สวัสดีค่าาา วันนี้ขอเอาใจสาวก Moomin กันสักหน่อย
เพราะว่าสอยมาครบแล้ววววววCathyCat x Code GlokolorกับMoomin Edition
แบรนด์Cathycatนั้นเป็นหนึ่งแบรนด์ในเครือLG cosmeticค่ะ
หลายๆ คนถามว่าซื้อได้ที่ไหน นางไม่มีช็อปเป็นของตัวเองค่ะ ต้องซื้อตาม Olive young
หรือ ร้าน Watson รวมถึงร้านที่เค้าขายรวมๆ หลายๆ แบรนด์นั่นเอง
ทีนี้ มาทำความรู้จักคุชชั่นมูมินทั้ง 4 รุ่นกันเลยดีกว่าค่ะ
ก่อนจะไปเจอกับ Cushion ขอแนะนำก่อนสั้นๆ ว่าจริงๆ แล้วเค้าออกมาสักพัก
และออกมาเกือบครบทั้งไลน์เครื่องสำอาง นั่นก็คือ มีทั้งลิป มาสคาร่า ยาทาเล็บ
ปัดแก้ม อายแชโดว์ โดยแบ่งออกเป็น 2 คอลเลคชั่นตามรูปด้านบน
รูปด้านบนสุดออกมาก่อน ตามด้วยรูปด้านล่าง
ซึ่งทั้ง 2 คอลเลคชั่นที่ออกมา ล้วนมีคุชชั่นออกมาด้วยคอลเลคชั่นละ 2 รุ่น
จึงทำให้เรามีคุชชั่นมูมินให้สะสมถึง 4 รุ่นด้วยกัน อู้ววว เยอะแยะมากมาย
และอย่างที่ทราบกันดีว่าจิ๊บนั้นเก็บสะสม Cushion ตลับลายน่ารักๆ รวมถึงรุ่นที่ใช้ดี
แน่นอนว่าเราจะไม่พลาด Moomin edition เช่นกัน
แล้วก็เริ่มสะสมจนได้มาครบทั้ง 4 รุ่น
แต่ละรุ่นจะแตกต่างกันอย่างไร ตามไปชมกันได้เลยค่า
ไล่เรียงตามรุ่นที่ออกวางจำหน่าย โดยเริ่มจากซ้ายไปขวานะคะ
ตลับม่วงเป็นรุ่นแรกที่เริ่มเห็นเลยก็ว่าได้ จากนั้นก็ตามมาด้วยตลับขาว
และตลับสีชมพูทางขวานั้นออกมาพร้อมๆ กันค่ะ ไปดูกันที่ละรุ่นเลยเนอะ
ขอคั่นก่อน มีรีวิวแบบคลิปมาฝากด้วย แต่เน้นเป็น Texture นะคะ
เน้นว่าทาแล้วจะเป็นอย่างไรกับเนื้อสัมผัสและงานผิวที่ได้
Cathycat code glokolor x moomin C All-uid Foundation ex
แค่ชื่อนางก็บอกแล้วว่านางคือ รองพื้น แต่มาในรูปแบบไหนต้องแกะดู
ราคา 33,000 won
มาในตลับสีม่วงทึมๆ มีรีฟิลให้ 1 อัน และมีพัฟให้เพียงอันเดียว มากับตลับ
ส่วนรีฟิลก็มาแปลกไม่เหมือนที่เคยซื้อ เพราะนางมาแบบรีฟิลไม่ซองไม่ถุงใส่แยกมา
มีสติ๊กเกอร์แปะไว้ที่เพลตต์ของคุชชั่น ก่อนใช้ก็ลอกสติ๊กเกอร์ออกก่อน
ตลับไม่มีตัวล็อคสำหรับเปิดปิด สามารถดึงขึ้นเพื่อเปิดได้เลย
และที่ตำแหน่งเหนือตัวล็อคตลับทั่วไปจะมีเหมือนปุ่มให้กด
เมื่อกดๆๆ ปั๊มๆ เนื้อคุชชั่นก็จะไหลขึ้นมา ก็นำพัฟปาดใช้งานได้ทันที
สีที่ซื้อมาใช้คือ #22.5 เป็นโทนเหลืองค่ะ ( สีขาวกว่าคุชชั่นเบอร์ 23 เล็กน้อย )
และรูปด้านล่างนี้เป็นความสวยงามของคุชชั่นมูมินตลับแรกที่ได้จับ
เพราะว่าลายของเพลตต์เป็นรูปดาว เมื่อกดๆ ปั๊มๆ ขึ้นมาจะได้คุชชั่นโผล่มาแบบลายดาวค่า
เรื่องของความแตกต่างของเนื้อสัมผัสแต่ละรุ่นขอสรุปรวบตึงให้ท้ายรีวิวเนอะ
ต่อไปเรามาดูรุ่นที่สอง รุ่นถัดมากันค่ะ
Cathycat Code Gokolor x moomin L.Ice Metal Cushion
