1. SistaCafe
  2. รีวิว "เที่ยวเกาหลี หน้าหนาวให้หนาวหน้า" ฟินแค่ไหน ถามใจดู!
div-gpt-ad-1738652799410-173874494

สวัสดีจ้าสาวๆ ทุกคน ^o^

และนี่ก็คือการรีวิวทริปรอบที่สองใน

เกาหลี

ของเรา  ซึ่งเป็นผลพวงมาจากรอบที่แล้ว  เนื่องจากว่าเป็นคนใสๆ  ตั้งใจจะไปกิน

สตรอเบอร์รี่

แต่ไปรอบก่อนเป็นช่วงก่อนใบไม้เปลี่ยนสี เลยดอดดูทั้งใบไม้เปลี่ยนสี และอดทั้งสตรอเบอร์รี่  ดีว่ายังได้ความฟินสนุก จากสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ในเกาหลี และอาหารอร่อยๆ มาแทนนะ


ครั้งนี้มีโอกาสดีๆ อีกรอบ เราเลยไม่พลาด ศึกษามาอย่างดี ได้ไปเกาหลีหน้าหนาวจริงๆ แล้ว เย้!! ><   แต่ความสนุกก็อาจมาพร้อมความทรมาน หากเตรียมตัวไปไม่ดี  เพราะหน้าหนาวในเกาหลี ได้ข่าวว่ามันหนาวมาก   ลองไปอ่านในรีวิวพันทิป เพื่อจะจินตนาการว่ามันหนาวขนาดไหน  แต่ความหนาวเท่าที่เลยเคยเจอบ่อยๆ นี่ก็คือเปิดแอร์อยู่ในห้อง หลังอาบน้ำ และปะแป้งเย็น นี่คือหนาวสุดๆ แล้ว  ^ ^;;     แต่เพื่อความปลอดภัยจึงได้ทำการดูพยากรณ์ เขาว่าวันที่เราจะไปมัน

หนาว 9 องศา

จึงทำการซื้อเสื้อผ้าและใส่แบบนี้จ้า



เสื้อผ้าที่ควรเตรียมไป

1.  ชุดโค้ทที่ให้ความอุ่นได้เพียงพอ 1 ตัว

ซึ่งที่เราซื้อมาเป็นเสื้อโค้ทผ้าฟลีซ บุขนจากยูนิโคล่ ใส่คลุมทุกวันก็เอาอยู่ แต่ก็ยังรู้สึกเย็นบ้าง




2. เสื้อซับใน  ไว้ใส่รองด้านในสุด



3. เสื้อชั้นแรก

เสื้อชั้นนี้ จะเป็นเสื้อยืดคอกลม หรือเสื้อแฟชั่นอะไรก็ได้ ไว้ใส่กันหนาวด้านใน



4. เสื้อคอเต่าฮีทเทค

ใส่ทับเป็นเสื้อชั้นนอก รองจากโค้ท




5. กางเกงเลคกิ้ง ฮีทเทค (ไม่มีบุขน)


ที่เราใส่เป็นเลคกิ้งฮีทเทค ไม่บุขนไม่เคยใส่เลคกิ้งธรรมดาไปหน้าหนาว เลยไม่รู้ว่ามันดีกว่าขนาดนั้นมั้ย  แต่ฮีทเทคที่ใส่ก็รู้สึกถึงความเย็นอยู่ดีนะ



6. กางเกงหรือกระโปรงยาว ไว้ชั้นนอกสุด

เมื่อใส่กางเกงหรือกระโปรงยาว ก็จะรู้สึกดีขึ้น  แต่ในอุณหภูมิ ประมาณ 9 องศา ใส่กระโปรงสั้นก็พอได้อยู่ สำหรับคนไม่ขี้หนาวนะ



7. ถุงเท้าหนาๆ และรองเท้า


รองเท้าหากเลือกเป็นรองเท้าที่หุ้มข้อจะดีมาก  ถ้ามีหิมะให้เลือกใส่แบบพื้นมีกันลื่นอย่างบู๊ทส้นตึก แต่ตอนเราไปใส่ผ้าใบแฟชั่นหุ้มข้อ ก็โอเคอยู่จ้า


เมื่อใส่ครบทุกอย่างก็จะ สิริรวมออกมาเป็นแบบนี้



แต่นแต๊น.........


