บทที่ 3 : ไบค์ เพื่อนสนิทผู้ใสซื่อ

ฉันพยายามสั่งตัวเองว่าอย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น แม้ว่าตัวเองจะรู้ความคิดของพวกเขาก็ตาม เพราะถ้าเข้าไปยุ่ง อาจจะเจ็บตัวได้ ฉันรู้ความสัมพันธ์ของสองคนนี้ดี หากบอกไปยังไงไบค์ก็คงจะไม่เชื่อแน่ ก็ไบค์เชื่อว่ายัยพู่กันเป็นคนดีปานนางฟ้าประธานมาเกิด และยิ่งถ้าฉันพูดไปจริงๆ ไบค์คงจะคิดว่าฉันใส่ร้ายยัยนั่นเสียมากกว่า อีกอย่าง ฉันก็ไม่มีหลักฐานอะไรนอกเสียจากความคิดที่ได้ยิน บางทีแมธธิวกับพู่กันอาจจะทักทายกันตามภาษาเพื่อนก็ได้

เฮ้อ~ ฉันถอนหายใจพลางเหลือบมองพู่กันและแมธธิวอีกครั้ง พร้อมทั้งอ่านความคิดพวกเขาที่แอบอาจารย์คุยกันผ่านโทรศัพท์

‘เทอมนี้ลงเรียนเยอะมั้ย’แมธิวว่า

‘ก็มีหลายตัวอยู่นะ’พู่กันว่า

‘ลงอะไรบ้าง เผื่อเราลงด้วย’แล้วแมธธิวก็เลือกส่งสติกเกอร์หน้ามุ้งมิ้ง

ฉันหันไปมองนายไบค์ที่ยังเอาหน้าจุ่มลงหนังสือแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด

แกน่าจะรู้อะไรซะบ้างนะ...

หรือว่าฉันควรจะบอกเขาดี...

ไม่! เกล แกจะต้องใจเย็น เรื่องนี้เกลจะไม่ยุ่ง! ทำใจสบายๆ ฟังที่อาจารย์สอนอยู่หน้าห้องดีกว่า เดี๋ยวทุกอย่างก็จะผ่านไปเอง

แต่เมื่อหันไปมองสองคนนั้นอีกครั้ง

“ไบค์” ฉันกระซิบเรียกไบค์ทันทีที่เห็นพู่กันและแมธธิวหันไปยังคุยกันแทนการพิมพ์ผ่านโทรศัพท์อย่างสนุกสาน

ชิท! ฉันห้ามตัวเองในการไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของไบค์ไม่ได้จริงๆ โอ๊ย ฉันอยากจะปาดคอตัวเอง!

“ไบค์” ฉันเอาขาสะกิดเขาอีกรอบอย่างยั้งใจไม่อยู่

“...”

ไบค์ยังจมปักกับหนังสือ

แกจะไม่สนใจฉันใช่ไหม หึ่ม ก็ด้าย...

“ไอไบค์” ฉันเอามือปิดหนังสือเขาทันที

“อะไร” เขาสะดุ้งแล้วเงยหน้าขึ้นมาถาม“นู่น” ฉันเหลือบตาไปที่พู่กันเพื่อเป็นการส่งซิกบอกเขาแต่...

“แกชอบแมธธิวเหรอ”

คำตอบเขาทำให้ฉันต้องหลับตา เม้มปาก แล้วกำมือขึ้นมาอย่างเซ็งๆ ในทันใด บางทีฉันก็หมั่นไส้ความใสซื่อของเขานะ ก็มันจะพาให้เขาซวยโดยไม่รู้ตัวนี่นา

ฉันผ่อนลมหายใจ แล้วส่ายหัว “ไม่ใช่” ก่อนจะเหลือบตาบอกเขาอีกที “แฟนแกอ่ะ”

“อ้าว” เขาหันไปมองพู่กันแล้วโบกมือให้พลางยิ้มหวาน ก่อนจะหันมามองฉัน “พู่กันน่ารักเนอะ มีฝากแกให้เรียกฉันไปโบกมือให้อีก ห่างกันแค่แป๊บเดียวเอง”

ถุย ฉันอยากจะเปลี่ยนสมองเขากับลิง บางทีลิงอาจจะฉลาดกว่าเขาอีก ให้ตายเหอะ อยากเบ้ปากแล้วกลอกตาขึ้นเพดานใส่เขาเสียจริง

“วันนี้อาจารย์คงไม่สามารถสอนอะไรมากได้ แต่จะให้พวกเธอจับกลุ่มสี่คน เพื่อไปถ่ายทำคลิปวิดีโอโปรโมทเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศไท...” อาจารย์พูดขึ้น เรียกให้ฉันและไบค์ต้องเปลี่ยนไปสนใจเธอแทนเรื่องของพู่กัน

