1. SistaCafe
  2. โรคควรระวังช่วงหน้าร้อน ภัยเงียบที่พร้อมคุกคามสุขภาพทุกคน มีอะไรบ้าง ?

ด้วยอากาศที่ร้อนแบบนี้ เอาจริงๆ ไม่ใช่แค่อากาศนะ ที่เราจะต้องเผชิญ แต่สิ่งที่ตามมากับอากาศร้อน ยังมีเรื่องโรคต่างๆ ด้วย หลายๆ คนอาจจะมีความคิดว่า อากาศมันร้อน เชื้อโรคอยู่ไม่ได้หรอก เชื้อโรคไม่ชอบ NO! ไม่จริงเลยค่ะ เพราะอากาศร้อน ก็มีไวรัสและเชื้อโรคเช่นกัน วันนี้เราได้ทำการรวบรวม โรคควรระวังช่วงหน้าร้อน ภัยเงียบ ที่พร้อมคุกคามสุขภาพทุกคน มาบอกต่อ นี่คัดโรคยอดฮิตที่คนเป็นเยอะที่สุดมาให้ดูกันเลยนะพร้อมบอกวิธีดูแลตัวเองง่ายๆ ให้เพื่อนๆ ได้ทำตามกันด้วย จะเป็นยังไงบ้าง ไปดูกันเลย



หน้าร้อนนี้ มีอะไรต้องระวังบ้าง ?

จริงๆ ต้องบอกก่อนว่า ไม่ว่าจะฤดูกาล ก็มักจะมีเรื่องให้เราต้องคอยระมัดระวังเสมอ อย่างหน้าร้อน นอกจากอากาศที่ร้อนมากๆ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่เราจำเป็นที่จะต้องระวัง นั่นก็คือ โรคที่มามาพร้อมกับอากาศร้อน และวันนี้เราจะพาเพื่อนเพื่อนไปดูกันว่าโรคควรระวังช่วงหน้าร้อนมีโรคอะไรกันบ้าง รู้ไว้ จะได้ดูแลตัวเองได้ถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองป่วยเป็นโรคในช่วงหน้าร้อนนี้ ไปดูกัน5 โรคยอดฮิตช่วงซัมเมอร์ ที่พบบ่อยที่สุดมีอะไรบ้าง เรารวมมาให้แล้ว



Top 5 โรคควรระวังช่วงหน้าร้อน รู้ก่อนเพื่อเตรียมพร้อม

โรคควรระวังช่วงหน้าร้อน ที่ 1. โรคอุจจาระร่วง

โรคอุจจาระร่วงคือ การถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำอย่างผิดปกติตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปภายใน 1 วัน หรือมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นมูก หรือเลือดแม้เพียงครั้งเดียว ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดโรคนี้มาจากเชื้อแบคทีเรีย ปรสิต โปรโตซัว หรือพยาธิในลำไส้ที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหาร และน้ำดื่มที่ไม่สะอาด รวมถึงการไม่ล้างมือก่อนการรับประทานอาหาร และการใส่อาหารในภาชนะที่ไม่สะอาดอีกด้วย


อาการ: อาการที่สังเกตได้หลักๆ คือ ถ่ายเหลว 3 ครั้งขึ้นไป คลื่นไส้ อาเจียนบ่อย รับประทานอาหารไม่ได้ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และกระหายน้ำมากกว่าปกติ ซึ่งอาการอุจจาระร่วงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม

-อุจจาระร่วงเฉียบพลันมีอาการอุจจาระร่วงน้อยกว่า 7 วัน มักเกิดจากโรคทางกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบเนื่องจากการติดเชื้อไวรัส

-อุจจาระร่วงเรื้อรังอาการท้องเสียที่เกิดขึ้นติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งอาจมีสาเหตุจากโรคในระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคลำไส้อักเสบ โรคลำไส้แปรปรวน โรคถุงผนังลำไส้อักเสบ เป็นต้น


