SistaCafe!
ห่างหายการรีวิวไปนานมากเกือบครึ่งปี เพราะเราหนีไปสู้รบตบมือกับสิวมาT^Tคือหลังจากหน้าใสรอยแดง รอยดำจากสิวเดิมจางหายได้สักพัก งานก็เข้าเราอีกรอบเพราะความเครียดจากงานและพักผ่อนน้อย คราวนี้บุกมาแบบจัดเต็มทั้งสิวผดตรงหน้าผาก สิวอักเสบและสิวอุดตันตรงข้างแก้ม แล้วก็ดูจะไม่ยอมจากไปง่ายๆ ซะด้วย...ฮือออ
ซึ่งเนื่องจากสาเหตุของการเกิดสิวของเราครั้งนี้มันมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เราเลยอยากใช้วิธีรักษาสิวทั้งหลายแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่อยากใช้ยาแรงๆ หรือพวกสารเคมีมารักษา ก็เลยสนใจมาส์กสิวที่เป็นแบบโคลนพอกหน้า เห็นจากบล็อกเกอร์ต่างๆ ที่มารีวิวว่า ช่วยลดสิว ลดความมันบนใบหน้า ช่วยให้สิวยุบไว ไม่ว่าจะสิวผด สิวอักเสบหรือสิวอุดตัน มาส์กสิวแบบโคลนนั้นเอาอยู่ แถมยังช่วยกระชับรูขุมขนและทำให้หน้าใส รอยสิวจางได้อีก ...โอ้โห อ่านแล้วเราก็มือลั่น รีบไปหาซื้อมาใช้อย่างด่วนๆ
แล้วนี่ก็คือโฉมหน้ามาส์กสิวตัวดัง ที่คนรีวิวกันในเน็ตเยอะมากกกก
ซึ่งเราก็ทยอยซื้อมาลองครั้งละตัว สองตัว คือเห็นใครรีวิวตัวไหนว่าดี เราก็ไปสอยตามเค้ามาลองไปซะหมด 555 เพราะด้วยราคามันไม่ได้แพงมากด้วยไง คิดแค่ว่าถ้าแพ้หรือใช้ไม่ดีก็เอามาพอกคอ พอกแขน พอกขาก็ได้ ซึ่งทั้ง
5 มาส์กสิว
ที่เราเอามารีวิวนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อด้อย และเราจะขอรีวิวแบบจัดเต็ม (ตามสไตล์) โดยแบ่งเป็นหัวข้อดังนี้
- แพ็กเกจ
- เนื้อสัมผัส
- เนื้อมาส์กหลังผ่านไป 10 นาที
- ล้างออกยาก/ง่าย
- ความรู้สึกหลังใช้
- สรุป&ให้คะแนน
เอาล่ะ! ว่าแล้วเราก็ไปดูรีวิวแบบเจาะลึกถึงใจว่ามาส์กสิวตัวไหนที่เด็ดโดนใจเรากันเล้ยยยย...
1.
BK Mask Tea Tree Oil
ตัวนี้เป็นมาส์กสิวตัวดังที่คนเป็นสิว หน้ามัน หน้าพังต้องรู้จักแน่นอน เพราะเค้าดังมากๆ รีวิวแน่นจริงจนเราต้องไปสอยมาลอง ซื้อหาง่าย ราคากลางๆ ไม่ถูกไม่แพง เค้าเคลมว่าช่วยรักษาสิวอักเสบ ลดรอยสิว สิวแห้งไว หน้ากระจ่างใส ลดหน้ามัน กระชับรูขุมขน มีส่วนผสมของ
สารสกัดจากเห็ดยุโรปตะวันออก และสารสกัดจากต้นวิลโลขาว สารสกัดจากใบทีทรีและสารสกัดจากใบบัวบก- แพ็กเกจ:เป็นหลอดพลาสติกขนาดพอเหมาะพอดีมือ ฝาแบบฟลิบ ปิดเปิดง่าย ใช้งานสะดวกดี
- เนื้อสัมผัสและกลิ่น
:
เป็นเนื้อโคลนครีมสีเขียว
เนื้อเนียนลื่นไม่หยาบ เกลี่ยง่ายพอใช้ อาจมีหนึบๆ บ้างแต่โดยรวมโอเคนะ ทาแล้วรู้สึกเย็นผิว กลิ่น Tea Tree ชัดมาก
