มาคืนความสวยให้ผิวใสกันดีว่าค่ะ...!
#รู้ให้ทันผิวก่อนจะโทรมไม่รู้ตัว
Yeahhh~สักทีคลายกังวลเรื่องผิวที่โดนแดดทำร้าย☀ต้อนรับอากาศเย็นสบายแบบ Winterออกไปไหนก็แต่อย่าเพิ่งดีใจไป สาว ๆ รู้ไหมคะว่าอากาศหน้าฝนแบบนี้ก็ไม่ได้เป็นมิตรกับผิวเราเลย...!!!ทั้งหน้าแห้ง ผิวแตก ผิวมันสารพัดจะเกิดกับผิวหน้าเรา โอ๊ยยยย มีเรื่องให้ปวดหัวอีกแล้วค่ะซิส!เพราะ ปัญหาผิวไม่เข้าใครออกใครอีกหนึ่งปัญหาคือหน้าเยิ้มระหว่างวันเพราะความชื้นซึ่งจะบอกว่าสำหรับสาวๆ ที่ชอบการแต่งหน้าถือว่าเป็นปัญหากวนใจอันดับหนึ่ง ถ้าอยากรู้วิธีแก้.. แต่งหน้าแล้วไม่เยิ้มไหลในช่วงหน้าฝนคลิกอ่านบทความข้างล่างไปก่อนได้เลยค่าาาา
หน้าสวยท้าฝน ทริคแต่งหน้ายังไงให้สวยฉ่ำ ไม่เยิ้มติดทนหน้าฝน
https://sistacafe.com/summaries/67460
มาเช็คกันด่วน !!!ประสบปัญหาผิวข้อไหนและควรเตรียมวิธีรับมืออย่างไร?!
ปัญหาหน้ามัน หน้าเยิ้ม
ในที่สุดประเทศไทยเราก็เข้าสู่หน้าฝนเต็มตัว ลมเย็น ๆ พัดมาให้ชื่นใจ แต่! ปัญหาหนักอกที่มาคู่กันหน้าฝนเลยก็ คือ ...ปัญหาหน้ามัน หน้าเยิ้มเอิ่ม! ... เรียกได้ว่าประสบทุกฤดูกาล ไม่มีวันหยุด สาวซิสคนไหนที่ผิวมันง่ายก็จะปวดหัวหน่อยเพราะต่อมไขมันของเราไปถูกความชื้นจากหน้าฝนกระตุ้นเข้าให้
ขับไขมันออกมาหน้าเยิ้มไปอีก! ไม่หมดเท่านั้น!!เมื่อความมันเจอกับสิ่งสกปรกตู้ม!เกิดเป็นน้องสิวตัวร้ายปัญหากวนใจในหน้าฝนไปอีก ท้อละนะ...
รับมือกับปัญหาอย่างไร..?#รู้ให้ทันผิวก่อนจะโทรมไม่รู้ตัว
1. ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง
อันดับแรกเลยสาว ๆ ควร
ล้างหน้าให้สะอาด โดยการล้างหน้าแค่วันละ 2 ครั้ง
เช้า-เย็น! ไม่ควรเกินกว่านั้นเพราะถึงแม้ว่าสาว ๆ จะรู้สึกไม่โอเคที่หน้าไหลเยิ้มตลอดทั้งวัน แต่ก
การล้างหน้าบ่อย ๆมีแต่จะทำให้ผิวเรามันง่ายขึ้น
2. พบกระดาษซับหน้ามัน
อย่างน้อย ๆ ระหว่างวันเราควรใช้กระดาษซับหน้ามันอย่างน้อยสักครั้งสองครั้งเวลาที่หน้าเยิ้ม ๆซับความมันส่วนเกินออกบ้างแต่ระวังอย่าใช้บ่อยจนเกินไปนะ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าหน้าเราจะแห้ง ขาดความชุ่มชื้นทันที
3. .ใช้สกินแคร์สูตร Oil Free
สาว ๆ อย่าลืมนะคะ ไม่ว่าเราจะหน้ามันแค่ไหนก็
ไม่ควรมองข้ามการบำรุงผิว
หน้าให้
เหมาะกับผิวมันอย่างเรา
ให้เลือกใช้ ครีม Oil Free
และ
ควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่เป็นสูตร Oil base
เพราะมันจะยิ่งทำให้ผิวหน้าเรามันมากขึ้น
4. Cleanse สำหรับผิวมัน
อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยรับมือกับปัญหาหน้ามันของสาว ๆ คือCleanse สำหรับสาวผิวมันที่ช่วยลดความมันส่วนเกินและยังทำความสะอาดผิวได้หมดจดไม่ทำให้ผิวแห้งตึง! ให้สาว ๆ ลองสังเกตผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH 5.5 ข้างขวดดูนะคะ เพราะมันมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยในเรื่องของการยับยั้งแบคทีเรีย
Cr. ผิวมันคืออะไร ดูแลอย่างไร
https://cetaphil.co.th/th/what-is-oily-skin/
ปัญหาหน้าแห้ง ผิวไม่ชุ่มชื้น
หน้าฝน อากาศชื้นแบบนี้ก็ใช่ว่าหน้าเราจะชุ่มชื้นเสมอไป เพราะยิ่งอากาศอบอ้าวน้ำในร่างกายจะยิ่งระเหยออกไปยกระดับสู่ปัญหาที่สอง ...ปัญหาหน้าแห้ง ผิวไม่ชุ่มชื้น!และพอยิ่งหน้าแห้ง เจ้าตัวต่อมไขมันก็จะยิ่งชอบใจปล่อยน้ำมันออกมามากกว่าปกติ... โอ๊ย กุมขมับเลยค่ะ..
รับมือกับปัญหาหน้าแห้ง ผิวไม่ชุ่มชื้นอย่างไร..?#รู้ให้ทันผิวก่อนจะโทรมไม่รู้ตัว
1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า
ปรับสมดุลของผิวหน้าใหม่! ด้วยการ
ล้างหน้าจากโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว
ไม่มีสารระคายเคืองที่ทำให้ผิวหน้าเราแพ้ง่ายและช่วยให้หน้าไม่หยาบกร้านเพราะเชื้อโรคมาตามละอองฝนที่ตกลงมา ทั้ง ฝุ่น เชื้อโรค สารเคมี อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ผิวของสาว ๆ เกิดอาการแพ้ได้ง่าย
2. เลี่ยง Toner ที่มีแอลกอฮอล์
และสำหรับสาว ๆ ที่ใช้Tonerหลังจากทำความสะอาดใบหน้า ขอให้เลี่ยงTonerชนิดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพราะมันจะยิ่งทำให้หน้าของซิสแห้งมากขึ้นและจะยิ่งขับน้ำมันออกมามากขึ้นเป็นบ่อเกิดสิวอีกมันไม่โอเคเลยนะคะซิส!
3. หมั่นทา Moisturizer
ขั้นตอนการรักษาความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวหน้าของสาว ๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือMoisturizerเพราะในอากาศหน้าฝนนั้นมีความชื้นอยู่เยอะแนะนำให้สาว ๆที่ผิวแห้งใ
ช้
เจ
ลเพิ่มความชุ่มชื่น
ให้ผิวหน้าอย่างล้ำ
ลึกช่วยให้ผิวกลับดูมาอิ่มน้ำ เปล่งปลั่งมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
4. ใช้ผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่สาว ๆนิยมใช้กันในช่วงหน้าฝนเพราะมีสรรพคุณช่วยให้ผิวของสาว ๆ กลับมาชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง อิ่มน้ำอีกครั้ง ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากว่านหางจระเข้ที่ช่วยกักเก็บน้ำเอาไว้ได้อย่างดีเสกผิวแห้งกร้าน ไม่ชุ่มชื้น ให้กลับมาดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง!
5. ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว
รู้ไหมคะว่าถ้าอากาศยิ่งชื้นร่างกายเราจะยิ่งคลายน้ำออกมาระเหยไปกับความร้อนอบอ้าว ซึ่งการดื่มน้ำจะช่วยให้ผิวของสาว ๆ กลับมาดูชุ่มชื้นเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น อย่างน้อย ๆ ซิสควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้วชดเชยน้ำที่ร่างกายเราสูญเสียไป
Cr. วิธีดูแลผิวแห้ง บำรุงง่ายๆ ตามนี้ ผิวชุ่มชื้น ห่างไกลริ้วรอย
https://www.sanook.com/women/63371/
ปัญหาสิว ผดขึ้น
อีกหนึ่งปัญหาหน้าฝนที่มักจะเกิดขึ้นกับสาว ๆ ทุกคนคือ ...ปัญหาสิว ผด! ที่เกิดจากความชื้นในอากาศสูงเพราะเข้าสู่ช่วงหน้าฝน เชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศจะเจริญเติบโตได้ดีอีกทั้งผิวหน้าสาว ๆ ยังสัมผัสน้ำฝน เหงื่อ ฝุ่นละออง ที่มาของปัญหาสิว ๆ อีก หน้าฝนนี่มันร้ายยย!
รับมือกับปัญหาสิว ผดอย่างไร..?
#รู้ให้ทันผิวก่อนจะโทรมไม่รู้ตัว
1. แต่งหน้าให้น้อยลง
สิ่งที่เป็นบ่อเกิดของสิวต่าง ๆ คือ...เครื่องสำอาง! ที่ไปอุดตันบนใบหน้า ฝนมาทีหน้าเยิ้มไม่พอ สิวยังบุกอีก แต่เมคอัพเรียกได้ว่าเป็นอาวุธของสาว ๆ จะให้หน้าโล้น คิ้วบาง ออกมานอกบ้านก็ไม่ได๊! เอาเป็นว่าลองแต่งหน้าให้บางลงเลือกใช้รองพื้นที่เป็น Water-Based และ Noncomedogenicลงบาง ๆ ไม่หนักหน้า ลดอันตราการเกิดของสิวที่มาจากเครื่องสำอางได้อีก
2. ล้างหน้าให้สะอาด
ไม่ว่าจะประสบปัญหาผิวไหน ๆ ซิสไม่ควรละเลยการรักษาความสะอาดบนใบหน้าเพราะช่วงหน้าฝนที่พกสิ่งสกปรก เชื้อโรค ฝุ่น มาตามน้ำฝนเต็ม! ถ้าเกิดสาว ๆ ล้างหน้าไม่สะอาด สิวบุก แน่นอน!
3. ใช้ Toner ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
แน่นอนค่ะ สำหรับสาว ๆ แพ้ง่าย สิวบุกบ่อย ๆแค่ขั้นตอนการล้างหน้าอย่างเดียวมันไม่พอเพราะในน้ำฝนมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนที่เราไม่รู้อีกมาก อย่าลืมว่าหลังจากล้างหน้าเสร็จ ให้ใช้
Toner
ชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ลดปัญหาสิวอุดตันจากสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนใบหน้า แถมยังช่วยปรับผิวหน้าให้เข้าสู่ขั้นตอนของการบำรุงต่อไปได้ด้วย
4. ควบคุมความมันบนใบหน้า
มีสาว ๆ คนไหนบ้างที่เวลาหน้ามันต้องรีบตรงไปล้างหน้า พอหน้ามันอีกรีบซับด้วยกระดาษซับหน้า ทำอย่างนี้ทั้งวันไม่ให้โอกาสให้หน้าเราได้ขับน้ำมันออกมาเลย เป็นความคิดที่ผิดมหันต์! ซิสต้องปล่อยให้ผิวหน้าของเราได้เคลือบน้ำมันบ้างเพราะการที่ผิวแห้งเกินไปใช่ว่าจะเกิดดี เผลอ ๆ สิวบุกมากกว่าเก่าอีกนะคะซิส
5. เลิกจับหน้าสักที!
