เวลาที่สาวๆ ไม่อยากให้มาถึงเกิดขึ้นอีกแล้ว ใช่ค่ะ!“ประจำเดือน”ไงล่ะ เธอคงบ่นและโอดครวญว่าเจ้าประจำเดือนนี่มีดีตรงไหน นอกจากจะมาถี่ๆ ทุกเดือน ยังทำให้อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดท้องจนทำได้แค่นอนกลิ้งไปมาบนเตียง หิวง่าย หน้าท้องบวม หงุดหงิด โมโหง่ายจะผิดใจกับเพื่อนกับแฟนก็หลายครั้งควบคุมอารมณ์ไม่ได้ พอเดือนหน้าก็เป็นอย่างเดิมอีก
อาการเหล่านี้เรียกว่า “ PMS “ หรืออาการก่อนมีประจำเดือนเป็นการปวดเกร็งของมดลูกที่ผิดปกติเพราะมีเลือดออกทางช่องคลอดนั่นเอง สาเหตุคือในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนและโพรแลกตินที่ไม่สมดุล บวกกับการบีบรัดทำให้รู้สึกไม่สบายตัวหากไม่ค่อยออกกำลังกาย ร่างกายจะยิ่งอ่อนแอ ทำให้อาการกำเริบหนักขึ้นบางรายมีอาการฮอร์โมนแปรปรวนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายเลยทีเดียวล่ะ!
วันนี้เราจึงขอเสนอหนทางลดการปวดประจำเดือนด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ต้องเสียเงิน แค่ยืดแขนเหยียดขา บริหารร่างกายสักนิดด้วยวิธีที่เรียกว่า “โยคะ” เพียง 4 ท่าเท่านั้นโยคะเป็นการออกกำลังกายที่เกี่ยวกับการกำหนดลมหายใจเข้าออก หากกำหนดจุดสมดุลได้เธอก็เล่นโยคะได้สบายมาดูกันว่าต้องทำยังไงบ้าง
ประโยชน์ของโยคะ
ให้ผลดีทั้งร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ
ช่วยพัฒนาการยืดหยุ่นและความสมดุลของร่างกาย
ช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก
เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายและการไหลเวียนของเลือด
ลดความดันในเลือด ตึงเครียดน้อยลง ผ่อนคลายมากขึ้น
ช่วยลดการปวดประจำเดือน และอาการ PMS ในผู้หญิง!!!
1. ท่า “Balasana” ( โยคะท่าเด็ก )
ยืนสี่เท้าบนเสื่อ ( ไหล่อยู่เหนือข้อมือ กระดูกสะโพกอยู่เหนือเข่า ) ค่อยๆ ลดก้นลงไปที่ข้อเท้า ฟุบหน้าผากลงไปกับพื้น อ้าเข่าให้กว้าง แล้วเหยียดแขนออกไปข้างหน้า หายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกช้าๆ ครั้งละ 6 – 10 ครั้ง
ท่านี้ดียังไง : ท่าเด็กจะเน้นที่ต้นขา แต่ช่วยบรรเทาปวดที่หลัง ไหล่ คอและสะโพกได้ค่ะ
2. ท่า “Padahastasana” ( ท่าก้มตัวมือแตะพื้น )
ยืนหน้าเสื่อ เท้าแยกกันระดับไหล่ หายใจเข้า ชูแขนขึ้นเหนือศีรษะ หายใจออกขณะก้มลงใช้มือแตะพื้น ถ้ามือไม่ถึงพื้น ใช้นิ้วโป้งและนิ้วกลางจับนิ้วเท้าไว้ ค้างท่านี้ไว้ประมาณลมหายใจ 5-10 รอบ (หายใจเข้า 6 -10 ครั้ง และหายใจออก 6 – 10 ครั้ง) ย้อนกลับมาท่ายืน หายใจเข้าช้าๆ ทำซ้ำอีก 3 – 5 ครั้ง
ท่านี้ดียังไง : ช่วยยืดหยุ่นและผ่อนคลายทั้งร่างกายเลย!
3. ท่า “Setu Bandasana” ( ท่าครึ่งสะพานโค้ง )
นอนราบบนเสื่อ เงยหน้าขึ้น งอเข่า ใช้สะโพกดันตัวขึ้น กดส่วนเท้าทั้งหมดลงกับพื้นและให้ปลายนิ้วสัมผัสหลังข้อเท้าให้ได้ ประสานมือหลังลำตัวเพื่อทรงตัวให้อยู่ ค้างท่านี้ไว้ประมาณลมหายใจ 5-10 รอบ (หายใจเข้า 6-10 ครั้ง และหายใจออก 6 –10 ครั้ง) ทำซ้ำอีก 3 – 5 ครั้ง
ท่านี้ดียังไง : ช่วยผ่อนคลายระบบประสาทส่วนกลางและทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้นด้วยล่ะ
4. ท่า “Matsyasana” ( ท่าปลา)
เริ่มจากท่าศพ ( นอนแผ่บนพื้น ) วางแขนไปหลังลำตัว คล้องมือใต้ต้นขา เมื่อมือแตะพื้น หายใจเข้า ค่อยๆ ยกตัวขึ้นผ่านหัวใจและกระดูกสันอก แล้วทรงตัวโดยเกร็งตัวเองไว้กับปลายแขน บีบขาเข้าด้วยกันแล้วยกศีรษะลงไปด้านล่าง หายใจเข้าออกยาวๆ ค้างท่านี้ไว้ประมาณลมหายใจ 5-10 รอบ (หายใจเข้า 6-10 ครั้ง และหายใจออก 6–10 ครั้ง) กลับมาที่ท่าศพ ทำซ้ำอีก 3–5 ครั้ง
ท่านี้ดียังไง : ช่วยนวดอวัยวะและกล้ามเนื้อส่วนท้อง ยืดหยุ่นกล้ามเนื้อสะโพกและช่วยบรรเทาอาการปวดที่คอและไหล่ค่ะ
อ่านจบแล้วเธออาจจะร้องว่า"เอ๊ะ ทำไมเรามานอนปวดบิดไปบิดมาอยู่ได้ตั้งนาน ทั้งที่ทำท่าง่ายๆ พวกนี้ก็สบายแล้ว"อย่าเพิ่งเสียใจร้องไห้กระซิกๆ ไปล่ะตัวเอง ตอนนี้เธอรู้หนทางสู่ทางสว่างแล้วเดือนหน้าคอยนับวันไว้ให้ดี เมื่อใกล้ถึงเวลาก็จัดท่าโยคะรัวๆ แค่นี้อาการปวดท้องของเธอก็บรรเทาไปได้บ้างแล้วล่ะ
อย่างไรก็ตามอย่าลืมรักษาความสะอาดให้ดี ใส่กางเกงหรือกระโปรงสีเข้ม อย่าให้เลอะเทอะจนอับอายคนในที่สาธารณะนะจ๊ะ เตือนไว้ก่อนอิอิ =w=
4 Yoga Moves That Help Relieve Cramps
http://www.fitbie.com/get-fit/yoga-moves-relieving-cramps
บทความที่เกี่ยวข้อง
7 ท่าโยคะช่วยผ่อนคลาย สำหรับสาวนักวิ่ง!
https://sistacafe.com/summaries/1074
รวมประโยชน์ของการเล่นโยคะ เล่นโยคะนั้นดียังไง ?
https://sistacafe.com/summaries/1018
11 ท่าโยคะสำหรับผู้เริ่มต้น ท่าโยคะพื้นฐาน สำหรับผู้ฝึกใหม่!
https://sistacafe.com/summaries/1020