วันนี้จะพาเพื่อนๆหลีกหนีใจที่หม่นหม่องจากป่าคอนกรีต ไปพักใจกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยร่มเงาไม้ที่มีความเขียวขจีทุกอณู พร้อมชิมชีสเค้กอร่อยๆสไตล์ญี่ปุ่นที่ห่างจากตัวเมืองและ สนามบินเชียงใหม่ ประมาณ30 นาทีกันที่ "คาเฟ่โรงบ่ม" ณ "เก๊าไม้ล้านนา" อยู่ที่อำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่นั่นเองเจ้า
ตอนแรกที่ได้ยินชื่อ "เก๊าไม้ล้านนา" ก็งงๆหน่อยว่ามีความหมายว่าอะไร ถ้า คำว่า " ล้านนา " พอจะคุ้นเคยตอนเรียนวิชาประวัติศาสตร์ว่าเป็นอาณาจักรยิ่งใหญ่ และ เก่าแก่ทางภาคเหนือโดยมีเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง ส่วน คำว่า "เก๊าไม้" ที่แน่ๆต้องเป็นภาษาเหนือ หลังจากที่ได้ไปสืบค้นมาก็ได้ทราบความหมายมาว่า "ร่มเงาไม้ใหญ่" นั้นเอง และก็ร่มเงาจริงๆตามชื่อด้วย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียวของร่มไม้ รู้สึกร่มเย็นและสดชื่นทันที
หลังจากที่เราเข้ามาในอาณาจักรร่มเงาไม้ใหญ่
ด่านแรก
เลยก็จะเจอ
อาคารอิฐสูงใหญ่โต
ที่สร้างความแปลกใจให้เล็กน้อยว่าทำไมถึงสูงใหญ่ขนาดนี้ แถมบน
หลังคายังถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้เลื้อย
อาคารที่ว่านี้
คือ โรงบ่มยาสูบ
ซึ่งเรียงกันประมาณ 18 หลัง แต่
ในยุคปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว
ทางเจ้าของไม่อยากปล่อยทิ้งร้างไว้ ช่วงแรกเลยรีโนเวททำเป็นรีสอร์ทซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่ ต่อมาก็ทำคาเฟ่โรงบ่มขึ้นมา เอาใจคนยุคใหม่ที่ชื่นชอบการทัวร์คาเฟ่โดยเฉพาะ พึ่งเปิดไปเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานี้เอง
หลังจากเดินเลยโรงบ่มยาสูบมานิดนึง เราก็จะเจอด่านที่สอง คือ "คาเฟ่โรงบ่ม" ซึ่งเป็นเรือนกระจกสองชั้นด้วยความที่เต็มไปด้วยหน้าต่างทำให้ข้างในค่อนข้างปลอดโปร่ง สว่างทั่วถึงส่วนที่นั่งก็มีทั้งด้านนอก และ ด้านใน แล้วแต่ว่าใครอยากจะซึมซับบรรยากาศแบบไหน
ส่วนวันที่เราไปเป็นวันหยุดพอดี ด้านในคนเลยเยอะพอสมควร เพราะว่า พื้นที่ด้านในไม่ได้กว้างขนาดนั้นถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะแนะนำเพื่อนๆให้มาชิวด้านนอก จะได้บรรยากาศที่มองไปไหนก็เห็นแต่สีเขียวดีต่อใจจริงๆนะ
เชื่อไหมว่าแต่เดิมที ที่นี้
ถูกสร้างเมื่อประมาณ ค.ศ.1955 ก็ประมาณ 63 ปี ที่แล้ว
โอ้โห นี้เหมือนกับว่าเราเป็นหลานคนนึงกำลังมาเยี่ยมคุณลุงคุณป้าที่เตรียมขนมอร่อยๆ รอไว้ให้ทานซึ่งเปี่ยมไปด้วยจิตใจที่ดีงามสงบร่มเย็นเหมือนร่มเงาไม้ นั่นเอง
ด้วยความที่ว่าตัวคาเฟ่เรือนกระจกนี้ถูกล้อมรอบไปดูบรรยากาศสีเขียวของต้นไม้ แน่นอนว่าใครมาที่นี้ก็จะรู้สึกสดชื่นทันที ถือว่าเป็นการปิดสวิทช์ความวุ่นวาย และ เปิดสวิทช์รับพลังงานจากธรรมชาติ
ไหนๆ ก็มาคาเฟ่แล้วทั้งที จะไม่พูดถึงของกินคงต้องเสียเปล่าแน่ๆ นี้เลยที่อยากจะแนะนำ คือ
ชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่นราดซอสมัลเบอร์รี่ นอกจากนี้ก็ยังมีซอสสตอเบอร์รี่ให้เลือกด้วย ไม่อยากให้พลาดเลย
เพราะว่า มันอร่อยมากกก
ตัวเค้กนุ่มฟูกำลังดีรสชาติไม่หวานไป
ส่วนความเปรี้ยวของซอสพอราดไปที่ชีสเค้กแล้วก็จะได้รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ กำลังดี แต่ส่วนตัวเราคิดว่าแบบไม่ราดก็อร่อยแล้ว
เอาเป็นว่าต้องลองโดนจริงๆ ไม่งั้นจะเสียใจขั้นสุด
ไม่ดีจริงไม่สั่งมาถึงสี่ชิ้น
งานนี้กินจนลืมไปเลยว่ากำลังอยู่ในช่วงฟิตหุ่น ^^
นอกจากนี้เราก็ยังได้สั่งน้ำสัปปะรดปั่น ( ด้านซ้ายล่าง ) อร่อย สดชื่นดี เหมาะกับวันที่อากาศร้อนสุดๆ ส่วน มัทฉะลาเต้ปั่น ( ด้านซ้ายบน ) รสชาติก็คล้ายๆ กับที่อื่น ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ส่วน บราวนี่โฮมเมด ( ด้านขวาล่าง ) เราว่าเฉยๆ เท็กซ์เจอร์ค่อนข้างแข็งไปนิดนึง ส่วนใหญ่เรทขนมและเครื่องดื่มต่างๆจะตกอยู่ที่ตั้งแต่สิบปลายๆ จนถึงเกือบร้อยกว่าบาท
มาดูบรรยากาศมุมอื่นๆ กันบ้างค่ะ
มุมนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์เลย เห็นกันบ่อยมากในอินเทอร์เน็ต ใครมาก็ต้องมาถ่ายกัน
สัมผัสแห่งความสบายใจ
ด้วยความที่นี้ถูกล้อมรอบไปดูบรรยากาศสีเขียวของต้นไม้ แน่นอนว่าใครมาที่นี้ก็จะรู้สึกสดชื่นทันที ถือว่าเป็นการปิดสวิทช์ความวุ่นวาย และ เปิดสวิทช์รับพลังงานจากธรรมชาติ โดยรวมเราค่อนข้างประทับใจ เป็นไปได้ก็อยากจะมาอีก สำหรับใครที่อยากจะสัมผัสบรรยากาศสบายๆ สโลว์ไลฟ์แบบนี้ก็มากันที่คาเฟ่โรงบ่มกันได้เลยค่ะ