วิธีการรักษา / การป้องกัน

ส่วนใหญ่แล้วจะหายเองได้ภายใน 6 วัน แต่ก็อยากจะแนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ และอย่าลืมดื่มเกลือแร่ด้วย เพื่อชดเชยน้ำที่เสียออกไปจากร่างกาย หลีกเลี่ยงการใช้ยาหยุดถ่าย แล้วก็นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การป้องกันที่ดีที่สุดของโรคนี้คือ การรักษาสุขอนามัยทั้งในการรับประทานอาหาร การเก็บอาหาร และการปรุงอาหาร ควรหมั่นล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ หรือจับสิ่งของอื่นๆ ที่สำคัญที่สุดคือ ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ด้วยนะ



โรคอันตรายหน้าร้อนที่ 2. โรคอาหารเป็นพิษ

โรคอาหารเป็นพิษมักจะเกิดจากการรับประทานอาหาร หรือน้ำที่มีการปนเปื้อน โดยปกติแล้ว คนที่เป็นโรคนี้ส่วนใหญ่ มักจะมีอาการภายหลังรับประทานอาหารทะเล ที่ปรุงไม่สุกพอ ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับเชื้อโรคหรือไวรัสนี้เข้าไป ก็จะพยายามขับเอาสารเหล่านั้นออกมา ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระ ปวดหัว คอแห้งกระหายน้ำ และมีไข้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ความรุนแรงของอาการ ก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเชื้อที่ได้รับเข้าไปด้วย


อาการ: พอพูดว่า อาการอาหารเป็นพิษ หลายๆ คนอาจจะคิดว่า ก็ท้องเสีย แต่จริงๆ แล้วอาการขจองโรคนี้ ไม่ได้มีแค่ท้องเสียท่านั้น แต่บางคนอาจจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น วิงเวียนศีรษะ อาเจียน เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ภาวะอาหารเป็นพิษนั้น ไม่ได้อยู่ในขั้นที่รุนแรง และสามารถหายเองได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง แต่ถ้าหากเพื่อนๆ พบว่ามีอาการท้องเสียถ่ายเป็นน้ำหรือเป็นมูกเลือด มักจะมีอาการไข้สูง อ่อนเพลีย อาเจียนไม่หยุด หนังตาตก กล้ามเนื้ออ่นแรง และหายลำบาก อาการเริ่มรุนแรงกว่าปกติ แบบนี้ควรรีบไปพบแพทย์นะ


วิธีการรักษา / การป้องกัน

วิธีการรักษา อย่างที่เราบอกไว้ข้างต้นว่า ไม่ใช่โรคที่รุนแรง และสามารถหายได้เอง ซึ่งวิธีการป้องกันง่ายมาก แนะนำให้รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ค้างคืน บวกกับดื่มน้ำที่สะอาด และเมื่อรับประทานอาหารร่วมกันควรใช้ช้อนกลาง สำคัญที่สุดคือ ก่อนรักประทานอาหาร ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งด้วย



ภัยสุขภาพหน้าร้อนที่ 3. อหิวาตกโรค

อหิวาตกโรคเกิดจากการรับประทานอาหาร หรือน้ำดื่มที่มีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำคราวละมากๆ และทำให้มีอาการขาดน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะช็อก หมดสติจากการขาดน้ำ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้


อาการ: จะแบ่งออกเป็นรุนแรง และไม่รุนแรง ในกรณีที่ไม่รุนแรง จะมีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำคล้ายน้ำซาวข้าว คลื่นไส้ อาเจียน แต่ไม่มีไข้ และมักจะรู้สึกกระหายน้ำมาก บวกกับมีอาการอ่อนเพลียร่วมด้วย แต่ในกรณีที่รุนแรง นอกเหนือจากอาการที่กล่าวไป จะมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ความดันต่ำ หัวใจเต้นผิดจังหวะ น้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะเลือดเป็นกรด ริมฝีปากแห้ง เป็นตะคริว ตัวเย็น เป็นต้น


