1. SistaCafe
  2. เปรียบเทียบคุชชั่นเกาหลี Aprilskin 2 สูตร (Magic Snow Cushion 2.0 vs. Fixing Foundation)

สวัสดีผู้อ่านทุกๆ คนนนนนนนนนนนเลยค่า !

วันนี้เราจะมาเขียนเปรียบเทียบคุชชั่นเกาหลีแบรนด์ APRILSKIN ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เราชอบใช้ เผื่อสาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาคุชชั่น ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้สาวๆ ที่รักและชื่นชอบการแต่งหน้านะคะ :)

.

.

เริ่มเลยยยย!


Magic Snow Cushion 2.0 ( ตลับสีดำ ) VS. Magic Snow Fixing Foundation ( ตลับสีชมพู ) 

เราจะมาเปรียบเทียบทั้ง 2 รุ่น ให้เห็นกันชัดๆ โดยแบ่งหัวข้อเปรียบเทียบตามนี้


แพ็กเกจ > ความหลากหลายของเฉดสี > เนื้อคุชชั่น > เรื่องการปกปิด > Finish Look


1. แพ็กเกจ


สำหรับสองตัวนี้ แพ็กเกจไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ ตัวแพ็กเกจเหมือนกันทั้งข้างในและข้างนอก แตกต่างกันแค่ว่าตัวฟองน้ำที่กักเก็บเนื้อคุชชั่นนั้น ตัวตลับดำจะเป็นแบบโมจิคุชชั่น แต่ตัวตลับชมพูจะเป็นแบบโครงตาข่ายเมซ ซึ่งทั้งสองช่วยในเรื่องเดียวกัน คือช่วยให้เนื้อคุชชั่นออกมาในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ล้นออกมามากจนเกินไป



2. ความหลากหลายของเฉดสี

สำหรับเฉดสีของคุชชั่นสองตัวนี้ ทั้งสองตัวมีเฉดสีแค่ 3 เฉดสี คือ


No.21 Light Beigeเนื้อครีมเป็นสีโทนสว่าง เบอร์นี้เราว่าต้องเป็นคนที่ขาวแบบสาวเกาหลีเลย ถึงจะใช้ได้ เนื่องจากมันเป็นคุชชั่นของเกาหลี ถ้าเขาจะผลิตเบอร์ขาวมากๆ ก็ไม่แปลกเพราะคนเกาหลีเขาขาวกัน แต่เราว่าไม่น่าเหมาะกับคนไทยเท่าไหร่ แต่ถ้าใครมีสีผิวโทนขาวอยากปรับให้หน้าสว่างก็ลองดูได้นะคะ


No.22 Pink Beigeเบอร์นี้เราว่าคนไทยที่มีสีผิวขาวใช้ได้ค่ะ เนื้อคุชชั่นออกไปทางโทนอมชมพู เหมาะกับคนมีโทนสีผิวขาวอมชมพู/เหลือง


No.23 Natural Beigeสีเบอร์นี้ เราว่าน่าจะเหมาะกับสีผิวคนไทยซะส่วนใหญ่ เป็นเฉดสีกลางๆ เหมาะกับผู้ที่มีโทนสีผิวกลางๆ ไปถึงจนผิวสี

3. เนื้อคุชชั่น + กันแดด

สำหรับสองตัวนี้เนื้อคุชชั่นแตกต่างกันตรงที่ Magic Snow Cushion 2.0 ( ตลับดำ ) จะเป็นเนื้อคุชชั่นที่เน้นชุ่มชื้น เพราะมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ถึง 45% ให้ลุคฉ่ำวาวดูสุขภาพดี เนื้อบางเบา มีส่วนผสมของสารกันแดด SPF50/PA+++Magic Snow Fixing Foundation ( ตลับชมพู ) เนื้อคุชชั่นจะเป็นเนื้อแมท แต่บางเบาไม่หนักหน้า หากใครชอบคุชชั่นเนื้อแมทน่าจะชอบตัวนี้ ควบคุมความมันได้ดีกว่าตัวตลับดำ แต่ตัวนี้มีส่วนผสมของสารกันแดด SPF30/PA++ น้อยกว่าตัวตลับดำ

4. ปกปิด + ความคงทน


เรื่องการปกปิด จากการได้ลองใช้ตัวตลับดำ ให้การปกปิดได้ดีกว่าตัวตลับสีชมพู ส่วนเรื่องความคงทน ก็ทนพอกันทั้งคู่ ไม่รู้สึกว่ามีตัวไหนทนดีกว่า ระหว่างวันอาจมีหน้ามันไปบ้างแต่พอใช้กระดาษซับ แล้วเอามาเติมซ้ำระหว่างวัน ก็โอเคเลยค่ะ สวยวิ้งเหมือนเดิม



5. Finish Look

ตลับสีดำจะให้ลุคฉ่ำๆ วาวๆ ผิวดูอิ่มน้ำ ส่วนตัวตลับสีชมพู ด้วยความที่เนื้อครีมเป็นเนื้อแมท หากใครหน้ามันหรือชอบเนื้อแมทก็น่าจะโอเค แต่ทั้งสองตัวต้องควบคุมปริมาณในการใช้เพราะ ถ้าหากใช้มากจนเกินไปหน้าก็จะเทา แต่ถ้าใช้ในปริมาณที่พอดีก็ถือว่าโอเคเลยค่ะให้ลุคธรรมชาติดี

สรุป ราคาของคุชชั่นทั้งคู่นี้อยู่ที่ 990 บาท ถามว่าคุ้มค่าไหม? สำหรับเราโอเคเลย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เพราะมันใช้เป็นเมคอัพ everyday look ของเราได้ วันไหนอยากได้ลุคประมาณไหนก็สลับกันใช้


หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ^^


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้