แพ็คยังไงกระเป๋าถึงไม่ตุง-ตุงน้อย เกร็ดความรู้ที่นักเดินทางมือใหม่ควรทราบ
จะแพ็คอะไรเยอะแยะตอนขาไป อย่าลืมนึกถึงขากลับบ้างนะเธอ
เผยแพร่: 9 ก.ย. 2559 10:42 น.
Views: 34,490
รหัสบทความ: 13926
ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิง ยังไงก็ต้องมีความ' เยอะ 'สิ่ง อันนั้นก็อยากได้ อันนี้ก็อยากหิ้วไป จนสุดท้ายเลือกไม่ได้ ก็เหมาๆ ไปให้หมดเลยละกัน
หยุดค่ะ! หยุดแนวคิดแบบนี้มาใช้กับการแพ็คกระเป๋าเดินทางเด็ดขาด การแพ็คกระเป๋าไม่ใช่การถือถุงช้อปปิ้งจากห้างนะคะ ที่ยิ่งเยอะ ยิ่งสบายใจตรงกันข้ามกันยิ่งเยอะ กระเป๋าหนักไม่พอ ยังอาจทำเราเสียตังค์ซื้อน้ำหนักเพิ่มในกรณีที่ขึ้นเครื่องบินอีกด้วย ลำบากตอนเดินทางที่ต้องกระเตงอะไรป่องๆ ตุงๆ ไม่สบายตัวอีกด้วย เราควรมีกึ๋นในการจัดกระเป๋ากัน !
#1 จงย่อส่วนเครื่องสำอางให้เหลือชิ้นเล็กชิ้นน้อย
พวกขวดใหญ่ๆ ที่เคยใช้ทาใช้อาบ หรือเป็นขวดแบบขวดปั๊ม เก็บไว้ใช้เองที่บ้านเถอะค่ะ ในส่วนของการเดินทางนั้น เราควรย่อส่วนให้เล็กที่สุด เพราะ
- เพื่อให้ประหยัดเนื้อที่ จุของอื่นๆ ในขากลับได้สบาย
- เพื่อให้ไม่เลอะเทอะในกระเป๋า เพราะเราไม่สามารถจัดการกับบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่เทอะทะแล้วไปกระแทกอะไรต่อมิอะไรที่เราไม่รู้ตัวระหว่างเดินทาง
- เพื่อเวลาเข้าด่านเช็คสัมภาระที่สนามบิน เราจะได้ไม่ต้องเสียดายที่ยอมตัดใจทิ้งของเหลวเกิน 100 มล. ( ตามกฎมาตรฐานของสนามบินต่างๆ กำหนดให้ผู้โดยสารนำของเหลวแพ็คกระเป๋าได้ไม่เกิน 5 ขวด ขวดละไม่เกิน 100 มล. โดยต้องขวดนั้นๆ ต้องมีฉลากบอกปริมาณชัดเจน )
แล้วเราจะเตรียมการในส่วนนี้ยังไง?
- อะไรที่คิดว่าจะซื้อที่ร้านสะดวกซื้อได้ที่ปลายทางหรือคิดว่าที่โรงแรมที่จะไปพักเขามีบริการให้อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องพกขวดใหญ่ไปให้ตุงกระเป๋าค่ะ เสียเงินนิดหน่อยจ่ายที่ปลายทางจะดีกว่า
- อะไรที่คิดว่าจำเป็นในระดับกลางๆ เช่น แชมพู สบู่ ต้องเป็นยี่ห้อนี้ๆ เท่านั้นถึงจะถูกโฉลกกับตัวเรา หาซื้อเตรียมก่อนเดินทางในแบบขวด / ซองเล็กๆ ก็พอค่ะ
- ลองรวบรวมดูว่าของใช้ส่วนตัวพวกของเหลวมีกี่ขวดที่คิดว่าจะเอาไป โดยอิงเกณฑ์จากมาตรฐานสนามบินตามที่บอกไว้ด้านบนค่ะ ( เอาไปเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ เช่น ขวดครีมรองพื้น, โทนเนอร์เช็ดหน้า, โรลออน อันไหนที่คิดว่าหาซื้อใหม่ได้หรือไม่ได้พกไปช่วงที่เดินทางก็ไม่ตายหรอก ก็ไม่ต้องพกไป )
- อะไรที่คิดว่าเปลี่ยนแพ็กเกจจากของเหลวเป็นของแห้งได้ ก็ควรเปลี่ยน เช่น สบู่เหลวเปลี่ยนเป็นสบู่ก้อนเล็กๆ, ผงซักฟอกเปลี่ยนเป็นสบู่ซักผ้า