- เนื้อมาส์กหลังผ่านไป 10 นาที :จัดว่าเป็นมาส์กสิวที่แห้งเร็วมากนะ ทิ้งไว้ไม่นานก็เริ่มแห้งแล้ว พอครบ 10 นาทีก็จะแห้งเกือบหมด จะเห็นลายผิวเป็นริ้วๆ ชัดมาก ข้างหลอดบอกให้พอกไว้ 20 นาที ส่วนตัวเราใช้พอก 15 นาทีก็ล้างออกแล้วเพราะมันแห้งร่วงกราวๆ 555 คือถ้าใครผิวแห้งนี่ควรต้องระวังเลยนะ ทิ้งค้างไว้นานเกินมีสิทธิหน้าเหี่ยวได้
- ล้างออกยาก/ง่าย :เราใช้วิธีจับเวลาด้วยนาฬิกาสำหรับทำขนม ใช้เวลาล้างออกพร้อมนวดวนเบาๆ ประมาณ 18 วินาที ถือว่าล้างออกง่ายอยู่นะ
- ความรู้สึกหลังใช้ :ใช้แล้วรู้สึกหน้าสะอาดดี เราชอบกลิ่น Tea Tree ด้วยมั้งเลยรู้สึกว่าสดชื่นแบบสะอาดๆ แต่แอบเซ็งตรงพอแห้งแล้วหน้าจะตึงมากกกก แถมยังร่วงเลอะเทอะด้วย ไม่กล้าพอกเกิน 15 นาทีเลยสำหรับเรานะ เพราะกลัวหน้าเหี่ยว 55
- สรุป&ให้คะแนน :ตัวนี้เป็นมาส์กสิวตัวแรกเลยที่ซื้อมาใช้ เราว่ามันช่วยเรื่องสิวอักเสบได้ดีระดับนึง คือพอเริ่มแดงๆ แต้มไว้ก่อนนอนเช้ามาคือ เจ็บน้อยลง สิวผดช่วยได้ดีนะสิวยุบไว ส่วนสิวอุดตันไม่เห็นผลใดๆ นางยังคงฝังตัวอยู่ที่เดิม ที่ไม่ค่อยโอเคคือพอใช้ไปซักพักรู้สึกว่าหน้าแห้งเกิน มันช่วยลดหน้ามันได้จริงแต่ถ้าแห้งเกินไปกลัวหน้าเหี่ยว อ้อ เรื่องความใสไม่เห็นถึงความแต่งต่างนะ แต่รอยแดง รอยดำจากสิวจางลงนิดนึงไม่มากคะแนน 3.5/5
2. Mint Julep Masque
จัดเป็นมาส์กสิวในตำนาน คือน่าจะเป็นมาส์กสิวตัวแรกที่ออกมาในตลาดเลยก็ได้นะ เราเคยใช้สมัยเรียนจบใหม่ๆ (ซึ่งนานมากแล้ว55) ตอนเป็นหลอดสีเขียวมิ้นท์เรียบๆ แบบดั้งเดิม มาเดี๋ยวนี้เค้า New Look เปลี่ยนแพคเกจจ้า..สวยงามตามท้องเรื่อง อ้อตัวนี้นำเข้าจากอเมริกานะ เค้าเคลมว่าเป็นมาส์กโคลนที่ช่วยเรื่องสิวผด สิวอุดตัน กระชับรูขุมขนและลดความมันบนใบหน้า ส่วนผสมหลักๆ ก็มีซิงค์ มีสารสกัดจากมิ้นต์ สารสกัดจากเลมอน แล้วก็มีพาราเบนด้วย
- แพ็กเกจ :เป็นหลอดพลาสติกขนาดกำลังดี แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมยังเป็นฝาแบบหมุนเหมือนเดิม คือมันก็ใช้งานลำบากอยู่นะ เวลาบีบใช้แล้วต้องมาคอยหมุนปิด
- เนื้อสัมผัสและกลิ่น :เนื้อมาส์กสิวเป็นโคลนสีเขียวเนื้อค่อนข้างหนัก ต้องออกแรงบีบนิดนึง แอบเกลี่ยยากนิดนึงเพราะเนื้อมันจะหนึบกว่าตัว BK เนื้อมาส์กนุ่มแต่ไม่เนียนเท่าไหร่ ส่วนกลิ่นก็มิ้นต์แบบสุดๆ ตามสไตล์มาส์กมิ้นต์ คือบางทีก็นึกว่าเอายาสีฟันมาพอกหน้าอ่ะ กลิ่นมิ้นต์มันแรงมากจริงๆ
- เนื้อมาส์กหลังผ่านไป 10 นาที :แห้งไวไม่แพ้ตัวมาส์กสิวของ BK เลยจ้า ข้างหลอดบอกให้พอกไว้ 5-10 นาที ควรปฏิบัติตามเป๊ะๆ นะคะ ไม่งั้นจะแห้งตึงร่วงกราวและผิวแห้งได้ จากรูปจะเห็นรอยผิวเป็นริ้วสวยงามเชียว55
