สาวซิสต้ากับขนมหวานน่ะเป็นของคู่กัน! จะมีใครห้ามใจไหวกับเค้ก คุกกี้แสนอร่อยด้วยหรือ
แค่ได้กลิ่นหอมๆ ของเค้กอบใหม่ กลิ่นช็อกโกแลตละลายเยิ้มๆ วิปปิ้งครีมหอมมันที่เคลือบหน้าเค้ก
วันนี้เรามีสูตรเค้กใหม่จากเว็บไซต์สุดเก๋ Littlemissbento ที่ได้แรงบันดาลใจจากขนมกินเล่นที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ยกเป็นหนึ่งในดวงใจ นึกอะไรไม่ออกก็ซื้อมากินอย่าง " ป๊อกกี้ "
ขนมปังกรอบแท่งรสอร่อยที่มีทั้งรสช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รี่ บานาน่าช็อคโก และนม นำมารวมกับเค้ก!
โห จะเป็นแบบไหนนะ ไปดูกันเลยค่ะว่าต้องทำยังไงบ้าง รับรองว่าอร่อยถูกใจชัวร์ๆ (ﾉ∀｀)
ส่วนผสม ( เนื้อเค้ก )
แป้งเค้ก 140 กรัม
น้ำตาล 140 กรัม
ไข่ขนาดกลาง ( น้ำหนักประมาณ 55 กรัม ) 4 ฟอง ปล่อยให้เย็นในอุณหภูมิห้อง
เนยจืด 20 กรัม
นม 50 มิลลิลิตร
น้ำมันสลัด 20 กรัม
เมล็ดวานิลลาจากฝัก 1/2 ฝัก
ส่วนผสมไส้ด้านใน / วิปครีม
วิปปิ้งครีม 400 มิลลิลิตร
น้ำตาล 20 กรัม
เหล้าเชอร์รี่ ( Kirsch ) 1 ช้อนโต๊ะ
สตรอว์เบอร์รี่ตามชอบ
ส่วนผสมสำหรับน้ำเชื่อม
น้ำเปล่า 70 มิลลิลิตร
เหล้าเชอร์รี่ ( Kirsch ) 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 20 กรัม
ส่วนผสมสำหรับตกแต่ง
ป๊อกกี้ ( เลือกรสตามชอบได้เลย! )
มาเริ่มทำเค้กป็อกกี้แสนอร่อยกันเลย! ❀(*´◡`*)❀
เตรียมตัวก่อนทำเค้ก
* ละลายเนยและนมให้ร้อน จะใส่เมล็ดวานิลลาลงไปก็ได้ ทำให้เนื้อเค้กมีรสชาติ เคี้ยวกรุบกรอบมากขึ้นค่ะ
* ใช้ส้อมหรือที่ตีไข่ ตีไข่และน้ำตาลในชาม โดยวางชามบนตะแกรงที่มีหม้อต้มน้ำเดือดอยู่ น้ำต้องมีอุณหภูมิสูงประมาณ 60 องศาเซลเซียสหรือจนกว่าเธอจะเห็นไอน้ำพวยพุ่งออกมา ตีต่อไปเรื่อยๆ มิฉะนั้นไข่จะสุกเสียก่อนผสมเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำตาลค่ะ
เนื้อเค้ก ( เนื้อ Sponge )
1. จากส่วนผสมไข่ข้างต้น รีบเทลงไปในชามผสม แล้วใช้เครื่องผสมอาหาร / ที่ตีไข่ตีไข่กับน้ำตาลด้วยความเร็วสูงสุด จนส่วนผสมกลายเป็นสีเหลืองอ่อน เป็นครีมข้นๆ ( Ribbon stage )
2. เปลี่ยนเครื่องตี เคาะใบมีดด้านข้างชามเหล็กเพื่อให้ส่วนผสมหลุดร่อนออกมา
3. เปลี่ยนใบมีด ใช้ใบมีดตีไข่แบบซิลิโคนแทน
4. ร่อนแป้งเค้กกับตะแกรง
5. ตีส่วนผสมในความเร็วระดับปานกลาง ( 3 ) เพื่อทำให้แป้งห่อตัวกัน อย่าตีเยอะจนเนื้อเหลวล่ะ
6. ตักส่วนผสมเล็กน้อยจากชาม ใส่ชามที่มีเนยละลาย นม น้ำมันสลัดและเมล็ดวานิลลา ตีให้เข้ากัน แล้วเททุกอย่างรวมลงไปในชามผสมอีกครั้ง ตีต่อในความเร็วระดับปานกลาง ( 3 ) จนกว่าจะได้เนื้อที่เนียนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีก้อน หรือเศษเนย / นม / อื่นๆ ย้ำอีกครั้งว่าอย่าตีแรงจนเนื้อเหลว
7. ปูถาดอบเค้กด้วยกระดาษไขอบขนม เทส่วนผสมลงไป อบที่อุณหภูมิ 170-180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที
8. หลังจากอบเค้กแล้ว นำออกจากเตาอบ รีบวางเค้กลงในถาดดีบุก ตรงส่วนสูงที่หน้าเคาน์เตอร์ครัว พลิกหน้าเค้กหันขึ้น ผึ่งบนตะแกรงรอให้เค้กเย็นตัว วิธีนี้ทำให้เค้กไม่หดตัวลง
9. เมื่อเค้กเย็นตัวลง ใช้มีดสไลด์เค้กเป็น 2 ชั้น แล้วลอกชั้นนอกที่ไหม้เป็นสีน้ำตาลออกไป ให้เหลือแต่เนื้อเค้กสีเหลืองค่ะ การทำเนื้อเค้กเป็นอันเสร็จพิธี!!!