#2 พกไปแค่ผ้าขนหนูขนาดเล็ก ไม่ต้องพกผืนใหญ่แบบผ้าเช็คตัว
โดยปกติแล้วทางโรงแรมที่เราไปพักก็จะมีผ้าเช็ดตัวบริการให้ แต่ถ้าไม่ได้ไปพักโรงแรม หรือปลายทางที่เราไปพักไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ ก็ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กที่ใช้เป็นของส่วนตัวนี่แหละ เช็ดหน้า เช็ดผม เช็ดได้ทั่วตัว ประหยัดพื้นที่ด้วย แห้งไวด้วย จะเอาไปทำไมผ้าผืนใหญ่ให้กินพื้นที่เนอะ
#3 อย่าแพ็คผ้าที่เนื้อผ้าหนามากราวกับผ้านวม
ถ้าจำเป็นจะต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่อากาศแปรปรวน มีฝน มีลมหนาว ไม่จำเป็นต้องจัดเต็มใส่โค้ทหนาๆ ผ้าขนสัตว์ตุงๆ ใส่เต็มออปชั่นโดยไม่จำเป็นขนาดนั้น ควรจะเลือกผ้าที่เนื้อผ้าที่มีเส้นใยถักทอที่
'
หนาแน่นดี 'ไม่ใช่' ความหนาเยอะดี 'เพื่อประหยัดพื้นที่ในกระเป๋ามากที่สุด หรือถ้าจำเป็นจะต้องเอาเสื้อโค้ทไปสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายอีกชั้น ก็เอาไปแค่ตัวเก่งเพียงตัวเดียวพอ เสื้อด้านนอกมันไม่เหม็นง่ายเท่าเสื้อชั้นในสุดหรอก
#4 อย่าแพ็คกระเป๋าแบบนึกจะยัดอะไรก็ยัดไป
การยัดของใส่กระเป๋าแบบไม่คิดอะไร นอกจากจะทำให้ผ้ายับแล้ว ยังเป็นการเปลืองพื้นที่กระเป๋าโดยใช่เหตุ อีกทั้งยังทำให้ขวดครีม / แชมพู แตกกระจายเลอะเทอะได้ เราจึงจำเป็นต้องมีระเบียบในการจัดกระเป๋านิดนึง
- นำรองเท้าแตะใส่ถุงพลาสติก มัดปากถุงให้แน่น แล้วยัดลงกระเป๋าชั้นล่างสุด
- ม้วนเสื้อผ้าทั้งหมดแบบม้วนโรตี ( พับครึ่งแล้วม้วนเป็นทรงกระบอก ) แล้วค่อยจัดใส่ทีละม้วนลงในกระเป๋า โดยเริ่มม้วนที่ผ้าชิ้นหนาสุด เช่น กางเกงยีนส์, เสื้อแจ๊กเก็ต ลงไปชั้นล่างสุดก่อน แล้วค่อยเป็นผ้าเนื้อบาง เช่น เสื้อยืด ตามลำดับ
- ชุดชั้นใน / ถุงเท้าให้จัดใส่ในถุงพลาสติกแล้วปิดปากถุงให้หนาแน่นพอประมาณ ( จะเป็นถุงแบบมีซิป หรือถุงก๊อบแก๊บธรรมดาแล้วมัดปากถุงเอาก็ได้ ) แล้วค่อยยัดตามเสื้อผ้าจากข้อตะกี้
- เครื่องสำอาง / ของใช้ส่วนตัว ใส่ถุงปิดปากถุงให้แน่นพอประมาณ แล้วยัดตามเป็นลำดับสุดท้าย ก่อนที่จะปิดซิปกระเป๋า
#5 พยายามประหยัดชุดที่จะใส่ในช่วงเดินทางมากที่สุด
อย่างน้อยควรมีเสื้อยีนส์ และ / หรือ กางเกงยีนส์ เป็น 1 ในส่วนประกอบที่ใส่ซ้ำกันได้หลายวัน นอกเหนือจากรองเท้าคู่เก่งที่ไม่ใช่รองเท้าแตะ เพราะการเตรียมชุดไปเยอะๆ ราวกับหอบตู้เสื้อผ้าไปด้วย มันลำบากให้เราต้องคอยมองหาว่าจะปลายทางจะมีร้านซักรีดหรือไม่? มีผงซักฟอกแล้วจะมีที่ให้ผึ่งผ้าให้แห้งทันใจรึเปล่า?