วิธีการรักษา / การป้องกัน

สำหรับการรักษา หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที มักจะหายได้ภายใน 1 - 5 วัน วิธีการรักาาเบื้องต้นคือ งดอาหารที่มีรสจัด ดื่มน้ำมากๆ และสำคัญที่สุดคือ ห้ามใช้สิ่งของ ภาชนะร่วมกับคนอื่นเด็ดขาด! หลังเข้ารับการรักษ นอกจากให้น้ำเกลือแล้ว แพทย์ยังให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาด้วยค่ะ ซึ่งการป้องกันโรคอหิวาตกโรค ต้องทานอาหารที่ปรุงสุกและสะอาด ล้างมือและถูสบู่ให้สะอาดทุกครั้งก่อนทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นอหิวาตกโรคด้วยนะ



โรคยอดฮิตหน้าร้อนที่ 4. ฮีทสโตรก

ฮีทสโตรก (Heatstroke) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า “ โรคลมแดด ” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรคที่อันตรายมาก ๆ ในช่วงหน้าร้อน ซึ่งเกิดจากการอยู่กลางแดดร้อนจัดเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดภาวะร่างกายมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ อากาศที่ร้อนจัดในประเทศไทยทำให้เราต้องเฝ้าระวังภาวะลมแดดโดยเมื่อออกกําลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากในสภาพอากาศร้อนชื้น และดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้นมาก การถ่ายเทของอากาศไม่ดี จะทำให้อุณหภูมิร่างกายของเราเพิ่มสูงขึ้นจนอาจเป็นลมแดดได้ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดมีอาการควรได้รับการรักษาในทันที เพราะอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ หากได้รับการรักษาที่ล่าช้า อาจทำให้อันตรายถึงแก่ชีวิตได้


อาการ: อาการของโรคนี้ สามารถสังเกตเห็นได้ง่ายๆ โดยจะมีอาการตัวร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ผิวจะแห้งและแดงจนทำให้ความร้อนในร่างกายสูงถึง 40 องศา แม้อากาศจะร้อน แต่กลับไม่มีเหงื่อออก ทั้งยังรู้สึกกระหายน้ำมาก หายใจถี่ ชีพจรเต้นแรงและมีอาการปวดศีรษะ หน้ามืด ความดันโลหิตต่ำ รวมไปถึงอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียนด้วย


วิธีการรักษา / การป้องกัน : ถ้าพบว่าคนใกล้ตัวมีอาการฮีทสโตรก อย่างแรกเลยควรรีบพาเขาเข้าร่ม และให้อยู่ในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทดีๆ ให้นอนราบยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นสูง เพื่อเพิ่มการไหลเวียน ถอดเสื้อผ้าให้เหลือน้อยชิ้น คลายชุดชั้นใน ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น น้ำแข็งประคบตามซอกคอ หน้าผาก รักแร้ ขาหนีบร่วมกับใช้พัดลมเป่า เพื่อระบายความร้อนและลดอุณหภมิร่างกายให้ต่ำลง ถ้าผู้ป่วยไม่หมดสติ ก็ให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ จากนั้นรีบพาไปพบแพทย์


วิธีป้องกันโรคนี้ ไม่ยากเลยค่ะ เพียงดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้น และลดอุณหภูมิร่างกาย ใส่เสื้อผ้าสีอ่อน โปร่ง ไม่หนา น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดีและป้องกันแสงแดดได้ ใช้ครีมกันแดด SPF 15 และไม่ควรทาครีมกันแดดหนาจนเกินไป หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด หรือ การเล่นกีฬาในสภาพอากาศที่ร้อนจัด ถ้าเป็นไปได้ควรออกกำลังกายในตอนเช้าตรู่หรือตอนเย็นแทน และควรงดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ไปก่อน



