ผมฟูก็ไม่ได้ ผมพังก็ไม่ได้!! รวม 7 แบรนด์ "ที่หนีบผมดีๆ" ที่ไม่ทำให้ผมพัง

ฮาโหลสาวๆต้องบอกว่าช่วงนี้อากาศชื้นมาก ฝนตกหนักทุกวัน!! ซึ่งนอกจากมันจะทำให้รถติดหนัก กลับบ้านไม่ได้แล้ว ยังทำให้ความสวยของเราลดลงด้วย โดยเฉพาะถ้าพูดถึงทรงผมด้วยแล้วอยากจะร้องกรี๊ด เพราะพออากาศชื้นทีไร ผมของเราก็ชี้ฟู กระโดด กระเด้งออกมาหาเพื่อนกันให้พรึ่บพรั่บดังนั้นสิ่งที่จะช่วยเราได้ก็คงมีแต่ " ที่หนีบผมเพื่อนรัก "แต่ก็อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่า " มันเป็นเรื่องยากที่จะหนีบผมโดยไม่ทำให้ผมเสีย " แต่การมีเครื่องมือที่ดีนั้น จะช่วยลดปัญหาได้วันนี้เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1. ที่หนีบผม Bio Ionic OnePass Straightening Iron

ตัวแรกที่จะมาแนะนำอันนี้

เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนตื่นสาย แต่ยังอยากสวย

ซึ่งมันก็คือเรื่องปกติในชีวิตของเรานั่นล่ะ เพราะเจ้า " Bio Ionic OnePass Straightening Iron " ตัวนี้มี

มีแถบความเร็วซิลิโคนที่จะช่วยยืดผมของเราเรียบเร็วขึ้น 3 เท่า

ด้วยเทคโนโลยี Tri strip ที่ให้ผมเรียบเนียนและเงางาม

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอินฟราเรดที่มีความร้อนสูงสุดถึง  200 องศาเซสเซียส แต่กลับไม่ทำร้ายผมของเร

า

ต้องบอกเลยว่าอ่านรีวิวของสาวๆ เมืองนอกแล้วกระเป๋าเงินมีสั่นเลยค่ะ

2.ที่หนีบผม Solano Sleekheat450 Professional Flat Iron

การหนีบผมเป็นปัญหาของสาวที่มีผมบาง เส้นเล็กใช่มั้ยคะ เพราะอย่างที่รู้ว่า การหนีบผมคือการที่เอาผมไปสัมผัสกับความร้อนโดยตรง

พอเรายิ่งมีผมเส้นเล็กมาก ก็ไม่แปลกที่จะขาดหลุดร่วงได้ง่าย

บางครั้งหนีบไปแล้วไปยิ่งเสียงฉ่าๆ กลิ่นไหม้ๆ ก็ตกใจเหมือนกัน

ดังนั้นเราขอเราขอแนะนำ

เครื่องหนีบผมตัวนี้เลยค่ะ

เพราะมันสามารถตั้งค่าอุณหภูมิได้ต่ำสุดถึง 170 องศาฟาเรนไฮต์ ( 95 องศาเซลเซียส )

ดังนั้นมันจึง

เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผมเส้นเล็ก

นอกจากนี้เขายังมีแผ่นเซรามิกที่ผสมกับทัวร์มาลีน ที่ช่วยให้การหนีบผมนั้นง่ายขึ้นด้วยนะคะ

3.ที่หนีบผม Karmin Salon Professional Hair Straightener

ถ้าเธอเป็นคนที่เคยซื้อเครื่องหนีบผม เธอจะรู้ว่า

แผ่นความร้อนที่ทำจากวัสดุอย่างเซรามิกจะช่วยถนอมผมได้ดีกว่าแบบอื่นๆ

รวมถึงให้ความร้อนคงที่ จึงเหมาะมากๆ กับการใช้หนีบผมทุกวัน ซึ่ง Karmin Salon Professional Hair Straightener

ตัวนี้ก็มีวัสดุที่ทำจากเซรามิกคุณภาพสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์

เลยทีเดียว

ดังนั้นมั่นใจว่าผมไม่เสียแน่นอน นอกจากเ

ขายังมีการตั้งค่าความร้อนลดต่ำสุดได้ถึง 210 องศาฟาเรนไฮต์ ( 105 องศาเซลเซียส ) และมีฟังก์ชั่นปิดเครื่องอัตโนมัติอีกด้วย

ใครที่สนใจก็ลองไปตามดูกันค่ะ

4.ที่หนีบผม LumaBella Cool Mist Hair Straightener

แน่นอนว่าก่อนที่เราจะหนีบผม เราก็ต้องมีการปกป้องผมด้วยสเปรย์กันความร้อนกันก่อนใช่มั้ยคะ แต่ก็ต้องยอมรับว่า

