สวัสดีค่ะ สาวๆ
Sis
ta
Ca
fe
ทุกคน
เป็นยังไงกันบ้างคะ สบายดีกันหรือเปล่าเอ่ย แต่ก็อย่างว่านะคะ ช่วงนี้
อากาศ
บ้านเรามันร๊อน ร้อน ออกไปไหนมาไหนแต่ละที เจอ
อากาศร้อนๆ
เข้าไปก็พลอยทำให้หงุดหงิดใจอยู่เรื่อย แถม
แสงแดด
แรงๆ ก็ยังเป็นตัวการ
ทำร้ายผิวของเราให้หมองคล้ำ
ได้ง่ายอีกด้วย
วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับมาบอกต่อให้สาวๆ
Sis
ta
Ca
fe
ได้เปลี่ยน
ผิวหมองคล้ำ
จากการโดนแสงแดดทำร้าย มาเป็น
ผิวกระจ่างใส
ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่ใช้
3 ไอเทมเด็ดที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
ถ้าสาวๆ ได้ลองใช้ รับรองว่ามีผิวที่กระจ่างใสขึ้นแน่นอนค่ะ
3 ตัวช่วยสำคัญ ที่จะทำให้ ผิวกระจ่างใส
แบบได้ผลจริงนั้นจะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเล้ย
1. Scrub
ตัวช่วยตัวแรกที่สำคัญสำหรับการ
เปลี่ยน ผิวหมองคล้ำ ให้เป็น ผิวกระจ่างใส
คือ
สครับ
นั่นเองค่ะ
สครับ
คือ
ผลิตภัณฑ์สำหรับขัดผิว
ซึ่งเนื้อสครับก็จะมีหลายแบบค่ะ เช่น
ผงสครับ เกลือสครับ ครีมสครับ
เนื้อสครับจะแตกต่างกันไปตามส่วนผสม ซึ่งก็จะมีหลายสูตร หลายกลิ่น สรรพคุณของแต่ละสูตรก็จะต่างกันไปด้วยเช่นกันค่ะ
อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า
การขัดผิว จะเป็นการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกและเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส เนียนนุ่มมากยิ่งขึ้น
การขัดผิวด้วยสครับ
จึงเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เพราะเป็นเหมือนการเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุง เพื่อจะได้มีผิวที่กระจ่างใสนั่นเองค่ะ
สาวๆ สามารถ
ใช้สครับขัดผิวได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
แต่สำหรับผิวหน้าอาจจะเลือกสูตรที่อ่อนโยน และเนื้อสครับที่ละเอียด เพื่อไม่ให้ผิวหน้าเกิดความระคายเคือง ควรขัดผิวด้วยสครับ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ และไม่ควรขัดผิวบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวบางและคล้ำเสียง่ายกว่าเดิมค่ะ
Body Scrub
ตัวแรกที่อยากแนะนำสาวๆ ก็คือ
Tamarind Body Scrub
และ
Turmeric Body Scrub
จากเซ็ต
Very Thai ของ Beauty Buffet
นั่นเองค่ะ ตัวนี้จะมีสองสูตรคือ
มะขาม
และ
ขมิ้น
ซึ่งตัว
ขมิ้น
จะเป็นได้ทั้ง
สครับและมาส์ก
ในตัวเดียวกันเลย
จุดเด่นอยู่ตรงที่เนื้อสครับของเค้า
เนียนละเอียดมาก ไม่หยาบ ไม่บาดผิว
เวลาขัดผิวจะรู้สึกฟินมากๆ แถมยังมีกลิ่นหอมของ
มะขาม
และ
ขมิ้น
ด้วย ส่วนสรรพคุณนั้น
มะขามจะช่วยเรื่องลดรอยดำ ปรับผิวให้กระจ่างใส
ส่วน
ขมิ้นจะช่วยในเรื่องของผิวเนียนนุ่ม ดูมีน้ำมีนวลยิ่งขึ้น
ค่ะ
Body Scrub
ตัวต่อมาที่ดังมากๆ อยากแนะนำให้สาวๆ ได้ลองก็คือ
Smoothie Star Oat, Sugar & Shea Breakfast Scrub
จากแบรนด์
Soap and Glory
นั่นเองค่ะ สครับตัวนี้มีส่วนผสมของข้าวโอ๊ต น้ำตาลและเชียบัตเตอร์ ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของการให้
ความชุ่มชื้นแก่ผิว
เพราะมีเชียร์บัตเตอร์เป็นส่วนผสมหลัก
เวลาสครับก็จะได้กลิ่นหอมของข้าวโอ๊ตละมุนๆ คล้ายกลิ่นกาแฟ
เนื้อสครับละเอียดไม่แพ้ตัวแรกเลยค่ะ ไม่หยาบ ไม่บาดผิว หลังสครับจะรู้สึกว่าผิวนุ่มลื่นๆ มีความเนียน ไม่แห้งตึงด้วยค่ะ
สครับตัวต่อมาจะเป็น
สครับสำหรับผิวหน้า
นั่นก็คือ
Milk Plus Whitening Facial Scrub
ของแบรนด์
