สาวๆ ทั้งหลาย ถ้าตอนนี้ใครกำลังเข้ายิมทุกวันแล้วสามารถเบิร์นได้ 500 แคลอรี่ล่ะก็ เยี่ยมไปเลย!! เราขอแสดงความยินดีด้วย แต่ถ้าใครตื่นเช้ามาแล้วต้องมานั่งเก้าอี้ยาวๆ ที่ทำงานไปอีก 8 ชั่วโมง ( อย่างเราเป็นต้น ) ก็อาจจะน้ำหนักขึ้นแบบไม่รู้ตัวก็ได้นะ!
ไงก็แล้วแต่ อย่าได้กังวลไป เพราะวันนี้เรามีวิธีลับๆ ที่จะทำให้เธอเผาผลาญแคลอรี่ได้ระหว่างวันโดยไม่ต้องเข้ายิม! แค่ทำตามทั้ง 13 วิธีนี้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
1. เอาเหงื่อออกตอนเช้าหน่อย
ถ้าเธอรู้ว่าตอนเช้าเธอมีเวลาน้อยเกินไปที่จะไปเข้ายิม ลองตั้งนาฬิกาก่อนเวลาตื่นปกติประมาณ 15 นาที แล้วออกกำลังเบาๆ ในห้องนอนนั่นแหละ เช่น กระโดดตบ วิดพื้น สควอทช์ เป็นต้นการออกกำลังเล็กๆ น้อยๆ ในตอนเช้าจะช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญได้ดีและจะช่วยให้เกิดการเผาผลาญตลอดวันด้วย
2. อยู่ในอากาศเย็นๆ ไว้
ลองลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศลงอีกนิดเพื่อละลายไขมันหน่อยเป็นไร การทำให้อากาศในบ้านหรือที่ทำงานเย็นลงจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตไขมันสีน้ำตาลเพิ่มขึ้นกว่า 40%เมื่ออากาศเย็นลง ไขมันสีน้ำตาลจะเบิร์นแคลอรี่เพื่อช่วยให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอแม้ว่าเธอจะนั่งอยู่เฉยๆ ก็ตาม
3. นั่งกับพื้น
เวลานั่งดูทีวีก็ลองนั่งกับพื้นดู วิธีนี้จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการนั่งบนโซฟาเพราะเวลาที่นั่งกับพื้น กล้ามเนื้อจะเกิดการเกร็งและทำงานมากขึ้นเวลาที่เราจะลุกขึ้นยืนแค่ลุกนั่งๆ แค่นี้ก็สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้แล้ว
4. หยุดทำอะไรหลายอย่างพร้อมๆ กัน
เวลาไปช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้านให้เลือกทีละอย่าง จะได้เดินได้เยอะขึ้น จากปกติที่เคยใช้เวลาเลือกแค่ 2 นาทีก็จะกลายเป็นการเดิน 10 นาทีไปในทันที และข่าวดี แค่เดินช้อปปิ้งไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็เบิร์นไปแล้ว 89 แคลอรี่เชียวนะ
5. เคี้ยวหมากฝรั่ง
หยิบหมากฝรั่งรสโปรดมาเคี้ยวซักอันจะช่วยลดความอยากอาหารตอนช่วงบ่ายสามที่เธอมักแอบออกไปหาของกินกระแทกปาก จากการวิจัยของ University of Rhode Island บอกว่าคนที่เคี้ยวหมากฝรั่งสามารถเบิร์นได้ 5-8 เปอร์เซ็นต์ได้มากกว่าคนที่ไม่ได้เคี้ยว
แถมให้อีกนิด :: ผลวิจัยบอกด้วยว่าคนที่เคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยให้ทานอาหารลดลงไป 68 แคลอรี่ด้วย!!