วิธีที่เราใส่คือกะว่าไม่หนาวมาก  และ

ไม่พึ่งลองจอน

ซึ่ง

จัดว่าโอเคกับอุณหภูมิประมาณ 8-9 องศา

แต่ตอนไปถึงเกาหลีปุ๊บ 0 องศา   อ้าวเห้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า!  มันไม่ใช่ความหนาวที่จินตนาการเอาไว้เลย เพราะมันหนาวมากๆ และลมแรง แต่ก็ฟินมากเช่นกันถึงแม้จะสั่นเป็นช่วงๆ ก็ตามที

ซึ่

งชาวเกาหลีบอกว่าจะมีช่วงที่หนาวมาก 4-5 วัน แล้วจากนั้นจะสลับกับอุ่น

และวันที่เราไปถึง พยากรณ์ไว้ว่าจะอุ่น แต่เนื่องจากมันเป็นช่วงต่อ และไปถึงตอนเช้ามืด ก็เลยหนาวเป็นเจ้าเข้าแบบนั้น


ออกเดินทางยามหนาว ในเกาหลีครั้งแรก!

มาเที่ยวครั้งนี้ เรามาเที่ยวกันเองกับเพื่อนๆ  กะว่าจะได้มีเวลาอิสระ ไม่ต้องรีบอะไร และมีการซื้อทัวร์กับทางเว็บ

KoreaGuru.com

เอาไว้ เพื่อบางที่ ที่เราไปเองไม่เป็นก็จะได้สะดวกหน่อย


การเดินทางในเกาหลี สิ่งที่คิดว่าควรซื้อเป็นอย่างยิ่งเลยนั่นก็คือ

บัตร T- Money

ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้แตะได้ทุกพาหนะใน

การเดินทางสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์  ใต้ดิน แท็กซี่ หรือรถไฟฟ้า

ก็มีเจ้าบัตร T- money อันเดียวนี่แหละ  นับว่าสะดวกมากจริงๆ   และสามารถหาซื้อได้ตามร้าน

7-11, CU และ GS25 ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อ

ที่หาได้ง่ายในเกาหลีเลยจ้า


และนี่ก็คือหน้าตาบัตร

Tmoney

ที่เราไปซื้อมาน้า...

ได้ไปในช่วงก่อนปีใหม่  ภายในสนามบิน และตามห้างร้านต่างๆ จะจัด


ธีมคริสต์มาสต์

กันด้วย สวยมากๆ ฟินเลย...


ต่อมา เราจะเข้าเมืองด้วย

รถลีมูซีนบัส

กันนะจ๊ะ  ไป

ซื้อตั๋วได้ที่ด้านนอก

ที่รอรถกันเลย


และนี่คือหน้าตาตั๋ว สังเกตว่าจะมี

หมายเลขช่องรอรถ

เพื่อขึ้นรถบัสตามเบอร์ที่กำหนด


ระหว่างรออากาศหนาวมาก เราเลยต้องไปนั่งรอข้างใน พอใกล้ได้เวลาก็ต้องเตรียมตัวไปยืนรอ หากอยากมีเวลาเลือกที่นั่งนะจ๊ะ    เอาล่ะ พอรถมาแล้ว ก็ขึ้นกันเล้ย

ทีนี้ก็มุ่งหน้าเข้าสู่อินซาดงกันเล้ย!!

เมื่อมาถึงโรงแรม ก็เอากระเป๋าไปฝากพนักงานรอเช็คอินกันได้    และโรงแรมที่เราเลือกนอนกันวันแรกคือ Center Mark Hotel ห้องแบบแสตนดาร์ด    สิ่งที่น่าสนใจใน

การจองโรงแรมในเครือ Center Mark หรือ T Mark คือ เราจะได้บัตรสำหรับช็อปใน Duty Free จำนวน 10,000 วอน หรือประมาณ 300 บาท

ซึ่งขาช็อป ถ้าได้มาพักที่นี่จะคุ้มมาก  เพราะมี

SM Duty Free

อยู่ตรงหน้าเลย  นี่มันล่อตาล่อใจกันชัดๆ!