Beauty Buffet
ค่ะ จะบอกว่าตัวนี้เลิฟมาก เพราะเนื้อสครับของเค้าละเอียดสุดๆ เนื้อเนียนเป็นเนื้อครีม แต่ยังรู้สึกได้ถึงเม็ดสครับ ซึ่ง
มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้า ไม่ทำให้รู้สึกระคายเคือง
ตัวนี้จะเป็น
สูตรน้ำนม ที่ช่วยขจัดความหมองคล้ำ เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า
ใครรู้สึกหน้าดูหมองๆ ไม่สดใส ลอง
สครับหน้าเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
จะรู้สึกได้ว่าผิวหน้าดูไบรท์และสดใสมากขึ้น
Facial Scrub
อีกหนึ่งตัวคือ
Black Sugar Mask Wash off
ของ
Skin Food
ค่ะ ซึ่งเป็นทั้ง
สครับและมาส์กในตัวเดียวกัน
วิธีการใช้คือนำสครับพอกบนผิวหน้าให้ทั่ว จากนั้นใช้นิ้วขัดผิวหน้าโดยวนเป็นวงกลม คล้ายๆ การนวด พอกทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สครับตัวนี้เป็น
สครับน้ำตาล ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รอยดำดูจางลง
แถมยังช่วยให้
ผิวเนียนนุ่มและกระจ่างใส
มากขึ้นอีกด้วย
2. Sunscreen
นอกจากการใช้
สครับ
เพื่อ
ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออก
แล้ว เราจำเป็นต้อง
ดูแลผิวใหม่ด้วยครีมบำรุงที่ดีเพื่อให้ผิวแข็งแรง
ซึ่งนอกจากเซรั่มหรือโลชั่นสำหรับการบำรุงที่สาวๆ ชอบใช้แล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ
ครีมกันแดด
นั่นเองค่ะ
ต่อให้เราใช้โลชั่นราคาแพงแค่ไหน แต่เราไม่ปกป้องผิวด้วย
ครีมกันแดด
ก็ทำให้ผิวของเราคล้ำเสียได้ง่ายอยู่ดีนะคะ ฉะนั้น สาวๆ ต้องไม่ละเลยการทาครีมกันแดด ลงทุนสักนิด เลือกครีมกันแดดคุณภาพดีที่มีประสิทธิภาพสูงในการปกป้องผิวจากแสงแดด โดยเลือก
ครีมกันแดด
ที่มีค่า SPF 30-50 ทาก่อนออกแดดประมาณ 20 นาที และต้องหมั่นทาซ้ำทุกๆ 3-4 ชั่วโมงด้วยนะคะ เพื่อการปกป้องผิวตลอดทั้งวัน
แนะนำ
ครีมกันแดด
ตัวแรก เป็นตัวนี้เลยค่ะ ซึ่งเคยมีการทดสอบประสิทธิภาพแล้วว่า ใช้ดีจริงๆ สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้ยาวนาน นั่นก็คือ
Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum spf50+ PA+++
จะมีด้วยกันสองสูตรคือ
สูตร Extra Moist ซึ่งมีส่วนผสมของ วิตามินอี และ คอลลาเจน ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว
ส่วนอีกสูตรหนึ่งก็คือ
สูตร Intensive White มีส่วนผสมของ วิตามินบี3 และ Yusu Orange ( สารสกัดจากส้มยูซุ ) ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนและดูกระจ่างใส
ส่วนตัวคิดว่าสูตรสีฟ้าเนื้อดีกว่านิดนึงเพราะ
ใช้แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ
สีชมพูจะมีความข้นกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าโอเคค่ะ เพราะ
ทาแล้วเนียนไปกับผิว ไม่เป็นคราบ
ถ้าใครเน้นเรื่องความกระจ่างใสก็แนะนำเป็นสีชมพู แต่ถ้าอยากได้ความชุ่มชื่น ผิวไม่แห้งก็ใช้เป็นสูตรสีฟ้าเลยค่ะ
สาวๆ คนไหนที่
ทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยๆ หรือมีแพลนจะไปเที่ยวทะเล
ในช่วงซัมเมอร์นี้ แนะนำเป็น
ครีมกันแดด
ตัวนี้เลยค่ะ
Nivea Sun Protect
มีสองสูตรคือ
สูตร Whitening ที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส
และ
สูตร Moisturizing ที่ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่น
ที่บอกว่าเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเจอแดดหนักๆ และกิจกรรมทางน้ำ เพราะตัวนี้เค้า
กันแดดได้ดีมากค่ะ ที่สำคัญคือกันน้ำได้ด้วย!