เสื้อผ้าที่ควรจะติดตัวไปไม่ลำบากกระเป๋า ควรจัดคร่าวๆ แบบนี้ค่ะ
- กางเกงยีนส์ 1 ตัว ใส่ได้ตลอดทริป
- กางเกงลำลองสักตัว / กระโปรงลำลองสักตัว ถ้ารู้สึกว่ากางเกงยีนส์มันอึดอัดไป
- แจ๊คเก็ตตัวเก่ง 1 ตัว ใส่คลุมตลอดทริป แล้วด้านในเป็นเสื้อยืดหรือเสื้ออื่นๆ สัก 3- 4 ตัว
- ชุดชั้นในประมาณ 3 ตัว ( ต่อให้อยู่เกิน 3 วัน ก็แพ็คตามนี้พอค่ะ แล้วใช้แผนประมาณว่าวันนี้ใช้ไปชุดนึง อาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ก็รีบซักชุดที่ใช้แล้ว อีกชุดก็เอาเป็นชุดสำรองเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ไปนั่งใส่พื้นเปียกๆ )
- ชุดนอนควรเป็นชุดกะทัดรัด ไม่หนามาก เช่น เสื้อกล้ามตัวเล็กๆ กับกางเกงขาสั้น
#6 จัดของที่จำเป็นในระดับปานกลางลงไปด้วย ถ้าพื้นที่พอเหลือ
ก่อนจะปิดซิปกระเป๋าจริงๆ ถ้าพอมีพื้นที่เหลือมากๆ อย่างน้อยสัก 30% ของกระเป๋า คราวนี้ก็ยัดของที่คิดว่าจำเป็นในระดับปานกลาง ( เอาไปจะดีมาก แต่ถ้าไม่เอาไปก็ไม่เป็นไร แค่ลำบากนิดหน่อย ) เช่น ไดร์เป่าผมแบบพับเก็บได้, เครื่องหนีบผม ลงไปด้วยแต่ต้องรู้จักพอ นึกถึงเวลากลับที่จะอาจจะได้ช้อปปิ้งหรือเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นด้วยนะคะ เพราะขากลับกระเป๋านักเดินทางมักจะตุงกว่าขาไปแน่นอน ด้วยเพราะการเปลี่ยนสภาพของที่ถูกรื้อใหม่ด้วย ด้วยเพราะของฝากต่างๆ นานาด้วย
#7 ทบทวนตัวเองอีกที อะไรพอจะเอาออกได้ อะไรพอจะถ่ายเทไปกระเป๋าสะพายเล็กๆ ได้
ทวนออเดอร์ในกระเป๋าเสื้อผ้าอีกรอบว่าอะไรที่น่าจะเอาออก ไม่พกไปก็ไม่ดิ้นตาย อะไรที่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยพอจะถ่ายเทลงกระเป๋าสะพายข้างเล็กๆ ได้ก็ทำเลย เพื่อเป็นการเตรียมกระเป๋าให้พร้อมที่สุดสำหรับการเดินทาง ไม่ต้องพะวงเรื่องน้ำหนัก ไม่ต้องพะวงว่าจะไม่สะดวกในภายหลัง
***************************************************************************************อ้อ! อีกอย่างที่อยากเตือนสาวๆ ที่ขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกหรือขี้ลืม แล้วมีแพลนว่าจะขึ้นเครื่องบิน นอกจากของเหลวที่ได้มีการกำหนดปริมาณอย่างที่พี่อาร์ตบอกไว้ข้างบน ก็อย่าพกมีดโกน / กรรไกร / กระป๋องสเปรย์ และของมีคมอื่นๆ ที่เป็นอาวุธได้นะคะ เจอด่านตรวจกระเป๋าอาจโดนรื้อกระเป๋าให้เอาของดังกล่าวทิ้งได้ค่ะ