โรคฤดูร้อนที่ควรระวังที่ 5. โรคบิด

โรคบิดคือ อาการท้องเสียรุนแรง ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชิเกลลา (Shigella) หรือเกิดจากติดเชื้อจากสัตว์เซลล์เดียวอย่างตัวอะมีบา (E. histolytica) ซึ่งอาการหลักๆ ของโรคนี้ก็จะมีทั้ง อาการท้องเสีย ถ่ายอุจจาระบ่อย เมื่อถ่ายอุจจาระจะมีมูกหรือมูกเลือดออกมาด้วย และปวดท้องเป็นพักๆ


โรคบิดแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

โรคบิดชนิดไม่มีตัว (Bacillary Dysentery หรือ Shigellosis)เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มชิเกลลา (Shigella) สามารถพบได้ทั่วไปในพื้นที่ที่มีสุขอนามัยไม่ดี

โรคบิดชนิดมีตัว (Amoebic Dysentery หรือ Amoebiasis)เป็นโรคบิดที่เกิดจากสัตว์เซลล์เดียวอันมีชื่อว่า อะมีบา ที่มักพบการติดเชื้อได้ในพื้นที่ร้อนชื้นและที่ที่มีการดูแลสุขอนามัยที่ไม่ดีมากนัก


อาการ: จะมีอาการหลังจากได้รับเชื้อมา 2 - 4 สัปดาห์ แต่ในยาวเคส ก็เป็นเดือนกว่าจะแสดงอาการออกมา อาการที่เกิดส่วนใหญ่คือ ท้องร่วง10 - 12 ครั้งต่อวัน จนถึงขั้นถ่ายเป็นเลือด ท้องแข็งเกร็ง และรู้สึกปวดอย่างรุนแรง บางครั้งเวลาอุจจาระออกมาก็จะมีมูกลื่นๆ ปนออกมากับอุจจาระ อาจจะมีไข้ ปวดหลัง อ่อนเพลียร่วมด้วย


วิธีการรักษา / การป้องกัน

จริงๆ หลังจากกินยาตามที่แพทย์สั่ง อาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้น ภายใน 10 - 20 วัน จากนั้นก็พักรักษาตัว และมีการตรวจอุจจาระด้วย เพื่อดูว่าเชื้อหมดไปรึยัง ทั้งนี้นอกจากทานยาตามแพทย์สั่งแล้ว ควรดื่มน้ำเยอะๆ ล้างมือบ่อยๆ และทานอาหารที่ปรุงสุกด้วย





วิธีดูแลตัวเองช่วงหน้าร้อน

1. ดื่มน้ำเยอะๆ

ช่วงหน้าร้อน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดื่มน้ำด้วยความที่อากาศร้อน จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำได้เร็วขึ้น ทำให้เรารู้สึกกระหาย เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำจึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆในช่วงฤดูกาลนี้ น้ำที่ว่านี้ หมายถึงน้ำสะอาดนะคะ ไม่ใช่แอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนนะ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์หรือกาแฟ ไม่ได้ช่วยดับกระหาย แต่จะยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำมากขึ้น เพราะฉะนั้นลดได้ลดนะจ๊ะ


2. พักผ่อนให้เพียงพอ

โดยธรรมชาติแล้วในช่วงฤดู ช่วงเวลากลางวันจะยาวและช่วงเวลากลางคืนจะ แน่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกว่านอนน้อยกว่าปกติ เพราะงั้นจึงอยากแนะนำแนะนำว่าให้ลองนอนพักผ่อน งีบหลับในช่วงเวลากลางวันดู อาจจะไม่ต้องถึงกับหลับยาว แค่ให้รู้สึกว่าร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก็พอแล้ว ซึ่งการงีบหลับในช่วงเวลากลางวัน ถือว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างน้อยเลยนะ ถ้าใครที่ไม่มีไม่มีเวลา อาจจะเป็นเพราะเรียน หรือทำงาน แนะนำว่าให้ลองนั่งพิงพนักเก้าอี้ ยืดตัวตรง และหลับตาสงบนิ่ง แบบนี้ก็จะถือว่าเป็นการงีบแบบง่ายๆ ในระหว่างวัน ส่วนตอนกลางคืนดี หากเป็นไปได้ ควรหลับก่อน 4 ทุ่ม และนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อที่ร่างกายขะได้รู้สึกพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ไม่อิดโรย รู้สึกเฟรชได้ในทุกๆ วัน

