เชื่อว่า สาว ๆ จำนวนไม่น้อย
มีปัญหาเรื่องริมฝีปากดำคล้ำ
ซึ่งอาจเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัย แต่ที่แน่ ๆ คือมันทำให้เราไม่มั่นใจ
จ
นต้องทาลิปสติกเพื่อปกปิด และเมื่อทาเข้าไปมาก ๆ ก็ยิ่งดำ
คราวนี้อยากจะทาสีอ่อน ๆ ดูบ้างก็กลบความดำคล้ำไม่มิดซะแล้ว แย่เลย!! แบบนี้เราต้องหาวิธีจัดการซะแล้ว ต้องทำยังไงบ้าง ตามมาดูกันได้เลยค่าา
1. หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้ปากดำ
โดยส่วนใหญ่แล้วสาเหตุที่ทำให้ปากดำคล้ำ มักมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเราเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลียริมฝีปากบ่อย ๆ สูบบุหรี่เป็นประจำ ที่สำคัญก็คือต้องพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกแท่งที่ทำให้เกิดการแพ้ ทาลิปสติกที่มีสารกันแดดทุกครั้ง ก่อนออกแดด และก่อนนอนก็ให้ทาลิปบำรุงให้ชุ่มชื่น งดการใช้ยาสีฟันที่ทำให้เกิดอาการแพ้ รับประทานผักผลไม้ อาหาร หรือของหวาน ก็ควรล้างริมฝีปากตามหลังทุกครั้ง ส่วนการล้างหน้าก็ให้เน้นล้างที่ริมฝีปากไปด้วย พร้อมกับเช็ดปากให้สะอาด หากสังเกตว่าแพ้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปากก็ควรหยุดใช้ แล้วเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นทันทีนะจ๊ะ
2. ดื่มน้ำให้มากๆ
ประโยชน์จากน้ำ ใคร ๆ ก็รู้ดีว่ามีมากแค่ไหน วิธีนี้ก็ด้วยนะจ๊ะ สาว ๆ อย่าลืมดื่มน้ำให้ถึงวันละ 8 แก้วนะคะ เพราะการดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ โดยค่อย ๆ จิบน้ำไปเรื่อย ๆ ทีละนิดระหว่างวัน จะช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นได้ รับรองว่าสภาพผิวปากจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ใครที่หน้าหมองก็จะกลับมาหน้าใส ใครที่ใต้ตาคล้ำอาการก็จะดีขึ้น และใครที่ปากดำคล้ำไม่มีชีวิตชีวาก็จะดูดีขึ้นเลยล่ะจ้า
3. ใช้แปรงสีฟันเป็นตัวช่วย
หลังจากแปรงฟันเสร็จแล้ว ให้ใช้แปรงสีฟันค่อย ๆ ถูไปมาแบบเบา ๆ บริเวณริมฝีปากทั้งบนและล่างเป็นประจำทุกวัน เพื่อเป็นการช่วยขจัดเซลล์เก่าที่ตายแล้วออกไป ให้เผยผิวใหม่ทำให้ปากดูอมชมพูมากขึ้น หลาย ๆ คนทำวิธีนี้ไม่ถึงเดือนก็เห็นผลถึงความแตกต่าง นอกจากนี้เรายังมีสูตรเด็ดจากเว็บไซต์ Pantip.com จะแนะนำค่ะ คือให้แปรงไปพร้อม ๆ กับตอนแปรงฟันเลย คือแปรงฟันเสร็จแล้วก็แปรงริมฝีปากต่อทั้ง ๆ ที่ยังมียาสีฟันติดอยู่นั่นแหละ ครั้งละประมาณ 1-2 นาที ไปลองใช้ลองทำกันดูนะ อ้อ…แล้วอย่าลืมทาลิปมันหรือวาสลีนตามด้วยทุกครั้งนะจ๊ะสาว ๆ
4. ทำสครับริมฝีปาก
จะเลือกใช้สครับขัดปากที่มีขายอยู่ทั่วไป หรือจะเลือกใช้สครับขัดปากสูตรธรรมชาติก็ได้ โดยสูตรแรกนั้นให้ใช้
น้ำผึ้ง น้ำตาล และวาสลีน
อย่างละ 1/2 ช้อนชา นำมาผสมให้เข้ากันแล้วนำไปนวดวนให้ทั่วริมฝีปาก ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นให้ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดออก สูตรนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ดำคล้ำออกไป ทำให้ปากกลับมามีสีแดงระเรื่อเนียนนุ่มอย่างทันตาเห็น
