นี่มันวันอะไรกันเนี่ย ทำไมฉันถึงโมโหได้ง่ายดายเพียงนี้ แล้วพอจะมีวิธีไหมค่ะ ที่ช่วยให้ฉันลดอารมณ์ที่สูงปริ๊ดแบบนี้ลงมาได้ ?!?

ความโกรธนั้นไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยนะคะ ลองคิดดูค่ะ...เราต้องมาเสียอารมณ์กับเรื่องอะไรก็ไม่รู้ แทนที่จะยิ้มอย่างมีความสุข ชีวิตคนเราไม่ได้ยืนยาวเท่าไหร่นะคะ ฉะนั้นเรามาหาทางระงับความโกรธกันดีกว่า เพื่อทำให้วันทั้งวันดูสดใสมากกว่าเดิมเนอะ!!

หากเราหงุดหงิดหรือโมโหล่ะก็...หัดมองธรรมชาติรอบตัวเสียบ้าง จะได้รู้สึกดี และทำให้ผ่อนคลาย
แถมรู้สึกใจเย็นลงยิ่งขึ้นอีกด้วย

บางครั้งเสียงเพลงก็ช่วยเราได้มากจริงๆ ไม่เชื่อลองทำดูนะคะ เวลาที่เราโกรธ หรือโมโหใคร หยิบหูฟังและเปิดเพลงโปรดที่เราชื่นชอบ รับรองโลกนี้จะสดใสขึ้นมาเลยค่ะ แถมสามารถทำให้ใจเย็นลงได้อย่างไม่น่าเชื่อด้วย

บางครั้งการได้พาตัวเองไปสูดอากาศบริสุทธิ์ในช่วงวันหยุด ก็น่าจะทำให้เราหายโมโหได้ค่ะ เพราะการที่เราได้เปลี่ยนสถานที่ ออกไปดูความสวยงามของโลกภายนอกนั้น ก็เท่ากับว่า เราได้มองโลกในมุมที่ต่างออกไป ฉะนั้นหัดพาตัวเองออกไปสู่ธรรมชาติกันบ้างนะคะ

นี่เป็นวิธีผ่อนคลายที่ง่าย และไม่ต้องลงทุนเลยค่ะ การหายใจเข้า-หายใจออกช้าๆ นี่ สามารถทำให้อารมณ์ของเรานั้นเย็นลงได้อย่างเหลือเชื่อ เอาไปลองกันดูนะคะ ( หากใครจะนับ 1-100 ไปด้วยก็ไม่ว่ากันค่ะ ) ^^

บางครั้งเราอยู่ในที่เดิมๆ งานเดิมๆ คนเดิมๆ สิ่งแวดล้อมเดิมๆ มันก็ทำให้เราเครียดนะคะ เวลามีเรื่องอะไรมาปะทะนิดหน่อย อารมณ์ก็ปริ๊ดขึ้นมาทันที ฉะนั้นหัดลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย ผ่อนคลายบ้าง จะทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวดีขึ้นค่ะ

ลองหาเวลาไปทำสมาธิบ้าง หลับตาเพื่อทบทวนสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น และผ่อนคลายอารมณ์ไม่ให้ฟุ้งซ่าน รับรอง...เพียงเท่านี้ความโกรธทั้งหมดเย็นลงได้อย่างแน่นอนค่ะ

หากเรารู้สึกโกรธ หรือโมโหใคร ก็อาจมีบ้างที่เราอยากระบายให้ใครได้รับรู้ ฉะนั้นไดอารี่เลยค่ะ เหมาะที่สุด รับรองพอเขียนออกมาหมดแล้ว เราจะรู้สึกโล่งขึ้นมาทันที ความโกรธที่มีก็เบาบางลงด้วยค่ะ ลองดูนะ

เพียงเท่านี้เราก็น่าจะระงับความโกรธ และบรรเทาความโมโหที่มีได้แล้วล่ะค่ะ ฉะนั้นเมื่อหายโกรธเมื่อไหร่อย่าลืมคิดทบทวนกันอีกทีนะคะ ว่าตั้งแต่เวลาที่เราโกรธ จนหายโกรธเนี่ย เราเสียเวลากับสิ่งนี้ไปเท่าไหร่แล้ว หากรู้แล้วว่า มันเสียเวลา ครั้งหน้าก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองกันเถอะนะคะ