วันนี้เรามีบทความ“ 7 เหตุผลที่สมาร์ทโฟนทำให้เธออ้วนขึ้น ”ให้เธออ่านและนึกทบทวนว่าตรงกับชีวิตฉันบ้างไหมนะ
ถ้าใช่ก็รีบปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองด่วน ก่อนที่จะสายเกินแก้!
(ノ)ω(ヾ)
ยุคนี้เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย อะไรๆ ก็ต้องรวดเร็วทันใจ ไม่อย่างนั้นจะพูดกับชาวบ้านไม่รู้เรื่อง!เครื่องมือสื่อสารอย่างหนึ่งที่ทำให้เรารู้ข่าวสารทั่วโลกได้ในพริบตาเดียวจะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก“ สมาร์ทโฟน ”หรือโทรศัพท์มือถือที่มีออฟชั่นมากมาย ทั้งการแชท เข้าอินเตอร์เน็ต เล่นเกมออนไลน์ ทำให้ชีวิตวัยรุ่นง่ายขึ้นเป็นกอง
เทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้เราไม่ต้องลำบากเหมือนแต่ก่อน แค่มีแพกเกจอินเตอร์เน็ต ( หรือ wi-fi) ก็สามารถเชื่อมต่อเข้าเว็บไซต์ แชร์ลิงค์ให้เพื่อน ตามข่าวจากอีกซีกโลกได้เหมือนอยู่ใกล้ชิดติดขอบสนาม
แต่เพราะความ “ ง่าย “ นี่แหละ ทำให้เธออ้วนขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
ลองสังเกตตัวเองว่า หลังจากมีสมาร์ทโฟนในมือ ชีวิต ( และน้ำหนัก ) ของเธอเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหนเริ่มมีอาการหวาดกลัวตาชั่งแล้วหรือยังเอ่ย
1. ใช้เวลาอยู่กับมือถือมากเกินไป!
มีเวลาจ้องหน้าจอ แต่ไม่มีเวลาออกกำลังกายซะงั้น! ยิ่งช่วงนี้ที่เวลาเป็นเงินเป็นทองแบบนี้ มีข้อแก้ตัวได้ตลอดเวลาไปโยคะ ไปฟิตเนสเหรอ เลื่อนไปก่อนละกัน อ้าว มีเสียงตี๊ดๆ ทวิตเตอร์แจ้งเตือนข่าวใหม่นี่นา มีคนทักแชทเฟสบุ๊คมา ต้องรีบไปดูสักหน่อยแล้ว ( ทีอย่างนี้ล่ะมีเวลาขึ้นมาเชียว )บางคนถึงขั้นตั้งนาฬิกาปลุกให้เช้ากว่าปกติเพื่อเช็คข่าวในเฟสบุ๊ค ไอจี อีเมล์ของตัวเองโดยเฉพาะ กำลังดูดวงประจำวันอยู่เพลินๆมองเวลาอีกที เฮ้ยสายแล้ว!
มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเบย์เลอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ค้นพบว่านักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัยใช้เวลากับสมาร์ทโฟนถึง 10 ชั่วโมง/วัน ( นักศึกษาชายใช้เวลา 8 ชั่วโมง )ซึ่งเป็นตัวเลขที่เยอะมากจนน่าตกใจ!วางมือถือลงซะแล้วไปออกกำลังกายบ้างดีกว่านะ คุณแม่ขอร้อง!
2. นอนอืดอยู่บนโซฟา อ่านโซเชียล เล่นเกมทั้งวัน!
จะออกไปข้างนอกให้เหนื่อย ร้อนทำไม ในเมื่อโลกความบันเทิงทั้งใบมันอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว! สาวๆ ( จอมขี้เกียจ ) หลายคนอาจแย้งแบบนี้แค่เข้าแอพสโตร์หรือต่อจอยสติ๊ก ก็มีเกมเป็นแสนเป็นล้านให้เลือกเล่น ทั้งปีจะเล่นหมดหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ไหนจะข่าวบันเทิงที่ต้องคอยอัพเดทตลอดเดี๋ยวตกเทรนด์นอนกลิ้งอยู่บนโซฟาทั้งวันก็ยังได้!จะว่าอยู่คนเดียวไม่ได้นะจ๊ะ เกมที่เล่นตอนนี้ก็เล่นกับเพื่อน แค่เป็นแบบออนไลน์เท่านั้นเอง กดดูคลิปที่เพื่อนถ่ายนี่ ไม่ไร้สังคมสักหน่อยโอเค เธออาจมีสังคม ( ที่เห็นแต่หน้าจอ ) กับเพื่อน แต่พฤติกรรมแบบนี้เรียกว่าขี้เกียจ ขึ้นอืดต่างหาก!
