5 วิธีปรับตัว เที่ยวให้สบายใจ แต่ไม่ผิดกาลเทศะในช่วงไว้ทุกข์
อยู่ในช่วงพระราชพิธีสำคัญ เราก็ต้องมีการปรับตัวกันตามความเหมาะสม
เผยแพร่: 17 ต.ค. 2559 16:25 น.
Views: 8,064
รหัสบทความ: 15526
เป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงนี้บ้านเมืองเราประสบกับข่าวร้ายที่สุด ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การงดมหรสพ ความรื่นเริงต่างๆ เพื่อเป็นการไว้ทุกข์ให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ บางคนที่มีทริปต้องเดินทางช่วงนี้พอดี อาจจะรู้สึกลังเล ทิ้งตั๋วดีมั้ย เพราะเกรงว่าจะเป็นการไม่เหมาะสม? ใจเย็นๆ ค่ะ เรายังเที่ยวกันแบบสบายๆ ได้ ไม่ว่าจะเที่ยวคนเดียว เที่ยวกับแฟน หรือเที่ยวกับใครก็ตาม แค่ต้องปรับตัวกันเล็กน้อยดังข้อต่อไปนี้ค่ะ
#1 เตรียมเสื้อผ้าสีขาว/ดำ ติดไปด้วยสัก 1-2 ชุด
ไม่ว่าจะเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ อย่างน้อยช่วงที่เดินทางไปสนามบินหรือสถานีขนส่งในไทย ก็ถือว่าเรายังอยู่แผ่นดินไทย อยู่ท่ามกลางที่สาธารณะ เพราะฉะนั้น ควรเตรียมเสื้อดำ/เสื้อขาว เป็นแบบเสื้อเชิ้ต/เสื้อแขนยาวธรรมดา/เสื้อโปโล สวมกับกระโปรงหรือกางเกงขายาวสีเข้ม ( อนุโลมเป็นกางเกงยีนส์ได้ค่ะ เพราะเราไม่ได้ไปงานทางการ ) ใส่เฉพาะตอนที่ต้องเดินทางไปสนามบิน/สถานีขนส่งในไทย เพื่อปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นๆ อีกหลายคนในที่สาธารณะที่กำลังไว้ทุกข์ค่ะ
#2 ชุดสบายๆ ยังใส่ได้ปกติ แต่อย่าเซลฟี่ลงโซเชียลที่มีแต่เพื่อนกำลังไว้ทุกข์
หากหน้าเฟสบุ๊กเรามีแต่คนกำลังโศกเศร้า ไว้ทุกข์ เราก็อย่าเพิ่งเซลฟี่ความสุขส่วนตัวลงบนเฟสบุ๊กค่ะ อาจจะหลบไปพื้นที่อื่นที่มีกลุ่มคนที่ไว้ทุกข์น้อยกว่านี้ หรือไม่ค่อยเป็นที่เพ่งเล็งมาก เช่น ลงภาพใน IG เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกับคนที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน แล้วเข้าใจเราผิดไปใหญ่ ( แม้เราจะไม่ได้มีเจตนาจะไปลบหลู่ดูหมิ่นใคร แต่ควรเซฟตัวเองไว้ก่อนค่ะ คนอื่นเขาคิดไม่เหมือนเรา ย่อมง่ายต่อการเข้าใจผิดตามธรรมดา )
#3 ปรับบรรยากาศเที่ยวแบบ slow life
หากวางแผนไว้แต่แรกว่าจะไปต่างประเทศ ก็ไปสนุกกันให้สุดเหวี่ยงอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรกได้เลยค่ะ แต่ตอนขากลับมาสนามบินที่ไทยต้องเปลี่ยนเป็นชุดสุภาพอย่างในข้อ #1 และเลือกวิธีแสดงออกในโซเชียลอย่างเหมาะสมในข้อ #2 เท่านั้นเอง
