แปลกเนอะ ที่ถึงแม้จะ

อยู่กันคนละมุมโลก แต่พอมาถึงเรื่องการลดความอ้วน ทำไมถึงมีความเชื่อในแบบเดียวกันทั้งหมด

ทั้งที่คนเราก็ต่างกัน ความเป็นอยู่ต่างกัน สไตล์การลดความอ้วนก็น่าจะต่างกันไปด้วย แต่ก็มีคำแนะนำเรื่อง

การลดความอ้วนหลายอย่าง ที่หลายๆ คน เชื่อเหมือนกัน ไม่ว่าจะมาจากคำแนะนำของคนรอบข้าง

จากสื่อใดๆ ก็ตาม

ซึ่งบางเรื่องนั้นเชื่อได้จริง แต่จะได้ผลรึเปล่าก็ไม่รู้


หากคุณเป็นคนหนึ่งที่พบว่า

ทำตามสูตรยอดนิยมการลดความอ้วน

การไดเอทที่หลายคนแนะนำต่อกันมาแล้ว

แต่ทำไมรู้สึกว่าไม่เห็นได้ผลซะที!?

ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนั้นล่ะก็

ขอบอกเลยว่า คุณเองก็อาจเป็นเหยื่อของคำแนะนำแบบผิดๆ เช่นกัน

ฉะนั้นถ้าอยากผอมอย่างจริงจังล่ะก็ ต้องรีบดูเลยว่า

5 ความเชื่อในการไดเอทแบบไหน ที่ยิ่งเชื่อ ก็ยิ่งไม่ทำให้ผอม!



5 ความเชื่อผิดๆ ที่คนคิดว่าทำแล้วจะผอม!

1# แค่นับแคลอรี่ก็โอเค

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/98/03/62/98036211b6cce028627ffd5f821731da.jpg

หืม...หา...... แค่ได้ยินก็อยากจะงง อยู่ในดงสตั๊นไปสามสิบวิ นี่คือเรื่องจริง ที่ผู้หญิงทุกคนส่วนใหญ่อาจจะหลงเข้าใจผิดกัน

ก็จริงอยู่ว่า การนับแคลอรี่สามารถช่วยลดความอ้วน เพื่อควบคุมปริมาณการรับเข้า และการเผาผลาญออกได้

ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากทำถูกวิธีย่อมได้ผล

แต่ก็ใช่ว่าจะตะบี้ตะบัน ยึดติดกับแค่ว่านับแคลอรี่แล้วก็แล้วกันนะ

อย่าลืมว่า

อาหารทุกอย่างไม่ได้มีแค่แคลอรี่ แต่สารอาหาร รวมไปถึงกระบวนการทำอาหาร ก็ส่งผลต่อความอ้วนของเราเช่นกัน

ถ้าหากเรารับแคลอรี่น้อย แต่มันเป็น

อาหารสำเร็จรูป หรืออาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ อาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาลอะไรพวกนี้ ยังไง้ ยังไงก็ไม่ช่วยให้หุ่นดี

ได้ไวขึ้นอย่างที่คิดนะ ดีไม่ดี อ้วนเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิมด้วย เสียเวลาฟรีไปเลยนะเนี่ย

ฉะนั้นนอกจากเรื่องแคลอรี่แล้ว อย่าลืมคำนึงถึงคุณประโยชน์จากสารอาหารที่เราจะได้รับด้วยนะจ๊ะ เพื่อสุขภาพที่ดี ไปพร้อมๆ กับรูปร่างของเราเนอะ!


2# งดของหวานขั้นเด็ดขาด!

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/66/be/2c/66be2c6454a3d56dcde2dfa575aa574c.jpg

โอ้ อะไรกันนี่

ช่างเป็นกฎที่ทำร้ายจิตใจสาวกของหวานอย่างเราเหลือเกิน!

ถึงแม้จะคิดแบบนี้ แต่ก็น่าจะมีหลายคนเคร่งขนาดงดของหวานกันมาแล้ว ซึ่งบางคนเป็นหนักถึงขั้น แค่เห็นของหวานก็น้ำตาลขึ้นแล้ว อะไรกันเนี่ย

ของหวานผิดอะไรขนาดนั้น ทำไมเราต้องรังเกียจถึงขนาดนั้นด้วย

แค่กินของหวานไม่บาปซะหน่อย!

เคยอดของหวาน แล้วดันเดินผ่านไปเห็นโฆษณาไอศกรีม หรือเค้กน่ากินๆ แล้วรู้สึกทรมานใจเป็นอย่างมากมั้ย

หลายคนน่าจะเคย และคิดว่าเอาชนะใจตัวเองได้

ไม่ตบะแตกไปซื้อของหวาน แต่สุดท้ายไปลงที่อาหารมื้อหลัก รวมไปถึงมื้อย่อยอื่นๆ แทน

ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า

คนเราเมื่ออยากอาหารอะไรมากๆ แต่ไม่สามารถกินได้ สุดท้ายจะลงเอยด้วยการกินเยอะกว่าเดิม เพื่อทดแทนความอยาก

ฉะนั้นควรจะบาลานซ์ให้ดี

ไม่จำเป็นต้องเคร่งเรื่องของหวานกับตัวเองเกินไป ให้รางวัลตัวเองอาทิตย์ละครั้งก็ได้

อย่างน้อยก็ไม่กดดัน

จะลดความอ้วนให้ได้ผล ก็ต้องลดให้ได้นานๆ และมีความสุขสิเนอะ


3# เอาน่า.. พรุ่งนี้ค่อยออกกำลังกายทดแทนก็ได้ ?

