https://edition.cnn.com/travel/article/south-korea-beautiful-places/index.html
https://edition.cnn.com/travel/article/south-korea-beautiful-places/index.html
ถ้าพูดถึงประเทศเกาหลี
นอกจากจะไปซื้อเครื่องสำอาง
ตามรอยหนัง/ซีรี่ส์ ตามรอยบ้านเกิดคนที่เราชอบ หรือตามไปที่ค่ายที่ไอดอลในใจเราสังกัดอยู่แล้ว
มีที่ไหนที่เราจะไปได้อีกมั้ย?
เชื่อเลยว่าหลายคน
ไม่ค่อยทราบว่าที่เกาหลีมีสถานที่ท่องเที่ยวไหนให้เราไปได้อีก
ถ้าหากไม่ซื้อทัวร์แล้วให้เขานำทัวร์ซะเลย
ซึ่งเราจะได้รู้จักสถานที่เพิ่มมากขึ้นก็จริง
แต่อาจจะไม่ได้มีเวลาเดินชิลล์ ดื่มด่ำบรรยากาศการเที่ยวมากมายนัก
จริงๆ แล้วที่ประเทศเกาหลีมีอะไรมากกว่านั้น
มีสถานที่เร้นลับที่เราไม่คิดว่าจะมีอยู่ในเกาหลี ซึ่งบางทีอาจจะ
ทำให้รู้สึกอิ่มใจมากกว่าไปยังพื้นที่ที่เป็นกระแส
ซะอีก เอาล่ะ!
ใครที่อยากจะไปรู้จักประเทศเกาหลีให้มากขึ้น
กว่าเครื่องสำอาง ของกิน และนักร้องดารา ลองมาดู...
สุดยอด 7 แหล่งเที่ยวในเกาหลี สวยที่สุด! หมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย
1 # Seongsan Sunrise Peak


สถานที่แรกนี้คือ
Seongsan Ilchulbong หรือ ยอดเขาซองซาน อิลชุบง
เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 100,000 ปีที่แล้ว เนื่องจากลักษณะรูปร่าง และสถานที่ที่พอดิบพอดีบนเกาะเชจู
ทำให้กลายเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุด
ซึ่งได้ชื่อว่า
' ยอดเขาแห่งรุ่งอรุณ '
บริเวณยอดเขาเต็มไปด้วย
พืชหลากหลายพันธุ์หายาก
เต็มไปหมด องค์การ UNESCO จึงได้แต่งตั้งให้เกาะเชจูได้เป็น
1 ในแหล่งมรดกโลกของเกาหลี
นั่นเอง
ใครที่อยากไปสัมผัสความสวยงามให้เห็นกับตา ก็สามารถเดินทางได้โดยนั่งรถบัสจาก
Jeju Intercity Bus Terminal
ขึ้นรถบัส
Dongilju
สถานี
ปลายทาง Seongsan
แล้ว
ลงที่ป้าย Seongsalliipgu
ได้เลยค่ะ
2 # DaraengiVillage

หมู่บ้าน Daraengi Village ใน Namhae
เป็นสถานที่ปลูกข้าวที่โด่งดังมาก เนื่องจากเป็นการ
ทำนาแบบขั้นบันไดบนภูเขา Seolheulsan
ที่สูงกว่า 488 เมตร
มากกว่า 108 ขั้น ไล่ลงมาจากยอดเขา บรรจบกับทะเลด้านล่าง
อีกเป็นคอมโบความสวยที่หาที่ไหนไม่ได้เด็ดขาด และเนื่องจากเป็นพื้นที่ทางใต้ ทำให้มีการผลิออกดอกออกผลของพืชพันธุ์ก่อนที่ไหนๆ ในเกาหลี สีสันเขียวขจีและสีหวานๆ ของดอกไม้
เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นที่สุด
ที่นี่จะมีเทศกาลจัดขึ้นทุกๆ ปี
เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกับวิถีชีวิตการทำนาแบบขั้นบันไดมากขึ้น พร้อมกับมีการแข่งขัน และการแสดงต่างๆ อีกมากมาย ใครสนใจแหล่งธรรมชาติแบบนี้ วิธีการเดินทางนะคะ
จากโซลให้ขึ้นรถบัสที่ Seoul Nambu Bus Terminal
แล้วนั่งรถ Intercity Bus ที่
ปลายทางเป็น Namhae
จากนั้นก็ให้
ต่อรถบัสวิ่งในเมืองไปยัง Daraengi Village
ซึ่งจะวิ่งประมาณ 18 รอบ/วัน ค่ะ
3 # Gwangandaegyo Bridge