หนังสือพิมพ์ USA Today รายงานถึงปรากฎการณ์ “ วัยเด็กที่อยู่แต่ในบ้าน ” แสดงถึงพฤติกรรมของเด็กยุคใหม่ที่จำนวนการทำกิจกรรมกลางแจ้งลดลงจนน่าตกใจเช่น ปั่นจักรยาน วิ่งเล่น หรือเล่นบาสเกตบอล ฟุตบอลในสนาม ทั้งโรคอ้วนในเด็กที่เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสองเท่าในรอบ 30 ปีที่ผ่านมารายงานปี 2014 แสดงว่าวัยรุ่นระหว่าง 12-17 ปีถึง 80% มีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง ซึ่งจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าปี 2012 ถึงสองเท่าเลยล่ะ!
3. มือถือทำให้เธอเสียสมาธิ วอกแวก!
สาวบางคนก็ยอมพาร่างอวบๆ ลุกจากโซฟาแล้วหันหน้าเข้าหาฟิตเนส แต่ก็ยังมิวายเอาสมาร์ทโฟนติดมือไปด้วยเช่น เอาไปฟังเพลงระหว่างที่วิ่งบนลู่อย่างเพลิดเพลินกว่าจะรู้ตัวอีกที แพกเกจอินเตอร์เน็ตที่สมัครไว้ก็ทำให้เธอสติแตก เพราะแทนที่จะได้ฟังเพลงสงบๆ กลับมีการแจ้งเตือนจากแอพโน้นแอพนี้เข้ามาเต็มไปหมดคนนี้มาไลค์รูป วันนี้วันเกิดเพื่อน คนนี้แชทมามีเรื่องด่วนจะคุยในที่สุดเธอก็กดปิดลู่วิ่งและแชทกับเพื่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย เอาเงินค่าสมัครฟิตเนสมาทิ้งฟรีๆ ซะงั้น!
วารสารทางจิตวิทยาสังคมรายงานถึงการศึกษานักเรียน 50 คนให้ทำงานโดยที่มีมือถืออยู่ใกล้ๆ และอีก 50 คนเก็บมือถือให้ไกลสายตายิ่งให้ทำงานที่ซับซ้อนมากเท่าไหร่ กลุ่มที่มีมือถือใกล้ตัวจะยิ่งทำงานแย่มากเท่านั้นนักวิจัยพบว่าวัยรุ่นที่เห็นมือถือใกล้มือจะอยากกดไปดูนั่นดูนี่ตลอดเวลา ทำให้เกิดการลอกแลก เสียสมาธิได้
4. ทำให้ชีวิตประจำวันของเธอช้าลงโดยใช่เหตุ!
คิดไปแล้วก็น่าตลก เครื่องมือสื่อสารที่ทำให้ชีวิตเธอเร็วขึ้น ถ้าใช้ไม่ถูกทางอาจทำให้ผลลัพธ์กลับกันจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยก็ได้!มีงานวิจัยค้นพบว่าคนเดินเท้า เดินช้าลง 33% เมื่อใช้สมาร์ทโฟนระหว่างเดินไปด้วยถ้าเธอคิดจะออกกำลังกายด้วยการเดิน แต่จิตใจยังลอกแลกอยู่กับการพิมพ์แชทหาคนนู้น คอมเม้นท์คนนี้ การเดินของเธอจะได้ผลน้อยกว่าการเดินอย่างจริงจังก็เดินๆ หยุดๆ แบบนี้ เมื่อไหร่จะผอมล่ะจ๊ะ
ประเด็นเรื่องความปลอดภัยก็ไม่ควรมองข้ามมีงานวิจัยค้นพบว่าคนที่เล่นสมาร์ทโฟนระหว่างขับรถมีสิทธิ์ลืมดูสัญญาณดวงไฟ ลืมจอดให้คนข้ามทางม้าลาย หรือลืมดูสภาพการจราจรเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่า!ถ้ามีใครในบ้านทำแบบนี้ก็ตักเตือนกันด้วย แยกเวลาขับรถกับเวลาเล่นมือถือให้ชัดเจนเพราะนอกจากจะเกิดอุบัติเหตุกับตัวเองแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อผู้อื่นอีกด้วยนะ
5. มีแอพแต่งรูปแล้ว ไม่ต้องผอมก็ได้!