- ล้างออกยาก/ง่าย :
จับเวลาล้างออกด้วยการนวดวนเบาๆ ได้ 25 วินาที แอบล้างยากนิดนึงนะ เนื้อครีมของมาส์กสิว Julep ค่อนข้างติดผิวแน่น
- ความรู้สึกหลังใช้ :
เอาจริงๆ เราใช้แล้วแสบตา คือพอกแล้วผิวมันเย็นมากก เพราะมีส่วนผสมของมิ้นต์เยอะ จนแอบกลัวว่าจะแสบผิวมั้ย แต่คือผิวหน้ารับได้แต่พอพอกทิ้งไว้ซักพักแสบตา เราพอกได้ไม่ถึง 10นาทีก็รีบล้างออก แต่ล้างออกแล้วรู้สึกผิวใสขึ้นนะ สดชื่น เหมือนรูขุมขนกระชับขึ้นเลยจากความเย็นของมิ้นต์
- สรุป&ให้คะแนน :
ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมาะกับพอกทั้งหน้าสำหรับเรานะ คนอื่นอาจใช้ดีก็ได้ เราเลยเอามาแต้มแค่บริเวณที่เป็นสิว ซึ่งมันดีต่อสิวผดมากนะ น่าจะเพราะความเย็นระดับภูเขาน้ำแข็งสิวผดเลยยุบไว แต่สิวอักเสบ กับสิวอุดตันไม่ได้ช่วยอะไร ลดความมันบนหน้าได้แบบดีเยี่ยม รอยแดงรอยดำจางสิวไม่เห็นผล
คะแนน : 3/5
3. L'Oreal Pure Clay Mask Anti-pores
มาส์กสิวตัวนี้เพิ่งออกมาได้ไม่นานแต่มาแรงมากกกก ด้วยความสตรองของแบรนด์ L'Oreal Paris ใครบ้างจะไม่อยากลอง จริงๆ เค้ามีหลายสูตรเลยนะแต่เราเลือกลองสูตรนี้เพราะเค้าเคลมว่าเป็นมาส์กสิวที่ผสานคุณค่าโมรอคคาน ลาวา เคลย์ โคลนจากประเทศโมรอกโก ช่วยขจัดสิวเสี้ยนซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหนึ่งของการอุดตันรูขุมขนและความมันส่วนเกินบนใบหน้า อุดมด้วยสารสกัดจากโรสแมรี่ ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก เลยคิดไปเองว่าน่าจะช่วยเรื่องสิวอุดตันได้ดีแน่ๆ
- แพ็กเกจ :เป็นกระปุกแก้วสวยหรูดูดี แต่หนักมาก ฝาด้านนอกพอใช้ไปนานๆ เป็นรอยคราบน้ำและสีลอก เปิดมามีฝาพลาสติกปิดอีกชั้นแต่เราว่าควรแถมช้อนตักนะ ราคาก็ถือว่าสูงพอตัวแต่ให้เอามือมาคอยจ้วงมาส์กนอกจากใช้ลำบากแล้วยังกลัวจะทำให้เสียง่ายด้วย
- เนื้อสัมผัสและกลิ่น :เนื้อมาส์กเป็นโคลนสีเขียวเทาๆ ค่อนข้างหนืด เนื้อนุ่มแต่มีสครับเล็กๆ ผสมอยู่ไม่ได้เนียนแบบยี่ห้ออื่น เกลี่ยยากพอตัวเลยนะ กลิ่นน้ำหอมแรงมาก น่าจะมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่แน่ๆ คือพอกไว้จนแห้ง ล้างออกกลิ่นยังติดผิวอยู่เลย ใครแพ้แอลกอฮอล์หรือผิวบอบบางต้องระวังนิดนึง
- เนื้อมาส์กหลังผ่านไป 10 นาที :เนื้อมาส์กแห้งเร็วแต่มันแห้งแบบผู้ดีอ่ะ คือค่อยๆ แห้งแบบหน้าไม่แห้งตึงเกินไป แล้วที่เซอร์ไพร้ซ์คือไม่ร่วงกราวเลอะเทอะ ติดผิวดีมากนะ แล้วเนื้อมาส์กตอนแห้งไม่ขึ้นลายเป็นริ้วๆ ด้วย ถือว่าโอเคเลย
- ล้างออกยาก/ง่าย :ใช้เวลาล้างออกพร้อมนวดวนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที ล้างออกยากนะ จริงๆ เค้าบอกให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่น แต่ในชีวิตจริงคงไม่มีใครสะดวกที่จะใช้น้ำอุ่นล้างหน้าทุกครั้ง ตรงนี้เราต้องใช้โฟมล้างตามเพราะมันเหมือนจะยังติดผิวอยู่ ^^"
- ความรู้สึกหลังใช้ :
ใช้แล้วรู้สึกผิวใสขึ้นนะ เย็นสบายผิวแบบกำลังดี เฟรชๆ เลยแต่ติดตรงกลิ่นน้ำหอมที่แรงมากและติดผิว ขนาดล้างออกแล้วก็ยังคงอยู่ มันเลยไม่รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติเท่าไหร่ ฟินแบบไม่สุดอ่ะ
- สรุป&ให้คะแนน :
เป็นมาส์กที่เหมาะกับการพอกทั่วหน้านะ คือใช้แล้วผิวดูใสขึ้น สบายผิว รู้สึกรูขุมขนสะอาดจริงตามที่เค้าเคลม เหมือนสิวอุดตันจะลดลงด้วย แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องสิวผดและสิวอักเสบเลย กระชับรูขุมขนยังไม่เห็นผลชัดเจนนะ รอยแดงรอยดำจากสิวจางลงนิดนึง ตัวนี้ช่วงมีสิวอักเสบเราจะไม่ใช้นะเพราะมันล้างออกยาก กลัวจะไปรบกวนสิวที่อักเสบให้ยิ่งระคายเคือง ส่วนมากไว้ใช้เวลาวันที่อยากสปาหน้าแบบสบายๆ มากกว่า ขอหักคะแนนตรงล้างออกยากและกลิ่นน้ำหอมที่แรงเกินไป
คะแนน 3/5
4. Innisfree Super volcanic pore clay mask
เป็นมาส์กสิวจากเกาหลีที่โด่งดังมาก เห็นสาวเกาหลีหน้าเนียนใสไม่มสิวอักเสบ สิวผด สิวอุดตันกันเลย เราก็คันอยากซื้อมาลองทันที เค้าเคลมว่าเป็นมาส์กสิวที่ช่วยกระชับรูขุมขนจากโคลนภูเขาไฟที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะเชจู 2 ครั้งและเกิดการแข็งตัวของลาวา จึงดูดซับความมันได้ดีเยี่ยม ช่วยลดหน้ามันได้ดีมาก แถมยังมีแคปซูลโคลนภูเขาไฟที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เรียบเนียนด้วยสารประกอบ AHA อีกด้วยเป็นกระปุกพลาสติกเนื้อหนาไม่ไก่กาสีน้ำตาลขนาดเหมาะมือ ด้านในมีฝาพลาสติกใสปิดอีกชั้น แพคเกจดูน่ารักสไตล์เกาหลีแต่ไม่ดีตรงต้องใช้มือจ้วงควัก มันเลอะเทอะและไม่ถูกสุขลักษณะเท่าไหร่ ใช้งานไม่สะดวกเท่าที่ควร-เนื้อสัมผัสและกลิ่น :เป็นเนื้อโคลนครีมสีเทานุ่มเนียน เกลี่ยง่าย แต่แอบมีเหมือนเม็ดสครับเล็กๆ แทรกอยู่ซึ่งน่าจะเป็นแคปซูลโคลนภูเขาไฟ กลิ่นไม่หอมเลย มันเหมือนเคมีๆ บอกไม่ถูก ไม่ค่อยปลื้มแต่ยังดีที่กลิ่นไม่แรงมาก
- เนื้อมาส์กหลังผ่านไป 10 นาที :มาส์กแห้งแบบยังคงความชุ่มชื้น คือมันแห้งนะจับไปไม่ติดมือเลย แต่ไม่แตกระแหงไม่ตึงหน้ามาก และไม่ร่วงกราวเป็นผงเลอะเทอะ ดีงามมากกก
- ล้างออกยาก/ง่าย :ใช้เวลาล้างออกพร้อมนวดวนเบาๆ ประมาณ 35 วินาที ล้างออกยากมาก หนึบติดผิวสุดๆ เราต้องนวดวนๆๆ นานเลยแต่เม็ดสครับก็ช่วยขัดผิวเพลินๆ ดีนะ
- ความรู้สึกหลังใช้ :ใช้เสร็จหน้าสดชื่นมาก หน้าใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกว่าช่วยเรื่องกระชับรูขุมขนได้จริง หน้านุ่มชุ่มชื้นไม่แห้งตึงเหมือนมาส์กสิวตัวอื่นๆ
- สรุป&ให้คะแนน :เป็นมาส์กตัวโปรดที่เราชอบมากอยู่พักใหญ่ เพราะใช้แล้วช่วยเรื่องลดสิวอุดตัน สิวเสี้ยนได้ดีเลยทีเดียว ส่วนสิวผดก็ดีขึ้นบ้างแต่ไม่มีผลต่อสิวอักเสบแถมพอใช้บ่อยๆ ติดๆ กันเหมือนทำให้สิวอักเสบเห่อขึ้นด้วย อาจเพรามีสครับและล้างออกต้องนวดๆ เลยทำให้ระคายเคือง แ่ต่ปัญหาคือพอใช้บ่อยๆ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หน้าเราแห้งมากแบบลอกเป็นขุย เลยหยุดแล้วนานๆ มาส์กทีแทน หักคะแนนตรงแพคเกจใช้ไม่สะดวกและกลิ่นละกัน
คะแนน 4/5
5. Lavita Acne Clear Mask
มาถึงมาส์กสิวตัวสุดท้าย เป็นยี่ห้อของคนไทยที่มีรีวิวในเน็ตเยอะพอสมควร แต่ที่เราตัดสินใจซื้อเพราะรุ่นน้องคนนึงซึ่งสิวบุกเพราะเคยใช้ครีมสเตียรอยด์ นางใช้ตัวนี้แล้วหน้าดีขึ้น เลยคิดว่าถ้าสาหัสขนาดนั้นดีขึ้นได้ สิวเครียด นอนน้อยแบบเราก็ต้องเอาอยู่สิ! ตัวนี้เค้าเคลมเลยว่าเป็นมาส์กสิวสูตรเข้มข้น ส่วนผสมเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 9 ชนิด ซึ่งตัวเด็ดคือ สารสกัดจากเซนเทลล่า (ใบบัวบก) เข้มข้น ช่วยลดสิวอักเสบ สิวอุดตันและสิวผด กระชับรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้าและช่วยให้ผิวกระจ่างใส
- แพ็กเกจ :เป็นหลอดพลาสติกขนาดพอเหมาะมือพกพาสะดวก ฝาแบบฟลิบ เปิดปิดใช้งานง่าย
- เนื้อสัมผัสและกลิ่น :เนื้อมาส์กสิวตัวนี้เป็นครีมสีเขียวอ่อนเนื้อนุ่มเนียนมาก เกลี่ยง่ายมากๆๆ เหมือนทาครีมบำรุงผิวเลย เนียนลื่นสุดๆ กลิ่นดีกว่าที่คิดนะ ตอนแรกบอกมีใบบัวบกนี่กะว่าเหม็นเขียวแน่ๆ แต่ผิดคาดหอมอ่อนๆ แนวครีมสปาสมุนไพรอันนี้ดี
- เนื้อมาส์กหลังผ่านไป 10 นาที :เนื้อมาส์กพอแห้งแล้วคล้ายกับตัว Innisfree นะ คือไม่แห้งตึงมาก ไม่ร่วงกราวเลอะเทอะ รู้สึกถึงความชุ่มชื้นเย็นสบายผิว จัดว่าเริ่ด
- ล้างออกยาก/ง่าย :ใช้เวลาล้างออกพร้อมนวดวนเบาๆ ประมาณ 15 วินาที ถือว่าล้างออกง่ายมาก
- ความรู้สึกหลังใช้ :รู้สึกว่าผิวสะอาดแบบสุขภาพดี ด้วยกลิ่นแบบธรรมชาติอ่อนๆ ด้วยมั้งเลยรู้สึกว่าผิวมันผ่อนคลาย ทั้งๆ ที่ตัวนี้มาส์กแล้วไม่ได้เย็นมากมายเหมือนมาส์กสิวตัวอื่นนะ แต่มันให้ความรู้สึกสบายผิวมากกว่า ชอบตรงผิวไม่แห้งตึง เหมือนผิวดูฟูๆ รูขุมขนกระชับแต่เรื่องหน้าใสยังไม่เห็นผลนะ
