก้าวล้ำไปมาก ๆ แล้ว นอกจากใช้บัตรเครดิตรูด ในบางที่ยังสามารถรูดบัตรเครดิตผ่านแอปฯ ได้ด้วย เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะดวก รวดเร็ว ใช้งานง่ายมาก ไม่ต้องหยิบบัตรออกมาใช้ให้ยุ่งยากเลย และที่สำคัญการรูดบัตรผ่านแอปฯ ในบางบัตรยังมีแต้มให้เก็บพ้อยท์เหมือนจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ด้วย


  • วางแผนงบประมาณค่าใช้จ่ายในต่างประเทศ

สำหรับคนที่มีแพลนไปต่างประเทศ แล้วกังวลเรื่องบัตรเครดิตหาย ลองวางแผนค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ สำหรับทริปนี้ แล้วติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรเครดิต ขอปรับวงเงินชั่วคราวให้เป็นวงเงินที่เหมาะสมสำหรับการใช้จ่ายในต่างประเทศทริปนั้น ๆ นอกจากป้องกันเงินที่อาจถูกใช้ไป ยังช่วยจำกัดค่าใช้จ่ายทริปเที่ยว ไม่ให้บานปลายเกินไปด้วย แต่ถ้าเกิดอยากใช้จ่ายมากกว่านั้น ก็สามารถโทรติดต่อ Call Canter ให้ปรับวงเงินให้ได้ด้วยเหมือนกัน


  • แจ้งธนาคารในการเดินทางต่างประเทศ

หลังจากขอปรับวงเงินแล้ว ให้แจ้งธนาคารถึงการปรับวงเงินด้วยว่าปรับเพื่อไปต่างประเทศ เพื่อให้ธนาคารเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยตรวจสอบข้อมูลกับเจ้าของบัตรเครดิต ว่ามีการใช้จ่ายด้วยยอดชำระนั้น ๆ จริงมั้ย และแนะนำให้เปิดโหมด Roaming มือถือในระหว่างท่องเที่ยว เพื่อให้สะดวกในการติดต่อกับธนาคารในยามเกิดกรณีเร่งด่วน หรือกรณีฉุกเฉินจะได้สามารถติดต่อได้ทันที



สรุป

และนี่ก็คือขั้นตอนเตรียมตัวเมื่อบัตรเครดิตหายที่เราเอามาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ หวังว่าน่าจะช่วยคลายกังวลให้เพื่อน ๆ ได้บ้างนะคะ และนอกจากขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ เราว่าการตั้งสติรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ปัญหาคลี่คลายไปได้ด้วยดีด้วยน้า ใครที่เจอกับปัญหาบัตรเครดิต ไม่ต้องตกใจ รีบอายัดบัตรและติดตามดำเนินการตามขั้นตอนในบทความนี้กันได้เลย


ขอบคุณรูปภาพจาก istock

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก





บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ







เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้