1. SistaCafe
  2. กิน 'อาหารสุขภาพ' มากเกินไป ระวังจะอ้วนแบบไม่รู้ตัว [ภาค1]

สาวๆ ซิสต้าที่รักคงหวาดกลัวกับตัวเลขบนตาชั่งกันแทบทุกคน!สิ่งแรกที่ทุกคนคิดเวลาลดน้ำหนักคือ“งดแป้ง ของหวาน ของทอด ของมัน”แล้วไปกินอาหารที่เขาว่ากันว่า“เพื่อสุขภาพ”แทน! แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เธอกิน (หรือยัด) เข้าไปนั้น มีไขมันและแคลอรี่สูงกว่าที่คิด!ไม่อย่างนั้นจะมีคำว่าหน่วยบริโภค (Serving size) ไปเพื่ออะไรกัน?โดยเฉพาะอาหารจำพวกผลไม้ ถั่ว โยเกิร์ตและสลัดผักที่ไม่ใช่ผักสดอย่างเดียวนั้น ต้องจำกัดปริมาณให้ดีเชียวล่ะ

เพื่อไม่ให้แผนลดความอ้วนสู่การผอมเพรียว กลายเป็นแผนสู่การเป็นหมูตัวน้อยแทนแล้วล่ะก็ เธอควรอ่านบทความนี้เป็นอย่างยิ่ง!เพราะวันนี้เรามีบทความ“อาหารเพื่อสุขภาพ ที่กินเยอะๆ ก็อ้วนอยู่ดี!”มาฝากสาวๆ ต่อไปเมื่อคิดจะซื้ออาหารอะไร แบ่งดูปริมาณให้ดีว่าวันนี้กินไปเท่าไหร่แล้วจะได้รู้ว่าทำไมน้ำหนักถึงไม่ลดลงสักทีอย่างไรล่ะไปดูกันเลยค่ะ!



1. อโวคาโด

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F1558%2F61f1d201-749b-4f96-a0ac-50537a497aec.jpeg?v=20240306102312&ratio=0.667

ผลไม้ชนิดนี้ "คือดีอ้ะ!" เพราะมีสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มและมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ดีต่อหัวใจอีกด้วยแต่ไม่ใช่ว่าเพราะ “มีประโยชน์” เธอจะกินเท่าไหร่ก็ได้นะ! (ส่ายหน้าแรงมาก)อโวคาโดมีไขมันและแคลอรี่รวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นหนึ่งหน่วยบริโภคที่ควรกินต่อวันคืออโวคาโด 1/5 ลูกเท่านั้น! (50 แคลอรี่)เพราะทั้งลูกมีพลังงานถึง 350 แคลอรี่ !!!(มากกว่าข้าวหนึ่งจานอีกนะเธอ)

กินพอรู้รส หรือนำไปผสมอาหารชนิดอื่นให้อิ่มดีกว่า อย่ากินเพียวๆ เพราะอาจมีไขมันหน้าท้องโดยไม่รู้ตัว



2. ถั่วต่างๆ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F1558%2F3c29d207-4fbb-47a3-b700-c1e0fc5ecacb.jpeg?v=20240306102313&ratio=0.862

ถั่วเป็นแหล่งรวมของกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ โปรตีน วิตามินอีและไฟเบอร์ แต่ก็ยังมีแคลอรี่สูงด้วยเหมือนกัน

อย่ากินเพลินเป็นอันขาด! เช่น


ถั่วอัลมอนด์ ¼ ถ้วย จะให้พลังงานถึง 132 แคลอรี่เลยทีเดียว!


สาวๆ มักจะอ้วนง่ายเพราะอาหารชนิดนี้นี่แหละ เคี้ยวไป เล่นเฟสบุ๊คไป ดูหนังไป เผลอแป๊บเดียวก็หมดชาม แล้วจะให้น้ำหนักลดได้อย่างไรกันล่ะ!



ดังนั้น

เวลากิน เทใส่ชามครั้งเดียวจบ พอ! อย่าเติมเป็นอันขาด

แน่ะๆ บอกว่าอย่าเติม เดี๋ยวตีมือซะเลยนี่!



3. ผลไม้อบแห้ง

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F1558%2F6cf0488f-1fa0-4d1e-a999-e1a2fd6e6212.jpeg?v=20240306102313&ratio=0.666

ผลไม้อบแห้งเป็นผลไม้ธรรมดานี่แหละ แต่นำไปเข้ากระบวนการอบแห้ง คือนำน้ำออกไปจากผลไม้นั่นเองดังนั้นผลไม้อบแห้ง 1 ถ้วยจะมีแคลอรี่และน้ำตาลมากกว่าผลไม้สดในปริมาณเดียวกันประมาณ 5-8 เท่าเลยทีเดียว!ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นองุ่นสด 1 ถ้วยให้พลังงาน 60 แคลอรี่ แต่ลูกเกด (องุ่นอบแห้ง) 1 ถ้วยให้พลังงานถึง 460 แคลอรี่เลยเชียว!

ดังนั้นกินผลไม้สดๆ กันดีกว่านะเธอใช้ผลไม้อบแห้งโรยประดับอาหารก็พอ อย่าเคี้ยวเล่นเป็นของว่างเดี๋ยวตัวพองไม่รู้ตัวนะเออ!



4. ดาร์คช็อกโกแลต (Dark Chocolate)

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F1558%2Fb77081e4-2d46-4dc3-89d2-72c1db66f4a7.jpeg?v=20240306102313&ratio=0.647

ดาร์คช็อกโกแลต หรือช็อกโกแลตแบบขมมีสารโพลีฟีนอลที่ช่วยป้องกันโรค และมีส่วนในการช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย แต่อยู่ในข้อแม้ที่ว่า ไม่กินมากเกินไปเท่านั้น!ยกตัวอย่างเช่นดาร์คช็อกโกแลต 1 ออนซ์ ให้พลังงาน 155 แคลอรี่ มีไขมันถึง 9 กรัม โดยเป็นไขมันไม่อิ่มตัวแล้วไปซะ 5 กรัม!(นี่ขนาดช็อกโกแลตขมนะ แล้วแบบปกติ ใส่นมใส่ครีมจะให้พลังงานขนาดไหน ไม่อยากจะคิด!)

ถ้าเสพติดโกโก้ในช็อกโกแลตจงเลือกยี่ห้อที่มีเปอร์เซนต์โกโก้สูงๆ น้ำตาลน้อยที่สุด (ถ้ากินแบบ 100% ได้ยิ่งดี)และกินแบบหักแบ่งสักช่องสองช่องก็พอแล้ว




5. น้ำผลไม้สมูธตี้ (Smoothies)

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F1558%2Fc4e40577-e146-4d07-855a-f288602048a8.jpeg?v=20240306102313&ratio=1.000

ร้านขายน้ำผลไม้ น้ำผักปั่นโฆษณากันให้โครมๆ ว่า “ช่วยลดไขมันหน้าท้อง”, “ช่วยลดความอ้วน”แล้วจะทำให้น้ำหนักพุ่งพรวดได้อย่างไร โม้หรือเปล่า?มีแต่ผลไม้ ผัก กับน้ำแข็งมาปั่นด้วยกันเท่านั้นเองอยากกระซิบว่า“จะมีสักกี่ร้านที่มีส่วนผสมแค่นั้นจริงๆ?”ร้านต่างๆ ก็มีเครื่องปรุงอย่างซอสช็อกโกแลต เนยถั่ว โยเกิร์ต น้ำเชื่อมถ้วยโตใส่ลงไปผสมด้วยทั้งนั้น(เพราะน้อยคนจะรับรสชาติแท้ๆ ของผักได้)นั่นแหละตัวเพิ่มพลังงานเลยพอเป็นแบบนี้สมูทตี้เพื่อสุขภาพก็ไม่ต่างอะไรกับมิลค์เชคน้ำตาลท่วมเลยจ้า อ้วนเหมือนกัน!

ดังนั้น เวลาเธอสั่งสมูทตี้ที่ร้านไหน กำชับคนขายว่า“พี่คะ ขอแค่ผลไม้ น้ำแข็ง โยเกิร์ตก็พอนะคะ ถ้าจะใส่น้ำเชื่อมหรือนมก็ใส่จี๊ดเดียวพอค่ะ”แต่ถ้าจะให้ดีทำดื่มเองเลยดีที่สุด!



6. สลัดทูน่า

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F1558%2F797d2ead-d584-4193-88e0-3239be035cff.jpeg?v=20240306102313&ratio=0.566

เฮ้ย เดี๋ยวๆๆๆ! สลัดทูน่าเนี่ยนะ  กินมากก็ไม่ดี แบบนี้จะให้กินอะไรล่ะ ดื่มแต่น้ำเปล่าเลยดีไหม (สาวซิสต้าร้องโอดครวญ)ความจริงคือทูน่าในน้ำแร่หนึ่งกระป๋องมีโปรตีน 39 กรัม ให้พลังงานประมาณ 179 แคลอรี่ แต่ปัญหาคือ  สาวๆ ส่วนใหญ่ไม่กินแค่ผักสดกับทูน่าหรอกใช่ไหม มันจืดสินะ สารภาพมาซะดีๆ!เธอจะต้องเผ่นเข้าครัว แอบไปเหยาะมายองเนสสักนิด ครีมสักหน่อยสรุปว่ามีแคลอรี่เพิ่มจากเดิมถึง 90 แคลอรี่ และไขมันถึง 10 กรัมต่อมายองเนสหนึ่งช้อนโต๊ะเลยทีเดียว!