แต่หากวางแผนเที่ยวในประเทศตั้งแต่แรก ก็ต้องเพิ่มเติมไปอีกว่า ควรปรับแผนเที่ยวเป็นแบบ slow life แนวสำรวจธรรมชาติ นั่งดื่มชิลล์ๆ ทำกิจกรรมอะไรช้าๆ เงียบๆ ไม่คึกครื้นมาก เพราะในช่วงนี้ ร้านค้า สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่แนวโลดโผนตื่นเต้นจะปิดตัวลงชั่วคราว ( ตามคำขอของทางการที่ขอความร่วมมืองดมหรสพชั่วคราว ) เราสนุกในแบบของเราได้ แค่ต้องปรับตัวกันสักเล็กน้อยตามสถานการณ์บ้านเมืองค่ะ
#4 อะไรที่สนุกสุดเหวี่ยงมากๆ เก็บไว้ทำเฉพาะพื้นที่ส่วนตัวมากๆ
ในข้อนี้สำหรับคนที่ไปเที่ยวต่างประเทศจะไม่ค่อยมีปัญหาสักเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่วางแผนเที่ยวในบ้านเรา ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากต้องการสนุกสุดเหวี่ยง เช่น ปาร์ตี้ให้เมาสุดๆ มีแดนซ์สุดโลก มีความหวือหวาวาบหวิว ควรเก็บไปจัดปาร์ตี้ปลดปล่อยความสนุกเฉพาะในพื้นที่ลับตาคนอื่น เช่น ในห้องพักโรงแรม, ในสระว่ายน้ำที่บรรยากาศค่อนข้างส่วนตัว ( อย่างที่บอกไว้ข้างต้นค่ะ บรรยากาศร้านรวงต่างๆ เงียบสงบกว่าเดิม ผู้คนก็เงียบเหงากว่าเดิม เราไปแหวกวงเขาคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ อาจเป็นเป้าสายตาได้ แม้จะไม่เจตนาก็ตาม )
#5 อย่าคิดมากหรือไปทะเลาะเบาะแว้งกับคนที่เข้ามาแซะเรา
ถ้าเราเคารพกติกาสังคมดี ปรับตัวตามสังคมดี เราก็เที่ยวให้สนุกได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าใครมาแซะเรา ทั้งที่เราทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบแล้ว ระวังที่สุดแล้ว เช่นเธอจะเที่ยวทำไมนี่มันไม่ใช่เวลาสมควรเที่ยวหรือเพราะอะไรก็ตามที่พยายามทำให้เราผิดที่ไปเที่ยว อย่าคิดมาก อย่าเสียเวลาโต้เถียงให้เรื่องบานปลาย ทำได้ดีที่สุดก็คืออธิบายในทำนองว่า" ไม่ใช่เราไม่รักในหลวงหรือไม่เคารพใครนะ แต่เรามาคลายความเศร้าในแบบของเรา เราต้องการเดินหน้าชีวิตต่อไป เพื่อให้ในหลวงยิ้มได้ว่าเราอยู่ได้ "อธิบายประมาณนี้ค่ะ ให้ละมุนละม่อมที่สุด ให้เขาเห็นว่าเราก็มีเหตุผลของเรา สั้นๆ แค่ไม่กี่ประโยคพอ อย่าดีเบทกันรุนแรงจนถึงขั้นแตกหักกันเลย ไม่ดีค่ะ ถ้าอธิบายแล้วเขายังระรานเราไม่เลิก ก็แค่แยกกันสักพัก ไม่คุยกันอีกจนกว่าจะใจเย็นลง แค่นี้พอ
สุดท้ายนี้ก็เน้นย้ำกันอีกทีค่ะว่า ใช่ว่าเราจะสนุกไม่ได้ท่ามกลางความสูญเสียครั้งใหญ่หลวง เราเลือกได้ที่จะบาลานซ์ชีวิตส่วนตัวและสังคมให้พอดีกัน เคารพกัน ไม่ก้าวก่ายหรืออคติกันค่ะ ชีวิตเรายังต้องดำเนินต่อไป เสียใจได้แต่อย่านานค่ะ รีบลุกมาสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคมกันต่อไป :))