ออกมาจากโรงแรม เดินไปนิดหน่อยเจอร้านโอเด้งอยู่  รู้สึกเหมือนสวรรค์โปรดมาก

เพราะอากาศหนาวแบบควันออกปากขนาดนี้  ได้กินโอเด้งข้างทาง มันฟินจริงๆ !!


ต่อมา เราแพลนจะไปกินร้านอาหารภายในโรงแรม

T Mark Grand Hotel

ซึ่งจัดเป็น

โรงแรมระดับ 5 ดาว

ในย่านนี้  ก่อนทานอาหารเลยได้มีโอกาส ขอเข้าไปเยี่ยมชมห้องพักในแบบต่างๆ บ้าง ซึ่งก็มีหลายไซส์หลายขนาด ตั้งแต่สแตนดาร์ด ไปจนถึงห้องใหญ่ อย่างหรู ซึ่งเห็นแล้วชวนสงสัยมากว่า ต้องเป็นคนระดับไหน


โซนต่อมา มาที่ร้านอาหารกันเลย หิวแล้ว


อาหารที่ร้านนี้เป็นแบบบุฟเฟต์ มีทั้งของคาว ของหวานให้เลือกเยอะมาก  แต่ที่เราแนะนำไม่อยากให้พลาดนั่นก็คือไอติมที่ผัดให้ดูสดๆ กันตรงนั้นเลย


หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว เราไปที่

Bukchon Hanok Village

ซึ่งเป็นหมู่บ้าน ที่จำลองที่อยู่อาศัยสมัยอดีต  เหมือนที่เราเคยเห็นบ่อยๆ ในหนังพีเรียด   เป็นสถานที่ที่เหมาะมาก หากได้มาเที่ยวหน้าหนาว เพราะถ่ายรูปสวยมากเลยจ้า



หลังจากหมู่บ้าน


Bukchon Hanok Village เราก็ไปต่อที่

Namsan Tower

ด้วยรถบัส เพราะเป็นทัวร์ที่ซื้อมาจาก Korea Guru ค่ะ


ในส่วนของช่วงกลางคืน เรามีโปรแกรมที่น่าสนุกรออยู่ นั่นก็คือการชมการแสดงชุด

The Painters: HERO  ซึ่งอยู่ที่Seoul Cinema

ซึ่งเป็นการแสดงที่เริ่มเป็นที่นิยมในเกาหลี ใครมาต้องไม่พลาด และเราเองก็ไม่พลาดเช่นกันจ้า


แต่ก็เกือบพลาดละ เพราะตามหาร้านอาหารกินกัน ฮ่าๆๆ   และบริเวณแถวนั้นจะมี

ร้านอาหารเต็นท์แดง

อยู่เต็มไปหมด   สาวๆ หลายคนอาจจะคุ้นเคยจากในซีรีส์กันมาบ้างแล้ว  วันนี้เราเลยอยากมาลองของจริงกันบ้าง


ได้เวลาชมการแสดงแล้ว    สรุปคือมัวแต่กินเพลิน แถมอาจุมม่า ใจดีทำไข่ดาวมาแจกให้เฉยเลย ถึงจะรีบก็ต้องทานเข้าไป เพราะเดี๋ยวอาจุมม่าจะน้อยใจ สรุปว่า แม้แต่ไข่ยังอร่อยเลยจ้า    แต่อร่อยแค่ไหน กินเสร็จก็รีบจ้ำอ้าวเลยเพราะเดี๋ยวไม่ทัน    แต่ปรากฏว่าทันการแสดงเริ่มแบบพอดิบพอดี คนเต็มโรงเล้ย


การแสดงชุดนี้เหมือนผสมผสานระหว่าง

ศิลปะการวาดรูป และละครใบ้เข้าด้วยกัน

ซึ่งสนุกมากกกก  แถมโอปป้าที่เล่นก็ทำให้เราเพลิดเพลินได้ ด้วยท่าทางทะเล้น และพากันตลกทำให้ขำตลอด 80 นาทีเต็ม