เปลี่ยนจากซอสมายองเนสหวานเลี่ยนๆ เป็นกรีกโยเกิร์ตไม่ใส่น้ำตาล หรือน้ำสลัดงาญี่ปุ่นดีกว่าแน่นอนว่ายังไงก็ต้องมีแคลอรี่เพิ่ม แต่ก็ยังเป็นพลังงานที่มีประโยชน์และได้โปรตีนอีกด้วย



7. กาแฟ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F1558%2Fb6f095c3-db97-448a-b462-486862eb699d.jpeg?v=20240306102313&ratio=0.625

เธออาจไม่รู้ว่าสารคาเฟอีนในกาแฟช่วยป้องกันเซลล์สมองไม่ให้เป็นโรคคุ้มคลั่งในวัยชราได้!ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ไม่เป็นโรคต่างๆ ได้ง่ายแต่ที่เราพูดถึงคือกาแฟดำ!ถ้าเธอเดินลิ่วๆ เข้าร้านกาแฟชื่อดังสั่งกาแฟใส่นมแก้วใหญ่ เธอก็รับไปแล้วเต็มๆ 300 แคลอรี่และไขมันอีก 15 กรัมเน้นๆเอ้า สวัสดีความอ้วนสิลูก!

ดังนั้น เราไม่ได้บอกให้เธอเลิกดื่มกาแฟดื่มกาแฟดำแทนสิ!กาแฟดำ 1 แก้วให้พลังงานเพียง 5 แคลอรี่เท่านั้นเอง!ใส่นมไร้ไขมันและน้ำตาลลงไปอีกจึ๋งนึง ให้พลังงานเพิ่มอีก 30 แคลอรี่เท่านั้น เดินไปเดินมาก็ใช้หมดแล้ว!



8. โยเกิร์ต

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F1558%2F15153b3b-2351-4e21-a4bb-858d0c252ec0.jpeg?v=20240306102313&ratio=0.666

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วยให้พลังงานเพียง 100 แคลอรี่ และมีแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกและฟันอีกด้วยแต่อย่างที่บอก โยเกิร์ต“รสธรรมชาติ”เท่านั้น หมายถึงไม่ใส่อะไรเพิ่มลงไปเลย!ถ้าเธออยากอร่อยด้วยการระดมใส่ผลไม้หวานๆ ครีมพูนๆ ล่ะก็ เธอจะได้พลังงานโดยรวมเพิ่มถึง 150 แคลอรี่และน้ำตาลอีก 26 กรัมโอย น่ากลัวยิ่งกว่าผีหลอกอีกนะ!

ซื้อโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไร้ไขมัน (เช่นโยเกิร์ตบัลแกเรียที่มีขายในซูเปอร์ทั่วไป) เติมความหวานสักเล็กน้อยด้วยผลไม้สดหรือน้ำผึ้งถ้าเธอทนรสเปรี้ยวได้ กินกรีกโยเกิร์ตสดๆ ไปเลยดีที่สุด!เพราะโยเกิร์ตชนิดนี้น้ำตาลน้อยโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่มีโปรตีนเพิ่มเป็นสองเท่า! ทำให้เธออิ่มได้นานขึ้นค่ะ



9. ซูชิ (อาหารญี่ปุ่น)

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F1558%2F80ee6ee3-daac-4562-9858-b4f0f4c7238e.png?v=20240306102313&ratio=0.781

ถ้าคำว่าอาหารญี่ปุ่นของเธอหมายถึงแค่ “ปลาดิบ” ก็แทบไม่กระเทือนแคลอรี่สักเท่าไหร่ แต่ถ้าคิดจะกินซูชิ ข้าวปั้นม้วนโรลแท่งยาว บีบมายองเนส ครีมชีสเป็นสายยาว ปูอัด ปลา ไข่ทั้งหลายเห็นอะไรนั่นไหม กองทัพแคลอรี่ไงล่ะ!นี่ไม่นับถึงเครื่องเคียงอย่างเทมปุระกุ้ง (เทมปุระ = แป้งทอด คิดดูว่าไขมันเยอะขนาดไหน)และไหนจะข้าวขาวอัดเป็นก้อนโตๆนั่นอีกล่ะ โอย สยอง! อย่าลืมน้ำจิ้มอย่างซีอิ๊วด้วย เพราะโซเดียมสูงปรี๊ด ทำให้ตัวบวม ท้องอืดไปตามๆ กัน!