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/77/d6/0b/77d60b96b55805586f93506df488da43.jpg

หลายคนต้องเคยแน่ๆ ล่ะ ประเภทที่ว่า

กำลังลดความอ้วนอยู่ แต่อดใจไม่ไหวอยากกินอาหารอ้วนๆ อย่างพิซซ่า ไก่ทอด  ขนมกรุบกรอบ

อะไรแบบนี้ แล้วก็สะกดจิตตัวเองว่า

เอาน่ากินๆ ไปเถอะ แค่ครั้งเดียวเอง เดี๋ยวไว้ไปออกกำลังกายทดแทนเอาสักชั่วโมง สองชั่วโมงพรุ่งนี้ละกัน......

คือมันคนละเรื่องกันเลยนะ แคลอรี่จะถูกเบิร์นออกในการออกกำลังกายครั้งต่อไปก็จริง แต่อย่าลืมว่า

อาหารขยะ ยังไง้ ยังไงก็ไม่มีประโยชน์ และไม่ได้มีคุณค่าอะไรที่ดีต่อสุขภาพ

ของเราเลยสักกะนิดเดียว พลังงานที่ได้จากอาหารขยะ ไม่เพียงพอให้คุณได้มีแรงออกกำลังอย่างแข็งขันหรอก ฉะนั้น

เติมเชื้อเพลิงให้ร่างกายด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ดีกว่านะ

ส่วนอาหารที่ไม่ดี ก็นานๆ ครั้งกินพอหายอยากก็พอ ถ้าเกินสองอาทิตย์ครั้งก็ถือว่าเยอะเกินไปล้าววว พอก๊อนน


4# พยายามอยู่ให้ห่างจากผลไม้

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/30/9b/09/309b09061a9ef2260b832b2cbbd293a9.jpg

มันก็มีอยู่อีกความเชื่อหนึ่งเหมือนกันนะว่า

การทานผลไม้เป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อการลดความอ้วน เนื่องจากผลไม้ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยน้ำตาล

ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการลดความอ้วน หลายคนจึงพยายามหลีกเลี่ยงการทานผลไม้

โดยไม่รู้เลยว่ากำลังพลาดสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และดีต่อผิวพรรณของตัวเอง

แต่จะยกตัวอย่างการทดสอบให้ดูนะ

ถ้าเราแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกให้ทานอาหารที่ไขมันต่ำด้วยการเน้นทานผลไม้สด และข้าวกล้อง และอีกกลุ่มคืองดคาร์โบไฮเดรต โดยเน้นทานแซลมอน อาหารจำพวกถั่ว ผลที่ได้ก็คือ ทั้งสองกลุ่มนั้นลดน้ำหนักได้เหมือนกัน!

นั่นแสดงให้เห็นว่า

การควบคุมอาหาร และบาลานซ์อาหารก็สามารถช่วยลดความอ้วนได้ ไม่จำเป็นต้องห้ามตัวเองจากแหล่งอาหารดีๆ อย่างไฟเบอร์ และวิตามินที่เราจะได้จากผลไม้หรอกนะจ๊ะ


5# ถ้าอนุโลม ก็จะไม่มีวันผอม!

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ef/0e/f3/ef0ef397b50bc010d6853ecb468b989a.jpg

น่าจะมีหลายคนที่เคร่งในการลดความอ้วนมากๆ และเชื่อว่า

ถ้าได้ตามใจตัวเองครั้งหนึ่งแล้วล่ะก็ จะต้องมีครั้งต่อไปแน่นอน

และการลดความอ้วนก็จะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

การคิดแบบนี้ไม่ได้มีผลอะไรต่อตัวเองนอกจากความกดดันเปล่าๆ ปลี้ๆ

นักโภชนาการกล่าวว่า วิธีลดความอ้วนที่ดีค่ือ

ควรจะกำหนดวัน "ตามใจตัวเอง" ไว้กินอะไรก็ได้ที่อยากจะกินมาทั้งอาทิตย์

เพื่อให้ร่างกายได้รับในสิ่งที่โหยหาบ้าง

เพราะการที่เราพยายามห้ามตัวเองไม่ให้กินในสิ่งที่อยากกิน ไม่ได้เป็นผลดีต่อการลดความอ้วนเลย

ฉะนั้น

หาวันที่ทำให้รู้สึกว่ากินอะไรก็ได้ กินแล้วสบายใจ ไม่ต้องรู้สึกผิด สักอาทิตย์ละครั้ง

สลับไปกับการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพในวันอื่นๆ และทำอย่างต่อเนื่อง ก็ได้ผลเช่นกัน แถมได้ผลดีกว่าการเคร่งจนมากเกินไปอีกต่างหาก

ยิ่งเรามีวันที่สามารถปลดปล่อยตัวเองได้ ก็จะยิ่งช่วยให้การลดความอ้วน ดำเนินไปได้อย่างยาวนานมากขึ้นด้วย

เพราะไม่รู้สึกทรมานจากการห้ามใจตัวเองยังไงล่ะ


เป็นไงกันบ้าง

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดความอ้วน มีใครโดนไปกี่ข้อกันบ้างเอ่ย?

พอมาอ่านดูแล้ว พบว่าการที่ลดความอ้วนด้วยการกดดัน จะไม่ใช่เรื่องดีต่อร่างกายเอาซะเลยนะเนี่ย เผลอๆ ตบะแตกลดไม่ได้ กลับมาอ้วนหนักกว่าเดิมอีก

ใครที่คิดจะลดความอ้วนก็ต้องบาลานซ์ให้ดีๆ ใช้วิธีที่ไม่ทรมาน เพราะการลดได้นานอย่างต่อเนื่อง คือสิ่งสำคัญที่สุดนะคะ