ผลไม้ลดน้ำหนักการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานนั้นนอกจากจะสามารถทำให้เราลดความเสี่ยงอันตรายต่างๆ จากการเป็นโรคแทรกซ้อน หรือการทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วกระฉับกระเฉงแล้ว ยังทำให้เรานั้นพอใจกับรูปร่างด้วย แต่ด้วยประเทศไทยที่มีของกินล่อตาล่อใจมากมายจึงทำให้แน่นอนว่ามันก็ต้องมีเกินๆ กันบ้างในอาหาร 1 วัน ส่งผลให้น้ำหนักตัวของเราค่อยๆ สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนรูปร่างเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยการที่เราจะลดน้ำหนักนั้นมันก็ต้องออกกำลังกายและควบคุมการกินไปด้วยเพื่อประสิทธิภาพในการลดใช่ไหม แต่เราก็ต้องมากังวลกับการเลือกกินเพื่อไม่ให้ได้รับแคลอรี่เกิน ซึ่งบางครั้งการเลือกทานอาหารบางชนิดก็มีแคลอรี่ที่สูงและอาจจะหนักท้องเกินไป ยังไม่รวมระหว่างมื้อที่เราจะหิวจุกจิกอีกด้วย ฉะนั้นตัวเลือกที่น่าสนใจและมีประโยชน์นั้นก็ต้องไม่พ้นผลไม้ ที่มีแคลอรี่น้อยทั้งอยู่ท้องไปอีกมาดูกับเลยกับ 10 ผลไม้ลดน้ำหนัก ที่นิยมในกลุ่มไดเอตหรือกลุ่มไอดอลกัน

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

10 ผลไม้ลดน้ำหนัก ที่ชาวไดเอตและไอดอลเกาหลีนิยม

ผลไม้ลดน้ำหนัก ที่ 1. สับปะรด

รูปภาพ:

สัปปะรด เป็นผลไม้ที่ดีมากในการลดน้ำหนัก เพราะสับปะรดเป็นผลไม้ในเขตร้อน ที่คนส่วนใหญ่นิยมบริโภค เพราะอุดมไปด้วยวิตามินบี แมกนีเซียม ไนอาซิน ทองแดง และเหล็ก ซึ่งผลไม้ชนิดนี้ให้รสชาติที่หวาน อร่อย ชุ่มฉ่ำ และก็มีประโยชน์แถมมาอีกเยอะ ซึ่งสามารถนำมาทานเพื่อลดน้ำหนักและยังป้องกันโรคหัวใจและเบาหวานได้ข้อเสีย : ไม่ควรทานตอนท้องว่าง เพราะเป็นผลไม้ที่มีเอนไซม์มาก มีรสเปรี้ยว ทานแล้วอาจจะระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ ทั้งยังไม่ควรสับปะรดดิบเพราะสามารถเป็นยาขับถ่ายที่เรียกได้ว่าชนิดรุนแรง และก็ไม่ควรทานสับปะรดที่สุกเกินไป เพราะอาจเริ่มเน่าแล้วทำให้ท้องเสียได้

ผลไม้ลดน้ำหนักที่ 2. แอปเปิลเขียว

รูปภาพ:

เป็นผลไม้ที่ชาวลดน้ำหนักต้องเลือกทานกันส่วนใหญ่เพราะใน 100 กรัมของแอปเปิลเขียว ให้พลังงานแค่ 58 แคลอรี่ ทั้งยังมีเอนไซม์ที่ช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้สะดวกง่ายขึ้น นอกจากเรื่องลดน้ำหนักก็ยังช่วยเรื่องผิวให้เปล่งปลั่งและลดเลือนริ้วรอยอีกด้วยข้อเสีย : หากทานในปริมาณที่มากเกินไปในขณะที่ท้องว่างสามารถส่งผลเสียต่อกระเพาะอาหารได้ เพราะในแอปเปิลเขียวอุดมไปด้วยวิตามินซี กรดมัลลิก (Malic Acid) และกรดซิตริก(Citric Acid) ซึ่งอาจทำให้ความเข้มข้นของกรดน้ำย่อยในกระเพาะอาหารสูงขึ้น จนทำให้กระเพาะอาหารอักเสบ จนปวดท้องหรือแสบท้องได้

ผลไม้ลดน้ำหนักที่ 3. กล้วย

รูปภาพ:

กล้วยเป็นตัวเลือกที่ดีในการเพิ่มพลังงานเพิ่มเติม เพราะในกล้วยนั้นมีคาร์โบไฮเดรตสูง ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำหรับร่างกาย การทานกล้วยก่อนการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากก็สามารถช่วยเพิ่มแรงให้กับร่างกายได้ข้อเสีย : ควรระมัดระวังในการทานกล้วยไม่ให้กินไปในปริมาณที่มากเกินไป ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมแล้วพออิ่มก็พอ เพราะในกล้วยนั้นมีปริมาณน้ำตาลที่สูงนั่นเอง

ผลไม้ลดน้ำหนักที่ 4. อะโวคาโด

รูปภาพ:

อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงมาก แต่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลในปริมาณที่ต่ำ รวมไปถึงกรดโอเลอิกที่ช่วยกระตุ้นสมอง ส่งผลให้อิ่มเร็ว ไม่หิวจุกจิกบ่อยด้วย นอกจากนี้ยังลดไขมันไม่ดีในเลือดให้ลดลงจึงสามารถทำให้ส่งผลต่อการที่น้ำหนักลงได้ข้อเสีย : ไม่ควรทานอะโวคาโดเกิน 1 ผล เพราะในอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานที่สูง ถ้าทานมากเกินจะทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมด จนร่างกายนำเอาไปเก็บสะสมเป็นไขมันนั่นเอง

