ฮัลโหลวินเทอร์ค่าา สาวๆSistaCafeคนน่ารักทั้งหลาย(♥ω♥*)กรมอุตุแจ้งว่า ' ลมหนาว หนาวปากสั่นมาแน่! ' จะเชื่อได้ไหมไม่รู้ แต่สิ่งที่เราสัมผัสได้คืออากาศเย็นลงจริง กลางวันไม่เท่าไหร่ กลางคืนนี่ถ้าอยู่ชานเมือง ถ้าใส่เสื้อผ้าแขนสั้นมีหนาวขนแขนลุกเหมือนกัน ต้องอาบน้ำอุ่นรัวๆดังนั้นสาว สายบิวตี้อย่างเรา จะปล่อยผิวไปตามยถากรรมไม่ได้แล้วเด้อ ครีมบำรุงต้องมา โลชั่นต้องมี รวมถึงผิวบริเวณ ' ริมฝีปาก ' ก็ไม่ควรละเลยด้วยเช่นกันอาการปากแห้งลอกจนต้องแกะ พอแกะก็เลือดออกซิบๆ เป็นวงจรอุบาทว์สุดๆ ไม่ใช่แค่ในหน้าหนาว แต่สำหรับสาวผิวขาดน้ำ เจอแสงแดดจัด หรือชอบเลียปากบ่อยๆ ก็ปากแห้งได้ตลอดทั้งปี แม้แต่แพ้ยาสีฟันก็ปากลอกได้!นอกจากดื่มน้ำเยอะๆ ( ซึ่งเป็น a must ) แล้ว เราขอเสนอมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลยค่า (●´∀`)ノ♡
1. น้ำมันมะพร้าว

อันที่จริงไม่ใช่แค่น้ำมันมะพร้าวนะคะ แต่
น้ำมันจากธรรมชาติทั้งหลาย เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันแคสเตอร์ น้ำมันอัลมอนด์ etc. ต่างก็เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ชั้นดี ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น นุ่มนิ่มน่าสัมผัสด้วยกันทั้งนั้น เพราะออยล์เหล่านี้อุดมด้วยกรดไขมันที่ทำให้ผิวอิ่มน้ำ เมื่อริมฝีปากได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอก็จะอวบอิ่ม นุ่มนิ่มน่าจุ๊บนั่นเอง
ยิ่งถ้าเพิ่มส่วนผสมอย่างเอสเซนเชียลออยล์ เช่น ทีทรีออยล์ เกรปซีดออยล์เข้าไป จะยิ่งฟื้นฟูปากแห้งลอกได้เร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังป้องกันปากเป็นแผลติดเชื้อ ในกรณีที่เธอแกะปากตัวเองจนเป็นแผลอีกด้วย!
วิธีทำก็เพียง ผสมน้ำมันธรรมชาติ ( เช่น น้ำมันมะพร้าว ) กับเอสเซนเชียลออยล์เข้าด้วยกัน แล้วนำมาทาบนริมฝีปาก ทำซ้ำ 2-3 ครั้งต่อวัน จะใช้บำรุงปากระหว่างวัน หรือพอกหนาๆ ข้ามคืนเป็น overnight lip mask ก็ได้ เพียงหนึ่งสัปดาห์ก็เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นชัดเจนแล้วค่ะ
2. น้ำผึ้ง + วาสลีน

น้ำผึ้งที่เรานำมาทำขนมหวาน ผสมเครื่องดื่มต่างๆ มากมาย นอกจากมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านแบคทีเรียแล้ว ยังเป็นยารักษาโรคตามธรรมชาติมาตั้งแต่โบราณ! ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน ดูอิ่มน้ำอยู่เสมอค่ะ
ส่วนวาสลีน หรือปิโตรเลียมเจลลี ก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นของสารพัดประโยชน์สำหรับสาวๆ สายความงาม แต่หน้าที่หลักคือบำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้ง หากพอกผิวส่วนไหนหนาๆ ทิ้งไว้ข้ามคืน ผิวบริเวณนั้นก็จะอิ่มน้ำ ดูเต่งตึงกว่าผิวส่วนอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
เมื่อนำ 2 ส่วนผสมนี้มารวมกัน ก็เหมือนมาส์กปากธรรมชาติชั้นดีสำหรับปากแห้งๆ สากๆ นั่นเองค่ะซิสขา (♥ω♥ ) ~♪

วิธีใช้ลิปบาล์มสูตรนี้ก็เพียง ทาน้ำผึ้งดิบให้ทั่วริมฝีปาก แล้วใช้วาสลีนเคลือบทับชั้นนอก ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วใช้ทิชชู่เปียกหรือผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดออก ทำวันละครั้งต่อเนื่องเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จะทำให้เห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น ริมฝีปากเอิบอิ่มยาวนานขึ้นค่ะ*หากต้องการใช้เป็นลิปบาล์มประจำวันด้วย ก็ใช้วาสลีนผสมน้ำผึ้ง 1-2 หยดให้เข้ากัน เก็บใส่ตลับไว้ เมื่อปากแห้งก็นำมาทาบำรุงได้เช่นกัน แต่อย่าเผลอเลียปากเพราะอร่อยล่ะ! เดี๋ยวปากนุ่ม แต่น้ำหนักพุ่งทะยานแทนนะจ๊ะ*
3. กลีบกุหลาบโรสฮิป / Rosehip Oil + น้ำนม

ในกลีบกุหลาบโรสฮิป หรือโรสฮิปออยล์สกัดเข้มข้น อุดมด้วยวิตามินอีที่ช่วยบำรุงผิว บำรุงซึมซาบไปถึงผิวริมฝีปากที่แห้งแตกให้นุ่มเนียนขึ้น ช่วยฟื้นฟูสีผิวริมฝีปากเดิมตามธรรมชาติให้กลับคืนมาได้ ใครปากซีด ปากคล้ำจะเหมาะมาก!
ส่วนนมสดก็เป็นแหล่งของกรดแลคติก ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวให้หลุดลอกออกตามธรรมชาติ อีกทั้งยังมีกรดไขมันที่จำเป็น วิตามินและแร่ธาตุในนมยังทำให้ปากแห้งดูนุ่ม อิ่มน้ำจนสัมผัสได้เลยล่ะค่ะ (。♥‿♥。)

เพียง เตรียมกลีบกุหลาบไว้ 5-6 กลีบ ( ถ้าไม่มีดอกไม้สดเลย ใช้ Rosehip Oil 1-2 หยดแทนก็ได้ ) กับนมสด 1/4 ถ้วย วิธีบำรุงริมฝีปากง่ายๆ เพียงนำกลีบกุหลาบทั้งหมดไปแช่ในน้ำนม 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ขยี้กลีบกุหลาบในนมจนได้เนื้อคล้ายซอสข้นเหนียว ( หรือถ้าไม่มี ใช้ทางลัดด้วยการหยด Rosehip Oil ลงไปแทน ) ทาลงไปบนริมฝีปาก ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นทำต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ปากจะนุ่มเนียนขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ (◍•ᴗ•◍)❤
4. แตงกวา

ถ้าพูดถึง ' แตงกวา ' ในแง่ความงาม เราคงนึกถึงแตงกวาหั่นแว่นที่สาวๆ มักวางแปะบนหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ด้วยคุณสมบัติเย็นสดชื่น ช่วยเยียวยาผิวแห้งแตก ทำให้ผิวไม่ขาดน้ำ และยังช่วยลดอาการระคายเคือง ผิวบวม ผิวพองจากบาดแผลอีกด้วยซึ่งนอกจากผิวหน้าแล้ว ก็ยังเอามาใช้บำรุงผิวที่ริมฝีปากได้เช่นกันค่ะเพียงหั่นแตงกวาเป็นเสี้ยวเล็ก แล้วนำมาถูเบาๆ บนริมฝีปาก 1-2 นาที ปล่อยให้น้ำจากแตงกวาซึมเข้าสู่ริมฝีปาก ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดสาวๆ ยังสามารถนำแตงกวามาทำเป็นมาส์กปาก ด้วยการบดเสี้ยวแตงกวา 1-2 ชิ้นให้เป็นซอสข้น แล้วนำมาพอกปากได้ด้วย ทำซ้ำ 1-2 ครั้งทุกวัน ปากจะชุ่มชื้นขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งลิปบาล์มเลยค่ะ (´∀`)♡
5. ถุงใบชาเขียว

