6 เหตุผลที่ผู้หญิงมีแนวโน้ม ที่จะคบผู้หญิงมากขึ้น
โลกเข้าสู่ปี2016แล้ว ใครว่าความรักต้องมีแค่ชายหญิงเท่านั้นล่ะ !
เผยแพร่: 9 ม.ค. 2559 09:00 น.
Views: 87,455
รหัสบทความ: 5881
ถ้าเป็นเมื่อก่อนหลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าเพศเดียวกันจะรักกันได้ แต่เพราะเดี๋ยวนี้มีการเปิดกว้างมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นหนังละครที่เป็นสื่อกลางทำความเข้าใจมากขึ้น ข่าว-เรื่องจริงของคนทั่วโลกที่มีการเปิดเผยกลุ่มคนรักเพศเดียวกันมากขึ้น ตลอดจนกฎหมาย อาชีพ ธุรกิจที่เริ่มอ้าแขนต้อนรับมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ถ้าตอนนี้ใครยังเหยียดกันเรื่องเพศ คนนั้นถือว่าเช้ยยยย... เชย ไม่ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยเอาซะเลย
จะว่าไปแล้วก็ใช่ว่าความรักจะไม่มีเหตุผลซะทีเดียว มันก็ต้องมีบ้างแหละที่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดถึงเลือกที่จะคบกันคู่ ญ-ญ ในปัจจุบันที่มีมากขึ้นก็เช่นเดียวกัน ใช่ว่าจะเป็นเรื่อง18+ เพียงเหตุผลเดียวซะหน่อยมาเปิดใจกว้างๆ อ่านกันทีละข้อ : )
#1 เข้าใจง่าย เข้ากันได้ง่าย
ถึงแม้จะรู้ดีว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ค่อนข้างเจ้าอารมณ์ มีความจู้จี้จุกจิกอยู่บ้าง แต่ ญ รัก ญ ส่วนใหญ่ก็ให้เหตุผลว่าเพราะเป็นเพศเดียวกันนี่แหละ เข้าใจกันง่ายดีไม่ต้องมาตั้งคำถามว่าทำไมเธอต้องแต่งตัวนาน ? ทำไมตอนเป็นเมนส์ต้องเรื่องมาก ? ทำไมต้องเจ้าน้ำตาในเรื่องง่าย ๆ ? ฯลฯซึ่งคำถามเหล่านี้ ถ้าให้ไปถามผู้ชายหรือแม้กระทั่งทอม เขาก็เข้าใจแหละว่ามันเป็นเรื่องของผู้หญิง แต่มันไม่ลึกซึ้งเท่าผู้หญิงด้วยกันเข้าใจกันไงล่ะ
#2 เป็นการคบกันที่ค่อนข้างแฟร์ต่อกัน
เพราะโดยพื้นฐานเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กัน เข้ากันได้ดี แต่ละคนจึงไม่รู้สึกว่ากำลังเสียเปรียบกันและกันมากเกินไปฉันและเธอมีความสามารถและสิทธิเสรีภาพเท่าๆ กันการจะมาเถียงกันว่าใช่ซี้ ! เธอเป็นผู้ชายก็ทำได้นี่ ใช่ซี้ ! เป็นผู้หญิงย่อมได้สิทธิ์ lady first !ลืมไปได้เลยจ้าาาา เราจะไม่ก่อสงครามเรื่องเพศให้เสียเวลา
#3 อะไรที่ผู้ชายทำได้ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงก็ใช่ว่าจะด้อยกว่า
อาชีพ กีฬา การศึกษา ทักษะต่างๆ ที่แต่ก่อนคิดว่าจะเหมาะกับผู้ชาย เมื่อโลกเปลียนไป ให้โอกาสผู้หญิงได้ฉายแววตัวเองมากขึ้น มีหรือที่ความเก่งกาจนั้นจะไม่เข้าตาผู้หญิงด้วยกันเองบ้าง ?
ปัจจุบันเราเห็นผู้หญิงที่มีความสามารถในการทำงานหาเงินเก่งขึ้นหลายคนปัจจุบันเราเห็นผู้หญิงมีการศึกษาสูงและกว้างไกลหลายคนไม่จำเป็นที่ผู้หญิงจะต้องพึ่งพาผู้ชาย ผู้หญิงก็สามารถพึ่งพาผู้หญิงด้วยกันได้ ถึงสรีระจะอ่อนแอกว่า แต่ความอดทนและความใส่ใจในรายละเอียด และความเป็นคนที่มี 1 สมอง 2 มือเหมือนๆ กับคนอื่นก็สามารถสร้างทุกอย่างให้ออกมาดีได้ไม่แพ้ใคร
#4 อิทธิพลของสื่อบันเทิง
ถึงแม้จะไม่ใช่เหตุผลหลักของกระแส ญ-ญ ที่มากขึ้น แต่ก็พอจะเป็นจุดประกายเล็กๆ ที่พอกระตุ้นให้สังคมตื่นตัวขึ้นมาบ้าง
จากแต่ก่อน ... คู่ ญ-ญ ที่คบกันแบบลับๆเนื่องจากยังไม่มีสื่อมาซัพพอร์ทหรือมาอธิบายแทนพวกเธอ เดี๋ยวนี้ก็พอจะมีความกล้ามากขึ้นที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ เพราะเห็นใครเขาก็เป็นกัน และซีรีย์ก็สะท้อนเรื่องจริงซะด้วย !