ผลไม้ลดน้ำหนักที่ 5. เสาวรส

รูปภาพ:

เสาวรสมีส่วนประกอบของคริปโทแซนทิน(Cryptoxanthin) แคโรทีน วิตามินเอ วิตามินซี เควอซิทีน(Quercetin) ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โพแทสเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระและใยอาหารที่มีจำนวนมาก จึงทำให้รู้สึกอิ่มท้อง จนถึงชะลอการย่อยอาหารและช่วยควบคุมความอยากอาหารด้วยข้อเสีย : การกินเสาวรสที่ไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดผลข้างเคียงมากมาย เช่น เกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม มดลูกหดตัว และหลอดเลือดอักเสบ

ผลไม้ลดน้ำหนักที่ 6. กีวี

รูปภาพ:

กีวี่มีวิตามินซี วิตามินอี โฟเลตและใยอาหารจำนวนมาก แต่มีแคลอรี่และดัชนีน้ำตาลต่ำ มีส่วนช่วยให้ระบบการย่อยอาหาร การเผาผลาญและภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี ทำให้อิ่มท้องได้นานขึ้น ทั้งยังเสริมสร้างการทำงานของอวัยวะภายใน ลดระดับไขมันไม่ดีในร่างกายและช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตได้เช่นกันด้วยข้อเสีย : คนที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือผู้ป่วยที่มีบาดแผลอาจต้องหลีกเลี่ยงการกินกีวี่ไปก่อน เพราะกีวี่จะไปชะลอการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้เลือดไหลเยอะเพิ่มขึ้นได้

ผลไม้ลดน้ำหนักที่ 7. ฝรั่ง

รูปภาพ:

ฝรั่งอุดมไปด้วยแคลเซียม วิตามินเอ โพแทสเซียม ธาตุเหล็กและใยอาหารจำนวนมาก มีแคลอรี่ต่ำ ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้มากขึ้น ปรับสมดุลของระบบการขับถ่าย ป้องกันและลดความเสี่ยงเกิดภาวะท้องเสียหรือท้องผูก หากการกินฝรั่งแบบปอกเปลือกจะช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด พร้อมทั้งช่วยเพิ่มปริมาณไขมันดีในร่างกายข้อเสีย : การกินฝรั่งมากเกินไปหรือเกินวันละ 1 ลูก จะทำให้ย่อยยากและท้องอืดได้ เพราะในฝรั่งมีคาร์โบไฮเดรตสูง

ผลไม้ลดน้ำหนักที่ 8. บลูเบอร์รี

รูปภาพ:

บลูเบอร์รีให้ค่าพลังงานแคลอรี่น้อยมาก แต่มีไฟเบอร์หรือที่เรียกว่าเส้นใยอาหารค่อนข้างสูง ในบลูเบอร์รีปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานและสารอาหารที่เหมาะสม นอกจากนี้บลูเบอร์รียังมีวิตามินเค วิตามินซี แมงกานีส วิตามินอี วิตามินบี 6 และธาตุทองแดงอีกด้วยข้อเสีย : ไม่ควรกินมากเกินไป ควรกินในปริมาณที่พอดีต่อความต้องการ

ผลไม้ลดน้ำหนักที่ 9. แตงโม

รูปภาพ:

แตงโมมีส่วนประกอบของน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก มีใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างเบต้าแคโรทีน วิตามินและไคโคปินสูง แต่ให้แคลอรี่ที่ต่ำ สามารถช่วยลดความหิวและความอยากอาหาร ทั้งยังช่วยให้อิ่มท้องได้นานมากยิ่งขึ้นข้อเสีย : แตงโมเป็นผลไม้ตระกูลที่มีน้ำตาลเป็นจำนวนมาก

ผลไม้ลดน้ำหนักที่ 10. แก้วมังกร

รูปภาพ:

แก้วมังกร ใน 1 ผลที่มีปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานเพียง 66 แคลอรี่ ส่วนมากนิยมทานแบบสดๆ หรือนำไปทำเป็นน้ำผลไม้ปั่นเพื่อลดความอ้วน เพราะสามารถช่วยเรื่องของการขับถ่าย แก้ท้องผูก เพราะเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง 2.6 กรัม เลยทีเดียว ทั้งยังช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้อีกด้วยข้อเสีย : แก้วมังกรเป็นผลไม้เย็น สามารถทำให้ท้องเสียง่าย อาการซีดมือเท้าอ่อนแรง คนที่มีร่างกายเย็นไม่ควรทาน

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับผลไม้ลดน้ำหนักที่นำมาฝากกันสำหรับใครที่กำลังไดเอตหรือลดความอ้วนกันอยู่แนะนำว่าถ้าเลือกซื้อมากินแล้วกินในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป ก็จะได้รับประโยชน์จากผลไม้อย่างเต็มที่แน่นอนค่ะเพราะถ้าเมื่อไหร่ที่กินเยอะจนเพลินปากก็สามารถส่งผลเสียต่อท้องเราได้ง่ายๆ นอกจากนี้แล้วผลไม้พวกนี้นั้นกินแทนเป็นขนมพอหายหิวระหว่างมื้อได้ดีมากๆ เลย อิ่มท้องและได้ความหวานจากน้ำตาลธรรมชาติ บางผลไม้ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายเราดีขึ้นอีกด้วย ฉะนั้นชาวhttps://sistacafe.com/ไปเลือกมาทานกันเลย

บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาด

https://sistacafe.com/summaries/51083

https://sistacafe.com/summaries/44226

https://sistacafe.com/summaries/91282

https://sistacafe.com/summaries/95355https://sistacafe.com/summaries/92040