ครั้งหนึ่งฉันเคยไปเที่ยวเชียงคาน…มันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่หรูหราหรือกว้างขว้างนัก ผู้คนก็ไม่พลุกพล่าน (อาจเพราะว่าตอนนั้นฉันไปในช่วงไม่ใช่เทศกาลล่ะมั้ง) เชียงคานเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย และเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงที่เต็มไปด้วยบ้านไม้ซึ่งดัดแปลงมาทำเป็น Homestay ทำให้มีกลิ่นอายของความโบราณซุกซ่อนไว้ แต่ละบ้านหรือแต่ละ Homestay จะมีบริการจักรยานไว้ให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาสามารถเช่าปันได้ทั้งวัน

รูปภาพ:

หมู่บ้านเชียงคานแห่งนี้จะแบ่งออกเป็นซอยเล็กๆ เรียกว่าถนนศรีเชียงคานขนานคู่กันไปกับถนนใหญ่ซึ่งเป็นถนนสายหลัก เริ่มตั้งแต่ถนนศรีเชียงคานซอยที่ 1-24 แต่ละซอยจะเชื่อมต่อกัน นักท่องเที่ยวที่มา สามารถปั่นจักรยานชมรอบหมู่บ้านได้ รับรองไม่มีหลง คุณจะเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้อย่างแน่นอน

การมาเชียงคานในครั้งนี้ ฉันและผู้ร่วมทางเราเลือกพักที่

..โรงแรมสุขสมบูรณ์...

เนื่องจากแค่ชื่อก็ดูจะมีความสุขซะเหลือเกิน เรามากัน 4 คน เลยจองห้องสำหรับ 4 คนไว้ ค่าห้องตกอยู่ที่ 1,500 บาท พร้อมอาหารเช้า 1 มื้อ ( เอาวะ!! หารกันก็ตกคนล่ะ 375 บาทเอง )

รูปภาพ:รูปภาพ:

คำว่าโรงแรมที่เชียงคาน…ช่างห่างไกลกับคำว่าโรงแรมที่ฉันรู้จักนัก โรงแรมที่นี่เป็นโรงแรมไม้ หรือจะเรียกได้ว่าเป็น‘บ้าน’ไม้เสียมากกว่า ทำให้มีกลิ่นอายของความเป็นบ้านโบราณอยู่ไม่น้อย มันให้ความรู้สึก “อบอุ่น” และ “จริงใจ” อย่างบอกไม่ถูก‘ฉันชอบที่นี่จัง’ สมบูรณ์ไปด้วยความสุขตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้พาสองเท้าเข้ามาเหยียบเลย

ฉันไม่รอช้า ทันทีที่วางกระเป๋าเสร็จจึงขอเดินชม ‘บ้านไม้’ หลังนี้เสียหน่อย บ้านไม้ที่ถูกนำมาดัดแปลงทำเป็นโรงแรมให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังเชียงคานได้เข้ามาพักหลังนี้ มีด้วยกัน 3 ชั้น และชั้นดาดฟ้าอีก 1 ชั้น ตรงกลางเว้นว่างเป็นที่โล่งทำให้บรรยากาศที่นี่ดูโปร่งสบาย มีห้องพักอยู่ในบ้านเต็มไปหมด ฉันเดินไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นดาดฟ้า เลยลองขึ้นไปดูสักหน่อย

รูปภาพ:

ว้าว!! ภาพที่เห็นทำให้ฉันอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ บรรยากาศเย็นสบาย ไม่มีฝุ่นควันและรถติดยาวเป็นแถวเหมือนในกรุงเทพฯ ให้หงุดหงิดใจ ภาพเบื้องหน้าเป็นภูเขาและต้นไม้เป็นแนวยาวเรียงรายติดกัน มีสายน้ำใสไหลยาวจนสุดลูกหูลูกตา แม่น้ำสายนี้มีชื่อเรียกว่าแม่น้ำโขงชีวิตที่นี่ช่างต่างกับชีวิตคนเมืองในกรุงเสียจริง

แน่นอนว่า ฉันไม่ลืมที่จะหยิบกล้องขึ้นมาชักภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ ที่ครั้งหนึ่งฉันก็เคยมาที่แห่งนี้

รูปภาพ:

ตกเย็น…เมื่อพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ถนนที่ตัดผ่านกลางหมู่บ้าน จะไม่ใช่ถนนสำหรับรถวิ่งอีกต่อไป มันถูกสร้างมาเพื่อไว้สำหรับ ‘คน’ เดินในยามค่ำคืนเสียมากกว่า สองข้างทางตลอดหมู่บ้านจะกลายเป็นสถานที่ที่พลุกพล่านไปด้วย “ผู้คน” ทั้งคนที่มาท่องเที่ยว และคนที่มาค้าขาย ใช่แล้วล่ะ…มันคือ “ถนนคนเดิน” นั่นเอง

รูปภาพ:

ถนนคนเดินที่เชียงคานก็ไม่ต่างอะไรนักกับถนนคนเดินทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ฉันสัมผัสได้ คือกลิ่นอายของความน่ารักผู้คนที่ต่างเป็นมิตรเสียเหลือเกิน มีความเป็นกันเอง อาจจะเพราะว่าสองข้างทางที่ขายของเต็มไปด้วยบ้านไม้ด้วยกระมัง จึงทำให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนได้กลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด ของขายก็มีทั้งของกินและของใช้ ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของฝาก มีให้เลือกสรรเต็มไปหมด

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:


ในตอนเช้า ที่เชียงคานยังมีกิจกรรมหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์มาก และเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าหากไม่ทำ“คุณอาจมาไม่ถึงเชียงคาน”นั่นคือการตักบาตรข้าวเหนียวซึ่งเป็นการใส่บาตรที่ต่างออกไปจากที่คนส่วนใหญ่รู้จัก

รูปภาพ:http://www.matichon.co.th/online/2014/10/14130016981413001738l.jpg

การใส่บาตรที่เชียงคานจะมีพระเดินเรียงแถวกันมาเป็นแนวยาว และชาวบ้านก็จะมาปูเสื่อนั่งรอสองข้างทางกันเป็นแถวยาว ดูสวยแปลกตา หากนักท่องเที่ยวคนไหนสนใจอยากจะใส่บาตร ชาวบ้านที่นี่เขาก็มีชุดใส่บาตรเตรียมไว้ให้ ซึ่งเอาไว้เลือกซื้อมาทำบุญด้วยกัน ในชุดใส่บาตรก็จะประกอบไปด้วยข้าวเหนียวใส่ไว้เป็นกระติ๊บๆ อีกทั้งกับข้าวที่ชาวบ้านตื่นขึ้นมาทำกันตั้งแต่รุ่งสาง และขนมอีกเล็กๆ น้อยๆ ราคาก็เพียงชุดละ 20 - 25 บาท เท่านั้น

รูปภาพ:http://travel.mthai.com/wp-content/uploads/2014/11/chiangkharn71.jpg

หากใครกำลังมองหาสถานที่สำหรับพักผ่อนที่เงียบสงบ หรืออยากจะหนีเรื่องราววุ่นวายในเมือง เพื่อหลบมาหาที่เงียบๆ แล้วล่ะก็ “เชียงคาน” เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่ามาสัมผัสจริงๆ  แล้วคุณจะจดจำ ‘ เชียงคาน ’ อย่างไม่มีวันลืมแน่นอน