สวีดัด สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวซิสที่น่ารักทุกคนค่าด้วยความที่เดือนนี้เป็นเดือนแห่งสายรุ้งสีสันสดใสอย่าง Pride Month นั่นเอง ดอลลี่เลยอยากจะมาเชิญชวนเพื่อน ๆ มาหัดทำขนมสีรุ้งสีสันสดใสต้อนรับเทศกาลกัน เผื่อใครอยากทำไปให้หวานใจ ให้เพื่อน ให้พี่ ให้น้อง หรือสถานะไหน ๆ คนรับต้องประทับใจแน่นอนเลยล่ะ รับรองว่าทำตามได้ง่าย ๆ ไม่ยากเกินความสามารถเราแน่นอนค่ะกับรวมสูตรขนมสีรุ้งถ้าพร้อมแล้วตามไปดูสูตรและวิธีการทำกันเลย !

สูตรขนมสีรุ้ง ปี 2023 ฉลอง Pride Month ด้วยของหวานสุดฟิน

รูปภาพ:

สูตรขนมสีรุ้ง สูตรที่ 1 : ขนมสัมปันนีสีรุ้งสดใส

รูปภาพ:

มาเริ่มต้นที่ขนมไทยกันดีกว่าค่ะซิส กับ' ขนมสัมปันนี 'น้องเป็นขนมโบราณที่ทำไม่ยาก แถมยังอร่อยแบบสุด ๆ >< เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะมีความหอมและละลายในปากแบบฟิน ๆ แทบไม่ต้องเคี้ยวเลยล่ะ

ส่วนผสม ขนมสัมปันนี สีรุ้ง

✰ แป้งมันสำปะหลังอย่างดี 500 กรัม (น้ำหนักก่อนคั่ว)

✰ หัวกะทิ 380 กรัม (น้ำเชื่อม)

✰ น้ำตาลทรายขาว 180 กรัม (น้ำเชื่อม)

✰ สีผสมอาหารตามชอบ ชนิดละ 2 หยด

✰ เทียนอบขนม

✰ พิมพ์ขนมทองเอก

วิธีการทำ

1. คั่วแป้งมันจนสุก ใช้เวลาประมาณ 12-15 นาที จนกว่าจะมีลักษณะฟูเบา ๆ แล้วนำไปอบควันเทียน 20 นาที

2. เชื่อมกะทิจนได้ที่เป็นยางมะตูม ช่วงแรกใช้ไฟกลางค่อนอ่อน พอเดือดให้ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน เคี่ยวต่อไปอีกประมาณ 15 นาที ยกลงคนต่อจนส่วนผสมข้นขาว

3. นำน้ำเชื่อมกะทิที่เย็นแล้วผสมกับสีผสมอาหารตามชอบ สีละ 2 หยด ระวังอย่าให้เข้มมากจนเกินไป

4. ค่อยๆใส่แป้งมันที่คั่วแล้วลงในน้ำเชื่อมกะทิ นวดให้เข้ากัน ให้ค่อย ๆ เติม ค่อย ๆ นวดจนแป้งนุ่มเนียนดี เมื่อเอานิ้วแตะแล้วไม่ติดนิ้วก็ถือว่าใช้ได้

5. อัดขนมใส่พิมพ์ โดยโรยแป้งนวลลงไปในพิมพ์แล้วเคาะออก อัดขนมลงไปให้แน่น ปาดแป้งส่วนเกินออก แล้วเคาะลงบนพื้นผิวที่สะอาด

6. ขนมที่ได้ให้วางผึ่งลมไว้สักพัก จนผิวด้านนอกตกทรายแห้งขึ้น ด้านในยังนุ่ม จึงนำใส่กล่องปิดฝาโดยไม่ต้องแช่เย็น

สูตรขนมสีรุ้ง สูตรที่ 2 : เครปเค้กสายรุ้ง

รูปภาพ:

สูตรต่อมากับขนมเบเกอรี่ที่ทุกคนน่าจะเคยรับประทานและรู้จักกันเป็นอย่างดีกับ' เครปเค้ก 'แล้วยิ่งเป็น ' เรนโบว์เครปเค้ก ' ที่มีสีสันสดใสก็ยิ่งน่ารักประทานเข้าไปอีก ตามไปดูส่วนผสมและวิธีการทำกันโลด

ส่วนผสม เครปเค้ก

✰ แป้งเค้ก 390 กรัม

✰ ไข่ 6 ฟอง

✰ MITTE FLAVOURED SYRUP กลิ่นละ 30 มล.