ในชาเขียวมีสารที่เป็นคุณประโยชน์ต่อผิวหนังและสุขภาพมากมาย เป็นแหล่งของโพลีฟินอล ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอีกเสบและปกป้องผิวหนังจากแสงแดด
แม้จะไม่มีงานวิจัยจริงจังว่าชาเขียวช่วยเยียวยาปากแห้งแตกได้ แต่ใบชาเขียวจากถุงที่ใช้ต้มดื่ม ช่วยลดอาการแสบร้อนจากแผลแห้งแตกบนปากได้ค่ะ
โดยนำชาเขียวรสธรรมชาติยี่ห้อใดก็ได้ นำไปจุ่มในน้ำร้อน 2-3 นาที ครบเวลายกออก ปล่อยทิ้งไว้พออุ่นๆ แล้วนำมาวางบนริมฝีปาก ทิ้งไว้ 2-3 นาที ทำอย่างน้อยวันละครั้ง
อาจทำคู่กับลิปบาล์มสูตรอื่นๆ ในบทความนี้ เพื่อเร่งผลลัพธ์บำรุงให้ปากอิ่มสวยเร็วขึ้นก็ได้น้า
♡(.◜ω◝.)♡
6. โกโก้บัตเตอร์ / เชียบัตเตอร์

เรามักจะเห็น ' โกโก้บัตเตอร์ ( ไขมันธรรมชาติจากเมล็ดโกโก้ ) ' หรือ ' เชียบัตเตอร์ ' เป็นส่วนผสมในลิปบาล์ม บอดี้โลชั่น หรือบอดี้ครีมหลากหลายยี่ห้อ ด้วยคุณสมบัติบำรุงผิวให้นุ่มเนียนถึงขีดสุด อุดมด้วยกรดไขมันที่จำเป็น สารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยกอบกู้ผิวขาดน้ำให้กลับมาชุ่มชื้น เต่งตึงอย่างรวดเร็ว หากไม่มี จะใช้โยเกิร์ตหรือบัตเตอร์มิลค์ก็ช่วยบำรุงให้ผิวนุ่มเช่นกัน
เพียงใช้โกโก้บัตเตอร์หรือเชียบัตเตอร์เข้มข้น ( มีขายตามร้านทำขนม ขายเป็นก้อนๆ ) ทาบนริมฝีปาก ใช้ปริมาณนิดเดียวก็ทาได้ทั่วปากแล้ว ใช้เป็นมาส์กพอกได้ข้ามคืน
หรือถ้ายุ่งยากไป จะใช้เนยถั่วหรือโยเกิร์ตพอกปากทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วล้างออกก็ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน ทำได้ทุกวันหรือทุก 2-3 วันแล้วแต่ความสะดวก
7. สารสกัดวานิลลาเข้มข้น ( Vanilla Extract )

อีกวัตถุดิบที่สาวๆ มักใช้ทำขนม แต่ที่จริงช่วยบำรุงริมฝีปากให้อิ่มสวยได้ดีก็คือ ' สารสกัดวานิลลา ( Vanilla Extract ) '
โดยนำมาเป็นส่วนประกอบในลิปสครับ ผสมกับเบกกิ้งโซดาและน้ำตาล ช่วยผลัดเซลล์ผิวริมฝีปากให้นุ่มเนียนน่าสัมผัสสุดๆ
สิ่งที่ต้องเตรียม :น้ำตาล 2 ช้อนชา, เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา, โจโจ้บาออยล์ / น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา, วานิลลาสกัด 1/4 ช้อนชา
วิธีทำก็เพียงผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ใช้นิ้วตักขึ้นมาในปริมาณเท่าปลายนิ้วก้อย แล้วทาให้ทั่วริมฝีปาก สครับให้ทั่วริมฝีปากเป็นเวลา 1-2 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ( ส่วนผสมลิปสครับนี้ เมื่อใส่ภาชนะฝาปิดแล้วอยู่ได้นานถึง 7 วัน )ทำทุกวันต่อเนื่อง 2-3 วัน หลังจากนั้นทำทุก 3-4 วันนะคะ
8. ขี้ผึ้ง ( Beeswax )