แถมทางแบรนด์เค้ายังเคลมมาอีกว่า
สามารถทาแล้วออกแดดได้เลยไม่ต้องรอ 20 นาทีด้วยนะ
เนื้อครีมค่อนข้างโอเคเลยค่ะ ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะมากนัก ใครกำลังจัดทริปไปเที่ยวซัมเมอร์ ก็อย่าลืมพก
ครีมกันแดด
ไปด้วยนะคะ เป็นไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยจริงๆ
นอกจาก
ครีมกันแดดทาผิวกาย
แล้ว เรามาดู
ครีมกันแดดสำหรับทาผิวหน้า
กันบ้างดีกว่าค่ะ ถามว่าใช้
ครีมกันแดด
ทาตัวมาทาหน้าได้มั้ย จะบอกว่าทาได้มันก็ได้ แต่
ครีมกันแดดทาผิวกาย
คงจะไม่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของสาวๆ สักเท่าไหร่นัก เ
พราะครีมกันแดดทาผิวกายจะมีความเข้มข้นมาก ซึ่งจะถ้าหากทาหน้า จะทำให้ผิวอุดตันและมีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่ายด้วยนะคะ
เพราะฉะนั้น อย่าเสี่ยง เลือกใช้เป็น
ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า
โดยเฉพาะดีกว่าค่ะ
อย่างเช่นเจ้า
ครีมกันแดด
ตัวท็อป
MizuMi UV Water Defense spf50+ PA++++(สูตรกันน้ำ)
และ
MizuMi UV Water Serum spf50+ PA++++
เรียกได้ว่าเป็น
กันแดด
ตัวเทพที่
ปราศจากสารก่อความระคายเคืองต่อผิวหน้า เนื้อมีความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ คุมมันได้ดีมาก
หลอดสีส้มอาจจะคุมมันได้ดีกว่าสีฟ้านิดหน่อย ใครผิวมันผิวผสมแนะนำสีส้มเลยค่ะ แต่โดยภาพรวมของทั้งสองสูตร คือเริ่ดจริง ต้องไปโดน
ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า
อีกหนึ่งตัวที่
recommend
เลยค่ะว่าดีมากๆ จากแบรนด์
Biore
โดยวันนี้จะมาแนะนำสองสูตรที่คิดว่าใช้ดี และน่าจะเหมาะกับหน้าร้อนนี้ นั่นคือ
Biore UV Perfect Face Milk SPF 50+/PA+++ ( สีขาว )เหมาะสำหรับสาวๆผิวผสมถึงผิวมันค่ะ ตัวนี้เนื้อค่อนข้างดี เพราะซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว แถมยังควบคุมความมันได้ดีในระดับนึงเลยล่ะค่ะและอีกสูตรก็คือ
Biore UV Bright Face Milk SPF50+ / PA+++ ( สีชมพู )เหมาะสำหรับสาวๆผิวแห้งถึงผิวธรรมดาตัวนี้จะเน้นปรับผิวให้ดูกระจ่างใสพอทาแล้วผิวก็จะดูสว่างขึ้นมาอีกหนึ่งระดับค่ะ แต่ตัวนี้จะคุมมันน้อยกว่าตัวสีขาวสักเล็กน้อยไม่แนะนำสำหรับสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายนะคะเพราะตัวนี้แอบมีแอลกอฮอล์เยอะอยู่ถ้าใครไม่ได้มีปัญหาเรื่องอาการแพ้ ตัวนี้ตอบโจทย์สุดๆ เลยค่ะ
3. Vitamin
มาถึงตัวช่วยสำคัญตัวสุดท้าย ที่จะช่วยบำรุงผิวให้ดู
กระจ่างใส เปล่งปลั่ง สุขภาพดี มีน้ำมีนวล
ก็คือ
วิตามิน
นั่นเองค่ะ
วิตามิน
อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกายที่แข็งแรงเป็นปกติอยู่แล้วนะคะ แต่ถ้าหากสาวๆ
มีปัญหาเรื่องผิว
และต้องการอาหารเสริมมาช่วยเติมเต็มให้ผิวสุขภาพดีมากขึ้น
วิตามิน
ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
โดยการทานวิตามินเพื่อช่วยในเรื่องผิวนั้น อาจจะเลือกทานเฉพาะบางตัว เพื่อช่วยในจุดที่เราต้องการแก้ไขปัญหาผิว