- สรุป&ให้คะแนน:ตอนนี้จัดเป็นมาส์กสิลูกรักที่เราใช้สลับกับตัว Innisfree เพราะตัวนี้ใช้ได้ตลอดแทบทุกวัน ผิวไม่แห้งเลย พอกทิ้งไว้ 20นาทีผิวนุ่มชุ่มชื้นแต่งหน้าติดดีกว่าเดิมด้วย และที่สำคัญช่วยเรื่องสิวอุดตันและสิวผดได้ดีมาก สิวอุดตันลดลงมาก ที่มีเดิมก็แห้งกดออกง่าย สิวผดยุบหายไปเลย ส่วนสิวอักเสบเราใช้แต้มก่อนนอนข้ามคืนก็เจ็บแดงน้อยลงนะแต่นานมากกว่าจะยุบหาย ไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ เรื่องหน้าใสเหมือนช่วยได้นิดหน่อยแต่รอยแดง รอยดำจากสิวจางลงชัดเจนนะ โดยรวมถือว่าเป็นมาส์กสิวที่ดีมากตัวหนึ่งเลย แต่หักคะแนนตรงหาซื้อยากต้องสั่งออนไลน์และปริมาณที่น้อยกว่ายี่ห้ออื่น ใช้แป๊บเดียวหมดละ
คะแนน 4/5
เปรียบเทียบเนื้อมาส์กสิวตัวดังทั้ง 5 ยี่ห้อหลักจากพอกทิ้งไว้นาน 10 นาที
BK MaskและMint Julep
จะแห้งไวพอๆ กัน และรัดผิวให้แห้งตึงมากจนเห็นเส้นริ้วผิวชัดเจน พอกแล้วขยับหน้าทีร่วงกราวๆ ค่อนข้างเลอะเทอะ ส่วนการล้างออกตัวBK Maskใช้เวลา 18 วินาที ถือว่าล้างออกได้ง่ายนะตัวมาส์กไม่ค่อยติดผิว ส่วนMint Julepใช้เวลา 25 วินาทีซึ่งจะล้างออกได้ยากกว่านิดนึงเพราะติดหนึบกับผิวมากกว่ามาส์กสิวของBK Mask
จากภาพจะเห็นว่า หลังพอกมาส์กสิวทั้ง 5 ตัวทิ้งไว้นาน 10 นาที แล้วจึงไปล้างออก
L'Oreal Anti-Pore
ตัวนี้ค่อยๆ แห้งไม่รัดผิวจนเป็นริ้ว ไม่ร่วงกราวแต่ล้างออกยากใช้เวลา 30 วินาที เพราะเนื้อมาส์กติดหนึบแน่น(มิน่าตอนแห้งไม่ร่วงเลย) ควรใช้ำน้ำอุ่นล้างจะง่ายขึ้น
Innisfree Super VolcanoและLavita Acne Mask
สองตัวนี้คล้ายกันตรงพอกทิ้งไว้ไม่แห้งตึงรัดผิวเลย สบายหน้าไม่ร่วงเลอะเทอะ แต่ต่างกันตรงที่มาส์กสิวInnisfreeล้างออกยากมากๆ 35 วินาทีติดหนึบกับผิวมากต้องนวดวนๆ ถึงจะออก แต่ตัวมาส์กสิวLavitaล้างออกง่ายเว่อร์ 15 วินาที! แค่ผ่านน้ำก็เริ่มหลุดแล้วแทบไม่ต้องนวดวนเลยก็เกลี้ยงสะอาดแล้ว
จัดตารางสรุปมาให้เพื่อที่จะได้อ่านกันง่ายขึ้นค่ะ :)
รีวิวจบครบทั้ง5 มาส์กสิวตัวดังกันแล้วนะคะ ทั้งนี้ขอบอกก่อนว่าเป็นรีวิวจากการใช้งานของเราเองซึ่งมีสภาพผิวผสมและมีปัญหาสิวจากความเครียดและนอนดึกนะคะ ซึ่งผลการใช้งานของแต่ละคนก็อาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิวและความชอบนะคะ ^^
ก็หวังว่าเพื่อนๆ ที่มีปัญหาสิวต่างๆ ทั้งสิวอักเสบ สิวผด สิวอุดตัน หรือกำลังมองหามาส์กสิวที่ช่วยในเรื่องลดหน้ามัน กระชับรูขุมขน ก็จะได้อีกหนึ่งข้อมูลจากรีวิวของเราไปช่วยในการตัดสินใจในการเลือกซื้อมาส์กสิวนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบค่า See You!