“ท่องเที่ยวที่ไหนครับจารย์” นักศึกษาคนนึงในห้องถาม

“ฟังฉันพูดให้จบก่อนแล้วค่อยถาม” อาจารย์พูดจิกเด็กช่างถามหลังห้อง “ที่ไหนก็ได้ในไทย แต่ไม่ใช่กรุงเทพ ส่งเดือนหน้า”

สี่คนงั้นเหรอ... สังหรณ์ใจแปลกแฮะ รู้สึกเหมือนตาขวาจะกระตุกรัวๆ

“แกทำกับเรานะเกล พู่กันคงมากับพวกเราด้วยแหละ ดูท่าเพื่อนกลุ่มพู่กันจะจับกันแค่สี่คน” ไบค์บอก ก่อนจะกวักมือเรียกพู่กันในทันที

ฉันสตั้นท์แล้วมองหน้าไบค์ไปสิบวิ

เอ่อ...จริงๆ ฉันก็ไม่อยากจะให้เธอมาสักเท่าไหรหรอกนะ แต่ทำไงได้ เราต้องจับกกลุ่มสี่คนนี่เนอะ

“อ่าฮะ” ฉันพยักหน้า

“มาแล้วๆ” พู่กันเดินมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่คนที่เดินตามเธอมาทำเอาฉันยิ้มตอบไม่ออก

แมธธิว...

“ขออยู่กลุ่มด้วยคนนะ” เขาบอก

“ได้ดิ สบายมาก” ไบค์ตอบอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว

ให้ตายสิ แกตายแน่ๆ เลยไบค์ แมธธิวเขาจ้องจะงาบพู่กันอยู่นะ นายไบค์เอ๋ย ฉันยังไม่อยากเห็นแกน้ำตาเช็ดหัวเข่านะ


เอ่อ...ฉันควรเบรกเขาดีกว่า


ฉันตัดสินใจหันไปเหลือกตาสั่งให้ไบค์ปฏิเสธ ก่อนจะหันไปปยิ้มแหยๆ ให้แมธธิว


แต่ดูเหมือนไบค์จะไม่เข้าใจนะ เพราะ...


“แมธธิวนี่เพื่อนเรา ชื่อเกล ทำความรู้จักไว้ ทั้งสวยทั้งโสด”


“...”


กรี๊ดดด ฉันอยากจะบ้าตาย นายดูไม่ออกเลยหรือไงว่าฉันหมายถึงอะไร อยากจะจับหัวเขาโขกโต๊ะเสียตรงนั้น


ใจเย็นนะเกล แกจะต้องนับหนึ่งถึงสิบเพื่อให้ตัวเองใจเย็น


หนึ่ง...


สอง...


สาม...


ส...


“อ๊าว เงียบทำไม ทักเพื่อนใหม่สิคร๊าบ” ไบค์สะกิดฉันอีก “นายยังโสดหรือเปล่า เผื่อเพื่อนเราสนใจ”


โอ๊ยยย ยิ่งได้ฟังมันช่วยทอดสะพานให้แล้วจะเป็นลม ใครก็ได้ ช่วยเรียกรถพยายาลให้ฉันหน่อยค่า


“ยังโสด...” แมธธิวเหลือบไปมองพู่กัน “เราแมธธิวนะ” เขาหันมายิ้มให้ฉันพร้อมความคิดบางอย่าง

‘นี่ก็สวย เอ็กซ์ ดีนะ พาขึ้นเตียงคงสนุก แต่จะจีบคงต้องพู่กันเท่านั้น’


หืม ได้ยินแล้วมันปรี๊ดดด


“เตียงบ้าอะไรของแก” ฉันตะคอกใส่เขา เล่นเอาทั้งไบค์ พู่กัน และแมธธิวเจ้าของความคิดงงไปตามๆ กัน


“เตียงอะไรของแกวะ” ไบค์ถามงงๆ “นี่แกง่วงแล้วเหรอ”


“เอ่อ...” ฉันที่เพิ่งได้สติว่าเผลอพูดอะไรไป จึงรีบสะบัดหัวแล้วฉีกยิ้มใส่ทุกคน “อ่อ โทษที เพื่อนข้างห้องที่หอมันเพิ่งไลน์มาบอกว่ามันทำหมาขี้” เน้นไปที่คำล่าสุดใส่แมธธิวกับพู่กัน “ใส่เตียงน่ะ”