สะพาน Gwangandaegyo Bridgeหรือมีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า Diamond Bridgeหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของปูซานเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างเขต Suyeong กับ Haeundae เข้าด้วยกันซึ่งถือว่าเป็นสะพานแบบ Bi-Levelเหนือน่านน้ำมหาสมุทรที่ยาวที่สุดของเกาหลีเลยทีเดียว แน่นอนว่าระหว่างที่อยู่บนสะพาน คุณจะได้ชมกับวิวที่สวยจนต้องเอามือทาบอกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกาะ Oryukdo,ภูเขา Hwangnyeongsan,ชายหาด Gwangalli,เกาะ Dongbaekseomและเทือกเขา Dalmaji
นอกจากคนบนสะพานจะได้ชมความสวยของวิวตอนกลางวันแล้วพอตกกลางคืนก็จะได้ชมความสวยจากสะพานที่มีไฟ LED ประดับอยู่นับพันถือเป็นสถานที่น่าไปเยือนกันสักครั้งนะคะ วิธีไปก็ไม่ยากเท่าไหร่นั่งรถไฟใต้ดินปูซานสาย 2ลงสถานี Gwangan Stationทางออก 3, 5 แล้วเดินต่อไปยังชายหาด Gwangalliอีกประมาณ 10 นาที ก็ถึงแล้วค่ะ
4 # Gyeonghwa Station

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว ที่สวยเหมือนหลุดมาจากนิยายGyeonghwa Station เป็นจุดพักชมวิวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและช่างภาพจากทั่วโลกให้ต้องแวะเวียนมาทุกๆ ฤดูใบไม้ผลิ ด้วยความที่เป็นทางรถไฟที่รายล้อมไปด้วยต้นซากุระเมื่อถึงฤดูซากุระผลิปุ๊ปทุกคนจะได้ชมฉากสวยๆ ระหว่างรถไฟ ที่วิ่งอยู่ท่ามกลางดอกซากุระผลิบานและดอกไม้ที่ปลิวสไวไปทั่วดั่งหิมะ เนื่องจากความสวยของสถานที่นี้ ทำให้กลายเป็นฉากยอดฮิตที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เกาหลีมานักต่อนักในทุกๆ ปีระหว่างช่วงเทศกาลJinhae Gunhang Festivalก็จะเป็นเทศกาล Cherry blossom festival shuttle train ด้วยและหมายความว่าคุณก็มีสิทธิ์ที่จะได้นั่งรถไฟที่ลดความเร็วลงเป็นพิเศษเพื่อให้ได้ดื่มด่ำกับความสวยของซากุระอย่างเต็มที่นั่นเองวิธีไปให้เริ่มจากสถานี Jinhae Stationแล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามรอรถเมล์เบอร์ 307, 315, 317แล้วลงที่ป้ายจอดตรงสถานี Gyeonghwa Station ค่ะ
5 # Changnyeong Upo Wetland

ที่แห่งนี้จะมีบึงใหญ่ 4 บึง และบึงเล็กๆ
ล้อมรอบบริเวณพื้นที่ Yibang-myeon, Daehap-myeon และ Daeji-myeon ของ Changnyeong-gun
พอรวมกันแล้วก็จะเรียกว่า ' Upo Wetland '
ซึ่งถือว่า
เป็นบึงธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้
ด้วยพื้นที่รวมประมาณ 5,550 ตาราง กม. และภายใต้น้ำมืดๆ นั้นก็
มีสิ่งมีชีวิตมากกว่า 1,000 สปีชีส์เลยทีเดียว
นอกจากนี้ด้วยพืชนานาพันธุ์กว่า 100 ชนิด
ก็ยังให้บรรยากาศแบบเก่าแก่ดั้งเดิม
เหมือนได้ย้อนยุคไปสมัยโบราณได้อย่างไม่น่าเชื่อ
นักท่องเที่ยวจะสามารถทัวร์ไปรอบๆ
ด้วยคอร์สที่ทางสถานที่กำหนดให้ได้ โ
ดยการปั่นจักรยานแบบชิลล์ๆ
หรือจะ
เดินเล่นชมบรรยากาศแบบสบายๆ
ก็ย่อมได้ ใครอยากนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลาแล้วหลุดเข้าไปอยู่ในสถานที่ดั่งนิยายนี้
ให้นั่งรถข้ามเมืองจากสถานี Changryeong Intercity Bus Terminal
แล้ว
ขึ้นรถบัสที่มีสถานีปลายทางเป็น Yibang-myeon
จากนั้นก็
ลงที่ป้าย Somoak Jangjae village
แล้วเดินตรงต่อไปอีกประมาณ 5 นาทีค่ะ
6 # Naganeupseong Folk Village

