สวัสดีค่าาา...เกริ่นหัวข้อบทความมาแบบนี้ แน่นอนว่าต้องพูดถึงสกินแคร์ฉบับสาวออฟฟิศ ที่ผิวแพ้ง่าย ผิวเป็นสิว เจอฝุ่น เจอมลภาวะนิดหน่อย ผิวคล้ำเสีย สิวผดขึ้น โอ้ยยย!! หลายสิ่งอย่าง ด้วยความที่เป็นมนุษย์ออฟฟิศที่ผิวแพ้ง่าย เลยต้องหาอะไรที่ราคาไม่แรงแต่ตอบโจทย์ใช้ได้นาน และผิวต้องสตรองด้วย
มาค่ะวันนี้ขอแนะนำสกินแคร์ที่ใช้แล้วชอบ ใช้แล้วดี แล้วอยากบอกต่อ มีด้วยกัน 5 แบรนด์ ใครที่กำลังหาสกินแคร์บำรุงหน้า บอกเลยว่า#ของมันต้องมี
เริ่มกันที่ตัวแรก ใครที่สิวขึ้น สิวบุกโดยไม่มีอะไรกั้น ก็คือควรใช้! นั่นคือPixi Glow Tonicเพราะตัวนี้เป็นโทนเนอร์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก แบบอ่อนโยน ส่วนผสมหลักคือ Glycolic Acid หรือ AHA ผสมอยู่ 5% ใช้ช่วงแรกอาจจะรู้สึกยิบๆ ที่ผิวหน้า แต่หลังจากนั้นก็จะดีขึ้น ผิวจะไบรท์ขึ้น ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน ผิวแพ้ง่ายใช้ได้สบาย ส่วนตัวตองชอบใช้ตอนกลางคืนอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ช่วงเป็นสิวเยอะจะใช้บ่อย สิวยุบไว หน้าใสขึ้น ถือว่าคุ้มค่า ใช้ได้นาน แต่ยังไม่ค่อยปลื้มเรื่องความชุ่มชื้น ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ กลับกันหน้าอาจจะแห้ง เนื่องจากมันผลัดเซลล์ผิว ตัวเนื้อโทนเนอร์มีความบางเบา ใสๆ กลิ่นไม่ฉุนมาก ออกแนว glow ขนาด 250ml.
ต่อกันที่ตัวที่สองเป็นLANEIGE Water Bank Moisture Essenceสายชุ่มชื้นชอบแน่นอน เพราะใช้แล้วหน้าดูอิ่มน้ำ สดชื่นมากๆ ตัวนี้มีเทคโนโลยี Water zipper ที่จะช่วยเติมเต็ม กักเก็บ ฟื้นฟู ความชุ่มชื้นสู่ผิว ใครหน้าแห้ง หน้าเป็นขุยตัวนี้เหมาะมาก อีกอย่างที่ตองรู้สึกว่าชอบคือซึมไว ไม่เหนอะ แม้ตัวเนื้อเอสเซ้นส์จะเข้มข้น แต่ก็เบาสบายผิว กลิ่นไม่แรง หยิบมาใช้ทุกวันได้ แต่ถ้าใครหน้ามันมากๆ แนะนำว่าทาเฉพาะกลางคืนแล้วนอนจะดีกว่าค่ะ ขนาด 70ml.