(กลิ่นบลูเบอร์รี, กลิ่นบลูซิตรัส, กลิ่นเจแปนนิส เมลอน, กลิ่นมะม่วง, กลิ่นสตรอว์เบอร์รี)

✰ เกลือ 1 ชช.

✰ นมสด 960 กรัม

✰ เนยสด รสจืด 60 กรัม✰ วิปครีม 2 ถ้วยตวง✰ สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง 150 กรัม

✰ MITTE FLAVOURED SYRUP 30 มล. (กลิ่นสตรอว์เบอร์รี)

วิธีการทำ1. นำแป้งเค้กมาร่อนให้เรียบร้อย ก่อนนำเกลือและไข่ตีให้เข้ากัน จากนั้นเติมนมทีละนิดแล้วตีส่วนผสมให้เข้ากัน ก่อนใส่เนยละลาย แล้วนำไปกรองให้เนื้อแป้งเนียน แล็ปและพักแป้งเครปในตู้เย็นอย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป2. เมื่อครบเวลาในการพักแป้งแล้วนำแป้งมาแบ่งในถ้วย 5 ใบ ให้เท่าๆ กัน จากนั้นเติม MITTE FLAVOURED SYRUP กลิ่นต่างๆ ลงไป แล้วคนให้เข้ากัน3. ระหว่างพักแป้ง ให้ตีวิปครีมด้วยตะกร้อมือ4. นำสตรอว์เบอร์รีแช่เย็นมาพักไว้ให้น้ำแข็งละลาย ก่อนนำมาบี้ในตะแกรง จากนั้นเติม MITTE FLAVOURED SYRUP กลิ่นสตรอว์เบอร์รี ลงไปและคนให้เข้ากัน พักไว้เพื่อเสิร์ฟคู่กับซอส5. นำกระทะเทปล่อนตั้งบนเตา เปิดไฟอ่อนและทาเนย รอให้กระทะร้อนได้ที่ จากนั้นใช้ถ้วยตวงขนาด 1/4 ถ้วยตวงตัดแป้งเครปลงในกระทะ และเอียงกระทะให้แป้งทั่วกระทะ รอให้แป้งสุก เมื่อแป้งสุกนำแป้งพักไว้บนจาน ทำจนครบทุกสีแล้วนำแป้งเครปพักให้เย็นก่อนนำไปปาดครีมุ6. นำแป้งเครปวางลงบนกระดาษรองเค้ก จากนั้นนำวิปครีมทาให้ทั่วทั้งแผ่นให้ความหนาเท่า ๆ กัน จากนั้นนำแป้งเครปชิ้นต่อมาพับครึ่งเพื่อให้ขอบแป้งเท่ากัน ก่อนวางลงบนวิปครีม และทำต่อไปจนครบทุกสี เมื่อได้เครปเค้กเรนโบว์แล้วนำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมงเพื่อให้วิปครีมเซตตัวก่อนนำมาตัดชิ้น เสิร์ฟพร้อมกับซอสสตรอว์เบอร์รี่เป็นอันเสร็จค่ะ

สูตรขนมสีรุ้งสูตรที่ 3 : วุ้นกะทิเรนโบว์

รูปภาพ:

สูตรต่อมากับขนมไทยอย่าง' วุ้นกะทิเรนโบว์ 'ที่มีส่วนผสมและวิธีการทำไม่ยุ่งยากเลยค่ะซิส แถมยังทานง่าย อร่อยด้วย ตามไปดูสูตรและวิธีทำกัน !

ส่วนผสม วุ้นกะทิเรนโบว์

✰ น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร

✰ ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ

✰ นมสด

✰ น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง

✰ สีผสมอาหารสีต่าง ๆ

วิธีการทำ

1. นำผงวุ้นผสมกับน้ำเปล่าที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากันและพักไว้ 5 นาที

2. เริ่มต้มวุ้นโดยใช้ไฟกลาง คนจนวุ้นละลาย

3. ใส่น้ำตาลที่เตรียมไว้และคนจนกว่าน้ำตาลจะละลายหมด เมื่อน้ำตาลละลายหมดให้ทำการปิดไฟ

4. นำวุ้นที่ได้ผสมกับนมสดในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 ผสมสีใส่ตามที่ต้องการและนำวุ้นเทลงในแม่พิมพ์ก็เป็นอันเสร็จ

สูตรขนมสีรุ้ง สูตรที่ 4 : คัพเค้กสีรุ้ง

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/41/c7/10/41c710b11c6f5caf1f4de45bb8db7e00.jpg

สูตรที่ 4 กับ' ขนมคัพเค้กสีรุ้ง 'ที่เหมาะกับการทำเป็นของขวัญหรือนำไปฝากใครมาก ๆ เลยล่ะ เพิ่มความครีเอตในการตกแต่งหน้าตามใจชอบ ปลุกความเป็นนักจิตรกรในตัวคุณ !