สำหรับ ' ขี้ผึ้ง ' เรามักจะเห็นเป็นส่วนประกอบในสบู่ เครื่องสำอางต่างๆ และครีมกันแดด มีส่วนผสมของไฮโดรคาร์บอน กรดไขมันอิสระ ( free fatty acids ) และส่วนผสมตามธรรมชาติที่มีส่วนช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันการอักเสบจากการติดเชื้อได้ดี
เยียวยาบาดแผลและกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ได้ด้วย ซึ่งรวมถึงการกำจัดเซลล์ผิวริมฝีปากที่แห้งแตกลอก ให้กลับมานุ่มเนียนได้ดั่งใจ
โดยนำขี้ผึ้ง เชียบัตเตอร์ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันเปปเปอร์มินต์ มาผสมรวมให้เข้ากันในชามทนความร้อน วางเหนือหม้อน้ำเดือด ต้มน้ำให้อยู่ในระดับต่ำ-กลาง เพื่อให้ความร้อนทำให้ส่วนผสมละลาย เทใส่ตลับลิปบาล์มก่อนส่วนผสมจะแห้งแข็ง ปล่อยทิ้งให้เย็นในอุณหภูมิห้อง แล้วนำมาทาปากได้เลยหรือถ้าทุกอย่างยุ่งยากเกินไป แค่ซื้อลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของขี้ผึ้ง แล้วนำมานวดบนริมฝีปาก 2-3 วินาทีก็ใช้ได้ ทาได้เรื่อยๆ ทั้งวันเลยค่า (♡´❍`♡)*✧ ✰ 。*
ที่ร้องซี้ด ไม่ใช่เพราะส้มตำเผ็ด แต่ปากแตกจนเลือดไหล T[]T ใครกำลังเจอปัญหานี้ แต่ไม่อยากใช้ลิปบาล์มสำเร็จรูปในท้องตลาดแล้ว เพราะกลัวแพ้สารเคมี หรือแค่อยากลองทำอะไรใหม่ๆ ก็มาทำตามสูตรในบทความนี้กันได้เลยโดยหากทำอย่างต่อเนื่อง ปากจะกลับมานุ่มสวยอย่างสมบูรณ์ได้ใน 2-3 สัปดาห์ค่ะ ^ ^ทั้งนี้จะมีปากอิ่มอย่างยาวนาน การดูแลไม่ให้ผิวขาดน้ำก็มีส่วนสำคัญ!ควรดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำผลไม้ธรรมชาติเรื่อยๆ ทั้งวันเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกายอยู่เสมอ ใช้ลิปสครับผลัดเซลล์ผิวสัปดาห์ละครั้ง ใช้ครีมกันแดด และใช้ลิปบาล์มจากธรรมชาติ ( ใช้สูตรจากบทความนี้ยิ่งดี ) เลี่ยงส่วนผสมเมนทอล จะยิ่งทำให้แสบปาก เน้นเป็นลิปบาล์มที่ผสมขี้ผึ้ง ปิโตรเลียมเจลลี หรือส่วนผสมใน 8 ข้อนี้จะดีกว่าและลดละเลิกการดื่มเหล้าสูบบุหรี่ เท่านี้ก็มีปากนุ่มน่าจุ๊บเหมือนเด็กน้อยได้ง่ายๆ แล้ววว ~(^з^)-♡ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนน้า บ๊ายบายค่ะ
Cr. How To Get Rid Of Chapped Lips – Home Remedies And Prevention Tips [stylecraze.com]
https://www.stylecraze.com/articles/simple-homemade-tips-to-get-rid-of-chapped-lips/
Cr. Beeswax Uses for Skin Care [healthline.com]
https://www.healthline.com/health/beeswax-uses#for-lips