ส่วนอีกสูตรให้ใช้
น้ำมะนาว น้ำนม และน้ำตาล
อย่างละ 1/2 ช้อนชา นำมาผสมให้เข้ากันแล้วนำมาทาพร้อมกันนวดวนให้ทั่วปาก หรืออาจใช้สำลีชุบแล้วพอกทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีก็ได้ ( ใครที่มีปากที่แผลควรหลีกเลี่ยงการใช้สูตรนี้ ) โดยทั้งสองสูตรนี้ให้ทำแค่สัปดาห์ละ 2 ครั้งค่ะ
5. ทาลิปบาล์มบำรุง
ทาลิปบาล์มเป็นประจำทุกวัน ยิ่งในช่วงหน้าหนาวก็ควรจะทาบ่อยขึ้น เพราะริมฝีปากมักจะแห้งแตกและลอกเป็นขุยได้ง่าย โอกาสที่จะแพ้สารต่าง ๆ ก็ยิ่งมีมากขึ้น โดยลิปบาล์ม หรือลิปแคร์นั้นจะมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก เช่น วิตามินอี ลาโนลิน ว่านหางจระเข้ Dumethicone ฯลฯ ตามท้องตลาดมีหลายยี่ห้อเลย ลองหามาใช้ดูนะ
เรามีลิปบาล์ม หรือลิปมันบำรุงริมฝีปากมาแนะนำกันเล็กน้อยค่ะ ^^
6. เลเซอร์ปากชมพู
เป็นวิธีแบบรวดเร็วทันใจ แต่ก็แอบเสี่ยงนิด ๆ ด้วยการยิงเลเซอร์แบบจำกัดเม็ดสี Q-Switched Nd : YAG Laser (Medlite C6), แสงเลเซอร์ทับทิม (Ruby Laser) โดยแสงเลเซอร์จะเข้าไปทำลายเม็ดสีผิว เวลาทำเลเซอร์แต่ละครั้งมักใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง หลังทำจะรู้สึกร้อน แต่พอป้ายยาที่แพทย์สั่งให้แล้วจะรู้สึกดีขึ้น ส่วนจำนวนครั้งในการรักษาก็ขึ้นอยู่กับความเข้มของสีผิวที่ริมฝีปาก แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะทำประมาณ 2-3 ครั้ง หลังทำแล้วควรหลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกหรือขี้ผึ้งทุกชนิด ให้ใช้เพียงยาที่แพทย์สั่งให้เท่านั้น นอกจากนั้นก็ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่รับประทานอาหารที่มีรสจัด ไม่ใช้ยาสีฟันที่มีรสเข้มหรือรสเผ็ดจัด การทำด้วย RM Laser ราคาการทำคอร์สนึงก็ประมาณ 5,000-10,000 บาท หลังทำครั้งแรกก็เริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทันทีเลยล่ะจ้าาา
7. อย่าลองผิดลองถูกจนปากพัง
ท้ายที่สุด เราไม่ควรหาซื้อยามาทาเอง หรือเชื่อคำโฆษณาจากสื่อต่าง ๆ เพราะผลเสียอาจจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน หรือเกิดผลเสียในระยะยาวก็เป็นได้ แต่หากมีอาการไม่สบายอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็ควรจะปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ เมื่อพบแล้วก็จะได้ทำการรักษาให้ที่ถูกต้องต่อไป ไม่งั้นจากแค่ปากดำนิดหน่อย อาจจะยิ่งกลายเป็นดำสนิท จนทำอะไรก็ไม่หายเอาได้นะสาว ๆ
ถ้าอยากปากสวย ดูอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดำคล้ำอีกต่อไป ก็ลองเอา 7 วิธีนี้ไปใช้กันดูนะจ๊ะ และที่สำคัญสาว ๆ เองก็ต้องไม่เสียนิสัยเองด้วยนะ เพราะทุก ๆ อย่างในร่างกายเรา ถ้าเราดูแลรักษาดีมาตั้งแต่ต้น มันก็จะคงอยู่ และสวยงามอยู่คู่กับเราไปตลอด ว่าแล้วก็อย่าลืมที่จะทำตามคำแนะนำกันล่ะ!!