ส่วนผสม คัพเค้กสีรุ้ง

• เนยสด 115 กรัม

• น้ำตาลทรายป่น 120 กรัม

• แป้งเค้ก 135 กรัม

• ผงฟู 1 ช้อนชา

• นมสด 125 กรัม

• ไข่ขาว 4 ฟอง

• ครีมออฟทาร์ทาร์

• น้ำตาลทรายป่น 45 กรัม

• สีผสมอาหารสีแดง สีเขียว สีฟ้า และสีส้ม (หรือสีผสมอาหารอื่นตามชอบ)

วิธีการทำ

1. ใส่เนยสดและน้ำตาลทรายลงในอ่างผสม ตีผสมเข้าด้วยกันจนนิ่มฟู

2. ร่อนแป้งเค้กและผงฟูเข้าด้วยกันแล้วแบ่งเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน ใส่แป้งเค้กส่วนที่ 1 ลงไปในส่วนผสมเนยที่ตีไว้ คนผสมพอเข้ากัน

3. แบ่งนมสดเป็น 2 ส่วน เทส่วนที่ 1 ลงไปในส่วนผสมเนย คนผสมให้เข้ากัน

4. ใส่แป้งเค้กส่วนที่ 2 ลงไปในส่วนผสมเนย คนผสมพอเข้ากัน เทนมสดส่วนที่เหลือลงไป คนผสมให้เข้ากัน

5. ใส่แป้งเค้กส่วนที่ 3 ลงไปในส่วนผสมเนย คนผสมพอเข้ากัน พักไว้

6. ใส่ไข่ขาวและครีมออฟทาร์ทาร์ลงในเครื่องตีแป้ง ค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายลงไปตีผสมด้วย ตีจนส่วนผสมขึ้นฟู แบ่งส่วนผสมไข่ขาวออกเป็น 2 ส่วน ตักส่วนแรกใส่ในส่วนผสมเนยแล้วคนตะล่อมเบา ๆ ให้เข้ากัน

7. ตักส่วนผสมไข่ขาวส่วนที่เหลือใส่ลงไปแล้วคนตะล่อมให้เข้ากัน

8. แบ่งส่วนผสมแป้งเป็น 5 ถ้วย (แยกไว้ 1 ถ้วยไม่ต้องผสมสี) จากนั้นใส่สีผสมอาหารสีแดง สีเขียว สีฟ้า และสีส้มลงไปแล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากันดี

9. ตักส่วนผสมแป้งใส่ถ้วยกระดาษทีละชั้น โดยเริ่มจากใส่แป้งสีแดงลงไปเป็นฐานก่อน ตามด้วยส่วนผสมแป้งสีเขียว ตามด้วยแป้งสีฟ้าลงไป และแป้งสีส้ม สุดท้ายใส่ส่วนผสมแป้งที่ไม่ผสมสีลงไป

10. นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 130-140 องศาเซลเซียส (เตาอบเล็ก) ใช้เวลาประมาณ 25 นาที นำขนมออกจากเตามาพักไว้ให้คลายความร้อน

สูตรขนมสีรุ้งสูตรที่ 5 : แพนเค้กสีรุ้ง

รูปภาพ:

สูตรขนมต่อมาที่ทำง่ายเวอร์' แพนเค้ก 'นั่นเอง เหมาะกับการทำเป็นของว่างในตอนเช้าให้กับหวานใจ ตื่นมาเห็นแพนเค้กสีสันสดใสขนาดนี้ รับรองว่าชื่นใจแน่นอนเลยค่ะซิส

ส่วนผสม แพนเค้กสีรุ้ง• แป้งแพนเค้กสำเร็จรูป 2 ถ้วย• นมสด 1 ถ้วย• ไข่ไก่ 2 ฟอง• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา• สีผสมอาหาร 6 สีตามชอบ

วิธีการทำ

1. ตั้งกระทะใช้ความร้อนปานกลางค่อนข้างสูง ฉีดสเปรย์น้ำมันมะกอกลงไปจนทั่ว

2. คนผสมแป้งแพนเค้ก ไข่ไก่ และกลิ่นวานิลลาจนเข้ากัน แบ่งใส่ถ้วย 6 ถ้วย หยดสีผสมอาหารลงไป คนผสมจนได้สีตามชอบ

3. หยอดแป้งลงไปทอดจนสุกทั้งสองด้าน ทำจนครบทุกสีและแป้งหมด นำแป้งแต่ละสีมาวางเรียงซ้อนกัน ก่อนเสิร์ฟราดน้ำผึ้ง

สูตรขนมสีรุ้ง สูตรที่ 6 : วาฟเฟิลสีรุ้ง

รูปภาพ:

สูตรขนมต่อมาก็คือ' วาฟเฟิล 'ที่มีส่วนผสมและวิธีการทำคล้าย ๆ กับเจ้าแพนเค้กเลย ทำได้ไม่ยาก แถมเป็นขนมที่ทานง่าย อร่อยด้วย

ส่วนผสม วาฟเฟิลสีรุ้ง

• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย

• น้ำตาลทรายป่น 3/4 ถ้วย

• ผงฟู 3+1/2 ช้อนชา

• ไข่ไก่ 2 ฟอง

• นมสด 1+1/2 ถ้วย

• ริคอตต้าชีส 1/3 ถ้วย

• เนยละลาย 1 ถ้วย

• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

• ผงมัทฉะ 1 ช้อนโต๊ะ

• ราสป์เบอร์รีบด 3 ช้อนโต๊ะ

• แบล็กเบอร์รีบด 3 ช้อนโต๊ะ

• ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ

1. ผสมแป้ง น้ำตาลทราย และผงฟู คนจนเข้ากัน เตรียมไว้

2. ตีผสมไข่แดง นมสด ชีส เนยละลาย และกลิ่นวานิลลาจนเข้ากัน เททลงไปในส่วนผสมแป้ง คนผสมจนเข้ากัน

3. ตีไข่ขาวจนตั้งยอดแข็ง ตักลงไปผสมกับส่วนผสมแป้ง คนผสมจนเข้ากัน แบ่งส่วนผสมแป้งออกเป็น 4 ถ้วย ใส่ผงมัทฉะ ราสป์เบอร์รีบด แบล็กเบอร์รีบด และผงโกโก้ลงไปในแต่ละถ้วย คนผสมจนเข้ากัน

4. เปิดเตาอบวาฟเฟิลรอจนร้อน ตักส่วนผสมแป้งแต่ละสีหยอดลงไป พอสุกจัดใส่จาน ทำจนแป้งหมด จัดเสิร์ฟ

สูตรขนมสีรุ้งสูตรที่ 7 : มินิแพนเค้กเรนโบว์

รูปภาพ:https://img.kapook.com/u/2017/surauch/cooking/k8_10.jpg

มาถึงสูตรขนมสุดท้ายกันแล้วค่ะ ' มินิแพนเค้ก ' สูตรนี้เหมาะกับการชวนเด็ก ๆ มาลองทำนะคะ เพราะทำง่ายแถมไม่ยุ่งยาก ถ้าจะนำมาทำเป็นกิจกรรมในช่วง Pride Month ก็ถือว่าเหมาะมาก ๆ เลยทีเดียว

ส่วนผสม มินิแพนเค้กสีรุ้ง

• ไข่ไก่ 2 ฟอง

• นมสด 2 ถ้วย

• น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ

• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย

• น้ำตาลทรายป่น 4 ช้อนโต๊ะ

• ผงฟู 2 ช้อนชา

• เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา

• เกลือป่น 1 ช้อนชา

• กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา

• สีผสมอาหาร 6 สีตามชอบ

วิธีการทำ

1. ตีไข่ไก่กับส่วนผสมทุกอย่างจนเข้ากัน ยกเว้นสีผสมอาหาร แบ่งใส่ถ้วย 6 ถ้วย

2. หยดสีผสมอาหารลงไปในแต่ละถ้วย คนผสมจนเข้ากัน

3. ตักแป้งสีหยอดในกระทะเป็นทรงกลมเล็ก ๆ ทอดจนสุกและแป้งหมดทุกสี ตักเสิร์ฟ

★°★. *. °☆ .● . ★☆ ★ °☆ ¸.¸★

จบไปแล้วกับสูตรเมนูขนมสีรุ้งที่ดอลลี่นำมาแจกในเดือนPride Monthหวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ลองนำสูตรขนมไปทำกันดูนะ ผลลัพธ์เป็นยังไงก็เข้ามาคอมเมนต์พูดคุยกันได้นะคะ สำหรับวันนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่กับคอนเทนต์ดี ๆ ในhttps://sistacafe.com/ได้อีกในครั้งหน้าบ๊าย บาย

บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาด