สวัสดีค่ะก่อนอื่นต้องขอเล่าที่มาที่ไป ในการรีวิวครั้งนี้ก่อนนะค่ะ พอดีเอฟได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ลาว ด้วยความบังเอิญเอฟก็ไปเจอสบู่ยี่ห้อหนึ่งที่มีตัวหนังสือเขียนเป็นภาษาไทย ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นสินค้าที่มาจากไทยแน่เลย แต่สินค้าแบรนด์นี้เอฟเองยอมรับเลยว่าก็ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ตอนที่เดินผ่านหน้าร้านนี้ไปมาหลายรอบ ในใจก็คิดว่าจะซื้อดีไหมหรือจะแค่ลองถามแม่ค้าดูก่อนดี ว่าสบู่ยี่ห้อนี้รับมาจากไหนใช่ที่ไทยรึป่าว เผื่อจะได้สอยเอาไปอวดเพื่อนๆ ที่ไทย

แล้วก็มีเสียงแว้ว ๆ มาว่า

แม่ค้า: สบายดี สนใจสินค้าตัวไหนถามได้โดย

- ส่วนตัวเรา ก็ยังงงกับคำว่า ' โดย ' อะไร ( โดยแปลว่าค่ะหรือครับ )เอฟ: สบู่แบรนด์นี้นำเข้ามาจากไทยใช่ไหมคะ

แม่ค้า: โดย สบู่หอยหากนี้ กำลังดัง แล้วกะขายดี ในหมู่สาวๆ วัยรุ่นที่ลาว เอาเข้ามาขายได้บ่ถึงเดือน แต่เป็นกระแสแฮงมากโดย

เอฟ: ราคาก้อนละเท่าไรค่ะ

แม่ค้า: 30,000 กีบ

- ( เราเลยหยิบโทรศัพท์มาคำนวณดู ราคาอยู่ประมาณ 130 บาท ในใจเรายังคิดอยู่ว่า โอ้ยตั้ง 130 บาท คนลาวกล้าซื้อได้ไง แต่เมื่อเทียบกับราคากับข้าวที่ขายในลาว ราคาก็ไม่ต่างกันมาก 5555 ) เราเลยลองต่อราคาดู

เอฟ: ลดราคาได้ไหมคะ อยากซื้อไปลองใช้ค่ะ

แม่ค้า: บ่ได้แล้วกำไรน้อยโดย แล้วก็ยิ้มหวานๆ ให้เรา

เอฟ: ด้วยความอยากรู้อยากลองของเราเลยจัดมาซะ 1 ก้อน

เมื่อกลับมาไทยเอฟก็ไม่รอช้าที่จะมารีวิวทดลองสบู่แบรนด์นี้ว่าแตกต่างจากแบรนด์ไทยทั่วไปอย่างไรทำไมถึงสามารถนำไปขายในตลาดลาวได้ ทั้งที่เราก็ไม่เคยได้ยินชื่อแบรนด์นี้มาก่อน แถมดังในลาวด้วย เดี๋ยวเอฟจะเอาสบู่ 4 แบรนด์ดังที่ไทยมาลองเปรียบเทียบกันดู ซึ่งคิดว่าเราคนไทยเกือบทุกคนรู้จักแน่นอน อิงอร & เบนเนท & โพรเทค & โอโม่ไวท์พลัส และ สบู่แอริน่า ( ในลาว ) ที่คิดว่าน้อยคนจะรู้จัก โดยการรีวิวจะประกอบไปด้วย

รีวิวสบู่ 5 แบรนด์ในไทย

รูปภาพ:รูปภาพ:

1. ราคา

2. ขนาด

3. แพ็คเกจการบรรจุภัณฑ์

4. ความถนัดในการจับ

5.กลิ่น

6. ฟองแฟ้บ

7. ฟองครีม

8. การทำความสะอาด ( เอฟจะใช้ดินสอเขียนคิ้วในการทดลอง เพื่อดูการชะล้างสิ่งสกปรก )

9.ความกระจ่างใส

10.ความชุ่มชื้นของผิวหลังใช้

11.การระคายเคืองผิวหลังใช้

ข้อมูลต่อไปนี้ที่กล่าวเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ^^

เริ่มต้นกันที่

1. สบู่อิงอร น้ำนมข้าว ราคา 3x บาท 130 กรัม


รูปภาพ:

แพ็คเกจแบบประหยัด ไม่เน้นการบรรจุภัณฑ์ แต่เน้นปริมาณและความคุ้มค่า ถือว่าให้คุ้มเลยทีเดียว เรื่องราคาให้ไปเลย 5 คะแนนเต็ม แต่แพ็คเกจให้อยู่ที่ 1 คะแนนค่ะ แต่ก็ยังมีการสลักชื่อแบรนด์บนตัวสบู่เลยให้เพิ่มอีก 1 คะแนนเป็น 2 คะแนนค่ะ ความถนัดในการจับ สบู่มีลักษณะกลมมน จับถนัดมือมาก ให้ไปเลย 5 คะแนนเต็มค่ะ



รูปภาพ:

กลิ่นสบู่อิงอร จะมีกลิ่นหอมน้ำนมข้าวแบบอ่อนๆ ไม่ฉุนมาก ให้ที่ 3 คะแนน

การให้ฟองแฟ้บอยู่ในระดับ 2 คะแนน

การให้ฟองครีมให้ที่3 คะแนน อยู่ในระดับกลางๆ เมื่อถูแล้วจะเกิดฟองแบบนุ่มๆ ค่ะ

การชำระล้างสิ่งสกปรกให้ 4 คะแนนค่ะ

ความกระจ่างใสให้ 3 คะแนนค่ะ

ความชุ่มชื้นของผิวให้ 3 คะแนน

การระคายเคืองผิวให้ 4 คะแนน

สรุปผล

ข้อดีคือ

- ราคาประหยัด

- จับกระชับมือ

- ชำระล้างสิ่งสกปรกได้ดี

ข้อด้อยคือ

- แพ็คเกจ

- การให้ฟองแฟ้บน้อย

- หลังใช้สบู่ รู้สึกผิวแห้งๆ ขาดความชุ่มชื้น

2. สบู่เบนเนท เอ็กซ์ตร้า ไวท์ ราคา 5x บาท 130 กรัม


รูปภาพ:

ในเรื่องของ แพ็คเกจสบู่เบนเนท ถือว่าลงทุนเลยที่เดียว กล่องหนาแถมเคลือบสีเงินค่ะ ซองพลาสติกด้านในเป็นสีใสและมีสกรีนชื่อแบรนด์ที่ซองด้วย แต่ตัวสบู่ไม่มีการสลักชื่อแบรนด์ ถือว่าสบู่ที่พี่บุ๋มเป็นพรีเซ็นเตอร์ เขากล้าลงทุนจริงๆ ทั้งที่ส่วนตัวคิดว่า กล่องสบู่ไม่ได้ใช้ประโยนช์อะไร แต่ก็อย่างว่าละค่ะ การที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ขายดี แพ็คเกจต้องดูสวยงามไว้ก่อน ในเรื่องของแพ็คเกจให้สบู่พี่ปุ๋มไปเลย 4 คะแนนค่ะ

ส่วนในเรื่อง ความถนัดในการจับ สบู่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆ จับไม่ค่อยถนัดมือ ให้ที่ 3 คะแนน ( เพราะส่วนตัวชอบสบู่แบบกลมมากกว่าจับแล้วไม่ค่อยหลุดมือค่ะ )

รูปภาพ:

มาต่อกันที่เรื่องของกลิ่นบ้างค่ะ

กลิ่นสบู่เบนเนทให้กลิ่นหอมสมุนไพรมาก คล้ายๆ กลิ่นโสม แค่แกะซองพลาสติกออกมายังหอมเลย ให้ไปเลย 5 คะแนนเต็มค่ะ

การให้ฟองแฟ้บเอาไปเลย 5 คะแนนค่ะ อยู่ในระดับที่ดีมาก ถูแรงๆเกิดเป็นฟอง bubble ด้วยค่ะ

การให้ฟองครีมให้ที่1 คะแนน ฟองมีความละเอียดน้อยไปหน่อย

การชำระล้างสิ่งสกปรกให้3 คะแนนค่ะ เพราะยังเหลือคราบ ดินสอเขียนคิ้วบางส่วน

ความกระจ่างใสให้4 คะแนน หลังถูเสร็จผิวดูกระจ่างใสขึ้น

ความชุ่มชื้นของผิวให้1 คะแนน ผิวขาดความชุ่มชื้น รู้สึกถึงความแห้งของผิว ต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่

การระคายเคืองผิวให้3 คะแนน ถ้าถูแรงเกิน จะมีการอาการแสบนิดๆ หลังใช้เสร็จ

สรุปผล

ข้อดีคือ

- แพ็คเกจ ดูน่าใช้

- ฟองแฟ็บมาก ถูแรงๆ เกิดเป็นฟอง bubble ด้วยค่ะ

- ความกระจ่างใส หลังถูเสร็จผิวดูกระจ่างใสขึ้น

ข้อด้อยคือ

- ผิวขาดความชุ่มชื้น รู้สึกถึงความแห้งของผิวต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่

- การชำระล้างสิ่งสกปรกยังน้อยเพราะยังเหลือคราบดินสอเขียนคิ้วบางส่วน

- สบู่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆ จับไม่ค่อยถนัดมื

3. สบู่โพรเทค มะขาม ขมิ้น ทานาคา ราคา 4x บาท 130 กรัม


รูปภาพ:

มาดูแพ็คเกจกันค่ะ แพ็คเกจเป็นกล่องพลาสติกแบบใส เห็นเนื้อสบู่ด้านในได้ชัดเจนว่าเป็นรูปทรงไหนและสีอะไร คิดว่าเป็นตั้งใจของแบรนด์โพรเทค เพื่อที่จะสื่อให้เห็นภาพลักษณ์ด้านในของสบู่ แต่ก็ทำให้นึกถึงสบู่แบรนด์หนึ่ง ที่ชื่อก๊กเลี้ยง ที่มีลักษณะกล่องที่คล้ายๆ กัน มาต่อกันที่ซองพลาสติกด้านในค่ะ จะเป็นซองสีใสมีสกรีนชื่อแบรนด์ แต่ตัวสบู่ไม่มีการสลักชื่อแบรนด์ไว้ค่ะ  ถือว่าให้คุ้มเลยทีเดียวเช่นกัน แพ็คเก็จให้ที่ 3 คะแนนนะคะ

ส่วนในเรื่อง ความถนัดในการจับ สบู่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆ จับไม่ค่อยถนัดมือ แต่ก็เป็นเหลี่ยมน้อยกว่า สบู่เบนเนท เลยให้ที่ 4 คะแนน



รูปภาพ:

ส่วนกลิ่นยังไม่ทิ้งความเป็น Protex ยังมีกลิ่นเหมือนสบู่ Protex ทั่วไป อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการคงความเป็นเอกลักษณ์ของเขาไว้ ถึงแม้จะไม่สัญลักษณ์บอกที่ตัวก้อนว่าเป็นสบู่ Protex แต่ก็ยังมีกลิ่นติดไว้ ไม่ว่าใครที่ใช้สบู่ก้อนนี้ ก็สามารถรู้ได้เลยว่าเป็น Protex ถือว่าเป็นจุดแข็งของแบรนด์นี้จริงๆ เรื่องกลิ่นหอมให้ไป 3 คะแนน แต่บวกกับความเป็นเอกลักษณ์ให้อีก 1 คะแนน รวมเป็น 1 คะแนน ยอมให้ 4 แต้มเพราะมีความเป็นเอกลักษณ์เรื่องกลิ่นเลยค่ะ

การให้ฟองแฟ้บเอาไปเลย4 คะแนนค่ะ อยู่ในระดับที่ดีมาก

การให้ฟองครีมให้ที่2 คะแนน ฟองมีความละเอียดน้อยไปหน่อย

การชำระล้างสิ่งสกปรกให้5 คะแนนค่ะ บอกเลยว่า เขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ การการชำระล้างสิ่งสกปรกดีเยี่ยม แค่ถูนิดเดียวคราบดินสอเขียนคิ้วออกหมดเลย

ความกระจ่างใสให้3 คะแนน ความกระจางใส อยู่ในระดับปานกลาง มองเห็นได้ไม่ชัดเจน

ความชุ่มชื้นของผิวให้1 คะแนน ผิวขาดความชุ่มชื้น รู้สึกถึงความแห้งของผิว ต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่

การระคายเคืองผิวให้3 แต้ม ถ้าถูแรงเกิน จะมีการอาการแสบนิดๆ หลังใช้เสร็จ

สรุปผล

ข้อดีคือ

- ราคาประหยัด

- ชำระล้างสิ่งสกปรกได้ดีมาก

- ฟองแฟ้บมาก อยู่ในระดับที่ดีมาก

- กลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์

ข้อด้อยคือ

- แพ็คเกจ ใช้พลาสติกเยอะไป เป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมค่ะ

- ผิวขาดความชุ่มชื้น รู้สึกถึงความแห้งของผิว ต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่

- เนื้อฟองสบู่ไม่ค่อยละเอียด

4. สบู่โอโม่ไวท พลัส ราคา 1xx บาท 100 กรัม


รูปภาพ:

แพ็คเกจ กล่องบางกว่าสบู่ของพี่บุ๋ม มีการเล่นสีบนกล่องเป็นสายรุ้ง ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของสบู่แบรนด์โอโม่พลัส ซองด้านในเป็นพลาสติกสีใสมีสกรีนชื่อแบรนด์ด้วย ตัวสบู่มีการสลักชื่อ ถือว่าลงทุนเช่นกัน ลดความหนากระดาษกล่อง แต่มาเพิ่มพิมพ์ชื่อบนสบู่แทน งานนี้ต่างคนต่างงัดไม้เด็ดมาแข่งกัน ขึ้นอยู่กับสาวๆ แล้วล่ะคะว่า จะชอบสไตล์ไหน แม้จะแอบแพง แต่เมื่อเทียบกับสบู่ที่ขายในตลาดออนไลน์ ราคาก็ไม่ต่างกันมากถือว่าถูกกว่าบางแบรนด์

สำหรับแพ็คเก็จเราให้อยู่ที่ 4 คะแนนค่ะ

สบู่มีลักษณะก้อนกลม จับถนัดมือดีให้ไป 5 คะแนนค่ะ

รูปภาพ:

มาต่อกันที่เรื่องของกลิ่นบ้างนะคะ

กลิ่นสบู่โอโม่พลัสมีกลิ่นเป็น ฟรุ๊ตตี้ หอมกลิ่นผลไม้ ความหอมให้ 4 คะแนน

ฟองแฟ้บให้5 แต้ม อยู่ในระดับที่ดีมาก แต่สีของฟองมี สีฟ้า เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวแฟนตาซี แต่สำหรับคนรักสุขภาพก็อาจจะหวั่นๆนิดว่าทำไมมีสี จริงๆแล้วคงเป็นเพราะแบรนด์นี้ต้องการให้ฟองสบู่ออกมาเป็นสีฟ้า อาจเพราะต้องการสื่อถึงความเป็นฟรุ๊ตตี้ ก็คงเหมือนสบู่ชาโคลที่มีฟองเป็นสีดำค่ะ

การให้ฟองครีมให้ที่1 คะแนน มีความละเอียดของฟองน้อย

การชำระล้างสิ่งสกปรกให้4 แต้ม สามารถชำระล้างได้ดี

ความกระจ่างใสให้4 คะแนน หลังถูเสร็จผิวดูกระจ่างใสขึ้น

ความชุ่มชื้นของผิวให้1 คะแนน ผิวขาดความชุ่มชื้น รู้สึกถึงความแห้งของผิว ต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่

การระคายเคืองผิวให้3 คะแนน ถ้าถูแรงเกิน จะมีการอาการแสบนิดๆ หลังใช้เสร็จ

สรุปผล

ข้อดีคือ

- สบู่มีลักษณะก้อนกลม จับถนัดมือดี

- ฟองแฟ้บมาก ถ้าถูแรงๆ เกิดเป็นฟอง bubble

- การชำระล้างสิ่งสกปรก ให้ 4 แต้ม สามารถชำระล้างได้ดี

ข้อด้อยคือ

- ผิวขาดความชุ่มชื้น รู้สึกถึงความแห้งของผิว ต้องทาโลชั่นหลังฟองสบู่

- ราคาค่อนข้างสูง

- เนื้อฟองสบู่ไม่ค่อยละเอียด

ถึงคิวสบู่ที่เราไปสอยมาจากเวียงจันทน์แล้วค่ะ

5. สบู่แอริน่า กลูต้าสเนล สูตรยืดได้ 100 กรัม ( ในไทย 1xx บาทค่ะ )


รูปภาพ:

ขนาดก้อน 100 กรัม ถือว่าพอสู้ราคาไหวไม่แพงมาก หยิบง่ายจ่ายคล่อง มาดูแพ็คเกจของแบรนด์นี้กันต่อค่ะ

แพ็คเกจ ถือว่าลงทุนเลยที่เดียว กล่องหนา ซองพลาสติกด้านในเป็นสีขาวขุ่น เคลือบสองชั้น ดูมีเกรดขึ้นมาเลยทีเดียว แต่ก็ไม่มีการสกรีนที่ซองพลาสติกและที่ตัวสบู่ แต่ทีเด็ดของแบรนด์นี้คือ มีการใส่ใบโบรชัวร์มาให้ในกล่องด้วย อธิบายถึงสรรพคุณและสารสกัดต่างๆ ที่ใส่ไป ถือว่ากล้าลงทุนมากสำหรับแบรนด์นี้ คืออย่างที่บอกค่ะ ทั้งที่กล่องไม่ได้ใชhประโยนช์อะไร แต่การที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ขายดี แพ็คเกจต้องสวยและดูดีก่อน ลองอ่านในใบโบรชัวร์ก็จะมีช่องทางการติดต่อหลายๆ ช่องทาง ถือว่าเป็นการตลาดอีกชนิดหนึ่งที่จะดึงดูดลูกค้าของแบรนด์นี้เลยทีเดียว แพ็คเกจเราให้ 5 คะแนนเต็มเลยค่ะ ถือว่ากล้าลงทุนมาก แค่ดูกล่องก็น่าใช้แล้วค่ะ ทำให้นึกถึงโฟมล้างหน้าแบรนด์ระดับโลกอย่าง Chanel เลยค่ะ เพราะมีสีกล่องคล้ายๆ กัน แต่ไม่รู้คุณภาพจะเป็นยังไง มาดูกันต่อค่ะ

สบู่มีลักษณะก้อนสี่เหลี่ยม จับไม่ค่อยถนัดมือ เราให้ที่ 2 คะแนนนะค่ะ

รูปภาพ:

ส่วนกลิ่นต้องบอกว่า หอมกลิ่นน้ำนมข้าวมาก แค่แกะซองพลาสติกออกมายังหอมเลย ให้คะแนนที่ 5 คะแนน

ฟองแฟ้บให้1 คะแนน ฟองละเอียดมากไม่ค่อยมีฟองแฟ้บ

ฟองครีมให้5 คะแนน ฟองมีลักษณะเป็นครีบยืดๆ ถูๆ ไปสักพักจะเกิดวิปครีม แล้วสามารถยืดได้ เหมือนที่ข้างกล่องเขียนไว้ค่ะ

การชำระล้างสิ่งสกปรกให้5 แต้ม สามารถชำระล้างได้ดีเพราะฟองละเอียดมาก

ความกระจ่างใสให้3 แต้ม ไม่ค่อยเห็นความแตกต่างมากนักในครั้งแรกที่ใช้

ความชุ่มชื้นของผิวให้5 แต้ม ทั้งที่ล้างสบู่แต่กับเหมือนล้างโฟมล้างหน้าล้างเสร็จผิวยังชุ่มชื้นค่ะ