3. รับประทานอาหารที่สะอาด สดใหม่ ปรุงสุก

อย่างที่ทุกคนรู้กันเลยว่าช่วงหน้าร้อนนี้ โรคที่มาพร้อมกับอากาศร้อนส่วนใหญ่ มักจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับท้องร่วง ท้องเสีย เพราะฉะนั้นช่วงหน้าร้อนนี้ เพื่อนๆควรรับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุก และควรล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำค่ะ แนะนำอีกอย่างหนึ่งคือ การเก็บรักษาวัตถุดิบ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ นม ไข่ ควรเก็บไว้ในตู้เย็น เพื่อรักษาความสดใหม่ อาหารอะไรที่หมดอายุแล้ว หรือค้างคืน ไม่ควรทานซ้ำอีก แบบนี้จะช่วยลดโอกาสท้องร่วง ท้องเสียได้


4. หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬากลางแจ้งในช่วงหน้าร้อน

ด้วยความที่อากาศร้อน และยิ่งเป็นแดดประเทศไทยแล้ว มันไม่ธรรมดาค่ะ ร้อนที่ว่าคือร้อนที่สุด ร้อนถึงขนาดที่สามารถแผดเผาผิวของเราให้ไหม้เป็นจุนได้ ใครที่ชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง หน้าร้อนนี้แนะนำว่าให้เบาหน่อยดีกว่านะ ลองเปลี่ยนไปเล่นเป็นกีฬาในร่มแทนการเล่นกีฬากลางแจ้ง อาจทำให้เพื่อนเพื่อนป่วยเป็นโรคฮีทสโตรกเพราะงั้นรอวันที่แดดไม่แรงมาก แล้วค่อยออกมาเล่นกีฬากลางแจ้งกันใหม่นะคะ วันไหนแดดแรงๆ ก็เล่นในร่มไปก่อนเนอะ


5. ป้องกันความร้อน

ด้วยความที่อากาศร้อนมากๆ การป้องกันความร้อนทำได้ง่ายไม่ใช่เรื่องยาก วิธีแรกคือให้สวมเสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุวัสดุที่ใส่แล้วสบาย เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าแบบนี้เวลาสวมใส่จะทำให้ร่างกายรู้สึกไม่ร้อนและรู้สึกสบายตัวด้วย ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าที่มีความหนาและรัดรูปมากเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายรู้สึกไม่สบายตัวได้ นอกจากนี้วิธีป้องกันความร้อนที่ใครๆ ก็ทำได้อีกหนึ่งวิธีคือ การใช้อุปกรณ์ช่วยเสริม หลายๆ คนอาจจะงงว่ามันคืออะไร อุปกรณ์ที่ว่าก็คือพัดลมพกพา พัด หรือสเปย์เย็น ไอเทมเหล่านี้จะช่วยดับความร้อนให้กับร่างกายของเราได้ค่ะ อย่างน้อยๆ ก็พอช่วยบรรเทาความร้อนให้เราสามารถผ่านวันร้อนๆ ไปได้อีกหนึ่งวันนั่นแหละนะ


โรคควรระวังช่วงหน้าร้อนรู้ไว้จะได้ระวังก่อน หน้าร้อนนี้ นอกจากจะหาวิธีดับร้อนแล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพกันอยู่เสมอ ระวังป่วยกันด้วยนะคะ ถึงยังไงเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะฉะนั้นจะมองผ่านๆ ไปไม่ได้ เรื่องการกิน การใช้ชีวิต ยังไงก็ต้องระวังๆ หน่อย ท้ายที่สุดแล้ว ดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่าปล่อยให้ตัวเองป่วยเป็นไหนๆสำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้