“อ่อ” แมธธิวยิ้มให้ฉัน


“แล้วแกต้องรีบไปช่วยเพื่อนเปลี่ยนอีกมั้ยเนี่ย” ไบค์ถามอย่างเป็นห่วง


โถ ฉันสิต้องเป็นห่วงแก ไอไบค์เอ๊ย


“เฮ้ย ไม่เป็นไรแก” ฉันปฏิเสธพลางส่งสายตาไปมองพู่กันที่ยังยิ้มหวาน ยืนชิดกับแมธธิว แต่แล้ว ไอเดียบางอย่างก็บรรเจิดขึ้น “เอ้อ แมธธิว”


“หือ” เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทีใสซื่อ


“นายยังไม่รู้จักไบค์เลย นี่ไบค์แฟน” เน้นที่คำล่าสุดอีกครั้ง “พู่กัน” และเน้นคำนี้ดังขึ้นกว่าเก่า


ท่าทางพู่กันมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย คล้ายกับเธอจะดูออกว่า ฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ส่วนแมธธิวนี่สิ เขายังคงนิ่งเฉย แถมในความคิดของเขา เขาไม่ได้รู้สึกกลัวว่าพู่กันมีแฟนแล้วสักนิด เขากลับคิดว่ามันเป็นเรื่องทีท้าทายเสียมากกว่า


“อ่อใช่ ลืมแนะนำตัว แฮะๆ ” ไบค์เกาหัวแกรกๆ แก้เขิน


“ฉันให้เวลาพวกเธออีกสิบนาทีก่อนจะเสนอชื่อสถานที่ที่เธอจะไปถ่ายทำกัน” เสียงอาจารย์เร่งนักศึกษาดังลั่นห้องจนเราทั้งสี่สะดุ้งโหยง เพราะมัวแต่เชือดเฉือนกันจนลืมว่าจะต้องตกลงกันว่าไปที่ไหน


“เราว่าเราไปเชียงใหม่กันไหม” แมธธิวเสนอ


“ไม่ได้อ่ะ เชียงใหม่คงไปหลายวัน เราต้องทำงานด้วย” ไบค์แย้ง


“ขึ้นเครื่องไปไง เร็วดี” แมธธิวว่า


“ไม่ได้หรอก เราไม่มีตัง” ไบค์ปฏิเสธ


ฉันแอบเห็นพู่กันทำหน้าเซ็งพร้อมกับความคิดที่เธอรำคาญในความจนของไบค์เป็นที่สุด ซึ่งนั่นก็ทำให้ฉันอดหงุดหงิดไม่ได้


“พู่กันอยากไปที่ไหนเหรอ” ฉันหันไปถามเธอ


“จริงๆ เชียงใหม่ก็น่าไปนะ แต่ถ้าไบค์ลำบากเราก็ไม่เป็นไรหรอก” ว่าแล้วยัยนี่ก็ยิ้มหวานไปให้ไบค์ ซึ่งไบค์ผู้ที่ไม่รู้อะไรก็ยิ้มกว้างดีใจกับคำพูดเธอ ราวกับว่าเธอเป็นนางฟ้าผู้ให้พร


“ขอบคุณที่เข้าใจนะพู่กัน”


“เอาอย่างนี้ นายมีเวลากี่วัน” แมธธิวถามเพื่อหาทางออก


“สองวันหนึ่งคืนก็เยอะแล้วนะ” ไบค์บ่นเซ็งๆ


“งั้นหัวหินไหม ใกล้ดี เดินทางไม่ไกลมาก” แมธธิวเสนอ


“รถติดนะ” พู่กันออกความเห็น


“งั้นก็เสม็ดไหม เราเคยออกทริปตอนม.ปลาย” ไบค์เสนอไอเดีย


“ก็ดีนะ” แมธธิวกับพู่กันตอบพร้อมกัน


ส่วนฉันก็ได้แต่ กลืนน้ำลายหนืดคอ ช่างเลือกสถานที่ได้ดีมาก นายไบค์ผู้ใสซื่อ นายไม่เคยได้ยินคำนี้เหรอ


เกาะเสม็ดเสร็จทุกราย...


ระวังเถอะ พู่กันกับแมธธิวอาจจะเป็นไปตามสโลแกนของสถานที่แห่งนี้ก็ได้นะ


“เกลว่าไง” ไบค์ถามฉัน


“เอ่อ...” ฉันหยุดคิดพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่แมธธิวกับพู่กันจะเป็นไปตามสโลแกนชั่วครู่ แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง ฉันจึงตัดสินใจตอบตกลงในที่สุด “อื้อ”


“โอเค งั้นเราไปเมื่อไรดี” แมธธิวถาม


“อีกสองอาทิตย์ก็แล้วกัน ตรงกับวันครบรอบหนึ่งปีของเรากับพู่กันพอดีเลย ถือว่าไปฉลองพู่กันที่นู่นเลยก็แล้วกัน” ไบค์บอก