การระคายเคืองผิวให้ 4 แต้ม ถ้าถูแรงๆ เกินก็เกิดการอาการแสบนิดๆ หลังใช้เสร็จเหมือนกัน

สรุปผล

ข้อดีคือ

- แพ็คเกจ ดูน่าใช้ ดูเหมาะสมกับราคา

- กลิ่นหอมน้ำนมข้าวมาก

- ฟองละเอียดมากคล้ายๆวิปครีม สามารถดึงสิ่งสกปรกได้ดี

- หลังใช้ผิวมีความชุ่มชื้นมาก ทั้งที่ล้างสบู่แต่กับเหมือนล้างโฟมล้างหน้า

ข้อด้อยคือ

- สบู่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆ จับไม่ค่อยถนัดมือ

- ฟองแฟ้บน้อยเกินไป

- สบู่มีลักษณะยืดๆ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบ แต่ส่วนตัวเราชอบค่ะ เพราะถูแล้วทำให้ผิว

เราชุ่มชื้นค่ะ

หลังจากที่รีวิวก็คิดในใจว่าทำไมสินค้าบางอย่างกับขายดีในต่างประเทศ อาจเป็นเพราะสินค้าทุกอย่างที่จะนำออกไปขายก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะถือเป็นหน้าเป็นตาของคนไทย ฟังแล้วรู้สึกภาคภูมิใจแทนคนไทยใช่ไหมคะ

เดี๋ยวเรามาสรุปคะแนนกันต่อดีกว่าค่ะ ว่าแบรนด์ไหนที่คือ 1 ในใจเราวันนี้( ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ )

รูปภาพ:

คะแนนเต็ม 5 จากความคิดเห็นส่วนตัว คะแนนรวมทั้งหมด 50 คะแนน


สบู่ที่ได้คะแนนเต็มแต่ละหัวข้อ

1.เรื่องราคาต้องยกให้ทั้ง 3 แบรนด์นี้= สบู่อิงอร, สบู่เบนเนท, สบู่โพรเทค

2.เรื่องแพ็คเกจต้องยกให้= สบู่แอริน่า

3.เรื่องความถนัดในการจับต้องยกให้= สบู่อิงอร, สบู่โอโม่ไวท์พลัส

4.เรื่องกลิ่นต้องยกให้= สบู่เบนเนท,สบู่แอริน่า

5.เรื่องฟองแฟ้บต้องยกให้= สบู่เบนเนท, สบู่โอโม่ไวท์พลัส

6.เรื่องฟองครีมต้องยกให้= สบู่แอริน่า

7.เรื่องการทำความสะอาดต้องยกให้= สบู่โพรเทค, สบู่แอริน่า

8.เรื่องผิวกระจ่างใสมี 2 แบรนด์ที่ใกล้ 5 คะแนนมากที่สุดคือ  = สบู่เบนเนท, สบู่โอโม่ไวทพลัส

9.เรื่องความชุ่มชื้นผิวต้องยกให้= สบู่แอริน่า

10.เรื่องการระคายเคืองผิวน้อยที่สุดต้องยกให้= สบู่อิงอร, สบู่แอริน่า

*****************************************************************************************************************

เมื่อสรุปผลแล้ว ก็จะเห็นความแตกต่างของแต่ละแบรนด์ค่ะ แต่ละแบรนด์มีทั้งข้อดี ข้อด้อยแตกต่างกันไป ซึ่ง 10 หัวข้อที่เรายกมารีวิวนี้ ไม่สามารถตัดสินได้ว่าสบู่ไหนดีที่สุด ขึ้นอยู่กับเราว่าชอบเอกลักษณ์ด้านไหนของแต่แบรนด์

บอกก่อนเลยว่าการรีวิวครั้งนี้ก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ บ๊ายๆ ค่ะ ไว้เจอกันรีวิวถัดไป คอยดูกันว่า เอฟจะหยิบสินค้าไหนมารีวิวกันอีกค่ะ


บทความที่เกี่ยวข้อง