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือ ...เลิกจับหน้า!เพราะแค่สิ่งสกปรกที่มากับน้ำฝนแย่พออยู่แล้ว ขืนยังเอามือจับหน้า บีบสิว จับสิบอยู่อีก รับรองว่าชาตินี้ก็ไม่มีวันหายค่ะซิส!นอกจากจะเพิ่มเชื้อโรคบนหน้าให้เกิดสิวแล้ว แผลจากการบีบ การจับ ยังอักเสบขึ้นไปอีกถ้าห้ามใจตัวเองไม่ให้ไป แกะ จับ น้องสิวได้ ปัญหาสิวบุกจะลดลงทันที
Cr. ดูแลผิวให้ไกลสิวช่วงหน้าฝน
http://kbankcard.askkbank.com/TH/K-Lifestyle/HealthNBeauty/BeautySecret/Pages/May2013.aspx
ปัญหามลภาวะจากฝน
อันนี้สาว ๆ ทุกคนคงทราบอยู่แล้วว่าน้ำฝนที่ตกลงมาไม่ใช้น้ำสะอาด ปนเปื้อนทั้งเชื้อโรค ฝุ่นละออง สารเคมีนานาชนิดที่ระเหยอยู่ในอากาศอีกทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดจาก ...มลภาวะทางฝน! ที่ทำให้เกิดโรคเชื้อราได้ด้วยอย่าง โรคกรากเกลื้อน แม้จะไม่อันตรายแต่จะทำให้รู้สึกคันตามผิวหนังไม่หยุด
รับมือกับปัญหาอย่างไร..?
#รู้ให้ทันผิวก่อนจะโทรมไม่รู้ตัว
1. เลี่ยงที่จะโดนฝน
อย่างที่สาว ๆ รู้ว่า
น้ำฝนที่ตกลงมาปนเปื้อนด้วยเชื้อโรค สิ่งสกปรกต่าง ๆ
ขืนปล่อยให้ผิวเราโดนฝนนาน ๆ โดยไม่รีบทำความสะอาดทันที เตรียมตัว Say hello น้องสิวได้เลยคะ
แนะนำว่าให้พกร่มติดตัวไปด้วย
หลีกเลี่ยงที่จะเผชิญน้ำฝนโดยตรง
2. เช็ดด้วย Toner อีกครั้ง
การใช้ Toner เช็ดซ้ำหลังล้างหน้าอีกครั้ง เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่มากับน้ำฝนไม่ให้ตกค้างผิวของสาว ๆ จะได้สะอาดหมดจด ไม่มีปัญหาสิวอุดตันและยังช่วยให้กระชับรูขุมขนอีกด้วย
3. สคับผิวและพอกหน้า
สาว ๆ รู้ไหมคะว่าอย่างน้อย ๆ เราควรทำความสะอาดผิวด้วยการสคับผิว พอกหน้าอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ขจัดสิ่งสกปรก ให้ผิวหน้าที่เกิดการอุดตันกลับมาดูเปล่งปลั่งอีกครั้ง แนะนำให้ใช้สูตรพอกหน้าจากธรรมชาติอย่างมะเขือเทศ น้ำผึ้ง โยเกิร์ตธรรมชาติ ไข่ขาวฯฟื้นฟูผิวเสียให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง
4.กินผักและผลไม้เพิ่มวิตามิน
อีกหนึ่งวิธีคืนหน้าหมองให้ผิวใสคืออาหารผิวอย่างผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินมากมายที่เป็นส่วนช่วยให้ผิวกลับมาสดชื้น เปล่งปลั่งอีกครั้งอย่างน้อยในหนึ่งวันต้องมีสักมื้อที่สาว ๆ กินผักผลไม้เป็นส่วนประกอบหลัก จะกินแบบสด ๆ นำไปปรุงแต่งอาหารหรือทำเครื่องดื่มได้ตามความชอบเลยค่ะ
Cr. วิธีดูแลผิวหน้าฝน กับ 7 เคล็ดลับง่าย ๆ เพื่อผิวสวยตลอดหน้าฝน
https://women.kapook.com/view120693.html
ปัญหาผิวจากรังสี UV
ถึงแม้แดดจะไม่ออกแต่ให้สาว ๆ รู้ไว้ว่าทุกมวลในอากาศมีรังสียูวีอยู่ ถึงแม้จะไม่ได้รู้สึกร้อนแบบโดนแดดแผดเผาและการที่อากาศร้อนอบอ้าว ผสมกับความชื้นในอากาศแบบนี้ เป็นตัวสะสมรังสียูวีของแท้! ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้นให้รูขุมขนอักเสบ ผลิตน้ำมันออกมามาก จนอุดตันกลายเป็นเม็ดสิวตามสเต็ปเดิม ... ยัง! ยังทำร้ายกันไม่พอใช่ไหม?! เพราะแสงจากรังสี UVยังทำให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยย่นบนหน้าอีกถึงแม้จะไม่ใช่วันที่แดดออกแต่ห้ามไว้ใจแสงจากแดด UV เด็ดขาด!
