Trick-or-Love


When I falling in love with NPC


หากนี่คือความฝัน ก็ขอให้อย่าได้ลืมตาตื่น

หากความหลงใหลนี้คือคำสาป

ก็อย่าให้ผู้ใดคลายมนตร์สะกดได้

หากภาพที่อยู่ตรงหน้า เป็นเพียงภาพลวงตา

ฉันก็จะเชื่อว่าเธอนั้น ‘จริง’ยิ่งกว่าสิ่งใด

‘ความฝัน’และ ‘จินตนาการ’ เป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวเด็กสาวทุกคนและมีไม่น้อยที่สามารถแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา แต่สำหรับมาริสานั้น เธอมักจะใช้ช่วงเวลาแทบทั้งหมดที่มีกับการเรียนเพื่ออนาคตในขณะเวลาว่างที่เหลือก็เล่นเกมเงียบๆคนเดียวไม่สุงสิงกับใคร

กลายเป็นว่าเด็กสาวผู้จริงจัง เย็นชาแล้วเข้าถึงยาก…

คือ ‘มาริสา’ ที่ทุกคนรู้จัก

วันนี้ก็ไม่ต่างจากทุกวัน หลังท่องตำราเรียนเสร็จ เด็กสาวก็ยังคงใช้เวลาเรื่อยเปื่อยไปกับการเล่นเกม

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดึงความสนใจจากมาริสาไปชั่วขณะหนึ่ง...แค่ชั่วขณะจริงๆ ที่เธอปรายตามองประตูที่ยังไม่ได้ล็อคแล้วกลับมาจมอยู่กับแอพลิเคชั่นเกมในสมาร์ทโฟนต่อ

“มีพัสดุมาส่งถึงพี่น่ะ” อริสสา น้องสาวฝาแฝดของเธอเดินเข้าห้องมาโดยไม่รอเสียงขานรับ พลางเอากล่องใบใหญ่มาวางไว้บนตักของมาริสาทำให้เธอจำต้องกดหยุดเกมเอาไว้แล้วหลุบตามองที่ตัก

แปลกจัง…มาริสาพยายามนึก ช่วงนี้เธอไม่ได้สั่งซื้อเกมอะไรจากทางอินเทอร์เน็ตเลยนี่นา

ภายในกล่องใบนั้น มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่มาริสาเลือกที่จะข้ามไปก่อน กล่องใส่ตลับเกมสีดำที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากชื่อเกม ‘Halloween Online ‘และ…

“เอ๋ นั่นเครื่อง Human_wave_translator นี่นา”


Human wave translator ก็คืออุปกรณ์ที่มีหน้าตาเหมือนแว่นตาประกอบหูฟัง

ใช้ในการแปลงคลื่นสมองของมนุษย์ให้กลายเป็นเลขฐาน

ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมในโลกเสมือนได้สมจริงราวกับตาเห็น

“เดี๋ยวนี้พี่มาริเล่นเกมเสมือนจริงแล้วเหรอ?” อริสสาถามด้วยท่าทีแปลกใจระคนดีใจ

ก็จะไม่ให้รู้สึกแบบนั้นได้อย่างไรกันล่ะ ถึงพี่สาวของเธอจะชอบเล่นเกมเป็นที่สุดแต่มาริสากลับไม่คิดจะแตะเกมเสมือนจริงเลย ทั้งนี้มาริสาให้เหตุผลไว้ว่า เธอไม่ชอบให้ใครเห็นสีหน้าเวลาอินกับเกมสุดๆ เพราะคนที่แค่นั่งจินตนาการอะไรเรื่อยเปื่อยแล้วจู่ๆ ก็ยิ้ม หัวเราะ หน้าแดง หรือร้องไห้เนี่ย…หากคนอื่นเห็นเข้าจะให้เรียกว่าอะไรดีล่ะ?