ด้วยเทคโนโลยีทุกวันนี้ เราสามารถ “ สร้าง ” และ “ ดัดแปลง ” ความประทับใจแรกพบของผู้อื่นที่มีต่อเราได้สบาย ด้วยโปรแกรมมากมายที่มีในมือถือ!หลายคนที่ไม่คิดจะพบคนใหม่ๆ ด้วยการเจอตามท้องถนนหรือร้านอาหาร ห้องสมุดอีกแล้ว ไปคุยกันในโปรแกรมแชทออนไลน์ สะดวกกว่าตั้งเยอะ!เห็นใครหน้าตาหล่อถูกใจจากเพจ มีคนทิ้งลิงค์ไว้ให้ก็แอดไปจีบรัวๆ ถ้าไอจีเปิดเป็นสาธารณะก็เข้าไปส่องได้ยันรูปแรกที่อัพ โอย ชีวิตสะดวกสบายสุดๆ
โซเชียลมีเดียเหล่านี้มักบอกตัวตนของเจ้าของได้ง่ายๆ เพราะมีการให้กรอกความชอบ รสนิยมด้านต่างๆ เราจึงสามารถคาดเดาตัวตนของคนที่เราไม่รู้จักได้ และสามารถเข้าหา หรือจีบได้ถูกทางมากขึ้นยังไงล่ะ!
นอกจากวิธีหาคู่แบบนี้จะ “ ไม่ปกติ ” เพราะไม่ใช่การหาคู่โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้ว เธอยังทำให้รูปถ่ายตัวเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอ “ ไม่ปกติ ” ไปด้วยเธอใช้สารพัดแอพพลิเคชั่นในการบีบ อัด ปรับสี ปรับแสงให้ตัวเองดูมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งเกินตัวจริงไปร้อยเท่ารูปสาวสวยที่หนุ่มๆ เห็นอาจถูกดึง ยืดมาแล้วจนไม่เห็นเค้าตัวจริงเลยก็ได้ ถ้าเธออ้วน แค่บีบหน้า หรือใช้มุมกล้องสักหน่อยก็ผอมสวย แต่ตัวจริงแทบจะกลิ้งแทนเดินอยู่แล้ว!
6. จะสั่งอาหารมาส่งที่บ้านเมื่อไหร่ก็ได้ !
เธอลืมคุณสมบัติพื้นฐานของโทรศัพท์มือถือไปแล้วหรือยัง ไว้ใช้โทรสั่งอาหารไงล่ะ!ไม่ต้องบากหน้าขับรถไปที่ร้านอาหารไกลบ้านอีกต่อไป ในเมื่อสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่เอาก็ได้ ทั้งรวดเร็ว ทันใจ ไม่ต้องโมโหกับรถติด อาหารที่ได้ก็ยังร้อนๆเช่น พิซซ่า ไก่ทอด เบอร์เกอร์และเฟรนช์ฟรายขนาดใหญ่ไม่ต้องไปเปิดหาเบอร์ในสมุดโทรศัพท์ หรือไม่ต้องจำเบอร์โทรด่วนสี่ตัวก็ยังได้ ก็เดี๋ยวนี้เขามีให้สั่งออนไลน์แล้วนี่นาบางทีเห็นรูปคนมาโพสต์ของกินตอนดึก อดใจไม่ไหว เข้าเว็บสั่งพิซซ่าซะเลย
มีงานศึกษาวิจัยจากต่างประเทศว่า ลูกค้าที่สั่งอาหารฟาสต์ฟู้ดทางออนไลน์ 69% สั่งอาหารผ่านโทรศัพท์มือถือแค่แตะคำว่า “ สั่ง ” จากปลายนิ้ว อาหารก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าแล้วถ้าไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเองล่ะก็ คนที่ใช้ชีวิตไม่เป็นเวลาจะยิ่งอ้วนง่ายขึ้นเพราะสั่งของมากินเมื่อไหร่ก็ได้ ( บางยี่ห้อเปิด 24 ชั่วโมง ) แล้วหุ่นผอมบางก็หายไปกับสายลม อาเมน!
