1. SistaCafe
  2. ตะลุย คันไซ ใบไม้เปลี่ยนสี กับ 7 ที่เที่ยวถ่ายรูปสวย พร้อมวิธีเดินทาง

ตะลุย คันไซ ใบไม้เปลี่ยนสีกับ7 ที่เที่ยวถ่ายรูปสวย พร้อมวิธีเดินทาง

เผลอแป๊บเดียว ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสีก็กำลังจะมาถึงอีกแล้ว

สำหรับใครที่กำลังวางแผนชวนคนรู้ใจไป ทัวร์ญี่ปุ่น ช่วงปลายปี

เราขอแนะนำเส้นทางตะลุยญี่ปุ่นในภูมิภาค

คันไซ ใบไม้เปลี่ยนสี

ที่นี่สวยงามน่าชมมากๆ จัดเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ จะมีเส้นทางไหนบ้าง ไปชมกันเลย!

(∩^o^)⊃━☆゚.*・。゚




ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักภูมิภาคคันไซกันคร่าวๆ

คันไซคือภูมิภาคที่อยู่ตอนกลางทางตะวันตกของเกาะฮอนชู

ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ ชิงะ, นารา, วากายะมะ, เกียวโต, โอซาก้า และเฮียวโงะ



ซึ่งการชมใบไม้เปลี่ยนสีในแถบคันไซจะสวยงามที่สุดในช่วงเดือนพฤศจิกายนค่ะ

ใครอยากไปเที่ยวให้ตรงช่วงนี้ก็อย่าลืมเช็คพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น กันล่วงหน้าด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาด ส่วนที่เที่ยวถ่ายรูปสวยแต่ละที่มีที่ไหนบ้าง ตามพิกัดไปเที่ยวกันเลย



1. Kiyomizu-dera Temple – เกียวโต


ถ้าพูดถึงคันไซ ใบไม้เปลี่ยนสีที่เที่ยวยอดนิยมที่ต้องมาเช็คอินเป็นที่แรกก็คือKiyomizu-dera Temple หรือวัดน้ำใสแห่งเกียวโตนั่นเองจ้า นอกจากความงดงามของสถาปัตยกรรมโบราณของวิหารไม้หลังใหญ่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO แล้ว บรรยากาศรอบๆ วัดยังสวยงามไม่แพ้กันโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เหล่าต้นเมเปิ้ลนับพันพร้อมใจกันผลัดใบเป็นสีแดงส้มสดใสและจะยิ่งฟินสุดๆ เมื่อได้มองจากจุดชมวิวบนเนินเขา ชื่นชมทิวทัศน์ของเมืองเกียวโตที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้แดงสวยงาม ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไปหมดเลยค่ะ ถึงแม้ว่าตอนนี้อาคารหลักของวัด หรือ จุดชมวิวอาคารไม้ จะอยู่ในระหว่างปิดซ่อมแซม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2020 แต่ก็ยังสามารถไปชมบรรยากาศสวยๆ ของที่นี่กันได้นะ


ค่าเข้าชม :ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 200 เยน เวลาทำการ: รอบเช้า ตั้งแต่ 06.00 น. / รอบเย็น 17.30 – 21.00 น. ( พิเศษเฉพาะฤดูกาล )

การเดินทาง :จากสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัสที่ป้าย Kyotoeki-mae สาย 100, 206 ลงที่ป้าย Kiyomizu-michi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตร


2. Kinkakuji Temple – เกียวโต

มาเที่ยวคันไซ ใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโตแล้วต้องไปที่วัดทอง หรือ Kinkakuji Templeกันด้วยค่ะ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด เพราะว่านอกจากบรรดาต้นเมเปิ้ลสีส้มแดงที่ตั้งเรียงรายตลอดทางเดินภายในวัดแล้วไฮไลท์สำคัญของการมาเยือนวัดแห่งนี้ก็คือ ปราสาทสีทองอร่าม ที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ โอบล้อมด้วยภูเขาและต้นไม้สีเขียวสลับแดงส้ม งดงามราวกับภาพวาดจริงๆจดลิสต์ไว้ได้เลย มาทัวร์ญี่ปุ่นที่นี่ถ่ายรูปได้สวยทุกมุม ไม่ผิดหวังจริงๆ


ค่าเข้าชม :ผู้ใหญ่ 400 เยน / เด็ก 300 เยน

เวลาทำการ: 09.00 – 17.00 น.

การเดินทาง :จากสถานีเกียวโต นั่งรถบัสสาย 101, 205 ลงที่ป้าย Kinkakuji-michi เดินต่ออีก 5 นาที


3. Arashiyama – เกียวโต


ต่อกันที่อีกหนึ่งที่เที่ยวถ่ายรูปสวยที่เป็นไฮไลท์ของ

คันไซ ใบไม้เปลี่ยนสี

ก็คือ

Arashiyama เมืองเล็กๆ ในเกียวโตที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง นักท่องเที่ยวจะนิยม

นั่งรถไฟสายโรแมนติกที่เรียกว่า Sagano Scenic Train เพื่อชมวิวทิวทัศน์ของหุบเขาที่ถูกปกคลุมด้วยใบไม้สีโทนแดงส้ม

แล้วค่อยมาแวะเดินเล่นชมธรรมชาติที่อยู่รอบๆ มีกิจกรรมให้เพลิดเพลินกันมากมาย ทั้งล่องเรือชมใบไม้เปลี่ยนสีริมแม่น้ำ Hozugawa, ชมวิวบนสะพาน Togetsukyo, เดินเที่ยววัด Tenryuji และแวะสูดอากาศเย็นๆ ที่ป่าไผ่ บอกเลยค่ะว่าใครเป็นสายธรรมชาติ อยากได้รูปสวยๆ ลงโซเชียล ต้องมา!