และ
ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ทุกครั้งก่อนที่จะซื้อมารับประทานด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพและให้การทานวิตามินเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
วิตามิน C
สามารถทานเพื่อบำรุงผิวได้ เพราะมีส่วนช่วยในเรื่องของ
การต่อต้านอนุมูลอิสระ นั่นคือ ช่วยลดการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวกระจ่างใส นุ่มลื่น ดูสุภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยสมานรอยแผล และทำให้แผลเป็นดูจางลงด้วยค่ะ
การทาน
วิตามิน C
เพื่อบำรุงผิว
ควรทานวันละ 500-2,000 มิลลิกรัม
แนะนำให้ทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2-4 ครั้ง
จะดีกว่าการทานครั้งละ 1,000 มิลลิกรัม เพราะจะทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้ดีกว่ากินปริมาณมากๆ ในครั้งเดียวค่ะ
วิตามิน E
มีส่วนช่วยในเรื่องของการ
เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
สำหรับใครที่มีผิวแห้ง แนะนำให้ทานวิตามิน Eเพื่อเติมความชุ่มชื่น
วิตามิน E
ยังมีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยรวมถึงแผลเป็น ฝ้า กระและจุดด่างดำ ให้ดูจางลงอีกด้วยค่ะ
ควรทาน
วิตามิน E
ในปริมาณ 100-300 IU ต่อวัน
และไม่ควรทานในปริมาณมากจนเกินไปนะคะ เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้
Q 10
จะมีส่วนช่วยให้
วิตามิน C และ E
ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความหมองคล้ำ ทำให้ริ้วรอยดูจางลง ลดผลกระทบที่เกิดจากแสงแดดที่จะส่งผลต่อผิว
ซึ่งการทาน
วิตามิน
จะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง
อาจจะต้องทานต่อเนื่อง 1-2 เดือน
แล้วลดปริมาณลง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดการสะสมจากการรับประทาน
วิตามิน
มากเกินไป หรือจากการรับประทาน
วิตามิน
ต่อเนื่องมาเป็นเวลานานนั่นเองค่ะ
------------------
และทั้งหมดนี้ ก็เป็น 3 ตัวช่วยสำคัญ สำหรับสาวๆ ที่อยากจะปรนนิบัติผิว
เปลี่ยน ผิวหมองคล้ำ ให้เป็น ผิวกระจ่างใส
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีสุขภาพผิวที่ดี ซึ่งผิวสุขภาพดี
ก็คือผิวที่มีความชุ่มชื้น ดูสดใสเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่โทรม ไม่แห้งเหี่ยว ไม่ว่าจะผิวสีไหน หากมีสุขภาพผิวที่ดี ผิวก็สวยแน่นอนค่ะ
หวังว่าสาวๆ จะได้เคล็ดลับดีๆ ไปดูแลตัวเองกันถ้วนหน้า แต่อย่าลืมนะคะว่า สิ่งที่สำคัญกว่าตัวช่วยไหนๆ ก็คือ
ความมีวินัยและความสม่ำเสมอในการดูแลตัวเอง
เพราะถ้าเราขี้เกียจ ไม่ใส่ใจ ทำบ้างไม่ทำบ้าง ก็คงจะไม่มีผิวสวยสุขภาพดีสักที
ถ้าอยากมีผิวสวย ดูกระจ่างใส ก็ต้องใส่ใจดูแลอย่างต่อเนื่องกันนะคะสาวๆ
สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่นะคะ สวัสดีค่า
------------------