แต่! ห้ามถ่ายรูปนะจ๊ะ  จะมีให้ถ่ายตอนแสดงเสร็จแล้วเท่านั้น


หลังจากดูจบก็กลับโรงแรม  มีการจัดไฟด้วยน่ารักจริงๆ


วันต่อมา เราเก็บกระเป๋าฝากพนักงาน ให้ทำการส่งกระเป๋าไปยังโรงแรมต่อไป และลงมารอ

Shuttle bus

หน้าโรงแรม เพื่อเตรียมไป

Phoenix Ski Resort

กัน


เย้!!  ซึ่งรถบัสจะออกตอน 9.20 ตรงเป๊ะ ถ้าเลทอาจมีเปลี่ยนแปลนกันบ้างล่ะนะ     เมื่อรถออกเดินทางไปถึงจุดหมาย ก็ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง  ระหว่างทางจะมีให้แวะเข้าห้องน้ำกัน 10 นาที แล้วออกเดินทางต่อจนถึงแหล่งเป้าหมาย  และจะให้เราทำการเช่าชุด เช่าอุปกรณ์ให้เรียบร้อยจ้า


จากนั้นก็เดินทางไปถึงแหล่งสกี   แต่ก่อนจะทำอะไร เราก็ไปหาอะไรกินกันก่อน ก่อนจะขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ไปบนยอดสกีกัน ><


ต่อไป เราไปเข้าคิวขึ้น

เคเบิ้ลคาร์

กัน    ข้อควรระวังคือ


เคเบิลคาร์จะไม่ได้หยุดอยู่กับที่ให้เราขึ้น  แต่จะเคลื่อนไปเรื่อยๆ  ฉะนั้นต้องจับจังหวะขึ้นให้ดีนะ



มาถึงด้านบนยอดเขาสกี จะเต็มไปด้วยหิมะ และวิวสวยสุดใจมากๆ  ขึ้นมาถึงนี่แล้วฟินสุดๆ เลย  ถ่ายอะไรก็สวย  แถมรอบข้างมีแต่หิมะ หน้านี่สว่างไม่ต้องใช้รีเฟล็กเลย ><


กลับจากสกี  เราก็ใช้เวลาเดินทางกลับอีก 2 ชั่วโมงกว่าๆ เมื่อไปถึงโรงแรม เราก็นั่งใต้ดินไปลงสถานี

เมียงดง    ช็อปไทม์!!! >3<




ในสถานีเมียงดงก็มีร้านอาหารอยู่ร้านหนึ่งชื่อ

James Cheese Back Ribs

ถ้าใครติดตามคลิปอาหารเกาหลีบ่อยๆ คงได้เคยเห็นกันมาบ้างแล้ว กับซี่โครงหมูพันชีส ยั่วน้ำลายแบบนี้



พอชีสเหลือ เขาก็จะเอาข้าวมาผัดให้ พร้อมกับสาหร่าย


หลังจากนั้นก็ใช้เวลาช็อปอยู่ในเมียงดง กันจนถึง 4 ทุ่ม   ตรอกละลายทรัพย์ของแท้ TvT   ใครที่คิดว่าไม่พกเงินสดมาแล้วจะรอดนี่คิดผิดนะ   เพราะบัตรของคุณจะถูกรูดออกไปแบบไม่ลืมหูลืมตา เยอะกว่าเดิมอี้ก!


วันต่อไป เราเก็บของแล้วย้ายถิ่นไป

ปูซาน

ค่ะ    นั่ง

รถไฟ KTX เ

จ้าเดิม

Train To Busan

อะเกน


เมื่อไปถึงปูซาน ปรากฏว่าฝนตกค่ะ  เศร้า TvT  พยากรณ์แม่นจริงอะไรจริง แอบหวังให้ไม่ตรง ฮ่าๆๆ  แต่ก็นะ  ถึงฝนจะตก ก็ทำอะไรเราไม่ได้ เราจะไม่อยู่เฉยๆ ค่ะ ......... ไปหาของกินโลด!