ใครที่
หลงใหลในบรรยากาศพีเรียดแบบในละครเกาหลี
ก็ต้องหาโอกาสไป
Naganeupseong Folk Village
ให้ได้สักครั้งนะ เพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
และยังคงกลิ่นอายสมัยโชซอนได้สมบูรณ์แบบมาก
บ้านสไตล์โบราณกว่า 100 หลัง ที่เราเห็นนั้น ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อเซ็ตเป็นฉากถ่ายทำในละครพีเรียดแต่อย่างใด
แต่เป็นที่อยู่อาศัยของคนจริงๆ
ซึ่งตอนนี้ก็ได้เปิดให้เป็น Homestay สำหรับชาวต่างชาติอีกด้วย
ในหมู่บ้านจะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวมากมาย เช่น
การทดลองเล่นดนตรีโบราณของเกาหลี
,
เวิร์คช็อปการตีเหล็ก
,
ทดลองสวมใส่ชุดประเพณีของเกาหลี
,
ชมสถานที่ถ่ายทำเรื่องแดจังกึม
และอีกมากมาย
ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
จ่ายแค่เพียงค่าเข้าชมหมู่บ้านเท่านั้น แพงสุดก็แค่ 4,000 วอน หรือประมาณ 120 บาท เท่านั้นค่ะ
วิธีการเดินทาง
ให้เราเริ่มจากสถานี Dong Seoul Bus Terminal
หรือ
Seoul Central City Bus Terminal
แล้วนั่งรถบัสไปยังสถานี
Suncheon Intercity Bus Terminal
เมื่อถึงแล้ว ให้ข้ามไปยัง
ซอย Suncheon 3 gil
แล้วเดินตรงจาก
ซอย Palmaro
ไปยังป้ายรถบัส
แล้วขึ้นเบอร์ 16, 61, 63 หรือ 68
ไปลงที่สถานี
Naganeupseong Folk Village
ก็ถึงเลยค่ะ
7 # Daegwallyeong Sheep Farm

ใครจะไปรู้ว่าสถานที่ในภาพนี้ ไม่ใช่ในประเทศยุโรป
แต่เป็นที่ประเทศเกาหลีนี่เองแหละค่ะ
ในเกาหลีมีฟาร์มสัตว์มากมาย
แต่ Daegwallyeong Sheep Farm เป็นเพียงฟาร์มเดียวที่เลี้ยงแกะ
ซึ่งสนามหญ้าที่ใช้เลี้ยงแกะนี้จะรายล้อมไปด้วย ทางเดินวงกลมขนาดใหญ่
ให้เราสามารถเดินเล่นและดูแกะได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ก็ยัง
มีกระท่อมเล็กๆ
ตั้งอยู่ท่ามกลางฟาร์มแกะ ซึ่งเหมาะเจาะเหมาะเหม็งกับวิวทิวทัศน์ทุกฤดู
กลายเป็นแลนด์มาร์คถ่ายรูปสุดฮอต
อย่างหนึ่งเลยนะ
ที่เด็ดกว่านี้คือ ถัดไปข้างๆ กันจะเป็น
Daegwallyeong Sky Ranch
มี
กังหันลมสีขาวขนาดยักษ์เป็นแลนด์มาร์ค
ท่ามกลางทุ่งสีเขียวๆ ซึ่งเป็นแหล่งถ่ายทำละครเรื่อง
' Autumn in my heart'
และเป็นที่ถ่ายทำ
MV เพลง ' You Are ' ของ Got 7 ด้วย
วิธีการเดินทาง
ให้เริ่มต้นที่สถานีรถบัส Dong Seoul Bus Terminal
แล้วขึ้นรถไปยัง
Hoenggye Intercity Bus Terminal
จากนั้นก็สามารถต่อแท็กซี่ไปยังฟาร์ม เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดถ้ามาเองนะจ๊ะ อ้อ! ที่นี่จะเปิดเกือบทุกวัน
ยกเว้นวันขึ้นปีใหม่ของเกาหลี และเทศกาลชูซอก
หรือถ้าบรรยากาศมันแปรปรวนมากเกิน
มีหิมะตกหนัก ฝนตกหนัก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ก็อาจปิดได้เช่นกันค่ะ ยังไงก็ดูบรรยากาศไว้ก่อน หรือ
โทรถามได้ที่เบอร์ด่วน 1330
นะคะ
ช่างเป็นประเทศที่
มีอะไรให้เราไปค้นพบได้มากมาย
เลยนะเนี่ย ใครสายเที่ยวตัวยง
อยากเก็บบรรยากาศประเทศเกาหลีที่มากกว่ากระแสทั่วไป
ล่ะก็ ลองไป
เที่ยวตาม 7 แหล่งท่องเที่ยวลับในเกาหลี
ตามนี้ได้เลยนะคะ ^^
Cr : visitkorea.or.kr
http://english.visitkorea.or.kr/enu/ATR/SI_EN_3_1_1_1.jsp?cid=264615