แต่อีกเหตุผลที่ทำให้อริสสาทึ่งยิ่งไปกว่านั้น จนต้องส่ายหัวกับความติสของพี่ก็คือ การที่มาริสาเทิดทูนบูชาโลก 2 มิติยิ่งกว่าอะไร มาริสาบอกว่าโลกแห่งความฝันคือสิ่งที่สวยงามและสูงส่ง การที่เราจับต้องไม่ได้นี่ล่ะคือเสน่ห์ที่สำคัญที่สุดของมัน เพราะฉะนั้นเกมโลกเสมือนจริงที่ทำลายเส้นกั้นบางๆ นี้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เธอไม่เห็นความพิเศษของมัน

ดังนั้นการที่ human wave translator มาอยู่ในมือมาริสาเช่นนี้ ก็ทำให้คนเป็นน้องอย่างเธออดที่จะดีใจไม่ได้หากพี่สาวคนนี้จะเริ่มเปิดใจเข้าสังคมกับเค้าบ้างเสียที

มาริสาไม่ตอบน้องสาวเธอมองตลับเกมและเครื่องเล่นอย่างครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจพลิกกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่แนบมาพร้อมกล่องขึ้นมาอ่าน‘เล่นให้สนุกนะจากHacker-A’

เด็กสาวเบิกตากว้าง หัวใจเต้นระรัว...ไม่จริงน่ะ?Hacker-A คนนั้น เกมดีไซเนอร์ชื่อดังในโลกออนไลน์ที่ไม่เปิดเผยตัวตนคนนั้นส่งเกมตลับนี้มาให้เธองั้นเหรอเนี่ย!?! แถมยังเป็นเกมเสมือนจริงแผ่นแรกของคนๆ นี้อีกด้วย!?!

แต่แล้วจู่ๆ มาริสาก็ชะงักราวกับนึกอะไรได้

“อริส…”เธอมองอีกฝ่ายด้วยท่าทีจริงจัง “นี่คงไม่ใช่แผนของเธอกับพ่อแม่หรอกนะ?”

ก็นั่นล่ะ ทุกคนในครอบครัวของมาริสาพยายามตลอดที่จะหากิจกรรมเข้าสังคมให้เธอราวกับว่าเธอกำลังเป็นSocial phobia(โรคหวาดระแวงสังคม) อย่างไรอย่างนั้น ทั้งที่จริงเธอแค่รักการอยู่คนเดียว การอยู่กับโลกจินตนาการมากกว่าเท่านั้นเอง

“จะเป็นไปได้ยังไงกันล่ะคะ”อริสสาค้อน “หนูยังแปลกใจเลย คิดว่าพี่สั่งซื้อเจ้าเครื่องนี่มาซะอีก”

มาริสาพยักหน้ารับรู้ มั่นใจว่าน้องสาวไม่มีเหตุจำเป็นต้องโกหกอะไร เธอก็หันกลับมาสนใจสิ่งที่อยู่ในมืออีกครั้ง

“จะทำยังไงกับเกมนั่นเหรอ?”

“เธอคิดว่ายังไงล่ะ?” มาริสาเผยรอยยิ้มแบบที่น้อยครั้งจะมีโอกาสได้เห็น อริสสาหลุบตาลงแล้วอมยิ้ม

“แหม แล้วใครกันน้าบอกว่าจินตนาการคือสิ่งสูงส่งไม่ควรแตะต้อง” มาริสาส่ายหัวให้กับการแซวแบบเด็กๆ ของอีกฝ่าย มาริสาลุกขึ้นยืนนัยน์ตาฉายแววมุ่งมั่น

“นี่ไม่ใช่การท่องโลกจินตนาการ”

เด็กสาวหยิบเครื่องเล่นเกมขึ้นมาสวม

แต่เป็นการทำมิชชั่นเควส ต่างหากล่ะ!”

เอาเถอะ ถึงจะยี้ที่ต้องไปปฏิสัมพันธ์กับโลกเสมือนจริง

แต่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าโลกที่‘เทพเจ้า’คนนี้สร้าง...

จะทำลายเส้นกั้นบางๆ ในใจเธอได้รึเปล่า?