ขนมหวานมันไม่เข้าใครออกใครง่ายๆ หรอก เนี่ย พอพูดถึงเมื่อไหร่ อายะพีก็เชื่อว่าสาวๆ ชาวซิสต้าหลายคนคงเริ่มแสดงความสนใจขึ้นมาทันทีแหงๆ
งั้นอย่ามัวชักช้าเสียเวลา รีบเข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนี้มีเมนูตามใจปากจะนำเสนอค่ะ นั่นคือ" พายไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก "ไงล่ะ โอ้โห มีทั้งวิปครีมหอมมัน ทั้งซอสสตรอว์เบอร์รี่รสหวานอมเปรี้ยว ไหนจะไส้ชีสเค้กสุดเข้มข้นอีกต่างหาก แหม ยิ่งพูดน้ำลายยิ่งสอเต็มปากรับรองไม่มีอะไรยุ่งยากอย่างที่คิดแน่นอน แค่อาจต้องใช้เตาอบนิดนึง แต่คุ้มค่าที่จะลองจริงๆ นะ
เรียกได้ว่าห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ
ส่วนผสม
ตัวฐานครัสต์:
1. แกรห์มแครกเกอร์บดละเอียด 1 1/2 ถ้วย ( 155 กรัม )
2. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ ( 40 กรัม )
3. เกลือ 2 หยิบมือ
4. เนยจืดละลาย 7 ช้อนโต๊ะ ( 100 กรัม )
ไส้ชีสเค้ก:
1. ครีมชีสอุณหภูมิห้อง 1 ก้อน ( 8 ออนซ์ )
2. นมข้นหวาน 1 กระป๋อง ( 14 ออนซ์ )
3. ผิวมะนาวขูดละเอียด 1 ช้อนชา
4. วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
ท็อปปิ้งวิปครีม:
1. เฮฟวี่ครีมหรือวิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
2. วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
3. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสสตรอว์เบอร์รี่:1. สตรอว์เบอร์รี่สดหั่นเป็นชิ้นๆ 1 ปอนด์
2. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำเลมอน 1/2 ผล
4. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ
1. อุ่นเตาอบเตรียมไว้ที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ จากนั้นผสมแกรห์มแครกเกอร์ น้ำตาลกับเกลือในชามให้เข้ากัน เติมเนยจืดละลายและคลุกเคล้าให้เข้ากันเหมือนเดิม
2. กรุส่วนผสมแครกเกอร์ลงในถาดอบ ( ขนาด 9 นิ้ว ) ให้จับตัวแน่น นำไปอบจนกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ประมาณ 9-10 นาทีแล้วเอาออกมาวางพักบนตะแกรงให้เย็นตัว ( อาจแช่ช่องฟรีซเพื่อเร่งเวลาได้นะคะ )
3. ตีครีมชีสให้ขึ้นฟู ค่อยๆ ผสมนมข้นหวานทีละน้อยจนเนื้อเนียน ต่อด้วยผสมผิวเลมอนขูดกับวานิลลาสกัดตามลงไปอีกรอบ
4. เทส่วนผสมใส่ฐานแครกเกอร์ที่เตรียมไว้ เอาแช่ช่องฟรีซ 6-8 ชั่วโมงหรือจนกว่าจะเซ็ตตัวดี
5. ถึงคิวของท็อปปิ้งวิปครีมค่ะ ใส่เฮฟวี่ครีมหรือวิปปิ้งครีม น้ำตาลกับเกลือลงในชามแล้วตีให้ตั้งยอดอ่อน
6. ทาวิปครีมทับชั้นส่วนผสมครีสชีสจนมิด เอาแช่ช่องฟรีซต่อให้เซ็ตตัวอีกครั้ง ( ปกติน่าจะใช้เวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมงค่ะ )
7. ทีนี้ก็ทำซอสสตรอว์เบอร์รี่กัน ใส่สตรอว์เบอร์รี่หั่นชิ้น น้ำตาลทราย น้ำเลมอน แป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่าลงในหม้อ แช่ให้ยุ่ยก่อนประมาณ 5-20 นาทีแล้วค่อยตั้งไฟต้มโดยใช้ไฟปานกลาง-ต่ำพร้อมคอยคนอย่างสม่ำเสมออีก 2-3 นาที ยกออกจากเตาและพักไว้ให้เย็น เก็บรักษาในตู้เย็นไว้จนกว่าจะใช้
8. พอจะเสิร์ฟก็เอาซอสสตรอว์เบอร์รี่มาราดหน้าพายให้ทั่วเลยค่า
ใช้มีดที่แช่น้ำร้อนแล้วเช็ดให้แห้งมาตัดแบ่งตัวพายเป็นชิ้นแยกกัน ปิ๊ง! เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยค่า
อูย หน้าตาช่างน่าหม่ำจังเลย เล่นเอาชักอดใจไม่ไหวเชียวล่ะ ขอลืมเรื่องนับแคลอรี่ชั่วคราวก่อนเนอะ เดี๋ยวค่อยไปหาทางกำจัดส่วนเกินทีหลัง ฮิฮิ นอกจากนี้เรายังสามารถดัดแปลงสูตรด้วยการเปลี่ยนชนิดของผลไม้ได้นะคะ เลือกเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ เช่น บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ หรือแม้กระทั่งรวมมิกซ์เบอร์รี่เลยก็ไม่เลวค่ะปล. ถ้าใครไม่มีเตาอบ อาจลองทำฐานครัสต์แบบไม่อบดูได้ ซึ่งจะทำให้เนื้อสัมผัสอาจกรุบกรอบน้อยกว่าเท่านั้นเอง ส่วนวันนี้ขอตัวไปก่อนนะค้า บ๊ายบาย
Cr: strawberry cheesecake ice cream pie
https://smittenkitchen.com/2015/06/strawberry-cheesecake-ice-cream-pie/