ตัวที่สามอันนี้ไม่ควรพลาด เพราะรู้สึกว่าทำออกมาได้ดีและเห็นผลได้ว้าวสุด กับตัวZa TRUE WHITE EX ESSENCE LOTION nเป็นโลชั่นกึ่งเอสเซ้นส์ เนื้อบางเบามาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ต้องรอนาน หลังใช้ผ่านไป 1 วีค คือรู้สึกได้ว่าผิวไบรท์ขึ้น เวลาใช้ตองแนะนำว่าให้เทลงบนฝ่ามือแล้ววอล์มสักครู่ ก่อนตบลงบนผิวหน้าเบาๆ ทำแบบนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน
อีกอย่างถ้าวันไหนรู้สึกว่าผิวล้าๆ ให้เอามาหยดลงบนแผ่นมาส์กชุ่มๆ แล้วมาส์กทิ้งไว้ 20-30 นาที โอ้ยยยย!! เริศมากแม่!! ทำแบบนี้ครบสัปดาห์หน้าดีขึ้นจริงจัง ทั้งเรื่องความชุ่มชื้น ความขาวใส มาเต็ม ซึ่งในตัว Za ขวดนี้ นางมี ส่วนผสมไวท์เทนนิ่ง 4MSK เข้ามายับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานินจากภายใน ช่วยลดพวกจุดด่างดำและปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอยิ่งขึ้น แล้วก็มี Olive Leaf Extract ปกป้องผิวจากการโดนทำร้ายจาก UVA/UVB และมลภาวะต่างๆ ฟีลแบบใช้แล้วปกป้องผิว เพื่อผิวสวยอะไรทำนองนี้อ่ะ
ขออนุญาตแปะผลลัพธ์ 1 วีคหลังใช้!!! ว่าผิวไบรท์ขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น รอยสิวต่างๆ จางลง ผิวดูละเอียดขึ้น แบบ...เห้ย!!! ดีอ่ะ!! เกินเรื่องมาก ขนาด 150ml. คุ้มค่ามากกกกก!!!
ตัวที่สี่ใช้เพราะตามกระแสโซเชียลไม่ไหวAMPLE n Ceramide Shot Ampouleความเกาหลีอ่ะเนอะ ก็สมชื่อเค้าแหละ ความฉ่ำ ความผิวฟูต่างๆ สาวออฟฟิศผู้ผ่านมรสุมงานจนหน้าอ่อนล้าควรใช้ตัวนี้เช่นกัน เพราะเซราไมด์ของเรานั้นจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้นหรือผิวโดนแดด โดยผิวที่ขาดเซราไมด์จะมีลักษณะหยาบกร้าน ขาดสมดุล มีริ้วรอย ตัวนี้จะช่วยเข้าไปเติมเต็มทำให้ผิวแข็งแรง อิ่มฟู ดูเรียบเนียน ส่วนตัวตองว่าเรื่องริ้วรอยยังคงต้องใช้เวลา แต่ความชุ่มชื้นคือดีอยู่ เนื้อเซรั่มกลางๆ ไม่ได้เบาบาง แต่ก็ไม่ได้หนักจนเหนอะ ซึมไม่ได้ไวมาก เน้นฉ่ำๆ มากกว่า ถ้าใครหน้ามันก็คือยกไปใช้กลางคืนเลยจ้า ไม่งั้นไม่รอด เยิ้มแน่ถ้าใช้ตอนเช้า ขนาด 100ml.
ตัวที่ห้าหลังจากเราบำรุงด้วยน้ำตบ โทนเนอร์ เซรั่มกันมาหมดแล้ว สิ่งที่ผิวสตรองห้ามขาดเลยก็คือสลีปปิ้งมาส์ก ขอยกให้Huxley Sleep Mask Good Nightนี่ใช้มาก่อนรีวิวจะดังเปรี้ยงในโซเชียล ใช้มาหลายหลอดแล้วถือว่าดีมาก เนื้อตัวมาส์กเข้มข้น กลิ่นอ่อนๆแนวธรรมชาติ ผ่อนคลายดีอยู่ ส่วนตัวรู้สึกว่ามาส์กหนาๆ ที่หน้าก่อนนอน ตื่นเช้ามาหน้าไบรท์ วาวๆ ฉ่ำๆ เหมือนฟิลเตอร์ไอจีแบบงงๆ 555+ แต่ผิวเด้งเหมือนกันนะ ใครที่หน้าแห้ง หน้ามัน หน้าเป็นสิว ใช้ได้หมด เพราะเค้าทำออกมาเพื่อผิวที่แพ้ง่าย เรื่องความชุ่มชื้นก็คือมาเต็ม ขนาด 120g.
นี่ก็คือสกินแคร์ที่ตองใช้เป็นประจำ หลักๆเน้นเรื่องผิวชุ่มชื้น ขาวใส ลดรอยสิว ลดสิว เพราะส่วนตัวตองผิวแพ้ง่าย เลยเลือกสกินแคร์ที่ช่วยสร้างผิวหน้าให้แข็งแรง ใครที่มีปัญหาผิวหน้าแบบเดียวกับตองลองไปใช้ตามกันได้ ที่สำคัญก็คือควรล้างหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ แล้วก็พักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะ ผิวหน้าจะได้สตรองและไม่โทรมจ้า