ปกติที่มาปูซานรอบก่อน เราเจอแต่โรงแรมที่ส้วมไม่มีระบบฉีดน้ำค่ะ  แต่มารอบนี้ห้องน้ำมีระบบฉีดทุกที่  สำหรับใครที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้ ก็นับว่าน่าพอใจเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ


เอาล่ะ  ได้เวลาทานอาหาร คณะเราเดินดุ่มไปขอคำแนะนำจากพนักงานโรงแรม แต่เ่ขาให้มาเป็นแผนที่เลยค่ะ สุดยอด  และร้านที่เราไปกันก็อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเลย เดินไปซอยเดียว  เป็นร้านหมูย่างค่ะ

ที่ร้านมีซาชิมิเนื้อมาเป็นเซอร์วิสให้โต๊ะเราฟรีด้วย ใครกินเนื้อก็สบายไป  แต่ถ้าใครไม่กิน ต้องสื่อสารให้เขารู้นะคะ ตอนนั้นเพื่อนเราใช้วิธีทำท่าจมูกหมูเอาค่ะ  แล้วปัดมือ ก่อนทำท่าชูเขา  เป็นอันว่าป้ารู้เรื่อง ^[]^


วันต่อมา ก่อนกลับเราไปแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างวัด

"Haedong Youggung"

เคยไปแล้วรอบหนึ่ง แต่กลับมาฤดูหนาวก็ฟินไปอีกแบบค่ะ  ได้ฟีลที่แตกต่างกันไป


ต่อมาเราไปเดิน

Sky Walk

ค่ะ   ไม่ใช่ทางเดินเชื่อม BTS แบบบ้านเรานะคะ แต่เป็นทางเดินกระจก ที่จะทำให้เหมือนเดินอยู่บนอากาศ  ด้านล่างจะเป็นโขดหินและทะเลค่ะ เสียวไส้กันไป


ก่อนไป

หมู่บ้านกัมชอน

ไกด์พามาทานบะหมี่เย็นอันเลื่องลือของปูซานหน้าหนาวค่ะ เขาบอกไว้ว่า หน้าหนาว เราต้องหนาวมากกว่าอากาศ ด้วยการไปทานบะหมี่เย็น  ซึ่งตอนแรก คิดว่าไม่น่าจะอร่อย เลยสั่งบะหมี่ร้อนมาด้วยชามหนึ่ง  แต่ปรากฏว่าผิดคาดค่ะ  บะหมี่เย็นอร่อยกว่า!!!


ทีนี้ก็ถึงช่วงไฮไลท์ของการมาเที่ยวปูซานค่ะ   เพราะนี่คือ

Gumcheon Culture Village


จากนั้นเราก็เดินทางไปต่อที่

Busan Tower

เพื่อมองปูซานในภาพรวมก่อนกลับค่ะ


... และนี่ก็คือภาพจากหอคอยค่ะ


เดินมาตรงมุมหนึ่ง มีตู้หยอดเหรียญ ปั๊มเหรียญที่ระลึกด้วยตัวเองค่ะ ซึ่งก็น่าระทึกมาก ว่าเหรียญจะปั๊มได้สมบูรณ์หรือไม่    แต่เราก็ลองแล้วออกมาสมบูรณ์ดีค่ะ

วิธีทำคือต้องหมุนล้อให้ได้ตราที่เราอยากได้ก่อน จากนั้นค่อยหยอดเหรียญ แล้วหมุนอย่างต่อเนื่องค่ะ อย่าให้ล้อหมุนกลับ  แล้วเหรียญจะออกมาสวยจ้า


หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ก็เดินทางไปที่สนามบินกิมเฮค่ะ  ด้านในจะมี Duty Free เล็กๆ ให้ช็อปอยู่ และร้านอาหารมีไม่มาก แต่มี 7-11 ค่ะ ช็อปได้อีกสบายๆ ^^


สรุปว่าการไปเกาหลีรอบนี้ เป็นอะไรที่ฟินมากๆ ท่ามกลางอากาศหนาวค่ะ ถึงแม้จะหนาวแต่ก็สนุก แถมแฟชั่นเสื้อหนาว  ก็ใส่ได้แค่ช่วงนี้ด้วย

ถ้าใครได้มาเกาหลีช่วงหน้าหนาว รับรองได้ภาพสวยๆ กลับไปอัพเพียบเลยแหละจ้า

และที่สำคัญหากวางโปรแกรมเที่ยวเองเป็นบางวัน และซื้อทัวร์แบบกำหนดเองได้ ก็ยิ่งสนุก และครบครันกว่ามาทัวร์ปกติอีกนะเนี่ย



บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้