จากแต่ก่อน ... บางคนที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่พอได้ซีมซับซีรีย์ที่สามารถอธิบายทุกอย่างในสังคมได้ ก็พอจะมีความกระจ่างในตัวเองได้บ้าง
จากแต่ก่อน ... บางคนรับไม่ได้ถ้าตัวเองจะชอบเพศเดียวกัน หรือมีคนใกล้ตัวชอบเพศเดียวกันพอได้ฟังได้ดูซีรีย์ ได้เห็นหลายคนที่กล้าจะเปิดตัว ก็เริ่มเข้าใจตัวเองและ/หรือ คนอื่นมากขึ้น ลดความรู้สึกรังเกียจน้อยลง
และถึงแม้ว่าจะมีบ้างบางคนที่จิ้นคนนั้นคู่กับคนนี้ จิ้นตัวเองไปคู่กับคนอื่น เพียงเพราะเลียนแบบสื่อ ก็นับว่าเป็นประกายเล็กๆ ที่ดีในสังคมเช่นกัน เพราะอย่างน้อยเขาก็พอจะเข้าใจบ้างว่าความรักมันเป็นเรื่องที่กว้างใหญ่เกินกว่าจะจำกัดแค่หญิงชายเท่านั้น
#5 คนปัจจุบันโฟกัสที่ความรักเป็นความรู้สึก ' ใช่ ' มากกว่ามองแค่เพศ
ญ รัก ญ ( รวมถึง ช รัก ช ) บางส่วนยอมรับว่าตอนนี้ชอบเพศเดียวกัน แต่ไม่ได้ระบุว่าตัวเองเป็นเลสเบี้ยน, ไบเซ็กชวล, ทอม, ดี้ หรืออะไรก็ตามที่เป็นคำนิยามว่า' นี่คือคนรักเพศเดียวกัน 'เพราะเมื่อก่อนก็เคยชอบผู้ชาย และอนาคตก็ไม่แน่อาจจะไปชอบเพศอื่นก็ได้ พวกเธอมองว่าความรักเป็นเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ ( แต่ไม่ใช่มั่วซั่วจะเอาคนไหนก็ได้ ) คลิกกับใครก็คบกันคนนั้น หลักการมันแค่นี้เอง
#6 โอกาสแห่งสิทธิเสรีภาพที่ขยายกว้างกว่าเดิม
ไม่เพียงแต่การแต่งงานของเพศเดียวกันที่สังคมเปิดกว้างมากขึ้น วิวัฒนาการทางการแพทย์ยังก้าวไกลขนาดที่ว่าให้คู่รักสามารถมีลูกด้วยกันได้ หลายประเทศเริ่มคุ้มครองสิทธิทางกฎหมายให้ทัดเทียมกับคู่ชายหญิงอีกด้วย !
( สิทธิทางกฎหมายสำคัญมาก เพราะมันจะเป็นตัวชี้วัดว่าหากได้อยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน นามสกุลเดียวกัน คู่สมรสจะสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ร่วมกันได้ มีสิทธิเซ็นยินยอมให้คู่ของตัวเองได้รับการผ่าตัดรักษาพยาบาล ทรัพย์สินที่ร่วมกันสร้างจะไม่สูญเปล่าในบั้นปลายชีวิต )
ส่วนเหตุผลคลาสสิคอื่นๆ ที่บางคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง เช่น เคยมีแฟนผู้ชายแล้วรู้สึกเข็ดกับอดีต, เป็นโรคกลัวไอ้นั่นของผู้ชาย, ชอบเรื่องอย่างว่าแบบ ญ-ญ มากกว่า นั่นเป็นเหตุผลที่ตลกสิ้นดี เชยมากๆ และถึงแม้จะมีก็ดูเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะความรักเป็นเรื่องของหัวใจล้วนๆ ถึงเวลาที่เราจะรักใคร เราก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้หรอก จริงมั้ย? ( เราคงไม่รักใครเพียงเพราะเอาอดีตมาตัดสิน หรือมองไปถึงเรื่องบนเตียงหรอกเนาะ มันแปลกๆ )
หวังว่าสาวๆ หลายคนพอจะเข้าใจความรักแบบ ญ-ญ กันได้บ้างนะคะ โลกเปลี่ยนไปแล้ว เราต้องมีทัศนคติที่กว้างไกลกันบ้างเนอะ ... เป็นกำลังใจให้กับทุกความรัก ทุกคู่ ทุกเพศค่ะ อย่างรังเกียจกันเลย เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน รักกันไว้ดีกว่า :D