7. เชื่อแอพพลิเคชั่นฟิตเนสในมือถือมากไป!
สาว Sista หลายคนอาจจะร้องเอ๊ะ! ทำไมเชื่อแอพฟิตเนสไม่ได้ล่ะ เขาผลิตแอพแบบนี้ขึ้นมาเพื่อทำให้คนรุ่นใหม่สุขภาพดีขึ้นไม่ใช่เหรอ!เมื่อเราปักใจเชื่อคำแนะนำทุกอย่างในแอพแล้ว เราก็ลืมวิธีดูแลสุขภาพในชีวิตจริงเสียสนิทโดยไม่รู้ตัว แม้สิ่งนั้นไม่ค่อยน่าเชื่อนักก็ตามเช่น ในแอพไดเอทจะมีให้กรอกอายุ น้ำหนัก ความหนักในการออกกำลังกาย บอกว่าวันนี้ต้องกินกี่แคลอรี่ถึงจะลดน้ำหนักได้ในเวลาเท่านี้ๆ แต่ชีวิตจริงมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น!
ร่างกายของคนเรามีตัวแปรไม่เท่ากัน บางคนอาจลดไม่ได้ตามเป้าเพราะปัจจัยหลายอย่าง กินหนักไป ออกกำลังน้อยไป หรือวิดีโอสอนเต้น แม้จะละเอียดแค่ไหนก็สู้ไปเข้าคลาสจริงๆ ไม่ได้เพราะการเจอตัวจริง เราจะเรียนรู้ท่าเต้นที่ถูกต้องได้มากกว่า
เราจะเข้าใจเรื่องของสารอาหารบิดเบือนได้ หากใช้แอพที่ไม่ละเอียดพอเช่น เธอใช้แอพจำกัดแคลอรี่ แต่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสารอาหารเลยระหว่างผลไม้สดกับขนมหวานในจำนวนแคลอรี่เท่ากัน เธอก็เลือกกินขนมอย่างไม่รีรอ แต่สารอาหารต่างกันลิบลับ!หากใช้แอพพวกนี้ลดน้ำหนัก ก็ต้องรู้จักเลือกให้ดีด้วยนะคะ เดี๋ยวจะอ้วนแทนผอม!
====================================เทคโนโลยีไม่ใช่สิ่งผิดหากใช้ให้ถูกทาง! คอยตามข่าวสารจากสื่อออนไลน์ไม่ใช่สิ่งผิด เพราะทำให้เรารู้เท่าทันสถานการณ์บ้านเมือง แต่บางคนหลงลืมไปว่าร่างกายมนุษย์ยังต้องการช่วงเวลาเล่นกีฬา ออกกำลังกาย อยู่กับธรรมชาติมากกว่าจ้อง จิ้ม รูดหน้าจอแต่เพียงอย่างเดียว!วัยรุ่นหลายคนที่ห่างเหินกับครอบครัวและไม่มีเพื่อน เพราะมีโลกส่วนตัวอยู่แต่กับมือถือ รู้ตัวอีกทีก็มองพ่อแม่เหมือนคนแปลกหน้า อารมณ์ฉุนเฉียว รุนแรงจนยากจะแก้ไขไปเสียแล้ว
ที่สำคัญการนั่งแช่นานๆ อยู่ท่าเดียวทำให้ไม่เกิดการเผาผลาญพลังงานเลย ยิ่งนั่งไปด้วยกินไปด้วยอีกไม่นานเธออาจต้องเสียเงินมากมายเพราะโรคอ้วนก็เป็นได้!
เป็นสาว Sista ต้องแบ่งเวลาให้เหมาะสม รักจะอินเทรนด์แล้วก็ต้องดูแลสุขภาพกายและใจให้ดีควบคู่ไปด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่ะo＜´ω｀＞o====================================