กินแค่ปลาดิบ (ซาชิมิ), ซูชิข้าวกล้อง หรือซูชิธรรมดานี่แหละ แต่บีบครีม บีบมายองเนสให้มันน้อยๆ ลงหน่อยก็พอ!



10. แซนด์วิชม้วน (Sandwich wraps)

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F1558%2F14d588bb-0ccb-4e54-a028-033a941c2c39.jpeg?v=20240306102313&ratio=0.719

อาหารยังชีพของสาวๆ วัยเรียนแทบทุกคน! แซนด์วิชม้วน ทำจากขนมปังสองแผ่นประกบกัน ใส่ไส้แล้วก็ม้วนๆ พกไปอร่อยที่ไหนก็ได้พลังงานก็คงไม่เยอะหรอกน่า ใช่ไหม (กำลังปลอบใจตัวเองอยู่) เสียใจด้วยค่ะที่คิดผิด!ไส้ข้างในแซนด์วิชเนี่ยแหละตัวดีถึงจะใช้ขนมปังแบบโฮลวีตก็ไม่เกิดผล เช่นแซนด์วิชม้วนไส้ผักโขม ให้พลังงาน 210 แคลอรี่ มีไขมัน 5 กรัม มีโซเดียมที่ทำให้หน้าท้องบวมเป่งถึง 440 มิลลิกรัมอื้อหือ! นี่ยังไม่ใส่เครื่องโรยหน้าอะไรเพิ่มเลยนะตัวเธอว์!

เราเข้าใจว่าจะให้เลิกกินแซนด์วิชคงยาก เพราะสาวๆ คงไม่มีเวลามานั่งโต๊ะกินข้าวทุกวันเธอสามารถคุมแคลอรี่ได้ด้วยการใช้แป้งขนาดเล็กลงหน่อยถ้าซื้อแซนด์วิชโฮลวีตตามร้านก็ดูดีๆ ว่าเป็น“โฮลวีต 100%”จริงๆ และข้อสุดท้ายจำไว้ว่า“แป้งห่อผสมผัก”คือแป้งขาวที่ใส่ผักลงไปผสมเพียงเล็กน้อย และใส่สีผสมอาหารให้ดูเหมือนใส่ผักเยอะเท่านั้น!กินผักสดๆ ไปเลยยังดีกว่าอีก TwT





--------------------------------------เป็นอย่างไรบ้างเมื่อรู้พลังงานที่แท้จริงของเมนูที่เธอกินอยู่ทุกวัน สยองขวัญกันไปเลยใช่ไหมล่ะ! (คนเขียนก็ช็อคไม่ต่างกัน T_T)น้ำหนักบนตาชั่งไม่ลด ตัวยังพองๆ บวมๆ อยู่ ไม่ลดสักทีเป็นเพราะเรากินอาหารไม่ถูกชนิดนี่เองอาหารบางอย่างที่ขึ้นชื่อว่า“มีประโยชน์/เพื่อสุขภาพ”กลับกลายเป็นการทำร้ายสุขภาพตัวเองทันที เมื่อใส่ส่วนผสมที่ไม่จำเป็นทั้งหมดก็เพราะเธอไม่มีความรู้พื้นฐานเรื่องพลังงานและแคลอรี่นั่นเองถ้าเธอทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาหาร 5 หมู่ และขนมหวานที่ควรหลีกเลี่ยงให้ชัดเจน เธอจะเลือกใส่ไส้ต่างๆ และเครื่องเคียงในอาหารได้ดีมากขึ้นคราวนี้หุ่นผอมๆ ก็ถามหาแล้วค่ะ

ถ้าเธอโล่งใจเพราะคิดว่าไม่มีอาหารโปรดของเธอในลิสต์ คิดผิดแล้วล่ะค่ะ!รายการในบทความนี้มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เราจะไปลุยกันต่อที่ภาค 2 ในบทความหน้าคอยติดตามกันด้วยนะคะ สาวซิสต้า แล้วพบกันเร็วๆ นี้ค่ะ! ^____^--------------------------------------







บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้