การเดินทาง :

เส้นทางรถไฟสายโรแมนติก – จากสถานีเกียวโต นั่งรถไฟสาย JR Sagano ไปยังสถานี JR Saga-Arashiyama Station ประมาณ 15 นาที แล้วไปยังสถานี Torokko Saga Station ที่อยู่ติดกันเพื่อเริ่มต้นนั่งรถไฟ Sagano Romantic Train




4. Nara Park – นารา


Nara Park สวนสาธารณะเก่าแก่ขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองนารา

เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคคันไซที่สวยงามที่สุด บนพื้นที่กว่า 5,020,000 ตารางเมตรภายในสวนจะถูกโอบล้อมไปด้วย

ทิวทัศน์ของใบไม้สีส้มแดงให้เดินเล่นถ่ายรูปกันเพลินๆ แถมพบปะกวางป่าประจำสวนอย่างใกล้ชิด

ในบริเวณยังมีที่เที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วัดโทไดจิ, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ เมืองนารา, ศาลเจ้าคาซูกะ และวัดโคฟุคุจิ ไปที่เที่ยวเที่ยวได้ครบเลยค่ะ




การเดินทาง :

จากสถานี Osaka-Namba Station นั่งรถไฟสาย Kintetsu Line ลงสถานีปลายทาง Kintetsu Nara ( ประมาณ 40 นาที ) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตร




5. ปราสาทโอซาก้า – โอซาก้า


แลนด์มาร์คของเมืองโอซาก้า ที่ใครไป ทัวร์ญี่ปุ่น ต้องไปเยี่ยมชมให้ได้สักครั้ง กับปราสาทโอซาก้าที่งดงาม ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี บรรดาต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิ้ลต่างๆ ที่อยู่ในสวนรอบปราสาทต่างก็ผลัดใบเปลี่ยนสีสวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ แถมพออยู่ในบรรยากาศสุดคลาสสิกคู่กับปราสาทแสนสวยแล้ว จึงทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมที่ต้องมาถ่ายรูปเก็บภาพประทับใจให้ได้เลยล่ะค่ะ


ค่าเข้าชม :ผู้ใหญ่ 600 เยน / เด็กนักเรียนต่ำกว่าชั้นมัธยมต้น ฟรี

เวลาทำการ :09.00 – 17.00 น.

การเดินทาง :นั่งรถไฟสาย JR Loop Line ไปลงที่สถานี Osaka Castle Park แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที


6. Kobe Nunobiki Herb Gardens – เฮียวโงะ


ไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกันต่อที่Kobe Nunobiki Herb Gardensสวนสมุนไพรขนาดใหญ่ที่สุดบนภูเขา Rokko ในเมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดของสวนแห่งนี้ก็คือบนกระเช้าไฟฟ้า Kobe Nunobiki Ropeway ระหว่างทางขึ้นไปยังสวนสมุนไพรนั่นเองงานนี้บอกเลยว่านอกจากจะได้ดื่มด่ำกับสีสันของต้นไม้มากมายแล้ว ยังจะได้เพลิดเพลินกับสมุนไพรและดอกไม้นานาชนิดด้วย


ค่าเข้าชม :ผู้ใหญ่ 1,400 เยน / เด็ก 700 เยน ( รวมค่าขึ้น Ropeway แบบไป-กลับ )

เวลาทำการ :จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 17.00 น. / เสาร์อาทิตย์และวันหยุด 10.00 – 20.30 น.

การเดินทาง :นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Shin-Kobe แล้วเดินต่อไปยัง Kobe Nunobiki Herb Gardens & Ropeway ประมาณ 5 นาที


7. Momijidani Park – ฮิโรชิม่า


ปิดท้ายเราขอพาออกนอกคันไซไปนิดหน่อย ในจังหวัดใกล้เคียงกันอย่างฮิโรชิม่ามีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ นั่นก็คือMomijidani Park สวนสาธารณะบรรยากาศดีในเกาะมิยาจิมะที่นี่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาตามล่าใบไม้แดงกันสุดๆ เพราะทุกๆ ปี เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ต้นเมเปิ้ลกว่า 700 ต้นในสวนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มทั่วบริเวณ โดยเฉพาะบริเวณสะพานโมมิจิที่มีเหล่าเมเปิ้ลนับร้อยเป็นฉากหลัง ไปยืนถ่ายรูปตรงนี้ได้แบบฟินๆ บอกได้คำเดียวเลยค่ะว่า ห้ามพลาด!


การเดินทาง :นั่งรถไฟไปลงที่สถานี JR Miyajimaguchi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1