เป็นรุ่นเพลตต์เหล็ก มาในตลับสีขาว กับสีเงินพิมพ์ลายเงาๆ น่ารัก
ราคา 28,000 won
ตลับสีขาวและสีเงิน เข้ากันอย่างสวยงาม แต่รุ่นนี้ไม่มีรีฟิลมาให้ค่ะ
ที่ตลับก็มีสติ๊กเกอร์แปะไว้เช่นกัน ก่อนใช้ดึงออกไม่มีอะไรมาก
ลายของพัฟก็เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ที่ตลับก็มีตัวล็อคแบบตลับปกติทั่วไป
เปิดขึ้นมาที่ฝั่งด้านฝาก็จะมีกระจกค่ะ
ความกิ๊บเก๋อยู่ที่ถาดเพลตต์ตลับ จะเป็นเหมือนแผ่นเหล็กบางๆ เวลาใช้ให้กดพัฟทับไปได้เลย
เนื้อของคุชชั่นจะขึ้นมาแบบในภาพด้านล่างนี้ค่ะ
แต่ที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนคือ รุ่นนี้เนื้อคุชชั่นเหลวกว่ารุ่นข้างบนค่ะ
ทั้งสองรุ่นด้านบนถือว่าออกมาเอาใจสาวๆ ที่รักความสะอาด
เพราะเหมือนกดผลิตภัณฑ์ออกมาใช้แล้วหมด กดเพิ่ม ไม่ได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เค้าก็คิดมาอย่างดีแล้วในการทำผลิตภัณฑ์ออกมา
พัฟที่เป็นสีน้ำเงินอย่างที่เราๆ เห็นกัน เป็น Anti-bacteria อยู่แล้วค่ะ
Cathycat Code Gokolor x moomin P UV Cube cushion
ต่อมารุ่นใหม่ก็ออกมาพร้อมคอลเลคชั่นใหม่ มาในโทนสีพาสเทล ชมพูอ่อน ตัดขอบด้วยม่วงเทา
สีที่หน้าตลับเป็นสีชมพูอ่อนเหลือบมุก
ราคา 25,000 won
รุ่นนี้เปิดออกมาจะมีทรงตัวรีฟิลเป็นสี่เหลี่ยม พัฟก็เป็นรูปร่างเหลี่ยม ไม่กลมเหมือนรุ่นด้านบน
ด้านหน้าสติ๊กเกอร์แปะคลุมไว้ จะมีระบุไว้ว่ามี 2 โทนสี
คือจะมี Pink beige cushion เสี้ยวนึง และส่วนที่เหลือคือ Beige cushion
พัฟคุชชั่นเป็นลายเดียวกับลายหน้าตลับ ด้านหลังเป็นสีน้ำเงินเหมือนทุกๆ รุ่นค่ะ
รุ่นนี้ไม่มีเฉดสีให้เลือกเพราะมีมาในตลับ 2 สี แต่ตัวสี Beige จะเป็นโทนประมาณ 22.5 เท่าๆ กับรุ่นอื่นค่ะ
ก่อนใช้งานก็ดึงสติ๊กเกอร์ออกก่อนเหมือนเดิม
และมาถึงรุ่นสุดท้าย เป็นทรงตลับเหลี่ยมเหมือนรุ่นด้านบน แต่แตกต่างที่ด้านใน
เพราะด้านในรีฟิลของรุ่นที่จะดูกันนี้จะเป็นทรงกลมเหมือนๆ คุชชั่นยี่ห้ออื่นๆ ค่ะ
Cathycat Code Gokolor x moomin A.All-uid foam cushion
รุ่นนี้มีรีฟิลแถมมาให้ 1 อัน เท่ากับว่าจะได้ 2 ตลับคุชชั่น
ตัวรีฟิลมีการใส่ในถุงซีลแยก ไม่เหมือนกับรุ่นแรกที่มาแต่ตัวตลับรีฟิล
ราคา 24,000 won
เราจะสังเกตได้ว่ารุ่นที่แถมรีฟิลนั้นราคาถูกกว่า !! งงเหมือนกัน แต่ความรู้สึกส่วนตัวคือ
คุณภาพรุ่นที่มีรีฟิลให้ ไม่โดดเด้งเท่ากับรุ่นที่ไม่แถม เลยน่าจะเป็นที่มาของราคาที่ถูกกว่า
รุ่นนี้ชื่อเหมือนรุ่นตลับที่กดแล้วเป็นดาว เพียงแต่เพิ่มคำว่า foam เข้าไป
เลยให้ความรู้สึกคล้ายกัน แต่เพิ่มเติมคือใส่ในรูปแบบฟองน้ำ
จะทำให้เราซับเนื้อคุชชั่นขึ้นมาใช้งานได้น้อยกว่ารุ่นดาว