ในช่วงเวลาที่เร่งรีบ การฉีดสเปรย์พวกนี้เป็นขั้นตอนที่เราแทบจะไม่ได้ทำ

ซึ่งมันทำให้ผมเราเสียหายหนักมาก แต่ที่หนีบผม

เครื่องนี้มีเทคโนโลยีแบบใหม่ ที่ปล่อยหมอกเย็นๆ ออกมาในช่วงแรก

ที่

ช่วยถนอมผมของเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ

และ

หลังจากนั้น ก็จะปล่อยเป็นความร้อนออกมาเพื่อทำให้ผมเราตรงสวย

เป็นเหมือนเข้าร้านทำผมดีๆ แพงๆ เลยก็ว่าได้

นะคะ ใครอยากให้ความรู้สึกเหมือนเข้าร้านทำผมทุกเช้า ก็ลองไปซื้อมาใช้กันนะคะ

5.ที่หนีบผม XARA Professional 2” Infrared Ceramic Flat Iron

ถือว่าเป็นที่หนีบผมอีกตัวที่เราชอบมาก เพราะ

มันเป็นเครื่องหนีบที่ใช้แสงอินฟราเรด ให้ความร้อนจากข้างในสู่ข้างนอก ซึ่งมันจะทำให้ผมของเราไม่พัง

ช่วยป้องกันความเสียหาย ผมขาดหลุดร่วง นอกจากนี้

มันยังมีไมโครเซ็นเซอร์ถึง 8 ตัว ที่ช่วยควบคุมและกระจายความร้อนได้แบบทั่วถึง

จึงมั่นใจได้ว่าหนีบตรงไหนผมก็ตรง โดยมีการควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิตอล ไล่ระดับความร้อนตั้งแต่ 250 - 450 องศาฟาเรนไฮต์ ( 120 - 230 องศาเซลเซียส ) เรียกว่าตอบโต้สำหรับสาวๆ ทุกสภาพเส้นผมจริงๆ ค่ะ

6. ที่หนีบผม BaBylissPRO Keratin Straightening Iron

ที่หนีบผมอันนี้แตกต่างจากที่หนีบผมอื่นๆ ที่เราพูดมาตรงที่

ทแผ่นความร้อนจะผสมเคราตินลงไปด้วย ซึ่งเจ้าเคราตินนี่เองจะช่วยบำรุงเส้นผมของเรา

อีกทั้งยังช่วยต่อสู้ความร้อนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดหรือมลพิษต่างๆ โดย

ความร้อนของธาตุไทเทเนี่ยมนี้ จะทำให้เคราตินซึมเข้าสู่เส้นผมของเราได้มากขึ้น

ส่งผลให้ผมของเราแข็งแรงและเงางามขึ้นด้วยนะคะ เรียกว่าหนีบครั้งเดียวได้ถึง 2 ผลลัพธ์เลยทีเดียวค่ะ

7.ที่หนีบผม Brazilian Heat After Dark Flat Iron

ถ้าเธอเป็นคนชอบหนีบผม เธอจะรู้ว่ากว่าที่เครื่องจะร้อน พร้อมให้หนีบนั้นมักจะใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ตัวนี้ต่างออกไป

เพราะแผ่นความร้อนของมันทำจากไทเทเนียมที่ยาวเป็นพิเศษ ทำให้พร้อมใช้งานใน 30 วินาที

โดยสามารถปรับอุณหภูมิได้ถึง 250 - 450 องศาฟาเรนไฮต์ ( 120 - 230 องศาเซลเซียส ) ข้อดีอีกอย่างก็คือ สายของ

มันสามารถหมุนได้ถึง 360 องศา และมีความยาวถึง 240 เซนติเมตร!! อะไรจะยาวขนาดนั้น

ดังนั้นใครที่สนใจ ก็ลองไปหามาใช้กันนะคะ

เป็นยังไงบ้างคะสำหรับที่หนีบผมทั้ง 7 อันที่เราเอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าสาวๆ คงจะชอบกันนะคะ เพราะแต่ละตัวคัดมาให้แล้วว่าคุณภาพดี  ใช้งานง่ายและทนทาน และถ้าใครยังมีตัวไหนที่อยากให้เราลองใช้ก็ลองบอกกันมาได้ เราจะรีบไปหาข้อมูลมาให้สาวๆ อย่างแน่นอน ครั้งหน้าเราจะมีอะไรก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ วันนี้ไปแล้วค่ะ บาย

Cr.The 7 Best Flat Irons For Fine Hairhttps://www.bustle.com/p/the-7-best-flat-irons-for-fine-hair-75830