วิปครีม
10. เติมวิปปิ้งครีม เหล้าเชอร์รี่และน้ำตาลลงไปในชามผสม ตีด้วยความเร็วสูงสุดจนเนื้อฟูถึงขีดสุด ( Peaks Stage ) แล้วทิ้งให้เย็นตัวลง แค่นี้ก็ได้วิปครีมแล้ว!
น้ำเชื่อม
11. ตั้งไฟให้ร้อน อุ่นน้ำเปล่าและน้ำตาลในหม้อ จนกระทั่งน้ำตาลละลาย ปล่อยให้เย็น แล้วเติมเหล้าเชอร์รี่ลงไป ได้น้ำเชื่อมแล้ว!
ขั้นตอนประกอบร่างเค้กป๊อกกี้
12. ใช้แปรงทาน้ำเชื่อมให้ทั่วเนื้อเค้ก ใช้สปาตูล่าปาดวิปปิ้งครีม เกลี่ยให้ทั่ว แล้ววางสตรอว์เบอร์รี่ตกแต่งโรยหน้า
13. ตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีมอีกหน่อย แล้วใช้สปาตูล่าปาดให้กลบสตรอว์เบอร์รี่มิด
14. ทาน้ำเชื่อมบนชั้นนอกสุดของเค้ก ทาให้ทั่วทั้งชั้นบนชั้นล่าง ตั้งชั้นบนสุดด้วยสปองจ์เค้ก แล้วปิดด้านข้าง ตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีม นำเข้าตู้เย็นเป็นเวลา 30 นาที
15. นำออกจากตู้เย็น ตักวิปปิ้งครีมโปะใส่เค้กอีก ทาชั้นหนาๆ ให้เค้กทั้งก้อนห่อหุ้มไปด้วยครีมเลย
16. จัดเรียงแท่งขนมป๊อกกี้ให้รอบด้านข้างของตัวเค้ก ปักผลสตรอว์เบอร์รี่ไว้ตรงกลาง
17. ทาซอสเคลือบเงาบนผลสตรอว์เบอร์รี่เพื่อทำให้เค้กดูหรู เงางามยิ่งขึ้น เจ้าของสูตรแนะนำให้ผูกริบบิ้นเพื่อยึดให้ป๊อกกี้ไม่หล่นและตั้งเป็นแท่งได้อย่างสบายๆ วิธีนี้ช่วยทำให้ยกเค้กไปไหนมาไหนได้สะดวกด้วยนะ ( ในกรณีที่ทำเค้กส่งลูกค้าตามบ้าน )
เค้กป๊อกกี้หน้าหวานๆ รสอร่อย มาแล้วจ้า ❀(*´◡`*)❀
==================
โอ้โห น่ากินฝุดๆ น้ำลายสอแล้วนะเนี่ย!แค่ขนมป๊อกกี้กินเล่นก็อร่อยแล้ว เอามารวมร่างกับเค้กเนื้่อสปองจ์แสนอร่อย โปะด้วยวิปปิ้งครีมอย่างนี้ น่าเอาไปทำเป็นเค้กวันเกิด หรือขนมในงานปาร์ตี้ รับรองว่าเพื่อนฮือฮา! แม้จะมีขั้นตอนการทำซับซ้อน ยุ่งยากสักเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะว่าผลตอบแทนคุ้มค่า
แค่ตักเข้าปาก รสชาติอร่อยๆ จะทำให้เธออยากกินคำที่สอง คำที่สาม และคำที่.. ( พอๆ เค้กจะหมดก้อนแล้ว! )ได้สูตรแล้วอย่าลืมไปลองทำกินล่ะ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะคะ บ๊ายบาย ^W^
==================