อย่างไร..?
#รู้ให้ทันผิวก่อนจะโทรมไม่รู้ตัว
1. เลือกครีมกันแดดที่ซึมซับไว
อันดับแรกในการเลือกใช้ครีมกันแดดในหน้าฝน แนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีเนื้อบาง ซึมซับไวเพราะความชื้นจากอากาศหน้าฝนจะยิ่งทำให้ต่อมไขมันทำงานหนักแบบมาก ๆ น้องผิวของเราก็จะยิ่งเกิดการอุดตัน ดูหมองคล้ำ แหล่งการเกิดของสิวอีก เฮ้อ .. สาว ๆ จึงควรเลือกใช้ครีมที่ส่วนช่วยบำรุงผิวไม่ให้หมอง ลดริ้วรอย บอกลาฝ้า กระ จากแสงอาทิตย์ตัวร้าย!
2. ครีมกันแดดต้องมีค่า SPF มากกว่า 15 ขึ้นไป
สิ่งสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูผิวในหน้าฝนจากรังสี UV คือครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติครบถ้วน
สามารถป้องกันรังสี UVA1 UVA2 และ UVB ได้ มี SPF เหมาะสม โดยมีเครื่องหมาย SPF และ PA+++
เพียงเท่านี้แดดในฤดูกาลไหน ๆ ก็ไม่สามารถทำร้ายผิวเราได้อีกต่อไป
3. อาหารที่ช่วยปกป้องแสง UV ?!
ไม่ได้มีแค่ครีมกันแดดที่ช่วยป้องกันสาว ๆ จากแสงแดดได้ เพราะในอาหารก็มีสารที่ช่วยป้องกันแสงจาก UVได้ด้วย เช่นมะเขือเทศ บล็อกโคลี่ ชาเขียว แซลมอน แครอท ฯเขาก็มีสารที่ช่วยบำรุงผิวพรรณและป้องกันการทำลายจากรังสี UVอีกด้วย ลองหาเมนูจากสารอาหารพวกนี้ดูนะคะ
Cr. ใครว่าหน้าฝนแดดไม่ออกไม่ต้องทาครีมกันแดด
https://lachule.co.th/index.php?op=beauty-detail&beautytip_id=174
Cr. อาหาร 8 อย่างต้าน UV
https://www.dek-d.com/nugirl/37400/
•.★*... ...*★.• •*•.★*... ...*★.• •*•.★*... ...*★.• •*•.★*... ...*★.• •*เชื่อหรือยังคะ!ว่าถึงแดดซัมเมอร์ร้อนระอุจะผ่านไปแต่เราอย่างหากเรารู้ที่มาของปัญหาผิวและวิธีการรับมือตามขั้นตอนแล้วรับรองว่าปัญหาผิวในหน้าฝนจะไม่ใช่อุปสรรค์สำหรับสาวซิสอีกต่อไป ๆขอขอบคุณที่อยู่อ่านจนจบนะคะ❤
Cr. 5 ปัญหาผิวที่มาพร้อมฝน และวิธีรับมือ
https://www.idskinexpert.com/knowledge/5-%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99/
Cr. รู้หรือไม่ ? …ฤดูฝน… สร้างปัญหาให้ผิวหน้าได้มากกว่าที่คิด!
https://www.sojothailand.com/content/5869/rainy-season-trouble-face-skin