พัฟลายเหมือนสองรุ่นแรกที่ออกมา ไม่มีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่
สีที่ซื้อมาคือ 22.5 ต้องบอกว่า ปกติคุชชั่นจะเป็นเบอร์ 21 และ 23
แต่ของ Moomin จะมีให้เลือก 2 เฉดสีคือ 20.5 และ 22.5 คือขาวขึ้นกว่าเดิม 0.5
จริงๆ แล้วก็ไม่แตกต่างเท่าไหร่นัก แต่ก็รู้สึกเวลาทาว่าขาวกว่ายี่ห้ออื่นๆ เล็กน้อย
มาถึงเนื้อสัมผัสของแต่ละรุ่นกันค่ะ แบ่งออกเป็น 2 เนื้อหลักๆ
คือออกแมตต์และออกมอยซ์ ส่วนสีที่บอกว่าเป็นเฉด 22.5 แล้วนั้น
แต่ละรุ่นก็ยังสีแตกต่างกันอีกเล็กน้อย โดยรุ่นที่ขาวสุดคือรุ่นตลับเหลี่ยม
เพราะไม่มีเฉดสีให้เลือก นางจึงต้องขาวกว่า 22.5 แบบปกติ มาพร้อมเบสสีชมพูอ่อน
ขาวรองๆ มาคือ รุ่นตลับขาวเงิน หรือรุ่นถาดเหล็ก และเข้มตามมาคือรุ่นถาดกดรูปดาว และรุ่นสุดท้าย
หากพูดถึงความแห้งแมตต์แล้ว ยกให้รุ่นที่ 1 กับ 4 จึงเหมาะกับสภาพ ธรรมดา ผิวผสม และผิวมัน
เพราะมีการเซ็ตเนื้อของคุชชั่นได้ดีกว่า รุ่นถาดกดดาว จะเนื้อหนาที่สุด
เน้นปกปิดมากที่สุด ให้ความผ่องพอประมาณ
ส่วนรุ่นคุชชั่นฟองน้ำกลม จะปกปิดน้อยกว่า เนื้อบางกว่า แต่ก็ยังเหมาะกับคนที่อยากให้ควบคุมความมัน
ส่วนถ้าพูดถึงสาวผิวแห้งถึงผิวธรรมดานั้น คงต้องขอแนะนำเป็นรุ่นที่สอง คือตลับขาว และรุ่นตลับเหลี่ยม
เพราะ 2 รุ่นนี้เนื้อคุชชั่นบางกว่า เกลี่ยง่ายกว่า สัมผัสลื่นผิวกว่า
และที่สำคัญคือ นางไม่แห้งแบบรุ่นถาดกดดาว ผู้แห้งใช้แล้วไม่แคร็กแน่นอน ให้ความชุ่มชื้นยาวนานกว่า
ทาเทสแบบครึ่งหน้าให้ดูค่ะ ก่อนทารูปด้านบน และหลังทา ฝั่งซ้าย ไม่ทาฝั่งขวา
เปรียบเทียบแต่ละรุ่น จะเห็นว่า รุ่นที่ผิวผ่องสุดๆ คือ ตลับขาว และ ตลับที่มีเบจชมพู
และปกปิดดีที่สุดคือรุ่นถาดกดรูปดาว ส่วนรุ่นที่เฉยๆ กับผิวมากที่สุดคือรุ่นตลับกลมฟองน้ำค่ะ
สำหรับใครที่อยากดูแบบตอนทา เห็นชัดๆ ไปเลยว่ารุ่นไหนทาง่าย ทายาก หลังทาแล้วผิวเป็นอย่างไร
แนะนำให้ดูเพิ่มเติมได้ในคลิปด้านบนเลยนะคะ
ก็หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่อยากได้คุชชั่นมูมิน แต่ไม่รู้จะเลือกรุ่นไหนดี
เสียเงินแล้วต้องได้ใช้เนอะ ซื้อมาเก็บก็ไม่คุ้มค่า
อ๋อ สำหรับจิ๊บถ้าให้เลือกคือ 2 รุ่น ตลับขาว และตลับเหลี่ยมค่ะ ใช้บ่อยสุด ผิวผ่องเด้งโชว์ผิวสุดๆ
ส่วนแหล่งช็อปที่ซื้อมานั้น จิ๊บฝากเพื่อนซื้อมาจากเกาหลีค่า
ไม่ได้พรีจากร้าน แต่ข้างต้นจิ๊บแปะราคาไว้แล้วก็ลองคำนวนกันดูนะคะ
ว่าร้านไหนหิ้วแพง ร้านไหนหิ้วถูก ^^
สำหรับวันนี้คงต้องลากันไปก่อน แล้วไว้พบกันใหม่รีวิวหน้านะคะ
จะพยายามมาอัพเดทให้ทันของที่ซื้อ อย่าเพิ่งเบื่อคุชชั่นกันน้า ฮ่าๆ ส่วนจิ๊บนี่อินมากจริงๆ
ใช้คุชชั่นแล้วผิวเด้งกว่ารองพื้น แต่ก็ไม่ทนเท่าไหร่