6. หาเรื่องขยับร่างในที่ทำงาน
การทำงานทุกวันนี้ต้องการคนเราใช้ร่างกายน้อยกว่าเมื่อ 50 ปีที่แล้วเยอะมาก พูดง่ายๆ ก็คือเราได้เสียโอกาสการเบิร์นแคลอรี่ระหว่างวันไปแล้วกว่า 100 แคลอรี่ ไหนจะประชุมระหว่างวันด้วย Skype อีก ยิ่งทำให้เธอต้องนั่งตูดติดเก้าอี้ไปอีก
ทางแก้คือหากิจกรรมที่ได้ออกไปทำอย่างอื่นบ้าง เช่น เดินไปถ่ายเอกสาร ( 12 แคลอรี่ ) จัดโต๊ะทำงาน รดน้ำต้นไม้ ( 15 แคลอรี่ ) และยืนขณะจัดเอกสาร ( 18 แคลอรี่ ) เป็นต้น
7. ให้มือถือเป็นตัวช่วยเตือน
ตั้งนาฬิกาปลุกทุกๆ 30 นาทีเพื่อเตือนให้ตัวเองลุกออกจากเก้าอี้บ้าง เพราะกว่าเธอจะรู้ตัว เวลาก็ผ่านไปเป็นชั่วโมงโดยที่เธอนั่งอยู่กับโต๊ะไม่ได้ลุกไปไหน หาโอกาสลุกเดินบ้างจะได้ไม่นั่งเพลินไปซะก่อน
8. เปลี่ยนขวดน้ำเป็นขวดขนาดย่อมแทน
เปลี่ยนจากขวดน้ำขวดใหญ่ยักษ์เป็นขวดขนาดย่อมๆ ก็พอ วิธีนี้ทำให้เธอต้องเดินไปเติมน้ำบ่อยขึ้น หมายความว่าเธอจะได้เดินบ่อยขึ้นด้วย
9. อยู่ต่อเลยได้มั้ยยย ( ขออีก 5 นาที )
ไม่ว่าจะวิ่งอยู่บนเทรดมิลล์หรือเดินขึ้นบันได ลองให้เวลากับตัวเองเพิ่มอีก 5 นาที หรือถ้าสามารถก็ซัก 10 นาทีไปเลย แค่นี้ก็สามารถเพิ่มการเบิร์นได้อีกเป็น 100 แคลลอรี่เลยนะ
10. ได้เวลาปรับ Playlist ในอัลบั้มเพลงแล้ว
เพลงที่เหมาะกับการออกกำลังกายไม่เพียงเป็นเพลงที่เธอชอบเท่านั้น แต่ต้องมีจังหวะที่จะช่วยให้เธอสามารถออกกำลังได้มากขึ้นด้วย นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Brunel London บอกว่าเพลงแร็พที่มีบีทที่ 120-140 ต่อนาทีเป็นจังหวะที่เหมาะกับการวิ่งที่สุด เพราะทุกครั้งที่เธอก้าวขา มันจะมีจังหวะตามไปด้วยเสมอดังนั้นเธอก็จะก้าวเท้าตามจังหวะเพลงโดยไม่รู้ตัว เพลงประเภทแร็พจะเวิร์คกว่าประเภทร็อกเพราะมีจังหวะที่เปลี่ยนแปลงตลอด ทำให้เธอต้องปรับเปลี่ยนจังหวะตามไปด้วยบ่อยๆ นั่นเอง
11. กระโดดเชือกช่วยได้
เพิ่งออกกำลังเสร็จไปเซ็ทหนึ่งแล้วใช่มั้ย? แทนที่จะพักก่อนไปเริ่มเซ็ทใหม่ ลองกระโดดเชือกระหว่างช่วงพักดูสิการกระโดดเชือกช่วยเผาผลาญได้ประมาณ 13 แคลอรี่ต่อนาทีและจะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เผาผลาญได้มากกว่าเดิม
12. ใช้ขาให้มากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการทำสควอทช์หรือบริหารไบเซ็ปก็ต่างช่วยให้เกิดการเผาผลาญแคลอรี่ที่ดีทั้งนั้น อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าโดยเฉพาะกล้ามเนื้อขานี่แหละเป็นส่วนของกล้ามเนื้อที่ต้องมีการใช้พลังงานมากที่สุดเวลาออกกำลังกายจึงควรใช้หลายๆ ท่าเพื่อให้สามารถใช้ขาในท่าต่างๆ ด้วย
13. เพิ่มระยะทางพิเศษเข้าไปอีกนิดนึง
แนะนำให้จบรอบการวิ่งด้วยการวิ่งก้าวขายาวๆ ก่อนจะกลับบ้าน ( วิ่งก้าวสั้นแล้ววิ่งก้าวยาวๆ )ผู้เชี่ยวชาญเค้าแนะนำมาว่าให้ทำแบบนี้ประมาณ 6-8 รอบก่อนที่จะหยุด หยุดประมาณหนึ่งนาทีระหว่างรอบวิธีนี้จะช่วยให้วิ่งได้เยอะกว่าเดิมอีกหลายร้อยเมตรเหมือนกันนะ วิธีนี้จะทำให้วิ่งได้ยาวๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเลย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
